"คนตาบอดไม่ได้สูญเสียการมองเห็น เฉกเช่นที่ก้อนหินเองก็ไม่ได้สูญเสียการมองเห็น"

แล้วสายลมก็หลั่งน้ำตา ขณะยืนอยู่บนชายฝั่งทระนง เท้าปกคลุมไปด้วยโคลน ฝุ่นผงกระซิบข้างหู “เราจะจากไป และ ไม่หวนคืนมา”

"เมื่อมนุษย์มีขอบเขตในการรับรู้ความจริง เราจึงจำกัดความหมายของสภาพแวดล้อมไว้ภายใต้ขอบเขตของมนุษย์ แต่ทว่าความจริงนั้นไม่แน่นอน แปรแปลี่ยนตลอดตามกาลเวลาในฐานะสิ่งที่มีอยู่ มนุษย์เพียงเสาะแสวงหาช่องทางที่จะเข้าใจความจริงนี้ ตั้งแต่ศาสนา ความเชื่อ วิทยาศาตร์ หรือแม้แต่นวัตกรรมล้ำหน้า กระนั้น ยิ่งเราไขว่คว้าจะประดิษฐ์กลไกในการอธิบายความเป็นจริงได้มากเพียงใด เรากลับตระหนักได้ว่าสัจจะนั้นยืดเหยียดออกไปไกลเกินกว่าจะเอื้อมถึงได้ ไกลเกินกว่าขีดจำกัดในการแสดงออกของเรา"

 

(Photo by Gallery VER)

"เราพยายามสร้างหนทางอันนำไปสู่จุดจบของความทรมานจากความขลาดเขลาของเรา เครื่องมือต่าง ๆ ไม่ว่าจะภาษา, สัญญะ, หรือสื่อ เป็นเพียงร่องรอยเพื่อประกอบสร้างแผนที่ของทั้งสิ่งที่ดำรงและไม่ดำรงอยู่ เฉกเช่นภาพเขียนฝาผนังที่นำเสนอสัจจะสูงสุดผ่านอุปมาจากตรรกะของมนุษย์ ดวงอาทิตย์แทนความรู้เจิดจ้า ดอกบัวแทนผู้ตื่นผู้เบิกบาน และเรือสินค้าแทนปรัชญาคำสอน แม้แต่มนุษย์เองก็รับรู้ประสบการณ์ได้ต่างกัน เทียนไข กำยาน กลิ่นหอม แผ่นฟิล์ม จอทีวี จวบจนภาพดิจิตอลสามมิติ ล้วนกุมความหมายต่างกันขึ้นอยู่กับสายตาที่จ้องมอง"

"แต่ถึงกระนั้น ดวงอาทิตย์ย่อมดับสูญ ดอกบัวร่วงโรย มนุษย์แก่เฒ่า และหินผาผุกร่อน เฉกเช่นนิพพานก็อาจไม่ใช่จุดจบที่แท้ สายลมเท่านั้นที่จะพาเถ้าทุลีของเราที่กุมเสียงกระซิบนี้ไปไกลแสนไกล เราจะจากโลกวัตถุนี้ไป เราจะจากไป และไม่หวนกลับมา"
 

(Photo by Gallery VER)

 

(Photo by Gallery VER)

 

(Photo by Gallery VER)

 

(Photo by Gallery VER)

นี่คือนิทรรศการโดย อริญชย์ รุ่งแจ้ง ที่บอกเล่าถึงขอบเขตในการรับรู้ความจริงของมนุษย์ รวมถึงความจริงที่ว่าความจริงที่มนุษย์รับรู้นั้นก็ไม่แน่นอน แปรเปลี่ยนได้ตามกาลเวลา ทั้งศาสนา ความเชื่อ วิทยาศาตร์ และนวัตกรรมนำสมัย เท่ากับว่า สัจจะ หรือ ความจริงแท้ นั้นยืดเหยียดออกไปไกลเกินกว่าคนเราจะเอื้อมถึงได้ เกินกว่าขีดจำกัดในการรับรู้และแสดงออกใด ๆ

Info
Available Date

8 ตุลาคม - 25 ธันวาคม 2565

Time

12:00 - 18:00

Place
Gallery VER, 2198/10-11 ซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 22
Map
Admission Fee

ฟรี

Suggest an Edit