ในช่วงสิ้นปีนับเป็นช่วงเวลาที่หลายคนรอคอย ทั้งบรรดามิวสิคเฟสติวัล คอนเสิร์ต และหลากหลายเทศกาลที่มาจ่อคิวรอต้อนรับช่วงเวลาแห่งความสุข ปลายปีนี้ทีมงานผู้สร้างเฟสติวัลที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ อย่าง Wonderfruit ก็มาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่ ที่หยิบจับเอาวัฒนธรรมและเรื่องราวของอาหาร จากต้นทางวัตถุดิบมาสู่ปลายทางที่เป็นอาหารหนึ่งจาน เชื่อมโยงระหว่างสังคมและสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกันกับงาน Fullfruit เทศกาลพิเศษที่เต็มไปด้วยกิจกรรมเกี่ยวกับอาหาร ไม่ว่าจะเป็น Collab Dinner ระหว่างเชฟทั้งไทยและต่างชาติ เชฟที่ได้รับดาวมิชลินการันตีความอร่อย กุ๊กจากร้านท้องถิ่นที่ได้รับความนิยม หรือพ่อครัวแม่ครัวจากร้านที่มีประวัติยาวนาน คลาสสอนทำอาหาร ร้านขายอาหาร วงดนตรีสด และกิจกรรมไฮไลต์ที่สร้างสรรค์ประสบการณ์อาหารสุดพิเศษสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ 2 วันเต็มระหว่างวันที่ 7–8 พฤศจิกายนนี้ ณ พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน 
 

(Photo by www.facebook.com/fruitfullfood)

 

(Photo by www.facebook.com/fruitfullfood)

นับเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี ที่พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน จะเปิดเรือนชานและสวนไม้ยืนต้นอายุนับร้อยปีต้อนรับผู้หลงใหลในเรื่องราวของอาหารการกินให้ได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ด้วยกัน ภายในงานมีกิจกรรมพิเศษมากมายที่อยากชวนไปร่วมสนุกกันตลอด 2 วัน

  • Exclusive Chef’s Tables in Jim Thompson’s  House (ที่นั่งจำนวนจำกัด)
เปิดประสบการณ์อาหารสุดพิเศษในเรือนไทยไม้สักเก่าแก่ กับ Testing Menu มื้อเที่ยง 7 คอร์ส หรือ มื้อเย็น 10 คอร์ส โดยวันเสาร์เป็นการร่วมงานเฉพาะกิจระหว่าง เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร หนึ่งดาวมิชลินจากร้าน Le Du และ เจ๊ไฝ-สุภิญญา จันสุตะ หนึ่งดาวมิชลินจากร้านเจ๊ไฝ ประตูผี ส่วนในวันอาทิตย์เป็นผลงานการสร้างสรรค์ของ เชฟโบ-ดวงพร ทรงวิศวะ และ เชฟดีแลน โจนส์ จากร้านโบ.ลาน ร่วมกับ เชฟปริญญ์ ผลสุข จากร้านสำรับสำหรับไทย 

สำรองที่นั่งกิจกรรมพิเศษได้ที่ www.ticketmelon.com/fruitfull/chefstable
 

Exclusive Chef’s Tables in Jim Thompson’s House (Photo by www.facebook.com/fruitfullfood)

  •  Masterclasses (ที่นั่งจำนวนจำกัด)
เรียนรู้วัฒนธรรมอาหารอันหลากหลายอย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการแล่ซาชิมิ เคล็ดลับก้นครัวจากห้องเครื่อง ชิมไวน์ที่ผลิตโดยวิธีธรรมชาติ ทำขนมอบจากน้ำผึ้งป่า และอีกมากมาย สอนโดยเชฟมากความสามารถระดับมิชลินสตาร์ ไม่ว่าจะเป็น เชฟไอซ์-ศุภักษร จงศิริ (ศรณ์) เชฟโจ้-ณพล จันทรเกตุ และ เชฟซากิ โฮชิโนะ (80/20) เชฟโบ-ดวงพร ทรงวิศวะ (โบ.ลาน) เชฟชาลี กาเดอร์ (100 มหาเศรษฐ์) เชฟแรนดี้-ชัยชัช นพประภา (Fillets) เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร (Le Du, นุสรา) ร่วมกับเชฟจากต่างประเทศ ได้แก่ เชฟเบน แชปแมน (Kiln) จากลอนดอน เชฟโทโมส แพร์รี (Brat) จากลอนดอน และ เชฟวิคกี้ เฉิง (VEA) จากฮ่องกง ผู้ร่วมคลาสจะได้เรียนรู้ในแต่ละสาขาที่เชฟแต่ละคนเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ 

สำรองที่นั่งกิจกรรมพิเศษได้ที่ www.ticketmelon.com/fruitfull/masterclasses 

 

Masterclasses (Photo by www.facebook.com/fruitfullfood)

  •  Toh Jeen Chinese Banquet Tables (ที่นั่งจำนวนจำกัด)

สัมผัสประสบการณ์อาหารที่แปลกใหม่กับครีเอทีฟดินเนอร์ในรูปแบบโต๊ะจีน ลิ้มรสอาหารชุดที่ได้กลิ่นอายนานาชาติที่สะท้อนถึงสังคมพหุวัฒนธรรมในอดีตของไทย ซึ่งปรากฏร่องรอยผ่านประวัติศาสตร์ของเรือนไทยจิม ทอมป์สัน ผลงานการรังสรรค์ผ่านมุมมองของเหล่าเชฟจาก ร้านศรณ์, Sühring, 80/20, Gaa, Soul Food Mahanakorn และ ซาหมวย แอนด์ ซันส์ ในวันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน โต๊ะละ 10 ที่นั่ง


สำรองที่นั่งกิจกรรมพิเศษได้ที่ www.ticketmelon.com/fruitfull/tohjeen 

 

Toh Jeen Chinese Banquet Tables (Photo by www.facebook.com/fruitfullfood)

นอกจากนี้ ยังสามารถซื้อบัตรเข้างานประเภททั่วไป (General Admission Ticket) เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมน่าสนใจต่อไปนี้ตลอด 2 วัน ได้อีกด้วย (โดยบัตรเข้างานราคานี้ไม่รวม Exclusive Chef’s Tables in Jim Thompson’s  House, Masterclasses และ Toh Jeen Chinese Banquet Tables กิจกรรมดังกล่าวต้องซื้อบัตรเข้าร่วมกิจกรรม)
  • Pop-up Kitchens
เชฟหนุ่ม-วีระวัฒน์ ตริยเสนวรรธน์ จาก ร้านซาหมวย แอนด์ ซันส์ อุดรธานี จะนำโปรเจ็กต์ร้าน 'หมากแข้ง' อาหารอีสานประยุกต์รสชาติใหม่มาเปิดตัวครั้งแรกในกรุงเทพฯ ที่ร้านอาหารจิม ทอมป์สัน และ เชฟไอซ์-ศุภักษร จงศิริ จากร้านศรณ์ จะมาสร้างสรรค์บาร์ขนมจีนปูก้อนสูตรซิกเนเจอร์ของร้าน ให้ทุกคนได้อิ่มอร่อยพร้อมผักแนมท้องถิ่นภาคใต้นานาชนิด
  • Street Food And Bars
อิ่มอร่อยกับสตรีทฟู้ดแนวสร้างสรรค์จาก เชฟเปาโล วิทาเลตติ, เชฟชาลี กาเดอร์, เชฟจาร์เรตต์ วริสลีย์, เชฟดีแลน โจนส์, เชฟโจ้-ณพล จันทรเกตุ และ เชฟซากิ โฮชิโนะ ที่ออกแบบเมนูพิเศษมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ และชวนทำความรู้จักกับอาหารท้องถิ่นที่ยังไม่แพร่หลายในวงกว้าง แต่โดดเด่นทั้งในเชิงอัตลักษณ์และรสชาติที่แปลกใหม่ พร้อมจิบเครื่องดื่มที่ช่วยดับกระหายได้ตลอดวันกับบาร์ค็อกเทลที่กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ทั่วงาน
  • Talad And Workshops
ลานกลางแจ้งที่เขียวชอุ่มด้วยพรรณไม้เขตร้อนจะได้รับการจัดสรรพื้นที่ใหม่ให้เป็นสวรรค์ของคนรักการเดินจ่ายตลาด สนุกกับการช้อปปิ้งเลือกซื้อผัก ผลไม้ วัตถุดิบ และของใช้ต่าง ๆ ตลอดจนเข้าร่วมเวิร์กช็อปได้ตลอดวัน ไม่ว่าจะเป็นจัดสวนออร์แกนิก การทำอาหารโดยใช้วัตถุดิบให้คุ้มค่าไม่เหลือทิ้งเป็นขยะ ไปจนถึงเวิร์กช็อปชิมช็อกโกแลต จัดโดย ปฐมออร์แกนิก, จิม ทอมป์สัน, Wine Garage และอีกมากมาย
  •  Live Music And DJs
สนุกกับความบันเทิงได้ตลอดทั้งวันกับการแสดงสดของวงดนตรี และเหล่าดีเจที่คัดสรรโดย Maft Sai จากค่ายเพลงสุดแรงม้า ประกอบไปด้วย FunkyPump, Juice Willis, Supersonic, Kanehbos, Tassmah, The Paradise Bangkok Molam International Band, ตุ้มเติ่นหมอลำกรุ๊ป, ญาณ และอีกมากมาย ที่จะมาสร้างบรรยากาศให้คึกคักด้วยจังหวะดนตรีที่สนุกสนาน

  • After Party (วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายนช่วงเย็น)
มาร่วมเฉลิมฉลองในยามค่ำคืนไปกับดนตรีสนุก ๆ จากดีเจ Maft Sai จากค่ายสุดแรงม้า และ Supersonic จาก Offline Disco Club ผู้ถือบัตรเข้างานสามารถมาร่วมสนุกใน After Party ด้วยกันได้

ซื้อบัตรเข้างาน 2 วัน และติดตามรายละเอียดกิจกรรมพิเศษเพิ่มเติมได้ที่ www.ticketmelon.com/fruitfull/fruitfullatjimthompson และ www.facebook.com/fruitfullfood

Info
Available Date

7 - 8 พฤศจิกายน 2563

Time

11:00 - 21:00

Place
Jim Thompson House Museum, ซอยเกษมสันต์ 2
Map
Admission Fee

490 บาท

Suggest an Edit