"ท่าพระอาทิตย์" อีกหนึ่งทริปเข้าท่าริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เต็มไปด้วยร้านรวงต่างๆ ที่จะพาเราไปกิน เดิน ชิลล์ เพลิน ทั้งชิมเมนูจากร้านอาหารอร่อย ชมงานศิลปะจากแกลลอรี่คาเฟ่คูล ๆ แวะเข้าไปหามุมสงบที่ร้านหนังสือลึกลับ รวมถึงพักผ่อนหย่อนใจได้ตลอดทั้งวัน ด้วยสเน่ห์ของย่านกรุงเก่า ที่เคยเป็นที่ตั้งของวังหลายแห่งของพระราชโอรสและเจ้านายสมัยรัชกาลที่ 4 ปัจจุบันยังคงมีภาพความเก่าหลงเหลือให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมตึกคลาสสิกแบบดั้งเดิม รวมถึงป้อมพระอาทิตย์หรือที่รู้จักกันดีคือ ป้อมพระสุเมรุ กลายเป็นสัญลักษณ์คุ้นตาของที่นี่ ลองแวะมาและไปดูว่าถนนพระอาทิตย์แห่งนี้จะมีอะไรให้เราค้นหากันบ้าง


 

 

 

3

สวนสันติชัยปราการ

 

บรรยากาศร่มรื่นภายในสวนสันติชัยปราการ ที่มองออกไปเห็นป้อมพระสุเมรุ

 

วิวสะพานพระราม 8 จากwalkway

สวนสาธารณะริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สร้างขึ้นเนื่องในมหามงคลสมัย เฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พื้นที่ครอบคลุมมากว่า 8 ไร่ รวมถึงบริเวณป้อมพระสุเมรุป้อมก่ออิฐถือปืนเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 ซึ่งปัจจุบันได้ทรุดโทรมลงบ้างไปตามกาลเวลา อากาศที่นี่เย็นสบายโดยเฉพาะยามเย็นใกล้พระอาทิตย์ตก เปลี่ยน Walkway ทางเดินริมน้ำเจ้าพระยา ที่มองไปเห็นวิวสะพานพระราม 8 ให้กลายเป็นบรรยากาศโรแมนติก และเต็มไปด้วยบรรดานักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่ ที่เข้ามาใช้เวลาพักผ่อนกันเป็นจำนวนมาก จะสังเกตุเห็นผู้คนเข้ามาทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะปิคนิค เดินเล่น ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ รวมถึงเป็นที่พบปะนัดเจอภายใต้บรรยากาศเก่า ๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา


สวนสันติชัยปราการ
ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม 
เปิดทุกวัน เวลา 05.00 - 21.00 น.


4

Passport Bookshop

 
 

ไม่ไกลจากท่าพระอาทิตย์มากนัก จะพบกับร้านหนังสืออิสระเล็ก ๆ ร้านหนึ่งที่มีจักรยานแม่บ้านทรงคลาสสิกจอดอยู่ พร้อมโปสการ์ดที่เรียงรายรอการจับจองเป็นเจ้าของอยู่ด้านหน้า ร้านหนังสือเดินทางเกิดจากความรักในการอ่านหนังสือของ คุณหนุ่ม อำนาจ รัตนมณี โดยบริเวณชั้นแรกถูกจัดให้เป็นร้านหนังสือ ขนาบสองข้างด้วยหนังสือหายากและน่าสนใจหลายร้อยเล่มที่สลับสับเปลี่ยนกันไป ตรงกลางเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับรองรับลูกค้าให้เข้ามาใช้เวลานั่งอ่านได้อย่างเพลิดเพลินพร้อมสั่งกาแฟมาจิบคลอกันไป นอกจากนี้ร้านหนังสือเดินทางยังมีพื้นที่ชั้นบนไว้สำหรับเช่าจัดกิจกรรม อย่างกิจกรรมเสวนางานเขียนของกลุ่มนักอ่าน และเป็นพื้นที่ในการพูดคุย แลกเปลี่ยนสำหรับคอหนังสือ


Passport Bookshop
523 ถนนพระสุเมรุ แขวงบวรนิเวศ
เปิดทุกวัน (หยุดทุกวันจันทร์) เวลา 10.30 - 19.00 น.
โทร. 0-2629-0694
www.facebook.com/ร้านหนังสือเดินทาง

5

Dialogue Coffee & Gallery

 

 

Dialogue Homemade Pazza (150-240 บาท) และ Cafe latte (75 บาท)

‘Free Space For Slow Life’ คือที่มาของร้าน Dialogue Coffee & Gallery บนถนนย่านพระสุเมรุที่เปลี่ยนบรรยากาศร้านกาแฟให้คนที่เข้ามาใช้พื้นที่สำหรับพูดคุย และทำกิจกรรม แฮงก์เอาท์ร่วมกันกับเพื่อน ภายใต้ตึกสองชั้นบรรยากาศอบอุ่นด้วยการตกแต่งของเฟอร์นิเจอร์ไม้โมเดิร์น ที่เปลี่ยนชั้นบนเป็นแกลลอรี่โชว์งานศิลปินที่สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปเรื่อย ๆ ทางร้านเน้นเสิร์ฟอาหารทานง่าย และเปลี่ยนเป็นบาร์ต้อนรับสำหรับใครที่อยากจิบเบียร์เย็น ๆ ในยามค่ำคืน เมนูที่ทางร้านแนะนำ Dialogue Homemade Pizza (150-240 บาท) แป้งพิซซ่าที่ทำขึ้นสดใหม่ทุกวัน โรยด้วยชีสและเครื่องปรุงที่คัดสรรมาอย่างดี มีให้เลือกสามหน้าทั้ง Spinach, Zucchini & Eggplant และ Ham & Mushroom และเครื่องดื่มอุ่น ๆ อย่าง Cafe latte (75 บาท) รสละมุน หอมกรุ่นให้ได้ลองชิม


Dialogue coffee & Gallery 
533 ถนนพระสุเมรุ แขวงบวรนิเวศ
เปิดทุกวัน (ปิดทุกวันจันทร์) เวลา 11.00 - 22.00 น.
โทร. 084-754-8799
www.facebook.com/Dialogue.bkk/


6

การิมโรตีมะตะบะ

 
 

โรตีมะตะบะเนื้อ ( 39 บาท)

เมื่อย่างเท้าเข้ามายังถนนพระอาทิตย์ พลาดไม่ได้ที่จะต้องแวะมาลิ้มลองสตรีทฟู้ดขึ้นชื่ออย่าง การิมโรตีมะตะบะ ที่เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2486 และยังคงขึ้นชื่อมาจนถึงปัจจุบัน ตัวร้านตั้งอยู่บริเวณตรงข้ามป้อมพระสุเมรุ ลักษณะเป็นคูหาสองชั้น พร้อมโต๊ะนั่งทั้งสองชั้น รวมถึงริเวณหน้าร้านให้ได้ชิมพร้อมชมวิวสถาปัตยกรรมเก่าอย่างป้อมพระสุเมรุ เมนูของร้านเสิร์ฟทั้งโรตีคาว เช่น โรตีมะตะบะเนื้อ (39 บาท) โรตีนุ่มไ้ส้เนื้อแน่น ทานคู่กับอาจาดและแกงเขียวหวานรสชาติเข้ากัน นอกจากนี้ยังมี โรตีหวาน ข้าวหมก และแกงต่าง ๆ ที่ให้รสชาติแบบฉบับต้นตำรับดั้งเดิมจากอินเดียและมาเลเซีย ทำให้แป้งโรตีหนานุ่ม ถูกปากคนไทย 


การิมโรตีมะตะบะ
136 ถนนพระอาทิตย์ บริเวณตรงข้ามป้อมพระสุเมรุ
เปิดทุกวัน (ปิดทุกวันจันทร์) เวลา 09.00 - 22.30 น.
โทร. 02-282-2119 
www.facebook.com/karimrotimataba/

7

Life and Kuisine

 
 

ลาเต้ร้อน (105 บาท) และ BLTA Bacon Lettuce Tomato Avocado (250 บาท)

ร้านเท่ ๆ ย่านพระนคร ที่เต็มไปด้วยคอนเซ็ปต์สุดเท่ เอาใจเหล่า Biker ที่รักการขับมอเตอร์ไซค์สไตล์ Custom ตัวร้านเป็นห้องแถวติดกัน ด้านหน้าประกบด้วยประตูสีฟ้าสดบานเก่า ตัดกับโครงเหล็กสีดำ ตกแต่งสไตล์ Industrial-Loft พร้อมเลือกใช้โทนสีเข้มเท่ ๆ ให้เข้ากับคอนเซ็ปต์กลุ่มคนรักการขับมอเตอร์ไซค์แต่ง ทำให้ตามผนังของร้านจะเต็มไปด้วยอุปกรณ์ที่ใช้ในการขับมอเตอร์ไซค์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เสื้อหนัง  หมวกกันน็อค รวมถึงมอเตอร์ไซต์ Indian Scout รุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่สองที่ตั้งโชว์อยู่หน้าร้าน ในส่วนของอาหารแนะนำ BLTA Bacon Lettuce Tomato Avocado (250 บาท) ที่เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งทอดร้อน ๆ สำหรับเครื่องดื่มมีทั้งซอฟท์ดริงก์ไปจนถึงแอลกอฮอล์ แต่อย่าลืมลองสั่งกาแฟและค็อกเทลดี ๆ มาจิบสักแก้ว อย่าง ลาเต้ร้อน (105 บาท) เสิร์ฟมาในถ้วยทรงสวย หอมกรุ่น รสกลมกล่อมกำลังดี และ New Melon (200 บาท) ค็อกเทลกลิ่นเมลอนสีเขียวฟ้าระดับ Senior ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น


Life and Kuisine 
589 ถนนพระสุเมรุ แขวงวัดบวรนิเวศ
เปิดทุกวัน (ปิดวันจันทร์) วันอังคาร-ศุกร์ เวลา 10.00 - 20.00 น. 
วันเสาร์ เวลา 07.30 - 20.00 น.
วันอาทิตย์ เวลา 07.30 - 18.00 น.
โทร. 092-919-4656
www.facebook.com/lifeandkuisine

8

ราบ

 
 

Fuck My Farm (320 บาท), ลาบเนื้อ (180 บาท) และ น้ำตกแกะ (240 บาท)

ค็อกเทลบาร์เต็มรูปแบบที่เลือกใช้วัตถุดิบไทย ๆ มาเป็นส่วนประกอบ และอาหารเมนูกับแกล้มรสชาติจัดจ้านที่ได้แรงบันดาลใจมาจากร้านลาบ ร้านตกแต่งด้วยการใช้คอนเซ็ปต์จากแคมป์คนงาน เลือกใช้ผนังเป็นสังกะสีและปล่อยเป็นปูนเปลือย โต๊ะไม้ที่เต็มไปด้วยรอยขีดเขียนจากลิควิดเปเปอร์ที่ และแปลกตาด้วยการใช้หนังสือการ์ตูนไทย ๆ หรือที่รู้จักกันดีว่าการ์ตูน 3 บาท จับมาทำเป็นฝ้าเพดาน เมนูของร้านส่วนมากจะเน้นเป็นเมนูสไตล์อีสานรสจัดจ้าน อย่าง ลาบเนื้อ (180 บาท) หรือ น้ำตกแกะ (240 บาท) ที่ใช้เนื้อหัวไหล่แกะมาเป็นวัตถุดิบ ค็อกเทลของที่นี่แปลกตั้งแต่วัตถุดิบไปจนถึงชื่อเมนูเลยทีเดียวอย่าง Fuck My Farm (320 บาท) ค็อกเทลรสหวานอมเปรี้ยว มีเบสเป็นเหล้ารัมไทย ๆ อย่าง ฉลองเบย์


ราบ
49 ถนนพระอาทิตย์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
เปิดทุกวัน (หยุดวันจันทร์) เวลา 17.00 - 00.00 น.
โทร.  081-406-3773
www.facebook.com/ราบ


9

Sheepshank Public House

 
 

Negroni (280 บาท) และ Sizzling Razor Clams with Pancetta and Fennel Butter Sauce (320 บาท)

ร้านอาหารและบาร์ลึกลับที่ซับซ้อนจนไม่อยากเชื่อว่าอยู่ในตรอกเล็ก ๆ ริมท่าเรือพระอาทิตย์ จากอดีตอู่ต่อเรือเก่า เปลี่ยนโฉมเป็นร้านอาหารสุดชิคริมน้ำ ที่ดูเท่มีสไตล์แบบ Industrial Style ด้วยกำแพงอิฐบล็อก ใช้ตะขอต่อเรือมาเกี่ยวกับโคมไฟ พร้อมเปิดเผยโครงเหล็กและแผ่นไม้ให้ดูเข้ากับบรรยากาศโดยรอบ รวมถึงรูปแบบอาหารที่เน้นใช้วัตถุดิบซีฟู้ดมาทำให้เข้ากับทำเล เหมาะสำหรับมาแฮงก์เอาท์ สังสรรค์ หรือพาคนพิเศษมาชิลล์กันที่นี่ สำหรับอาหารที่นี่เป็นสไตล์ New American น่าทานทุกจาน โดยเชฟใช้วัตถุดิบคุณภาพ เรียกน้ำย่อยกันก่อนกับเมนูขายดีอย่าง Oxtail Tortellini with Brown Butter and Walnuts (320 บาท) พาสต้าแผ่นเกี๊ยวห่อเนื้อหางวัวข้างใน รสชาติกลมกล่อม ส่วนเครื่องดื่มที่นี่ก็มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ค็อกเทลคลาสสิกอย่าง Negroni (280 บาท) แก้วเล็กสีแดง แต่รสชาติแรงไม่เบา ไปจนถึง Craft Beer พิเศษคุณภาพดีที่คัดสรรมาให้เลือกชิม


Sheepshank Public House
47 ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม 
เปิดทุกวันเวลา (ปิดทุกวันจันทร์) 18:00 - 00:00 น.
โทร. 0-2629-5165
www.sheepshankpublichouse.com