"จังหวัดพระนครศรีอยุธยา” เป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลกของไทยที่เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ภูมิปัญญาไทยและเป็นราชธานีที่มีอายุถึง 417 ปีจึงมักถูกเรียกว่า “เมืองกรุงเก่า” อีกทั้งในสมัยอยุธยายังมีกษัตริย์ปกครองถึง 5 ราชวงศ์ซึ่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยอีกด้วย ถึงแม้เวลาจะผ่านมายาวนานกว่าหลายร้อยปีแต่ที่นี่ยังคงกลิ่นอายและเสน่ห์ของเมืองเก่าไว้อยู่จนถึงปัจจุบัน แต่สำหรับในทริปนี้ BKK ขอนำเสนอทริปท่องเที่ยวแบบคนยุคใหม่ที่แอบหลงเข้าไปในเมืองเก่าไปตามหาสถานที่เก๋ ๆ ให้ได้แวะไปชิมและชิลล์กันในช่วงวันหยุดจะมีที่ไหนกันบ้าง ไปดูกัน

 

TEMPLES

6

วัดมหาธาตุ

 

วัดมหาธาตุ

แวะซึมซับเสน่ห์ของโบราณสถานที่ "วัดมหาธาตุ” หนึ่งในวัดที่สำคัญและมีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัดอยุธยา ซึ่งถูกสถาปนาเป็นวัดมหาธาตุในสมัยของขุนหลวงพะงั่ว (สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1) จุดไฮไลท์ของวัดมหาธาตุคือวิหารเล็กที่ถูกรากต้นโพธิ์แผ่ปกคลุมเต็มผนังและล้อมเศียรพระพุทธรูปหินทรายเอาไว้ ศิลปะที่สร้างสรรค์จากธรรมชาติกลายเป็นความงดงามที่แปลกตาจนเป็นที่รู้จักทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติหรือจะเดินไปที่เจดีย์แปดเหลี่ยมที่ซ้อนลดหลั่นกัน 4 ชั้น เจดีย์รูปร่างแปลกตาที่พบได้องค์เดียวในอยุธยา แต่สำหรับใครที่ชอบงานจิตรกรรมลองแวะไปถ่ายรูปที่จิตกรรมฝาผนังทางเข้าคูหาปรางค์ประจำทิศ จะปรากฏภาพเรือนแก้วใต้ต้นโพธิ์อันเป็นศิลปะแบบโบราณไว้ให้ได้ศึกษา

 

วัดมหาธาตุ

 

วัดมหาธาตุ

วัดนี้มีความสำคัญอย่างมากในสมัยกรุงศรีอยุธยา เพราะเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายคามวาสี อีกทั้งยังเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีต่าง ๆ แต่หลังจากมีการสร้างวัดพระศรีสรรเพชญ์ก็ได้ย้ายไปประกอบพิธีกรรมที่นั่นแทน 

7

วัดบรมพุทธาราม

 

วัดบรมพุทธาราม

"วัดบรมพุทธาราม" โบราณสถานสำคัญตั้งอยู่ในรั้วเดียวกับมหาวิทยาลัยราชภัฎ พระนครฯ ซึ่งที่นี่เป็นวัดที่สมเด็จพระเพทราชา กษัตริย์แห่งอยุธยาองค์ที่ 28 แห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวงโปรดให้สร้างขึ้นในบริเวณบ้านเดิมของพระองค์ตั้งอยู่ระหว่างประตูไชยกับคลองฉะไกรน้อย (คลองน้ำใหญ่ในสมัยอยุธยา) 

 

วัดบรมพุทธาราม

โดยตัววัดมุงหลังคาด้วยกระเบื้องเคลือบซึ่งแปลกไปจากวัดอื่นที่มุงด้วยกระเบื้องดินเผาชาวบ้านจึงเรียกกันว่าวัดกระเบื้องเคลือบ ต่อมาถูกทิ้งร้างไปตั้งแต่เสียกรุงฯ ครั้งที่ 2 แต่ในส่วนของพระอุโบสถยังคงมีผนังอยู่เกือบเต็มทั้ง 4 ด้านและยังมีร่องรอยจิตรกรรมหลงเหลือให้เห็นที่บานประตูและหน้าต่าง ถือเป็นอีกหนึ่งวัดที่จัดว่าค่อนข้างสมบูรณ์แห่งหนึ่งในอยุธยา

CAFES

PART 1

8

The Wine Ayutthaya

 

The Wine Ayutthaya

โครงการ The Wine Ayutthaya ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับร้านอาหาร Grand Chaopraya ร้านอาหารริมน้ำรูปแบบใหม่ที่จะเปลี่ยนจังหวัดอยุธยาในสายตานักท่องเที่ยวให้ดูร่วมสมัยมากขึ้น ร้านอาหารไม้ริมน้ำ ท่ามกลางสวนสวยที่พร้อมเสิร์ฟเมนูอาหารไทยแสนอร่อยพร้อมไวน์สุดพิเศษในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ โดยคุณคุณ ธัชช์ธิราช หงษ์อุปถัมชัย ตั้งใจจะเปลี่ยนทัศนคติของการดื่มไวน์ให้ผู้คนทั่วไปได้รู้ว่าไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่มีกำลังทรัพย์มากเท่านั้นถึงจะดื่มได้ แต่ที่นี่นำเข้าไวน์ทุกรูปแบบซึ่งไวน์เป็นเครื่องดื่มชนิดเดียวที่ช่วยให้รสชาติอาหารชัดเจนขึ้นมีตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักพัน สามารถสั่งมาดื่มคู่กับอาหารสุดพิเศษของทางร้าน

 

The Wine Ayutthaya

เมนูแรกเมนูขึ้นชื่อของจังหวัดอยุธยาอย่าง กุ้งเผา (ไซส์จัมโบ้ 1,000 บาท) กุ้งเผาคัดไซส์มีให้เลือกหลากหลายระดับ เผาด้วยไฟในอุณหภูมิที่เหมาะสมทำให้ได้กุ้งตัวโตเนื้อแน่นเด้ง รสชาติหวานไร้ความคาว เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มที่ฟู้ดสูตรของทางร้าน

 

กุ้งเผา (ไซส์จัมโบ้ 1,000 บาท)

 

กุ้งเผา (ไซส์จัมโบ้ 1,000 บาท)

หรือจะลองอาหารไทยโบราณอย่างแกงขาวเนื้อ (290 บาท) หรืออีกชื่อหนึ่งคือแกงหลอก ที่หลอกด้วยรูปลักษณ์หน้าตาให้ความรู้สึกเหมือนต้มข่าแต่จริง ๆ แล้วคือแกงกะทิสูตรโบราณที่ชูรสชาติของวัตถุดิบโดยใช้ความเค็มของเนื้อหรือหมูแดดเดียว ใช้ความเปรี้ยวของหน่อไม้ เสิร์ฟคู่กับปลาสลิดทอดกรอบเคียงกัน 

 

แกงขาวเนื้อ (290 บาท)

อย่าลืมสั่งเครื่องดื่มที่ยกขนมขึ้นชื่อของอยุธยามาดัดแปลงใหม่อย่าง Saimai (80 บาท) น้ำสตรอเบอร์รีท็อปด้านบนด้วยสายไหมอยุธยา แนะนำให้ลองดื่มรสชาติของน้ำก่อนแล้วค่อยให้สายไหมละลายไปกับน้ำ จะได้เครื่องดื่มที่ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยว สดชื่นกำลังดี 

 

Saimai (บาท)

The Wine Ayutthaya
42/1 ม.4 บ้านรุน
เปิดทุกวัน 11.00 - 22.00 น.
โทร. 081-942-1666
www.facebook.com/Thewineayudhya

9

Pastry Architect

 

Pastry Architect

ร้านขนมฝรั่งเศสที่เปิดมากว่า 2 ปีตั้งอยู่บนถนนหมายเลข 32 บางปะอิน - อยุธยา โดยฝีมือของคุณฤทธิ์ บุญฤทธิ์ และคุณดาว สุดารัตน์ เจ้าของร้านและเชฟที่เปรียบให้ Pastry Architect เป็นผู้สร้างสรรค์ความอร่อย คล้ายกับสถาปนิกที่คิดค้น ออกแบบโครงสร้างตึกที่สวยงาม ซึ่งแต่ละขั้นตอนกว่าจะได้มาแต่ละส่วนต้องใช้ความคิดและจินตนาการมากมาย การทำขนมก็เช่นกันเพราะขนมฝรั่งเศสไม่มีกฎตายตัว จะมีกี่เลเยอร์หรือกี่รสชาติก็ได้แต่รวมกันออกมาแล้วต้องเป็นหนึ่งคำที่อร่อย 

 

Pastry Architect

แนะนำขนมเมนูแรก L’amour Rose (160 บาท) ภาษาฝรั่งเศสแปลว่ากุหลาบแห่งความรัก ขนมฝรั่งเศสที่คุณดาวคิดค้นขึ้นมาใหม่ให้รสชาติถูกปากคนไทยมากขึ้นและเป็นขนมที่มีความละเอียดในการทำสูง ตกแต่งภายนอกด้วยครีมโรสบีบเป็นรูปกุหลาบให้กลิ่นหอมของดอกไม้และความหอมมันของครีม ต่อมาเป็นราสป์เบอร์รีมูส ราสป์เบอร์รีคอมโพท ที่ให้รสชาติเปรี้ยวเล็ก ๆ ของผลไม้ตามด้วยมูสโคโคนัท เนื้อเค้กเนียนนุ่มตั้งบนฐานโคโคนัทครัมเบิ้ล 

 

L’amour Rose (160 บาท)

หรือจะลองเป็นเมนูพื้นบ้านของฝรั่งเศสอย่าง Criossant (55 บาท) ครัวซองต์ที่ใช้เนยและแป้งนำเข้าจากฝรั่งเศสและ Bostock (100 บาท) ขนมปัง Brioche เนื้อนุ่มด้านบนท็อปด้วยอัลมอนด์ครีมและอัลมอนด์สไลด์  

 

Criossant (55 บาท) และ Bostock (100 บาท)

อีกหนึ่งเมนูพื้นบ้านที่ไม่ควรพลาดของฝรั่งเศสอย่าง Lemon Tart (110 บาท) เลมอนเคิร์ดบนทาร์ตกรุบกรอบหอมกลิ่นเนยให้รสชาติเปรี้ยวและสดชื่นด้วยกลิ่นของเลมอน แนะนำให้สั่ง Red Berry (120 บาท) แบบร้อนดื่มคู่กันเป็นการล้างปากด้วยชาส่งท้ายมื้อนี้ 

 

Lemon Tart (110 บาท) และ Red Berry (120 บาท)

Pastry Architect 
77 หมู่ 3 ถนนเอเซีย
เปิดทุกวัน 08.00 - 19.00 น.
โทร. 086-311-7777
www.facebook.com/pastryarchitect.bpi

10

The Summer House Ayutthaya

 

The Summer House

The Summer House คาเฟ่บรรยากาศอบอุ่นติดริมแม่น้ำตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับร้านกาแฟ Taste & Tone Studio โดยคุณชุติมา คุณคณิน คุณสิตานัน อนันรยา สามสาวที่ปรับปรุงบ้านหลังเก่าให้กลายเป็นร้านอาหารและคาเฟ่สุดเก๋ที่ตกแต่งให้เหมือนกับบ้านสวนหลังใหญ่พร้อมรองรับเพื่อน ๆ ที่แวะมาทานอาหารอร่อย ๆ โดยเมนูทั้งหมดของทางร้านหลาย ๆ เมนูเป็นจานโปรดของครอบครัวอยู่แล้ว จากที่เคยทำทานกันเองที่บ้านก็นำมาปรับสูตรใหม่ให้เขากับคนทั่วไปมากขึ้น รองท้องกันที่เมนูแรก สลัดปูมะละกอ (280 บาท) ที่นำเนื้อปูไปยีจากนั้นนำไปคลุกเคล้ากับสลัดและน้ำสลัดสูตรของทางร้านเสิร์ฟแบบเย็นในมะละกอสดให้ทานคู่กัน ช่วยรีเฟรชร่างกาย เหมาะกับอากาศร้อน ๆ

 

สลัดปูมะละกอ (280 บาท)

ตามด้วยอาหารจานหลักอย่าง สปาเก็ตตี้ต้มยำกุ้ง (280 บาท) เมนูขายดีของร้านที่นำสปาเก็ตตี้เส้นเหนียวนุ่มไปคลุกเคล้ากับซอสต้มยำกุ้งน้ำข้นที่ให้ความครีมมี่และรสชาติจัดจ้านสไตล์ไทย ๆ เสิร์ฟคู่กับกุ้งแม่น้ำเผาของดีอยุธยาขนาดพอดีจาน

 

สปาเก้ตตี้ต้มยำกุ้ง (280 บาท)

เมื่อทานของคาวแล้วก็ต้องตบท้ายด้วยของหวานลองสั่ง Riceberry Mousse (90 บาท) มูสที่ทำจากน้ำนมข้าวไรซ์เบอร์รี่ เนื้อเนียนนุ่ม มีกลิ่นหอมตักทานคู่กับข้าวพองเคลือบคาราเมล จะให้รสชาติหอมนุ่มของมูสและเค็มหวานนิด ๆ จากคาราเมล

 

The Summer House 
ถนน 3477 ต.เกาะเรียน 
เปิดทุกวัน 08.30 - 19.00 น.
โทร. 094-224-2223
www.facebook.com/thesummerhouse.ayutthaya/

CAFES

PART 2

11

บ้านข้าวหนม

 

บ้านข้าวหนม

บ้านข้าวหนม คาเฟ่ขนมไทยสร้างสรรค์โดยคนรุ่นใหม่ที่ตั้งใจสืบสานวัฒนธรรมไทยก่อตั้งโดยคุณยุ้ย ฐาปกรณ์ สุนทรพฤกษ์ จากเด็กสาวที่ชอบทานขนมไทยและมักยืนรอคุณยายพายเรือมาขายขนมในสมัยเด็กจนปัจจุบันได้สานต่อความชอบของตนเองและตั้งใจเปิดเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายขนมไทยของชาวบ้านที่มีฝีมือในการทำขนมไทยโบราณและขนมไทยประยุกต์ที่นำมาดัดแปลงให้ร่วมสมัยยิ่งขึ้น โดยคุณยุ้ยจะคัดคนในท้องถิ่นที่มีฝีมือในการทำขนมและช่วยปรับสูตรให้รสชาติไม่หวานจนเกินไปเพื่อที่จะได้ถูกปากคนทั่วไปและคนที่ไม่ชอบทานหวานมาก สำหรับตัวร้านจะมีกลิ่นอายของความเป็นไทยแบบสมัยเก่าและความชิคแบบคาเฟ่สมัยใหม่ โดยขนมของที่นี่จะเลือกซื้อกลับบ้านหรือนั่งทานที่ร้านก็ทำได้

 

บ้านข้าวหนม

ลองสั่งเมนูขนมไทยที่ถูกใจคนทุกวัยอย่างขนมชั้น (40 บาท) ขนมตะโก้ (30 บาท) ขนมต้ม (30 บาท) ขนมสอดไส้ (6 บาท) กล้วยเชื่อม (40 บาท) ขนมกล้วย (6 บาท) หรือจะสั่งขนมตระกูลทองต่าง ๆ (50 บาท) ไม่ว่าจะเป็นทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง 

 

ขนมชั้น (40 บาท) ขนมตะโก้ (30 บาท) ขนมต้ม (30 บาท) ขนมสอดไส้ (6 บาท) กล้วยเชื่อม (40 บาท) ขนมกล้วย (6 บาท) ขนมตระกูลทองต่าง ๆ (50 บาท)

หากใครอยากหลีกเลี่ยงความหวานจากขนมลองสั่งไอติมโบราณ (125 บาท) ไอศกรีมเสิร์ฟในขนมปังโรยหน้าด้วยทองม้วน 

 

ไอติมโบราณ (125 บาท)

อย่าลืมสั่งเมนูเครื่องดื่มแนะนำของทางร้านอย่าง ชุบชูใจ (85 บาท) มนูพิเศษสูตรของทางร้านเป็นนมเย็นที่แยกชั้นกับน้ำอัญชัน

 

ชุบชูใจ (85 บาท)

หรือจะลองชาเขียวหลงกรุง (70 บาท) ชาเขียวเข้มข้นใส่น้ำตาลทรายแดง

 

ชาเขียวหลงกรุง (70 บาท)

บ้านข้าวหนม
ถนน อู่ทอง (ตรงข้ามการประปาส่วนภูมิภาค)
เปิดทุกวัน 08.00 - 18.00 เสาร์ - อาทิตย์ 09.00 - 19.00 น.
โทร. 097-921-9465
www.facebook.com/Baankaonhom

12

Ayutthaya Retreat

 

Ayutthaya Retreat

ร้านอาหาร รีสอร์ทและคาเฟ่ในสไตล์ไทยที่แอบซ่อนอยู่ในจังหวัดอยุธยา ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดป้อมใหญ่เท่าไหร่นัก ที่นี่บ้านเรือนไทยไม้สักหลังเก่าที่ถูกแปลงโฉมใหม่ให้น่าสนใจยิ่งขึ้นเหมาะสำหรับคนที่ชอบความเงียบสงบ ด้านหลังมีสระบัวขนาดใหญ่พร้อมเรือพายแบบเก่าไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวิถีการพายเรือในสมัยก่อน สำหรับในส่วนของร้านอาหารและคาเฟ่ ตั้งอยู่ที่ใต้ถุนเรือนโดยมีที่นั่งให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นริมน้ำหรือห้องแอร์ที่มีต้นไม้ใหญ่อยู่ภายในให้บรรยากาศร่มรื่นแม้ในวันที่แดดจัด

 

Ayutthaya Retreat

สำหรับเมนูต่าง ๆ ของทางร้านจะเป็นโฮมเมดสูตรของทางร้านทั้งหมด เมนูที่ทางร้านแนะนำได้แก่ New York Cheese Cake (100 บาท) ชีสเค้กเนื้อแน่นบนครัมเบิ้ลกรุบกรอบ 

 

New York Cheese Cake (100 บาท)

หรือจะคลายร้อนด้วย Lychee Blue Soda (85 บาท) น้ำลิ้นจี่บลูโซดาให้รสชาติซาบซ่าสดชื่น 

 

Lychee BlueSoda (85 บาท)

หรือจะลองเมนูขายดีอย่าง Salt Caramel Aunchan (85 บาท) ซอลต์คาราเมลที่ผสมผสานความเป็นไทยอย่างน้ำอัญชันลงไป

 

Salt Caramel Aunchan (85 บาท)

Ayutthaya Retreat  
ถนนหมายเลข 3412  (ใกล้กับวัดป้อมใหญ่)
เปิดทุกวัน (ปิดวันจันทร์) อังคาร - ศุกร์ 10.00 - 18.00 น. เสาร์ - อาทิตย์ 10.00 - 17.00 น.
โทร. 080-394-8133
www.facebook.com/ayutthayaretreat/

13

T-Bar @ Tofu Cafe

 

T BAR

T Bar ร้านชาสไตล์โมเดิร์นแบบ Take Away ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับ Tofu Cafe เป็นโปรเจ็กต์ที่สองของทีมงานที่ต้องการให้พื้นที่เล็ก ๆ บริเวณตรงข้ามโบราณสถานสำคัญอย่างวัดเจ้าปราบแห่งนี้เป็นจุดรวมตัวของคนรุ่นใหม่ โดยทางร้านเน้นเสิร์ฟเมนูที่มีส่วนประกอบของชาเป็นหลัก โดยเครื่องดื่มทุก ๆเมนูของที่นี่จะใช้ใบชาสดชงใหม่ในทุก ๆ วัน เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงรสชาติของใบชาหากทิ้งไว้นานเกินไป ทางร้านเลือกครีเอทเครื่องดื่มต่าง ๆ ให้มีความทันสมัยและเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้ง่าย

 

Tofu Cafe

แนะนำเมนู Japanese Purple Yam Latte with Bubble (85 บาท) ให้รสชาติมันม่วงนม ๆ กลมกล่อมแต่ถ้าอยากรู้สึกสดชื่นลองสั่ง Japanese Melon with Bubble (85 บาท) ชารสเมลอนญี่ปุ่นเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานหวานจนเกินไปช่วยเติมความสดชื่นได้ดี Jasmine tea Yakult Lemon with bubble (85บาท) เมนูที่จะเปลี่ยนชาจัสมินแบบเดิม ๆ ให้มีรสชาติยิ่งขึ้นด้วยการเติมรสชาติของยาคูลท์และเมลอนเข้าไป แยกชั้นสีสวยควรค่าแก่การถ่ายรูป ส่วนด้านล่างใส่ไข่มุกสีส้มทำให้แก้วนี้ดูน่าดื่มและน่ารักมากยิ่งขึ้น

 

Japanese Purple Yam Latte with Bubble , Japanese Melon with Bubble , Jasmine tea Yakult Lemon with bubble (85บาท)

แต่ถึงแม้ที่นี่จะเน้นเมนูที่ชงด้วยชาเป็นหลักแต่เครื่องดื่มอื่น ๆ ทางร้านก็ใส่ใจไม่แพ้กัน เครื่องดื่มที่เป็นกาแฟก็เลือกใช้กาแฟเมล็ดไทยที่นำมาเบลนด์แบบสูตรเฉพาะผลิตจากโรงคั่วในจังหวัดอยุธยา หรือแม้แต่การคัดสรรโกโก้และชาเขียวคุณภาพลองสั่ง Chocolate  (85 บาท) ช็อกโกแลตรสชาติเข้มข้นแยกเลเยอร์มากับนมสดด้านบน ท็อปด้วยไมโลนักเก็ตเพิ่มความกรุบกรอบให้แก้วนี้เป็นอย่างดี 

 

Chocolate (85 บาท)

หรือจะลอง Matcha Latte (95 บาท) มัทฉะลาเต้ใส่ไข่มุกสีทองสวยรสชาติเข้มข้นถือเป็นแก้วที่สาวกชาเขียวไม่ควรพลาด

 

Matcha Latte (95 บาท)

T BAR
ถนน อู่ทอง ใกล้กับด้านข้างวัดเจ้าปราบ
เปิดทุกวัน 10.00 - 20.00 น. 
โทร. 092-408-4848
www.facebook.com//tofucafe/

CAFES

PART 3

14

Slip-pa Cafe

 

Silp-pa

Silp-pa Cafe  คาเฟ่เล็ก ๆ ในบ้านทรงไทยตั้งอยู่ที่เดียวกันกับโรงแรม Silp-paในซอยโชคเศรษฐี ตั้งอยู่ไม่ไกลกับวัดมหาธาตุ ที่นี่โดดเด่นด้วยการเลือกใช้บ้านทรงไทยสีดำทั้งหลังดูเท่แบบสไตล์ไทยประยุกต์ให้ผู้ที่แวะเวียนมาได้สัมผัสกลิ่นอายความเก่าแก่ของบ้านทรงไทยโบราณและการตกแต่งแบบมินิมอลในยุคสมัยใหม่ เน้นการใช้สีขาวและดำเป็นหลัก ตกแต่งส่วนต่าง ๆ ของโรงแรมด้วยข้าวของเครื่องใช้แบบคนโบราณเพิ่มความน่าสนใจและทำให้ที่นี่กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมอีกด้วย ในส่วนของคาเฟ่จะเน้นเสิร์ฟเมนูฟิวชั่นที่เน้นความเป็นไทยเป็นหลัก

 

Silp-pa

ลองสั่งเมนูที่ทางร้านแนะนำเริ่มต้นที่เมนูรองท้องอย่างกระทงทอง (6 ชิ้น 89 บาท, 9 ชิ้น 99 บาท) เมนูออเดิร์ฟแบบโบราณที่นำมาปรับใหม่ด้วยการใส่ไส้กระทงเป็นไส้ลาบ กะเพรา หรือจะลองเมนูที่หนักขึ้นมาหน่อยอย่างสปาเก็ตตี้ซอสข้าวซอย (159 บาท)

 

สปาเก็ตตี้ซอสข้าวซอย (159 บาท)

 

กระทงทอง (6 ชิ้น 89 บาท, 9 ชิ้น 99 บาท)

ผัดไทยกุ้งสดเส้นคาเปลลินี (149 บาท) ผัดไทยกุ้งสดเมนูชื่อดังของไทยที่ดัดแปลงด้วยการใช้เส้นแองเจิลแฮร์ผัดแทนเส้นจันทน์เสิร์ฟกับกุ้งแม่น้ำขนาดพอดีสำหรับหนึ่งคนทาน หรือถ้าใครไม่ชอบทานเส้นลองสั่งข้าวผัดอยุธยา (110 บาท) เมนูที่นำเสนอความเป็นไทยด้วยการนำข้าวสวยร้อน ๆ ผัดกับน้ำพริกกะปิและดอกโสน เสิร์ฟคู่กับปลาทูทอด

 

ข้าวผัดอยุธยา (110 บาท)

 

ผัดไทยกุ้งสดเส้นคาเปลลินี (149 บาท)

 ปิดท้ายด้วย Iced Lemonade and Nanilla (65 บาท) เมนูที่จะดับร้อนได้ดีอย่างเฟรชเลมอนโซดาผสมกับไซรัปวานิลลาให้รสชาติหวานนิด ๆ ด้วยไซรัปและความซ่าสดชื่นจากเลมอนโซดา 

 

Iced Lemonade and Nanilla (65 บาท)

Slip-pa Cafe
1/18 ถนน โรจนะ
เปิดทุกวัน อาทิตย์ - พุธ 09.30 -18.30 น. , พฤหัส - เสาร์ 09.30 - 20.00 น. 
โทร. 089-695-9909
www.facebook.com/Silp-pa-cafe

15

Busaba Cafe & Meal

 

Busaba Cafe & Meal

คาเฟ่สุดเก๋เปิดใหม่บนถนนอู่ทอง ที่หยิบยกความเป็นไทยมาดีไซน์ใหม่ในสไตล์ของ Busaba แบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ซึ่งที่นี่เป็นโปรเจ็กต์ต่อจาก Busaba Craft & Design ที่นำผ้าขาวม้ามาผลิตเป็นสินค้ารูปแบบต่าง ๆ ให้เข้ากับคนยุคใหม่มากขึ้นสำหรับดีไซน์ของ Busaba Cafe & Meal ได้แรงบันดาลใจมากจากการลดทอนลายเส้นของผ้าขาวม้ากลายเป็นเส้นกริดสีขาวสวยอันเป็นจุดเริ่มต้นความสวยงามของผ้า อีกทั้งภายในร้านยังเป็นโชว์รูมสินค้าขนาดย่อมอีกด้วย โดยตัวร้านตั้งอยู่ด้านหน้าของโฮสเทลเรือนไทยสีขาวสวยอย่าง Busaba Ayutthaya 

 

Busaba Cafe & Meal

ในส่วนของเมนูอาหารทางร้านแนะนำเส้นใหญ่อยุธยากุ้งซัลซ่า (130 บาท) เส้นใหญ่เหนียวนุ่มและกุ้งเนื้อแน่นผัดกับเครื่องเทศเสิร์ฟพร้อมกับซอสซัลซ่าต้มยำกุ้งสูตรของทางร้านโรยหน้าด้วยหอมเจียว คลุกเคล้าให้เข้ากันจะได้รสชาติเข้มข้นของต้มยำแบบไทย ๆ 

 

เส้นใหญ่อยุธยากุ้งซัลซ่า (130 บาท)

ตบท้ายด้วยเครื่องดื่มแนะนำของทางร้านอย่างบุษบาลาเต้เย็น (75 บาท) เมนูลาเต้เย็นท็อปด้วยวิปครีมและสายไหมอยุธยา 

 

บุษบาลาเต้เย็น (75 บาท)

Busaba Cafe & Meal 
ถนน อู่ทอง
เปิดทุกวัน 10.00 - 21.00 น.
โทร. 081-751-1703
www.facebook.com/BusabaCafeMeal

16

A Lovely Table

 

A Lovely Table

A Lovely Table คาเฟ่ขนมออร์แกนิกสุดน่ารักตกแต่งในสไตล์รัสติกที่แอบผสมผสานความเป็นไทยไว้ราวกับเป็นบ้านหลังน้อยของฝรั่งที่เข้ามาตั้งในอยุธยา ทางร้านนำเสนอเมนูออร์แกนิกโฮมเมดสนุก ๆ ที่จะทำให้ความรักและความสุขเกิดขึ้นบนโต๊ะอาหารของคุณ โดยคุณปูเจ้าของร้านจะเน้นสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ ที่นำมาจับคู่กับไอศกรีมแล้วออกมาเป็นหนึ่งเมนูที่ลงตัวและรสชาติเข้ากัน โดยทางร้านเลือกใช้ไอศกรีมและขนมปังออแกนิกจาก Dairy Home เป็นส่วนประกอบหลัก 

 

A Lovely Table

เมนูแนะนำของทางร้านเมนูแรกได้แก่ ทองมงคล (129 บาท) ยกขนมมงคล 4 ชนิดที่มักใช้ในพิธีการอย่างจ่ามงกุฎมาทานคู่กับไอศกรีมชาโคลของแดรี่โฮมที่ทำจากถ่านชาโคลญี่ปุ่นให้รสชาติเข้มข้นตัดกับความหวานของขนมไทยเข้ากันอย่างลงตัว 

 

ทองมงคล (129 บาท)

และอีกหนึ่งเมนูโปรดของคนไทยอย่าง ข้าวเหนียวมะม่วง (169 บาท) ไอศกรีมข้าวเหนียวมะม่วงเสิร์ฟคู่กับมะม่วงน้ำดอกไม้ 

 

ข้าวเหนียวมะม่วง (169 บาท)

หรือจะลอง โรตีสายไหม (90 บาท) เมนูที่นำนมออร์แกนิกมาทำเป็นไอศกรีมรสสายไหมเสิร์ฟคู่กับสายไหมและโรตีกรอบ ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มน่าสนใจอย่าง มะตูมเจลลี่ลาเต้ (79 บาท) ที่นำน้ำสมุนไพรแบบไทย ๆ มาผสมผสานกาแฟลาเต้ที่คั่วจากเมล็ดไทยส่งตรงจากห้วยฮ้อม ในศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย ห้วยห้อม จังหวัดแม่ฮ่องสอน  

 

โรตีสายไหม (90 บาท)

A Lovely Table
77 หมู่ 3 ถนนชีกุน ตรงข้ามสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย
เปิดทุกวัน (ปิดวันจันทร์) 09.00 - 19.00 น.
โทร. 083-086-3899
www.facebook.com/ALovelyTablecafe/

HOTELS

17

Busaba Ayutthaya

 

Busaba Ayutthaya

หลังจากเหนื่อยกันมาทั้งวันแวะมาพักที่โฮสเทลแบบไทยประยุกต์โดดเด่นด้วยเรือนไทยสีขาวหลังใหญ่อย่าง Busaba Ayutthaya เป็นหนึ่งกิจการในเครือของแบรนด์ Busaba แบรนด์คนไทยที่โดดเด่นในเรื่องการนำสิ่งรอบตัวมาเล่าเรื่องผ่านการดีไซน์ในรูปแบบใหม่ โฮสเทลนี้เองก็เช่นกันที่นำเรือนไทยหลังเก่ามาปรับปรุงใหม่ แต่ยังคงโครงสร้างของเรือนเดิมเอาไว้ปรับปรุงให้กลายเป็นห้องพัก โดยยังคงคอนเซ็ปต์ "การอยู่” แบบวิถีชีวิตคนไทยสมัยก่อนเอาไว้เช่นการปลูกห้องน้ำไว้แยกกับห้องนอน การให้ชานเรือนเป็นที่พบปะสังสรรค์ของทุกคนที่มาเข้าพัก

 

บรรยากาศสวย ๆ ด้วยเรือนไทยสีขาว

ห้องพักของที่นี่มีทั้งแบบ Female Dorm , Mix Dorm , Deluxe และ Family Bunk Room รวมทั้งหมดจำนวน 8 ห้อง อีกทั้งด้านหลังของเรือนยังติดริมคลอง แขกที่เข้าพักสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับกิจกรรมสนุก ๆ ได้อีกด้วยไม่ว่าจะเป็นแพ็กเกจนั่งเรือเที่ยวสัมผัสวิถีชีวิตริมแม่น้ำ หรือบริการปั่นจักรยานชมโบราณสถานในบริเวณใกล้เคียง 

 

บรรยากาศภายในห้องพักของ Busaba Ayutthaya

 

บริเวณ Pavillion ริมนน้ำของ Busaba Ayutthaya

Busaba Ayutthaya
ถนน อู่ทอง
เปิดทุกวัน 07.00 - 22.00 น.
โทร. 061-449-4282
www.facebook.com/busabaayutthaya

18

Silp-pa

 

บรรยากาศใน Lobby

อีกหนึ่งที่พักที่น่าสนใจในจังหวัดอยุธยากับ Silp-pa โฮสเทลในสไตล์ไทย ๆ โดดเด่นด้วยบ้านเรือนไทยทรงสวยสีดำหลังใหญ่ ตกแต่งด้านในสไตล์มินิมอลแบบสมัยใหม่แต่ผสมผสานกับศิลปะและเฟอร์นิเจอร์แบบเก่า โดยทั่วทั้ง Silp-pa จะมีของใช้และอุปกรณ์ต่าง ๆ ของคนสมัยก่อนตกแต่งไว้มากมาย รวมไปถึงจิตรกรรมและปะติมากรรมจากศิลปินมากมายราวกับที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมก็ว่าได้ 

 

Slip-pa Phra Nakhon Si Ayutthaya

สำหรับที่นี่มีห้องหลากหลายแบบทั้ง Triple Room , Superior Room , Standard Room และ Family Room อีกทั้งในชั้นเดียวกันกับล็อบบี้โรงแรมนั้นยังมี Silp-pa Cafe คอยให้บริการอาหารเครื่องดื่มอร่อย ๆ สำหรับลูกค้าที่พักและลูกค้าทั่วไปอีกด้วย 


 

ตกแต่งด้วยรูปภาพจากศิลปินมากมาย

Slip-pa Phra Nakhon Si Ayutthaya
1/18 ถนน โรจนะ
โทร. 086-005-5005
www.facebook.com/Silp-pa-phra-nakorn-si-ayutthaya/