สำรวจมุมมองคนกาแฟ "ฟาน อัครินทร์" ผู้ขับเคลื่อน BEANS ด้วยหัวใจและประสบการณ์

BKK. ชวนไปพูดคุยกับ ‘คุณฟาน – อัครินทร์ ศิวพรพิทักษ์’ Director of BEANS Coffee Roaster แบรนด์ร้านกาแฟชื่อดังที่ปัจจุบันมองไปมุมไหนก็ต้องเจอ!

ชายหนุ่มที่เริ่มต้นจาก “ความไม่รู้และความบังเอิญ” สู่การค้นพบเส้นทางใหม่ในโลกของกาแฟ จากเด็กที่ไม่เคยดื่มกาแฟ กลายมาเป็นผู้ขับเคลื่อนแบรนด์กาแฟคุณภาพที่เติบโตจากรากฐานของไร่เล็ก ๆ ที่เชียงดาวในชื่อ “Mont Dao” ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว สู่การเติบโตมาสร้างแบรนด์ของตัวเองอย่างแข็งแกร่งในฐานะของ “BEANS Coffee Roaster” ร้านกาแฟที่ตั้งใจให้ทุกคนเข้าถึง “รสชาติของกาแฟที่แท้จริง” เพราะสำหรับคุณฟานแล้ว “กาแฟที่ดี” ไม่ได้จำกัดอยู่ที่รสชาติหรือเทรนด์ แต่คือกาแฟที่ปลอดภัย ถูกต้อง และซื่อสัตย์ต่อทุกกระบวนการ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เบื้องหลังเส้นทางจากศูนย์สู่การสร้างแบรนด์กาแฟที่ครองใจคนดื่มทั่วประเทศจะน่าสนใจแค่ไหน #BEHINDTHETASTE จะพาไปค้นหาความหมายของ “กาแฟที่ไม่มีข้อบกพร่อง” ในแบบของ BEANS Coffee Roaster กัน 


หากคุณเป็นคอกาแฟยุคแรกๆ คงรู้จักกันดีกับ Mont Dao ร้านกาแฟและโรงคั่วในย่านทองหล่อที่ใส่ใจเรื่องกาแฟจากต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ และสำหรับคอกาแฟในยุคปัจจุบันคงรู้จักกันดีกับ BEANS Coffee Roaster ร้านกาแฟคาแแร็กเตอร์สุดเท่ที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างชัดเจนในแบบที่ไม่ว่าไปที่ไหนใคร ๆ ก็จำได้ แต่ใครจะรู้ว่าทั้ง 2 ร้านนี้เรียกว่าเป็นร้านพี่ร้านน้องที่นำทีมโดยคนคนเดียวกันอย่าง คุณฟาน – อัครินทร์ ศิวพรพิทักษ์ นั่นเอง 
ซึ่งวันนี้เราอยู่กันที่ BEANS Coffee Roaster สาขาใหม่บนชั้น 74 King Power Mahanakhon ซึ่งถือว่าเป็นร้านกาแฟที่สูงที่สุดในประเทศไทย ณ เวลานี้เลยทีเดียว แวะมาเยือนสาขาใหม่แต่ไม่ล่าสุดทั้งที BKK. เลยถือโอกาสพาทุกคนไปทำความรู้จักกับคุณฟาน ผู้อยู่เบื้องหลังหนึ่งในร้านกาแฟที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงมากที่สุดร้านหนึ่งของเมืองไทยกัน

เมื่อการจับผลัดจับผลูและความไม่รู้ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางกาแฟที่ไม่ธรรมดา


"จริง ๆ เส้นทางกาแฟทั้งหมดของผม มีจุดเริ่มต้นเริ่มจาก ‘ความไม่รู้’ และ ‘ภาคบังคับ’ ครับ เพราะที่บ้านคุณพ่อชอบทำสวนและพ่อไปซื้อที่ที่อำเภอเชียงดาวจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งที่ตรงนี้สมัยก่อนเคยเป็นไร่ชา เป็นช่วงที่กาแฟเข้ามาใหม่ ๆ ประกอบกับพื้นที่ ความสูง สามารถปลูกได้ ก็เลยลองปลูกมา 3-4 ปีเริ่มเก็บผลผลิตได้ แต่ยังไม่มีใครสานต่อ คุณพ่อเลยบอกให้ฟานซึ่งเป็นลูกชายคนโตมาทำ เลยเป็นความจับผลัดจับผลูที่ต้องมาทำโดยไม่ได้คาดคิด ซึ่งพื้นฐานเรียกว่า ไม่รู้ และเป็นคนที่ไม่กินกาแฟตั้งแต่เด็ก เป็นสายนักกีฬา ถ้าอยากเติมเอเนอจี้ก็เลือกเป็นเครื่องดื่มชูกำลังมากกว่า”

Mont Dao ธุรกิจครอบครัวที่เป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางใหม่ในโลกของกาแฟ


อย่างที่กล่าวไปว่าเส้นทางในวงการกาแฟของคุณฟานเริ่มต้นจาก Mont Dao จากคนที่ไม่ดื่มกาแฟ สู่คนที่ต้องมาบริหารไร่กาแฟ ความท้าทายของงานนี้ คุณฟานเล่าให้ฟังว่า ความท้าทายคือความ ไม่รู้

“ความยากของมันคือเราไม่รู้ว่ากาแฟคืออะไร ทำให้เราต้องศึกษามันเยอะมากกว่าคนอื่น คนอื่นอาจเคยทานกาแฟหรือชอบทานกาแฟอยู่แล้ว จึงเรียกว่าเป็นการต่อยอดจากสิ่งที่ชอบแต่ไม่ได้เริ่มจาก 0 แต่สำหรับผมในตอนนั้นเรียกว่าเริ่มจาก 0 จริง ๆ เพราะไม่รู้อะไรเลย แต่ผมคิดว่าเป็นความยากในความโชคดี หรือจะเป็นความโชคดีในความยากก็ได้ เพราะพอเราไม่รู้มันทำให้เรามีแรงกระตุ้นว่าต้องทำให้เยอะกว่าคนอื่น ทำให้ได้มากกว่าคนอื่น กินมากกว่าคนอื่น เลยเป็นแรงขับเคลื่อนให้ทำเยอะมากๆ สำหรับตอนนี้คงเรียกว่าความโชคดี แต่ ณ ตอนนั้นมันคืออะไรก็ไม่รู้ที่ยากมากๆ สำหรับเรา 


*เพราะพื้นที่ของไร่กาแฟตั้งอยู่บนเชียงดาว ในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งภูเขาหรือที่ราบสูงในภาษาเหนือคือคำว่า ม่อน ซึ่งผ้องเสียงกับว่า Mont ในภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า ภูเขา เช่นกัน ประกอบกับชื่อของอำเภอเชียงดาว เลยรวมกันออกมาเป็น ม่อนดาว หรือ Mont Dao นั่นเอง 

บทเรียนสำคัญจากวันที่เริ่มต้นจาก 0 ใน Mont Dao 
จนถึงวันนี้ที่ทำให้ BEANS Coffee Roaster เติบโต 


“สำหรับผมยังคิดว่าเป็น "ความไม่รู้" มันทำให้เราคิดได้ว่า ถ้าคุณไม่รู้คือคุณต้องทำ ทุกอย่างที่อยากให้สำเร็จก็ต้องลงมือทำ อันนี้คือจุดที่ท้าทายและสั่งสอนเรามากที่สุด มันคือสิ่งที่อ่านหนังสืออย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องทำด้วย มันเหมือนการที่เด็กไม่กินกาแฟคนนึงได้เริ่มชีวิตใหม่ เริ่มการผจญภัยครั้งใหม่ พลิกชีวิตไปเลย แต่ความท้าทายก็คือจะทำยังไงให้ สตาร์ทจาก 0 แต่ผลักตัวเองไปให้ทันคนอื่นได้นั่นเอง”

จาก Mont Dao มาสู่ BEANS Coffee Roaster
อะไรคือความแตกต่างของทั้ง 2 แบรนด์


“ความแตกต่างของ 2 แบรนด์ค่อนข้างเยอะ ด้วยวัยและประสบการณ์ที่โตขึ้น ตอนทำ Mont Dao มันคือ Family Business เราทำเพื่อครอบครัว ความรู้เรื่องกาแฟก็น้อย ความรู้การทำธุรกิจก็ยังน้อย ยังเป็นมือสมัครเล่นทำให้ผมไม่ได้มองจุดที่เป็นธุรกิจมากนัก เรามองอีกมุมนึงที่ไม่ได้คาดหวังเท่าไหร่ ทำเพื่อพัฒนาพื้นที่และธุรกิจของบ้าน ตอนนั้นเรียกว่าข้อดีคือทุกอย่างมัน Pure มาก มองแค่ความตั้งใจแพชชั่นที่อยากให้ทุกอย่างดี ใส่เต็มในทุกอย่าง
แต่สำหรับ BEANS Coffee Roaster คือ Mont Dao หรือเด็กน้อยวันนั้นในเวอร์ชันที่โตแล้ว ผ่านประสบการณ์มามากมายจึงค่อนข้างมีความจริงจังและดุดันกว่า ความละเอียดสูงกว่า มีความต้องการในการทำธุรกิจที่ถูกต้องมากกว่า แต่ยังคงพื้นฐานความจริงใจต่อลูกค้าอยู่เช่นเดิม ซึ่ง BEANS ไม่ใช่คาเฟ่ แต่เราคือ Coffee Shop ที่อยากให้คนมาดื่มด่ำกับกาแฟจริง ๆ”

BEANS ไม่ใช่ร้าน Specialty แต่คือ “ร้านกาแฟ” ที่อยากตอบโจทย์คอกาแฟทุกกลุ่ม


“ทีมเราคุยกันว่าเราไม่อยากใช้คำว่า Specialty มากนัก เพราะมันจะตัดเสน่ห์บางอย่างของกาแฟออกไป พอเราพูดถึง "กาแฟ" มันคือภาพรวมเป็นภาพใหญ่ที่ไม่ใช่แค่ Specialty อย่างเดียว ถามว่า BEANS เป็น Specialty ไหม ก็ใช่ เป็น Mass ไหม ก็ใช่ BEANS ตอบโจทย์ Everyday Coffee มั้ย ก็ใช่ เพราะเราคิด BEANS มาเพื่อให้อยู่ทุก Section ของกาแฟ อยากให้ทุกคนที่ดื่มกาแฟเข้าถึง BEANS ได้

ซึ่งเราตั้ง BEANS ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ทุกคนที่ดื่มกาแฟได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนดื่มกาแฟแบบไหนหรือเพื่ออะไร ก็สามารถรับรู้ถึงความเป็น BEANS ได้มากที่สุด และเรากล้าบอกได้ว่า BEANS อยู่ในทุก Station ของคำว่ากาแฟ คิดถึงกาแฟขอให้คิดถึง BEANS เพราะผมคิดว่ากาแฟของทุกคนมันต่างกัน ราคาเข้าถึงง่าย เราก็มี แต่ถ้าในมุมมองของ BEANS มันคือกาแฟของคนกินกาแฟทุกคนจริง ๆ ไม่ได้เอาราคาหรือเทรนด์มาจำกัดคำว่ากาแฟ แต่เราอยากให้ 'กาแฟ' อยู่เหนือทุกอย่าง นั่นคือที่มาของ BEANS”

สาขาที่ 19 กับร้านกาแฟที่สูงสุดในประเทศไทย


“เพราะความตั้งใจเดิมที่อยากเป็นร้านกาแฟให้คนได้มาดื่มด่ำกับเมล็ดกาแฟที่หลากหลาย จึงตั้งชื่อว่า BEANS ที่แปลว่า เมล็ด ครอบคลุมทุกความหมายที่เกี่ยวกับกาแฟ และทุก Section ที่เราอยากให้เป็น สำหรับสาขา ชั้น 74 King Power Mahanakhon นี้ จริง ๆ เกิดจาก Pain Point อย่างหนึ่งของเหล่าผู้คนในวงการกาแฟ คือการถกเถียงกันเมื่อมีแบรนด์กาแฟจากต่างประเทศเข้ามาในไทย ว่าเราจะตั้งรับยังไงกันดี ผมเลยมีคำถามว่าทำไมเราต้องตั้งรับ ทำไมเราไม่มีแบรนด์กาแฟไทยที่ไปรุกเขาบ้าง ประกอบกับเป็นโอกาสดีที่ทางตึกมหานครได้เลือกเราขึ้นมาร่วมโปรเจ็กต์ทำให้เราพูดได้ว่าสาขานี้เป็น ‘ร้านกาแฟที่สูงที่สุดในประเทศไทย’ ซึ่งโชคดีที่ตั้งอยู่ใน Tourist Sport เปิดโอกาสให้ต่างชาติได้ทดลองดื่มด่ำกับกาแฟไทย โดยฝีมือคนไทย ให้นักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาได้เจอ BEANS และสนุกไปกับการเลือกสรรกาแฟไทยไปกับเรา"

"ซึ่งถ้าคนไม่รู้จัก BEANS มองเข้ามาอาจรู้สึกว่าต้องแพงแน่เลย แต่เราอยากให้ลูกค้ามาทำความรู้จักกับเราก่อน เพราะเรามีกาแฟที่หลากหลายให้เลือก หลากหลายเมล็ดและหลากหลายราคาขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าอยากลองแบบไหน โดย BEANS จะมีซิกเนเจอร์ในทุก ๆ ที่ที่เรียกว่า Location Blends กาแฟเบลนด์พิเศษสำหรับสถานที่ต่าง ๆ ที่ BEANS ไปเยือน 

สำหรับ Location Blends เกิดจากการที่คนในแต่ละพื้นที่มีพฤติกรรมในการดื่มกาแฟไม่เหมือนกัน เราจึงพยายามทำเบลนด์ให้ตอบโจทย์คนในพื้นที่อาทิเช่น Mahanakorn Blends, Paragon Blends หรือ Emsphere Blend ก็ตาม อย่าง Mahanakorn Blend อยู่ใน Tourist Spot มีผู้คนมาจากทั่วโลก ทำอย่างไรให้ถูกปากทุกคน เราจึงคัดสรรเมล็ดที่เป็นตลาดใหญ่ เช่นลาว บราซิล อินโดนีเซีย และเติมความเป็นไทยเข้าไป ดังนั้นจะเป็นรสชาติที่ทุกคนเข้าถึงได้ ดื่มง่าย ในโทนถั่ว ช็อกโกแลต และทุกสาขาจะมีเมล็ดบางตัวที่เหมือนกัน โดยจะมีกาแฟในรหัส S หรือ Specialty Coffee, รหัส C หรือ Commercial และ B จาก House Blend ให้ทุกคนได้เลือกกันตามชอบ” 

เมนูแนะนำที่ไม่ควรพลาด 

"สำหรับสาขานี้ก็ยังคงยกซิกเนเจอร์ของ BEANS มาให้ทุกคนได้ลองอยู่เช่นเคย ไม่ว่าจะเป็นเมนูขายดีอย่าง Coconut Flower Espresso (120 บาท) น้ำช่อดอกมะพร้าวท็อปด้วยเอสเพรสโซ่ช็อต , Be Warm Be Kind (145 บาท) เมนูต้อนรับวันแม่ที่มีส่วนผสมของนมผสมอัญชัน หอมกลิ่นมะลิ ก่อนจะท็อปด้วยช็อตกาแฟ B-1 ที่มีคาแร็กเตอร์ทานง่ายในโทนช็อกโกแลต, นัตตี้แต่ดันขายดีจนได้เป็นเมนูประจำ ส่วนใครชอบทาน Dirty (120 บาท) นมสูตรพิเศษแช่เย็นจัดก่อนจะท็อปเอสเพรสโซช็อตรสเข้มตัดกัน สำหรับใครท่ีเป็นสายสุขภาพห้ามพลาดกับ Clear Matcha (120 บาท) มัทฉะชั้นดีจากญี่ปุ่นให้รสเคลียร์ ๆ ไม่หวาน ปิดท้ายด้วย Hot Latte (120 บาท) ลาเต้ร้อนที่เราเลือกเป็น Mahanakorn Blends ที่มีส่วนผสมของเมล็ดกาแฟแม่จันใต้, ลาว, โคลอมเบียและบราซิล ทานง่ายถูกปากทุกสัญชาติ

ราคาเปลี่ยนไปตามเมล็ดกาแฟที่เลือก เช่น Latte 60 บาท เลือกเมล็ดเป็น Mahanakorn Blends 60 บาท รวมเป็น 120 บาท หรือต้องการเป็น Latte 60 บาท เลือกเมล็ดกาแฟเป็น B-4 50 บาท รวมเป็น 110 บาท

จากต้นน้ำถึงปลายน้ำ อะไรคือกระบวนการที่คุณฟานคิดว่าสำคัญที่สุด


“จริงๆ ทุกขั้นตอนเรียกว่าสำคัญทั้งหมด ตั้งแต่การเลือกสายพันธุ์ที่จะปลูก การปลูก การแปรรูปที่ถูกต้อง การคั่ว การชงของบาริสต้า แต่ถ้าถามว่าอะไรคือที่สุดผมมองว่าสายพันธุ์กาแฟและวิธีการปลูก เพราะมันคือรากฐานของกาแฟ ถ้า Raw Material มาดีคนคั่วง่ายขึ้น หน้าร้านทำกาแฟได้ดีขึ้น เสิร์ฟถึงมือลูกค้าได้เป็นแก้วที่ดีขึ้น”

ประสบการณ์การทำกาแฟมาเกือบ 20 ปีโมเมนต์ไหนที่รู้สึกว่าเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ยังอยู่กับกาแฟ


“แน่นอนว่า 20 ปีที่ผ่านมามันมีหลายช่วงที่รู้สึกว่าเราพอไหม หรือจะไปต่อดี ฟานว่าทุกครั้งที่ได้คุยกับคนกินกาแฟ คุยกับลูกค้า ทำให้เรารู้สึกว่าเรายังเป็นคนสำคัญที่อยู่กับเขา เป็นแรงขับเคลื่อนให้เขาได้ดื่มกาแฟที่ดีและถูกต้องเลยรู้สึกว่าควรไปต่อเพราะอยากให้ลูกค้าได้ดื่มกาแฟที่ดีและถูกต้อง เราไม่เคยพูดว่าทำกาแฟดีที่สุดแต่เราพยายามทำกาแฟที่ถูกต้องให้ทุกคนได้ดื่ม”

ก้าวต่อไปของ BEANS และโปรเจ็กต์ในอนาคต

“สาขาตึกมหานครนี้อาจจะขึ้นมายากนิดนึงแต่เชื่อว่าขึ้นมาแล้วคุ้มทั้งวิวที่สูงที่สุดแล้วในประเทศไทย และก็เป็นโอกาสที่คงมีไม่กี่ครั้งในการจิบกาแฟแก้วโปรดแล้วดื่มด่ำกับวิวกลางกรุงเทพฯ ได้แบบ 360 องศา ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี และสำหรับ BEANS เพิ่งเปิดสาขาที่ 20 ที่ ICON SIAM ก็ขอฝากสาขาใหม่ล่าสุดและสาขาอื่น ๆ ในอนาคตทั้งปีนี้และแพลนปีหน้าไว้ด้วยนะครับ คิดว่าเราจะโตขึ้นไปอย่างแข็งแรง 
และอยากเป็นแบรนด์ที่พรีเซนต์กาแฟไทยที่ทำให้ต่างชาติรู้ว่ากาแฟไทยก็ไม่แพ้ใครในโลก หวังและคาดว่าจะได้พา BEANS ไปต่างประเทศในอนาคตอันใกล้อย่างมั่นคง”

ปัจจุบันคนรุ่นใหม่สนใจการเปิดร้านกาแฟกันเยอะมาก ในฐานะรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จ คุณฟานมีอะไรอยากแนะนำผู้ประกอบการหน้าใหม่ไหม

“จริงๆ จะพูดว่าประสบความสำเร็จเราก็ผ่านอะไรมาเยอะมาก ๆ ฟานว่าทุกธุรกิจมีรากของมันและธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเขาผ่านอะไรมาเยอะ ทั้งความล้มเหลวหรือการเรียนรู้มาเยอะ ไม่ได้จะขู่ว่าทุกการทำธุรกิจต้องล้มเหลวมาก่อนนะ แต่อยากบอกว่า อยากทำร้านกาแฟสิ่งที่ต้องคิดก่อนเลยคือ คุณทำกาแฟเพราะอะไร ผมเชื่อว่าคนทำกาแฟมีหลายเหตุผล ชอบบ้าง แพชชั่นบ้าง อยากทำธุรกิจบ้าง 


ฟานตอบไม่ได้โดยทางปฎิบัติว่าคุณควรเริ่มจากอะไร เพราะคลื่นลูกใหม่แรงกว่าคลื่นลูกเก่าเสมอ ต้องยอมรับว่าเด็กรุ่นใหม่เก่งกว่าฟาน ฟานว่าคนรุ่นฟานเหมือนคลื่นลูกเก่าในทะเลลึกที่ไม่สูงมาก แต่มีความนิ่ง ในความนิ่งมีความแข็งแกร่ง ส่วนคลื่นลูกใหม่เหมือนคลื่นที่ซัดเข้าฝั่งที่แรงแต่ดี แต่สุดท้ายแล้วคุณต้องรู้ก่อนว่าคุณทำไปเพื่ออะไร ตอบโจทย์ชีวิตคุณยังไง ทุกคนอยากทำธุรกิจแต่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานที่มั่นคง จะบอกว่าอย่ากลัวท่ีจะล้มแล้วไม่ใช่ ถ้าล้มแล้วลุกได้มันก็ทำให้คุณรู้ว่าความเจ็บเป็นยังไงและต้องระวังตัวเองยังไง 


ผมอาจจะแนะนำได้ไม่ดีพอ เพราะตัวผมก็เคยเจ็บมาก่อน ถ้าให้แนะนำก็ต้องสู้กันต่อไป ล้มก็ต้องลุก ฝันก็ต้องตื่นขึ้นมาทำ มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเคยสอนผมว่าถ้าอยากมีความฝันก็ต้องตื่นมาทำ ตื่นมาสู้กับมัน สิ่งนี้คือสิ่งที่ผมสามารถส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ที่มีฝันได้ ฝันอย่างเดียวไม่พอต้องลงมือทำ เมื่อลงมือทำแล้วก็ต้องพร้อมที่จะเจ็บ มันคือเรื่องปกติเหมือนการขี่จักรยานที่ใคร ๆ ก็ต้องเคยล้มมาก่อน อย่ากลัวที่จะล้ม แต่ล้มให้มีชั้นเชิง”

WORKSHOP CREAT YOUR OWN COFFEE

ด้วยเสน่ห์ของ BEANS ท่ีมีเมล็ดให้เลือกหลากหลาย ทางร้านยังมีกิจกรรมเวิร์กช็อปสนุก ๆ กับ Session "Create Your Own Blend" ที่จะพาคุณไปดื่มด่ำกับศาสตร์แห่งกาแฟ พร้อมปลุกความเป็นบาริสต้าในตัวคุณให้ได้เลือกเบลนด์รสชาติของตัวเองในสไตล์ที่ชอบ พร้อมครีเอตฉลากในแบบของคุณเองได้อีกด้วย สำหรับกิจกรรมนี้สามารถสอบถามกับช่องทางของร้านได้โดยตรงเลย 

สามารถติดตามรายละเอียดสาขาและกิจกรรมต่าง ๆ ของ BEANS Coffee Roaster ได้ทาง
www.facebook.com/beansroastersbkk และ www.instagram.com/beans.bkk