เปิดบ้าน ‘ขนมลิลัว’ ร้านขนมไทยยุคใหม่กับความตั้งใจ อยากให้ทุกคนได้ชิมขนมที่มีส่วนผสมของความน่ารัก

Published on May 02, 2025

ถึงยุคสมัยนี้ คนรุ่นใหม่จะหันไปทานขนมเบเกอรีกันมากขึ้น แต่เชื่อว่าคงมีกลุ่มคนจำนวนไม่น้อย (เช่นผู้เขียนเอง) ที่ยังโหยหา ‘ขนมไทย’ ไว้ชุบชูใจ อยากย้อนวันวานไปกับรสหวานละมุนแบบไทย ๆ ที่หลายคนต่างคุ้นเคย ทานกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ แม้ว่าปัจจุบันจะหาซื้อกันได้ตามท้องตลาดทั่วไป แต่การเสาะหาร้านขนมไทยที่มีความบาลานซ์ทั้งในแง่ของรสชาติ วัตถุดิบที่เลือกใช้ เรื่อยไปจนถึงรูปลักษณ์ขนมที่ออกแบบและคัดสรรมาให้ตรงจริตคนทานนั้นไม่ง่ายเลย


หากคุณเป็นหนึ่งในนักชิมสายขนมไทย ครั้งนี้คอลัมน์ Behind the Taste จะขอเปิดวาร์ปร้านขนมไทยออนไลน์สุดน่ารักอย่างขนมลิลัว (Kanomlyloir)ที่ถ้าใครได้ลองเข้าไปส่องโปรไฟล์ Instagram ร้านแล้วละก็ อาจโดนความน่ารักนุบนิบใจตกเข้าให้ จนต้องอยากทักไปพรีออเดอร์ขนมแน่นอน เพราะนอกจากหน้าตาขนมจะดึงดูดใจแล้ว หลากหลายเรื่องราวกว่าจะมาเป็นเมนูขนมไทยที่เจ้าของร้านคุณข้าวฟ่าง-วิรงรอง ทองประกอบได้เขียนถ่ายทอดไว้ในแต่ละภาพ อีกทั้งสารพัดองค์ประกอบที่หลอมรวมกันเป็นขนมที่มีส่วนผสมของความน่ารักตามคำโปรยของร้านยังน่าสนใจ ชวนให้เราอยากทำความรู้จักกับร้านมากขึ้นไปอีก เบื้องหลังความน่ารักชวนหิวของขนมลิลัวจะน่าติดตามแค่ไหน ตามไปพิสูจน์จากบทสัมภาษณ์ต่อไปนี้กัน

 

เยี่ยมบ้าน 'ขนมลิลัว' ส่องเบื้องหลังการสร้างสรรค์ความอร่อยของหลากหลายเมนูขนมไทยสุดน่ารัก

เพราะขนมไทยผูกพันอยู่ในสายเลือด


เส้นทางของนักทำขนมไทย เป็นสิ่งที่ 'ข้าวฟ่าง’ ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเหมือนกันว่าวันหนึ่งเธอจะได้ยึดทำอาชีพนี้อย่างจริงจัง ทั้งที่เดิมทีนั้นก็เคยทำงานสายอื่นมานับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นนักเขียน, ฟู้ดสไตลิสต์, นางแบบโฆษณา ฯลฯ กว่าจะค้นพบความลงตัวของอาชีพทำขนมไทยที่เรียกได้ว่าเป็นตัวเองและตอบโจทย์ทุกความชอบในชีวิตของเธอได้ทั้งหมด 


อันที่จริงแล้วข้าวฟ่างกับขนมไทยมีความผูกพันกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เพราะเธอเติบโตมาในครอบครัวที่ทำขนมไทยในจังหวัดสกลนคร โดยทั้งคุณพ่อและแม่เป็นครู รวมถึงมีอาชีพทำขนมไทยขายเป็นรายได้เสริม ซึ่งตอนเด็ก ข้าวฟ่างมีหน้าที่เป็นลูกมือคอยช่วยแม่ทำขนมอยู่เสมอ แต่ตอนนั้นไม่เคยมีความคิดที่อยากจะทำขนมไทยขายเลย

 

ความพิถีพิถันของขั้นตอนการปั้นขนมกลีบลำดวนด้วยมือทีละชิ้น

จนมาวันหนึ่ง เกิดความคิดถึงบ้าน จู่ นึกอยากกินขนมต้มแบบที่แม่เคยทำ จึงตัดสินใจโทรถามแม่และลองหัดทำเองบ้าง หลังลองผิดลองถูกอยู่นานจนเป็นที่พอใจก็เริ่มลงโพสต์ผ่านทาง Instagram ปรากฏว่ามีคนสนใจสั่งซื้อขนมไม่น้อย เลยเริ่มเปิดรับออเดอร์เป็นต้นมา ทุกครั้งที่เว้นว่างจากงานประจำ ข้าวฟ่างก็เปิดรับออเดอร์ทำขนมไทยไปด้วย เมื่อผ่านพ้นช่วงสถานการณ์โควิดมาได้จนถึงปัจจุบัน จึงยึดอาชีพทำขนมไทยเป็นอาชีพหลักเป็นต้นมา นับตั้งแต่ปี 2562 กระทั่งตอนนี้ย่างเข้าปีที่ 6 แล้ว ที่การทำขนมไทยเป็นเหมือนจุดตัดที่พอดีสำหรับเธออย่างแท้จริง 



ขนมลิลัวชื่อร้านนี้มีที่มา


ข้าวฟ่างเล่าให้ฟังพร้อมกับใบหน้าที่เปื้อนยิ้มว่า ชื่อร้านขนม เริ่มมาจากคำว่าลิลัวก่อน ตอนนั้นเราเล่น Instagram แล้วปรากฏว่าชื่อ Account ข้าวฟ่างเหมือนกับเรา มีคนใช้ไปหมดแล้ว เราก็เลยลองเสิร์ชว่ามีชื่ออะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง พอดีชื่อจริงของเราวิรงรองแปลว่าดอกพลับพลึงเลยไปเจอคำนึงเป็นภาษาเหนือ (ปกาเกอะญอ) คำว่าลิลัวซึ่งก็แปลว่าดอกพลับพลึงเหมือนกัน คิดว่าน่ารักดี ยังไม่มีใครใช้ แถมยังออกเสียงคล้าย ภาษาฝรั่งเศสด้วย เลยตั้งชื่อ Account ตัวเองเป็นชื่อนี้ พอหลังจากเริ่มทำขนมขาย ด้วยความที่เราเป็นคนชอบดอกไม้ อยากให้ชื่อร้านขนมมีดอกไม้อยู่ด้วย เลยเลือกใช้ชื่อง่าย ว่าขนมลิลัวเพื่อให้ขนมกับดอกไม้ได้อยู่ด้วยกันค่ะ

 

'คุณข้าวฟ่าง-วิรงรอง ทองประกอบ' กับบรรยากาศการทำขนมไทยในแบบฉบับของเธอ

ร้านขนมที่มีส่วนผสมของความน่ารัก


การสร้างสรรค์ความอร่อยในแบบของขนมลิลัว มาพร้อมจุดยืนของการทำขนมตามยุคสมัยใหม่ โดยไม่ยึดติดกับภาพจำเดิม ที่ต้องมีความเป็นไทยจ๋าและเน้นโพสต์ขายของแบบร้อยเปอร์เซ็นต์


มีคำนึงที่เราชอบ แล้วก็เขียนไว้ที่หน้าเพจขนมว่าขนมที่มีส่วนผสมของความน่ารักซึ่งคำว่าน่ารักในที่นี้ ไม่ใช่แค่ภายนอกที่เราเห็น แต่ยังหมายรวมถึงเรื่องราวระหว่างทางที่ใส่ความน่ารักลงไปด้วย ถ้าลองสังเกตดี ไล่เรียงดูสิ่งที่เราโพสต์ บางภาพอาจไม่เกี่ยวกับการทำขนมเลย เป็นเรื่องของโมเมนต์น่ารัก ที่เราอยากเก็บมาเล่าให้ลูกค้าหรือคนที่ติดตามอยู่ได้อ่านกันแบบเพลิน มากกว่าที่เน้นขายขนมเพียงอย่างเดียว เพราะบางทีเรื่องราวเหล่านี้ทำให้รสชาติขนมของเราอร่อยขึ้นโดยปริยาย

 

ขนมกลีบลำดวน หนึ่งในเมนูขนม (ไทย) ที่มีส่วนผสมของความน่ารัก

จากแนวคิดที่ข้าวฟ่างเล่ามานี้ เลยถูกนำมาใช้เป็นสโลแกนประจำร้าน เป็นร้านขนมที่มีส่วนผสมของความน่ารัก ซึ่งนิยามของคำว่าน่ารักนั้น ไม่ได้จำกัดอยู่แค่แพ็คเกจภายนอกที่มองเห็นเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงการบอกเล่าเรื่องราวระหว่างทางการทำขนมว่าเธอได้พบเจอกับความประทับใจอะไรบ้าง ทั้งเรื่องการเตรียมวัตถุดิบด้วยตัวเอง, การฝึกทำขนมไทยชนิดใหม่ , การไปเรียนทำขนมมาเพิ่มเติม, การได้เจอกลุ่มคนที่ทำวัตถุดิบอย่างตั้งใจ, เรื่องเล่าเกี่ยวกับดอกไม้สวย ข้างทาง, การออกแบบแพ็คเกจจิ้งขนม ไปจนถึงข้อผิดพลาดที่พบเจอ ทุกอย่างล้วนถูกนำมาเล่าราวกับลูกค้าเป็นเหมือนเพื่อนคนหนึ่งที่เธอพร้อมแชร์สิ่งดี ให้ฟังอย่างตั้งใจ



หัวใจสำคัญของการทำขนมไทย


ข้าวฟ่างอธิบายถึงหัวใจหลักของการทำขนมไทยไว้ว่า เราต้องเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีและสดใหม่ค่ะ อย่างการใช้กะทิจากทับสะแก แป้งโม่อย่างดีจากคนทำแป้งเอง มีการใช้น้ำตาลที่หลากหลายแหล่งที่มาทั้งจากไทยและศรีลังกา การเสาะหากลุ่มคนที่ทำวัตถุดิบด้วยความตั้งใจ เช่น กลุ่มคนทำลูกตาลสุกส่งตรงจากเพชรบุรี, สวนมะพร้าวน้ำหอมที่คัดมาเป็นอย่างดีจากบ้านแพ้ว, คนทำผงสีจากธรรมชาติ อย่างแบรนด์สิริเมืองพร้าวซึ่งมีความรู้เรื่องดอกไม้และผลิตสีที่ได้จากธรรมชาติ รวมถึงความพยายามในการปลูกวัตถุดิบบางอย่างด้วยตัวเอง ทั้งใบเตย เล็บครุฑลังกา (ใช้รองขนม) ดอกอัญชันใช้ทำสี และดอกไม้ต่าง ในการตกแต่งขนมด้วย"

 

คัดสรรวัตถุดิบ 'ผงสีธรรมชาติ' ที่ทางร้านเลือกใช้ในการทำขนม

เราเน้นคัดสรรวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติ เพราะอยากให้เด็ก ทานได้ด้วย แรก ที่เริ่มทำขนมกลุ่มเป้าหมายเราไม่ใช่เด็ก เลย แต่พอทำไปทำมาก็เริ่มเห็นว่าเรามีความสุขที่เด็ก ส่วนใหญ่ชอบทานขนมของเรา เวลาเราทำขนมเลยจะคิดเผื่อเสมอว่าขนมนี้เด็ก เขากินได้มั้ย แพ็คเกจขนมแบบนี้เด็ก จะชอบรึเปล่า เรารู้สึกว่าถ้าเด็กชอบ กลุ่มลูกค้าผู้ใหญ่ก็น่าจะชอบด้วยเหมือนกัน อย่างขนมชั้นก็มีออกแบบหน้าตาขนมตามเทศกาลพิเศษด้วย ทั้งฮาโลวีน คริสต์มาส ให้หน้าตาขนมดูน่ารักน่าทาน ไม่ก็หั่นชิ้นขนมให้มีขนาดเล็กลงไปอีก เพื่อจะให้มือน้อย ของพวกเขาหยิบทานได้ง่าย ” 

 

ขนมชั้นกับการหั่นชิ้นขนมอย่างละเมียดละไม

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่เป็นแรงบันดาลใจในการทำขนมของข้าวฟ่างเลยก็คือ ต้องเป็นของขวัญที่ทานได้ ผ่านความตั้งใจเติมรายละเอียดให้หน้าตาขนมแลดูน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋ม แต่ยังคงรสชาติและลักษณะของขนมไทยที่ดีไว้ พร้อมออกแบบแพ็คเกจให้หลากหลายเหมือนเป็นงานประดิษฐ์ชิ้นหนึ่ง เพื่อให้คนที่ได้รับขนมรู้สึกเซอร์ไพรส์และเกิดความประทับใจมากที่สุด 



กว่าจะเป็นสารพัดขนมไทยที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยสุดน่ารัก


นอกจากความน่ารักของตัวขนมไทยที่ชวนนุบนิบใจแล้ว แนวการคัดสรรเมนูขนมไทยประจำร้านขนมลิลัวมักเริ่มต้นมาจากความชอบกินเป็นหลัก ก่อนจะค่อย ๆ ปรับให้ตัวขนมเป็นไปในทิศทางที่มีส่วนผสมของความน่ารักมากขึ้น


อันดับแรกเราต้องทำให้ขนมมีรสชาติที่ดีก่อน แล้วค่อย ปรับสูตร ค่อย ดีไซน์แพ็คเกจจิ้งตามลำดับ บางเมนูก็เรียนรู้เพิ่มเติม เราเป็นคนเรียนเยอะมากเลย ถ้าหากเทียบสัดส่วน น่าจะเรียนพอ กับทำขนมเลยล่ะ เริ่มต้นจากเปิด Youtube ก่อน เปิดดูสูตร ลองทำเองก่อนว่าทำประมาณไหน เจอปัญหาอะไรบ้าง แล้วค่อยไปลงเรียนทำขนมเพิ่มเติมค่ะ ซึ่งการเรียนทำขนมไทยทุกชนิด ท้ายที่สุดแล้วเราก็ต้องมาปรับอีกทีนึงให้เข้ากับร้านของเรา อย่างขนมกลีบลำดวนก็เป็นหนึ่งในเมนูขนมที่ค่อนข้างมีการ Test รสชาติ ส่วนผสมต่าง อย่างละเอียด จะเลือกเปลี่ยนสัดส่วนแค่อย่างเดียว เช่น  Test ความหวานของปริมาณน้ำตาลหรือความเค็มของปริมาณเกลือที่ใช้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง เราค่อย Test ทีละอย่าง เลยใช้เวลานาน และบางครั้งเราทำขนมปริมาณเยอะ ก็ต้องมีการปรับสัดส่วนตามเหมาะสม โดยต้องไม่ยึดว่าสูตรขนมเราอร่อยแล้ว ต้องมีการปรับเรื่อย เลยค่ะ

 

ในแต่ละวันคุณข้าวฟ่างจะต้องจัดเตรียมวัตถุดิบ ส่วนผสม และอุปกรณ์ที่ใช้ทำขนมให้พร้อมก่อนลงมือทำเสมอ

“เวลาทำขนมทุกครั้ง เราต้องมีค่าตั้งต้นของเราเองด้วยว่าอยากให้ขนมของเรามีรสชาติเป็นยังไง เมื่อ Test รสชาติจนได้ขนมตามแบบที่เราชอบ พอวางขายไปได้สักระยะก็จะเก็บคอมเมนต์จากลูกค้ามาปรับ รวมถึงการสังเกตข้อดีข้อเสียมาพัฒนาให้เกิดความลงตัวในแบบของเรา เราต้องคิดตั้งแต่ต้นทางทำให้ขนมอร่อย ไปจนถึงคนทานได้รับขนมในสภาพที่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์”


“เรื่องของความอร่อยก็เป็นปัญหาคลาสสิก อร่อยเราอร่อยเค้า แต่ถือว่ายังโชคดีที่ความอร่อยเราตรงกับอร่อยเค้าพอสมควร มันก็เลยอยู่ได้ พูดตามตรงก็คือลูกค้าที่สั่งในแต่ละรอบ ส่วนใหญ่ประมาณ 80% เป็นลูกค้าเดิม สั่งประจำ เหนียวแน่นมากค่ะ”


ข้าวฟ่างไม่อาจรับประกันได้ว่าขนมไทยในเวอร์ชันของเธอนั้นจะถูกปากนักชิมทุกคนได้หรือไม่ แต่สิ่งที่รับประกันได้แน่ คือการขายขนมที่มีส่วนผสมของความน่ารักลงไปในทุกขั้นตอน



เมนูแนะนำประจำร้าน


เมื่อลองให้ข้าวฟ่างได้เลือกเมนูแนะนำประจำร้านที่บ่งบอกถึงความเป็นขนมไทยในแบบของขนมลิลัวมากที่สุด เธอก็ได้ให้คำตอบกลับมาว่า เมนูที่เลือกทำจะเปลี่ยนไปในแต่ละเดือน และแต่ละเดือนเมนูขนมจะไม่ซ้ำเพราะเป็นเรื่องของฤดูกาล เช่น หน้าร้อนก็จะมีขนมตาล แต่ถ้าอากาศร้อนมากก็จะลดเมนูขนมที่มีส่วนผสมของกะทิลงเพื่อไม่ให้ขนมเสียง่าย พอถึงหน้าฝนก็จะเลือกทำขนมแห้งที่เก็บไว้ทานได้นานหน่อย แต่หลัก แล้ว ขนมที่เรารู้สึกว่าเป็นตัวแทนของร้านขนมลิลัวมาก ก็น่าจะเป็นกลีบลำดวนอาจจะด้วยรูปร่างขนมที่เหมือนดอกไม้จริง สีที่ใช้ก็ทำมาจากดอกไม้ด้วย รวมกันเป็นความใกล้เคียงกับคำว่าน่ารักมากที่สุดค่ะ

 

ขนมกลีบลำดวนเป็นหนึ่งในตัวแทนขนมที่มีส่วนผสมของความน่ารัก ได้ตรงตามคอนเซ็ปต์ของทางร้าน

ขนมไทยที่ข้าวฟ่างขายดูต่างจากภาพของขนมไทยที่เราเคยเห็นทั่วไป แม้จะมีราคาสูงกว่าปกติ แต่เรื่องความพิถีพิถัน การควบคุมมาตรฐานเรื่องสัดส่วนขนม บวกกับผสมความน่ารักเป็นพิเศษนั้นเป็นเครื่องยืนยันถึงความสมน้ำสมเนื้อ


ในหนึ่งเดือนอาจเห็นว่าเราเลือกเปิดรอบพรีออเดอร์แค่หนึ่งครั้ง เพราะเราไม่ชอบโพสต์หรือพูดถึงเรื่องราคาขนมสักเท่าไหร่ เรารู้สึกว่าขนมหรืออะไรก็ตามที จะถูกหรือจะแพงมันขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำ เป็นเรื่องของคุณค่า ถ้าเราแฮปปี้กับราคานี้ แฮปปี้ที่จะซื้อ ก็ไม่มีคำว่าถูกหรือแพง เพียงแต่ว่าเราพอใจกับสิ่ง นั้นหรือเปล่า ทุกอย่างเป็นความพอใจระหว่างคนซื้อและคนขายมากกว่าเท่านั้นเองค่ะ” 

 

ขนมชั้นที่เพิ่มความน่ารักอีกเท่าตัวด้วยการออกแบบหน้าตาขนมในลักษณะของดอกไม้

 

วุ้นกรอบกรอบมะตูมและเก๊กฮวยที่มาพร้อมแพ็คเกจจิ้งสุดน่ารัก

ปัจจุบันเมนูประจำร้านขนมลิลัวมีให้เลือกพรีออเดอร์ถึง 10 เมนูด้วยกัน ได้แก่ ขนมต้ม (1 กล่อง บรรจุ 7 ชิ้น ราคา 120 บาท), กลีบลำดวน (1 กระปุก บรรจุ 15 ชิ้น ราคา 200 บาท), ขนมชั้น (ราคา 150-200 บาท ขึ้นอยู่กับดีไซน์ขนมที่มีให้เลือกหลายแบบ), ตะโก้ (1 กล่อง คละ 2 ไส้ ราคา 150 บาท), ขนมกล้วย (1 กล่อง บรรจุ 6 กระทง ราคา 150 บาท), ขนมตาล (1 กล่อง บรรจุ 6 กระทง ราคา 150 บาท), กล้วยเชื่อมแดง, ข้าวเหนียวเปียกลำไย (ราคา 120 บาท), วุ้นกระต่ายน้ำมะพร้าว (1 กล่อง บรรจุ 8 ชิ้น 120 บาท), วุ้นกรอบมะตูมและเก๊กฮวย (1 กระปุก ราคา 180 บาท) ใครชื่นชอบเมนูไหนก็สามารถจดลิสต์ไว้ เตรียมพรีออเดอร์พร้อมติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้ ซึ่งทางร้านจะเปิดรอบให้ลูกค้าสั่งขนมไทยในทุก ต้นเดือนผ่านช่องทาง Instagram 



ความสุขเล็ก ๆ ของคนทำขนมไทย


เบื้องหลังความอร่อยของขนมไทยแต่ละชิ้นล้วนผ่านหลากหลายองค์ประกอบที่ต้องอาศัยทั้งใจรัก ความชอบ และประสบการณ์การทำงานในแต่ละพาร์ทของข้าวฟ่างทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Composition การจัดวางตำแหน่งภาพขนมในแต่ละภาพบน Instagram มู้ดและโทนของภาพที่ไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากการทำงานด้าน Food Stylist หรือจะเป็นเทคนิคการเล่าเรื่องราวต่าง จากการทำงานด้านนักเขียนที่เธอเคยทำมาก่อน สิ่งเหล่านั้นค่อย สั่งสมเป็นองค์ความรู้ให้เธอหยิบจับและนำมาปรับใช้งาน ผสมกับความเป็นตัวเองที่ชอบดูรูปภาพมาตั้งแต่เด็ก โดยไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าวันหนึ่งจะนำมาสู่อาชีพนี้ได้

 

ความสุขใจเล็ก ๆ ที่ปรากฏบนใบหน้าเปื้อนยิ้มของคุณข้าวฟ่าง

 

สิ่งละอันพันละน้อยที่บ่งบอกถึงรสนิยมความชอบของคนทำขนม

“แต่ก่อนเราไม่รู้หรอกว่ามันจะช่วยส่งเสริมอาชีพเราได้ยังไง หรือแม้กระทั่งความเป็น Food Stylist เราชอบดูเลย์เอาต์มาแต่ไหนแต่ไร พอได้มาทำขนมมันเหมือนเป็นแพทเทิร์นที่เราจำได้แล้วว่าแบบไหนที่เราชอบ แบบไหนคือสวยสำหรับเรา พอได้มาทำขนมเราก็สามารถดีไซน์ทุกอย่างออกมาได้เอง”


การทำขนมไทยความสนุกอยู่ตรงที่มันยาก มีโจทย์ใหม่ ให้เราได้ลองทำเมนูใหม่ ที่ไม่เคยทำ เหมือนเราเดินขึ้นบันไดไปเรื่อย แล้วระหว่างทางมันสนุก เหมือนแต่ก่อนเราชอบมีคำถามกับตัวเองว่างานเราที่ทำไปลูกค้าจะชอบมั้ยนะ แต่พอได้มาทำขนมเรารู้สึกว่าได้ปฏิสัมพันธ์ ได้พูดคุย ได้รับฟีดแบ็กจากลูกค้า แล้วก็อยากทำให้มันดีขึ้นเรื่อย

 

ตัวอย่างขั้นตอนของการบรรจุขนมลงในแพ็คเกจจิ้งที่เตรียมไว้อย่างตั้งใจ

 

ขนมกลีบลำดวนยุคใหม่ที่มาพร้อมการดีไซน์แพ็คเกจจิ้งแบบเทียนหอม

 

กล่องใส่ขนมชั้นที่ผ่านการครีเอตมาเป็นอย่างดี สามารถใช้เป็นที่คั่นหนังสือได้อีกด้วย

“ความฟินหลังทำขนมเสร็จทุกครั้งคือการได้เข้าไปส่อง Pinterest อัพเดทแรงบันดาลใจในการคิดแพ็คเกจขนมต่อที่ทำให้ขนมไทยเราดูแตกต่าง มันเหมือนเป็นการทำขนม 24 ชั่วโมง แต่ทุกอย่างมัน Flow ไปตามธรรมชาติ โดยที่เราไม่รู้สึกว่าเราฝืน อย่างการดีไซน์กล่องกระดาษสำหรับใส่ขนมชั้นที่พอทานขนมเสร็จแล้ว สามารถรียูสภาพพิมพ์บนกล่องขนมให้กลายเป็นที่คั่นหนังสือสวย ๆ ได้ด้วย หรือจะเป็นไอเดียออกแบบกระปุกกลีบลำดวน เราก็ลองเสิร์ชหา Candle Packaging ซึ่งไม่เกี่ยวกับการทำขนมเลย ก็ลองมาใช้กับการห่อกระปุกขนมให้ออกมาน่ารักและดูแปลกตา เป็นความชอบส่วนตัวที่รู้สึกว่าอยากให้ขนมไทยมีความน่ารักมากขึ้นจริง ๆ ทั้งภายในและภายนอก”


ยิ่งไปกว่านั้นในฐานะของเจ้าของร้านขนมลิลัว เจ้าตัวยังบอกด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจอีกด้วยว่า "การที่ลูกค้าชอบขนมในร้านและทานอย่างมีความสุข คือความสุขของคนทำเช่นกันค่ะ"



ก้าวต่อไปของร้านขนมลิลัว


เพราะทุก ๆ วัน การได้ลงมือทำขนมคือความสุขในชีวิตประจำวันของข้าวฟ่าง ในหนึ่งวันเธอเลือกทำขนมเพียงวันละหนึ่งชนิด เพื่อจะได้โฟกัสในแต่ละขั้นตอนทำขนม จัดสรรตามข้อจำกัดของขนมแต่ละชนิดได้อย่างเหมาะสม


“ปกติอาทิตย์นึงเราจะส่งขนมประมาณวันพฤหัสบดีหรือวันศุกร์ ซึ่งก่อนหน้าประมาณวันจันทร์หรือวันอังคารเราจะทำขนมแห้งก่อน อย่างขนมกลีบลำดวน วุ้นกรอบ แล้วพอถึงวันพุธกับพฤหัสบดีก็จะเตรียมของสำหรับที่จะทำขนมสดในวันจัดส่ง ก็เรียกได้ว่าทำขนมทั้งอาทิตย์เลย สำหรับต่อหนึ่งรอบ อาจจะทำได้ไม่เยอะ ด้วยเพราะแรงเดียว แต่ว่าพอเราตั้งใจทำ มันทำให้ขนมมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นจริง ๆ โดยที่เราไม่ต้องเน้นปริมาณก็ได้”


"อาชีพทำขนมเราได้รายได้ประมาณนึง แต่พอเราลองคำนวณแล้ว มันคือวิถีที่เราเลือก ทุกวันเราไม่ต้องออกไปเจอรถติด ไม่ต้องแย่งชิงการกิน การอยู่ การใช้ ได้ตื่นมาออกกำลังกาย ทำสวนปลูกต้นไม้ดอกไม้ที่เราชอบ ช่วงสาย ก็ออกไปจ่ายตลาด ได้ทำกับข้าวกินเอง เลยรู้สึกว่านี่เป็นสิ่งที่เราพอใจ อยากใช้ชีวิตแบบนี้จริง

 

พื้นที่ครัวขนมลิลัว

และเมื่อต้องเอ่ยถึงเรื่องแพลนอนาคตในเส้นทางอาชีพทำขนมไทยของเธอ ข้าวฟ่างก็ได้พูดเสริมทิ้งท้ายแบบเขิน ไว้ว่าเราเป็นคนไม่ค่อยวางแผน แต่มีความตั้งใจว่าจะทำให้ลูกค้ามีความสุขเพิ่มมากขึ้นจากการได้ทานขนมชนิดใหม่ และตื่นตาตื่นใจกับแพ็คเกจน่ารัก ไปตลอดทาง ถึงคนทานขนมไทยในยุคนี้ ก็ขอบคุณมาก เลยค่ะที่ชื่นชอบและสนับสนุนขนมไทย ไม่ว่าจะทั้งในร้านขนมลิลัวเองหรือร้านอื่น ด้วย ในฐานะคนทำขนมเห็นแบบนี้ก็รู้สึกชื่นใจ ขอบคุณทุกคนอีกครั้ง ดีใจที่ได้รู้จักทุกคนค่ะ

 

รอยยิ้มพิมพ์ใจของคนทำขนมไทย พร้อมเสิร์ฟ พร้อมส่งมอบความอร่อยถึงคนทานด้วยความตั้งใจที่เต็มร้อย

ส่วนในอนาคตขนมลิลัวจะมีหน้าร้านหรือไม่ เธอว่าทุกอย่างย่อมมีเวลาผลิบาน โดยที่เราไม่ต้องรีบร้อน ถึงตอนนี้จะไม่มีหน้าร้านอย่างเป็นทางการ ทุกวันนี้เรายังสามารถติดต่อกันผ่านช่องทาง Instagram ได้เสมอ ซึ่งหากใครที่อยากพบหน้าค่าตาแม่ค้าข้าวฟ่างสักครั้งแล้วละก็ รอติดตามความเคลื่อนไหวผ่าน Account ขนมลิลัวกันได้ ไม่แน่นะว่า คุณอาจได้พบปะพูดคุย อุดหนุน ‘ขนมที่มีส่วนผสมของความน่ารัก’ กับโปรเจ็กต์พิเศษ ‘ร้านชำบ้านเพื่อน’ ที่แว่วมาจะได้จัดขึ้นในช่วงปลายปี 2568 นี้ ก็เป็นได้ !



ขนมลิลัว (Kanomlyloir)

สั่งซื้อขนมไทยได้ทาง LINE : @kanomlyloir

สามารถติดตามหลากหลายเรื่องราวความน่ารักในแบบฉบับขนมลิลัวเพิ่มเติมได้ที่ www.instagram.com/kanomlyloir