เบื้องหลังความโฮมเมดและไวบ์สุดโฮมมี่ของ 'Home Work' ร้านอาหารที่ครีเอตความอร่อย เพื่อมอบความสุขให้กับผู้มาเยือน

Published on February 25, 2025

ชวนสัมผัสความอร่อยแบบโฮมเมดและบรรยากาศแสนอบอุ่นของร้านอาหาร-คาเฟ่สีขาวใจกลางซอยสวัสดีที่เสิร์ฟให้บริการมานานกว่า 30 ปี ก่อนจะรีโนเวทปรับโฉมใหม่ พร้อมกับครีเอตเมนูหลากหลายให้ได้เลือกลิ้มลองอย่างครบครัน


หากใครที่เคยผ่านไปในซอยสวัสดี (หรือซอยสุขุมวิท 31) บ่อย ๆ อาจสังเกตได้ว่ามีหนึ่งร้านสีขาวสะดุดตรงซอยหัวมุมถนนที่ชื่อว่า ‘Home Work’ ร้านอาหารและคาเฟ่เบเกอรีโฮมเมด ไวบ์โฮมมี่ ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีเคยเป็นร้านเฟอร์นิเจอร์ยุคบุกเบิกสมัยรุ่นคุณแม่ของ ‘คุณพาย-สรัตตา สุทธิธน’ ทายาทรุ่นที่สอง ผู้เป็นเจ้าของร้านอาหารแห่งนี้ ก่อนที่เธอจะเลือกสานต่อกิจการของครอบครัวด้วยการรีโนเวทร้านใหม่ แล้วปรับพื้นที่ชั้นล่างให้กลายมาเป็นร้านอาหารและคาเฟ่เบเกอรีโฮมเมดอย่างเต็มรูปแบบจนถึงปัจจุบัน พรีเซนต์ความอร่อยในแบบดั้งเดิมผสมผสานเข้ากับรูปแบบที่ทันสมัยและมีความหลากหลายมากขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์หลักคือ ‘การทำอาหารโฮมเมดท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นเหมือนบ้าน’ เพื่อทำให้ที่นี่เป็นร้านอาหารสำหรับครอบครัว กลุ่มเพื่อนคนสนิทที่คุณสามารถแวะมาแฮงเอาต์กันได้ทั้งวัน


หลากหลายเรื่องราวเบื้องหลังความโฮมเมดและความโฮมมี่ผ่านการครีเอตความอร่อยฉบับ Home Work 

จะพิถีพิถัน อบอวลไปด้วยความโคซี่ที่ถูกจริตคนชอบร้านอาหารฟีลนี้มากน้อยแค่ไหน ลองไปติดตามจาก

บทสัมภาษณ์ #BehindTheTaste ในครั้งนี้กัน !

 

ยินดีต้อนรับสู่ร้าน Home Work

จากร้านเฟอร์นิเจอร์ยุคบุกเบิกสู่ร้านอาหาร-คาเฟ่สุดโฮมมี่


จากร้านเฟอร์นิเจอร์ที่ตั้งอยู่ตรงหัวมุมถนนในซอยสุขุมวิท 31 มานานกว่า 30 ปี สู่ร้านอาหาร-คาเฟ่ที่ต่อยอดความสำเร็จจากรุ่นแม่ยังรุ่นลูก โดยมีจุดเริ่มต้นจากการเปิดให้บริการร้านเบเกอรีโฮมเมดของคุณแม่ ‘คุณพาย’ 

(เจ้าของร้าน Home Work และ Art Director ฟรีแลนซ์ ซึ่งปัจจุบันเธอมีออฟฟิศส่วนตัวอยู่ชั้นบนของร้าน) 

บริเวณชั้น 2 เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาเดินชมและเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ จนกระแสตอบรับค่อนข้างดี จึงเริ่มมีการขยับขยายมาเปิดเป็นร้านอาหาร-คาเฟ่ บริเวณชั้นล่างอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้การดูแลของคุณพาย ซึ่งเธอเติบโตมาร้านนี้ และคิดเสมอว่าวันหนึ่งจะกลับมาดูแลร้านอาหารของครอบครัว หลังผ่านพ้นช่วงสถานการณ์โควิด ทางร้านก็ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงานดีไซน์ร้านใหม่เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ที่แบรนด์ Home Work เดิมคัดสรร ไปจนถึงสูตรอาหาร สูตรเบเกอรีที่ยังคงความเป็นโฮมเมดของเมนูคลาสสิกประจำร้าน

เอาไว้ บวกกับเมนูใหม่ ๆ ที่ทำให้ภาพจำใหม่ของที่นี่ กลายเป็นร้านอาหารสำหรับครอบครัว กลุ่มเพื่อนคนสนิท

ที่คุณสามารถแวะมาเอ็นจอยความอร่อยกันได้ทั้งวัน


“ร้านเราเปิดให้บริการมาประมาณ 30 กว่าปีแล้วค่ะ เพราะว่าเริ่มแรกคุณแม่เคยทำเป็นร้านเฟอร์นิเจอร์มาก่อน

พื้นที่ด้านบนใช้เป็นที่ผลิตเฟอร์นิเจอร์ ปลอกหมอน ของตกแต่งบ้าน ซึ่งยุคสมัยก่อนยังไม่มีแบรนด์เฟอร์นิเจอร์นำเข้ามากนัก ร้านเราเลยเป็นร้านเฟอร์นิเจอร์ที่ค่อนข้างแตกต่าง ซึ่งก็มีลูกค้าเข้ามาดูสินค้าที่โชว์รูมค่อนข้างเยอะ ทีนี้เหมือนคุณแม่ก็อยากเปิดคาเฟ่เล็ก ๆ ด้านบน เพื่อให้คนมาดูเฟอร์นิเจอร์ที่โชว์รูมได้ดื่มกาแฟ กินขนมได้ด้วย 

ไป ๆ มา ๆ คนเข้ามาทานอาหารกันเยอะขึ้น เลยกลายเป็นว่าเราอยากทำร้านอาหารแบบเต็มรูปแบบเลย 

ตอนทำร้านก็เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มาจากร้านเฟอร์นิเจอร์ของเราเอง สมัยนั้นคนส่วนใหญ่ก็จะตื่นเต้นกับร้านของเรา เพราะมีอาหารให้เลือกทานหลากหลายแบบ ค่อนข้าง International มีทั้งพาสต้าและเมนูข้าวหน้าต่าง ๆ”

 

บรรยากาศอบอุ่นสบาย ๆ ภายในร้าน

“จริง แล้วสูตรขนมเบเกอรี เมนูอาหารต่าง เริ่มมาจากสิ่งที่คุณแม่ชอบทาน เวลาที่เราไปเที่ยวแล้วเจอเมนูที่ชอบก็อยากเอามาลองทำเป็นสไตล์ของตัวเอง อย่างพวกพาย พวกเค้ก ขนมปังค่ะ แล้วค่อย พัฒนาสูตรกันเอง

มาเรื่อย ๆ”

 

สารพัดเมนูเบเกอรีโฮมเมดน่าลอง

รีโนเวทร้านใหม่ เพื่อสร้างเอกลักษณ์ 

‘ความอร่อยสไตล์โฮมเมดและไวบ์โฮมมี่’

ในแบบ Home Work


“ร้าน Home Work เปลี่ยนไปหลายคอนเซ็ปต์มาก ตั้งแต่ตอนที่พายเด็ก ๆ ก็มีการรีโนเวทบรรยากาศร้าน รีโนเวทเมนูใหม่บ้าง ซึ่งพอผ่านพ้นช่วงโควิดมา เรารู้สึกว่าร้านค่อนข้างเงียบเหงา ไม่มีอะไรใหม่ จริง ๆ มีคนมาขอเช่า

เยอะมาก แต่เราก็รู้สึกว่าถ้าวันนึงเราขับรถผ่านแล้วร้านเรากลายเป็นร้านที่ให้คนอื่นเช่า แทนที่เราจะทำเอง 

คงไม่ค่อยแฮปปี้ เลยเป็นจุดเปลี่ยนให้เราอยากกลับมารีโนเวทร้านอีกสักครั้ง ปรับเปลี่ยนรูปแบบเมนูทุกอย่าง 

ให้มีความเป็น Bruch ready to eat all day มากขึ้น ให้ลูกค้ารุ่นใหม่ได้เข้าถึง Homemade Bakery ของร้านเรา เพราะส่วนตัวพายเองเป็นคนชอบเรื่องอาหาร ชอบเบเกอรีอยู่แล้ว ตอนเรียนอยู่ที่อังกฤษก็ชอบแวะคาเฟ่เล็ก หรือแวะไปดูร้านต่าง ที่มีฟีลโฮมมี่อะไรแบบนี้ ก็เลยรู้สึกว่าอยากกลับมาทำร้านในแบบที่เป็นของเราเองค่ะ"

 

ไม่ว่าจะเลือกนั่งมุมไหน ก็ชิลเอาต์กันแบบสบาย ๆ ได้มู้ดอบอุ่นท่ามกลางแสงธรรมชาติสวย ๆ

ครีเอตความอร่อยจากสิ่งที่มี 

ก่อนต่อยอดสิ่งใหม่ให้เกิดความแตกต่าง


ย้อนไปเมื่อปี 2534 Home Work Cafe ได้เปิดให้บริการเป็นครั้งแรกในฐานะร้านอาหารและร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ในซอยสุขุมวิท 31 ก่อนจะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง พร้อมขยับขยายสาขาไปเปิดให้บริการในศูนย์การค้า The Emporium ในปี 2540 และศูนย์การค้า Siam Discovery ในปี 2541 ภายใต้คอนเซ็ปต์หลักคือ ‘การทำอาหารโฮมเมดท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นเหมือนบ้าน’


ภายหลังจากที่คุณพายได้มีโอกาสเดินทางไปเปิดประสบการณ์ด้านการทำอาหารที่ต่างประเทศเพิ่มเติม ทั้งยังได้ทำความรู้จักกับอาหารโฮมเมดหลากหลายแบบมากขึ้น ที่ Home Work ก็พร้อมเสิร์ฟความอร่อยแบบ Full Service เพราะที่นี่มีหลากหลายเมนูอิ่มท้องให้ได้เลือกสั่งมาทานอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็นเมนูอาหารเช้า เมนูจานหลัก เมนูข้าว พาสต้า เมนูขนมปัง-เบเกอรี เมนูพาย เมนูซุป เมนูสลัด ที่ส่วนใหญ่แล้วทางร้านจะลงมือทำเอง เป็นสูตรโฮมเมด

ทุกอย่าง ให้ความรู้สึกเหมือนได้ทานข้าวบ้านที่ทั้งสะอาดปลอดภัย ได้รสชาติดีมีคุณภาพ

 

มุมเคาน์เตอร์บาร์ที่มีเบเกอรีโฮมเมดหลากหลายแบบให้เลือกสรร

“การครีเอตเมนูเราจะเริ่มจากสิ่งที่เรามี สิ่งที่เราทำได้ดีก่อน เช่น Homemade Pie เมื่อก่อนไส้พายของเราก็จะ

ไม่ได้มีเยอะมาก มีแค่พายไก่ พายเนื้อ พายผักโขม ซึ่งค่อนข้างเบสิกอยู่แล้ว แต่ตอนนี้พายรู้สึกว่าควรจะมีไส้เพิ่ม เพื่อให้ลูกค้าได้เลือก เราก็คิดต่อว่าอะไรที่คนค่อนข้างอินหรือฮิตช่วงเวลานั้น อย่างนูเทลล่า-กล้วยหอม 

ซึ่งคนก็ทานตลอด ถ้าเอามาทำเป็นใส่เป็นไส้พายก็น่าจะอร่อยดี มีความเหมือนโรตีเข้ามาผสมอยู่ด้วย ดูน่าสนใจ 

น่าลองเอามาทำเป็นไส้พายดูบ้าง ซึ่งคนที่ทานก็ชอบ แต่ความต่างของร้านเราคือ ส่วนผสมจะไม่มีความซับซ้อน 

ส่วนใหญ่จะเป็นอะไรที่คนรู้จักกันอยู่แล้ว หรือว่าเป็นแนว Comfort Food ทานง่าย เข้าถึงง่าย นอกจากนี้ยังสามารถ Customize ได้ D.I.Y. ข้อความบนหน้าพายได้ด้วย เหมาะสั่งเป็นของขวัญในเทศกาลต่าง ก็รู้สึกแฮปปี้

ที่เหมือนแต่ก่อนคนก็จะชอบสั่งเค้กกัน แต่ตอนนี้คนหันมาสั่งพายไปแฮปปี้เบิร์ธเดย์กันเยอะ เป็นไอเดียใหม่  

ที่ยังไม่ค่อยมีใครทำค่ะ”

 

Homemade Pie หลายขนาดที่สามารถ สามารถ Customize ข้อความบนหน้าพายได้ตามต้องการ เหมาะสั่งเป็นของขวัญสุดพิเศษเพื่อคนที่เรารัก

Home Work เวอร์ชัน 2025


ภายหลังจากที่รีโนเวทร้านมาร่วมสี่ปี Home Work ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าในการเสิร์ฟความอร่อยสไตล์โฮมเมด

เสมอมา พร้อมต่อยอดไปในหลายรูปแบบ ทั้งการให้บริการหน้าร้าน เดลิเวอรี และการจัดแคมเปญ 

Special Collaboration ร่วมกับแบรนด์อื่น ๆ หรือศิลปินที่น่าสนใจ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่ม 

รวมถึงเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกับ Home Work มากขึ้นด้วย


“ร้าน Home Work ของเราจะแบ่งการให้บริการเป็น 2 Section หลักค่ะ ถ้า Section หน้าร้านจะเป็น

คาเฟ่-ร้านอาหาร ที่อยากประชาสัมพันธ์มาก ว่าเราเป็นร้านอาหาร คือตอนที่เริ่มเปิดร้านรีโนเวทใหม่ ๆ 

คนส่วนใหญ่จะไม่ได้เข้ามาเพื่อทานอาหาร แต่จะเข้ามาดื่มกาแฟ ทำงาน ทานเค้ก อะไรทำนองนี้ ซึ่งจริง ๆ แล้ว

เรามีเมนูอาหารเยอะมาก ทั้งอาหารที่ค่อนข้างหนักหน่อยอย่างสเต๊กอกไก่ ไปจนถึงพาสต้า 

เมนูข้าวต่าง เราพร้อมเสิร์ฟหมดเลย”

 

หลากหลายมุมนั่งแฮงเอาต์ภายในร้าน

“หลังจากนั้นพายก็เริ่มสื่อสารให้คนเข้าใจมากขึ้นว่าเราเป็นร้านอาหารนะ มานั่งทานอาหารได้ ไม่ว่าจะครอบครัวหรือแก๊งเพื่อนก็มานั่งทานกันได้ ซึ่งสิ่งนี้แหละเป็น message ที่อยากจะบอกลูกค้า เพราะบางคนเขาไม่รู้จริง ว่าเราเป็นร้านอาหาร ซึ่งหลายคนที่มีโอกาสได้เข้ามาชิมก็ต่างมีเมนูโปรดในใจ เลยรู้สึกว่าร้านเราก็ทำอาหารออกมาได้ดีไม่แพ้ใคร และอยากสื่อสารออกไปในทิศทางนั้นค่ะ”

 

มุมไฮไลต์ภายในร้านที่ตกแต่งด้วยชั้นวางเซรามิกดีไซน์สวย

“ส่วนอีก Section นึง ที่เรามีให้บริการและค่อนข้างผลักดันให้เกิดขึ้นคือเดลิเวอรี’ ซึ่งพาร์ทของเดลิเวอรีในที่นี้คือการสั่งเบเกอรีโฮมเมดของเราในรูปแบบของขวัญ เป็นลักษณะของการที่ลูกค้าทักไลน์มา สั่งเค้ก สั่งทาร์ต 

หรือสั่งพายแบบ Customize เพราะเมนูเราเยอะมาก ถ้าลองเข้าไปดูบนเว็บไซต์ก็จะเห็นเลยว่า

มีให้เลือกสั่งเยอะมากจริง ๆ”


“เมนูบางอย่างของที่ร้านจะมีการ Develop มาจากลูกค้าค่ะ เช่น มีลูกค้าถามเข้ามาว่า ไม่มีเมนูนั้นหรอ ไม่มีอันนี้หรอ ซึ่งเรามองว่าถ้าคนเริ่มถามมาเยอะ แสดงว่ามันน่าจะเป็นอะไรที่คนอยากได้หรือเป็นอะไรที่คนต้องการ 

อย่างตอนแรกพายโฮมเมดร้านเรามีแค่ไซส์กลางกับไซส์เล็ก หลัง ๆ มาลูกค้าอยากให้มีข้อความบนหน้าพาย

ยาวกว่านี้ เราก็เลยทำพายไซส์ XL ให้ลูกค้าสั่งเพิ่มเติม เพื่อที่เขาจะได้เลือกไปแฮปปี้เบิร์ธเดย์ แบ่งทานกับเพื่อนได้หลาย คน ให้ดูมีความเป็นของขวัญมากขึ้น ตอบรับกับช่วงเทศกาลพิเศษมากขึ้นค่ะ”

 

'สโคน' อบสดใหม่ หนึ่งในเบเกอรีโฮมเมดที่ทางร้านพร้อมเสิร์ฟความอร่อย

“อีกอย่างนึงที่เราทำมากขึ้นในปี 2024 เรื่อยมาจนถึงปี 2025 คือพาร์ท Collaboration ที่พายเริ่มรู้สึกว่าเราสนุกกับการทำโปรเจ็กต์คอลแลปมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นศิลปินหรือร้านขนมแบรนด์อื่น ที่คุยกันแล้วรู้สึกว่าเข้ากันได้ดี 

มีแนวคิดไปในทิศทางเดียวกัน อย่างเมื่อปีที่แล้ว (2024) เรามีทำโปรเจ็กต์กับร้าน CHEESE N’WINE 

เป็นการคอลแลป Pie & Wine แบบเป็นเซ็ต ทำเป็นกล่องพายแล้วก็มีไวน์ขวดนึง คนก็เข้าใจง่าย จะสั่งไปกินด้วยกันหรือว่าสั่งไปเป็นของขวัญก็ได้ทั้งนั้น หรืออย่างโปรเจ็กต์ล่าสุดที่เราทำร่วมกับศิลปินนักวาดภาพประกอบ 

Sundae Kids ฟีดแบ็กก็ค่อนข้างดี ลูกค้าก็ชอบ รวมถึงแฟนคลับของ Sundae Kids เอง ก็อยากซัพพอร์ท 

อยากซื้อเก็บไว้เหมือนกัน พายรู้สึกว่าการทำ Collaboration มันทำให้เราเปิดมุมมองใหม่ได้อีกมุมหนึ่ง ทั้งสำหรับลูกค้าที่ยังไม่รู้จักเรา ไม่รู้ว่าเราทำอะไรได้บ้าง เราเริ่มมีการทำคอลแลปกับคนนั้นคนนี้ 

ทำให้เราได้เปิดกลุ่มลูกค้าใหม่ ได้เห็นมุมมองจากคนที่เขามองเราด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นตัวศิลปิน ซึ่งเรากับศิลปิน 

ก็จะคุยกันก่อนว่าอยากทำอะไร รู้สึกยังไง มีไอเดียอะไรบ้าง เป็นโปรเจ็กต์พิเศษที่สนุก ให้ลูกค้าได้รู้สึกว่า

มันมีความแตกต่าง”

 

ตัวอย่างโปรเจ็กต์ Collaboration ของทางร้าน

ร้าน Home Work ที่หนึ่งในใจของคนรัก Comfort Food 


มาถึงตรงนี้หลายคนอาจเกิดคำถามว่าอะไรกันนะที่ทำให้ร้าน Home Work ยังคงยึดมั่นในความเป็นร้านอาหารสไตล์โฮมเมดที่ครองใจคนรักอาหารแนว Comfort Food มายาวนานกว่า 30 ปี และดำเนินต่อไปในทางนี้

ด้วยแนวความเชื่อที่ว่าการเสิร์ฟความอร่อยและมอบความรู้สึกที่เหมือน ‘บ้าน’ ให้กับลูกค้าที่มาเยือน ย่อมทำให้เขาเกิดความสบายใจ พร้อมเลือกที่จะกลับมาใช้บริการอีกครั้ง


“Core หลักของเราคือความโฮมเมด เป็นความ Cozy ที่ให้ความรู้สึก
เหมือนได้มากินข้าวที่บ้าน"

 

'คุณพาย-สรัตตา สุทธิธน' เจ้าของร้าน Home Work กับโมเมนต์ความสุขเล็ก ๆ ของเธอจากการได้เสิร์ฟความอร่อยให้ลูกค้าในทุก ๆ วัน

"ซึ่งการมานั่งกินข้าวที่นี่ค่อนข้างเป็นสไตล์ Comfort Food เช่น เมนูที่เราชอบกินตั้งแต่เด็กอย่างซุปมักกะโรนี 

ที่เราลองเอากลับมาทำ แล้วก็ได้รับฟีดแบ็กที่ดี รู้สึกว่าถึงจะเป็นเมนูทานง่าย เป็นอะไรที่เบสิกมาก แต่บางครั้ง

เราไม่ได้อยากจะทำกินเองที่บ้านคนเดียว เราอยากแชร์ อยากให้ทุกคนได้ลองมานั่งกินที่ร้าน เพราะในยุคสมัยนี้

ไม่ค่อยเสิร์ฟกันแล้ว และร้านอาหารในยุคก่อน ตั้งแต่สมัยเราเด็ก ๆ ก็น่าจะเลือนหายไปแล้ว เลยอยากนำเมนู

ที่ Comfort จริง ๆ มาเสิร์ฟที่ร้าน เวลาทานจะได้ความรู้สึกเหมือนย้อนวัย ชวนนึกถึงความสุขเล็ก ๆ ในวัยเด็กค่ะ Core ภาพรวมของร้านเราเลยเป็นความเป็นโฮมเมด ความ Cozy ความรู้สึกที่เหมือนบ้าน กับทั้งเมนูอาหารและบรรยากาศร้านที่เราตั้งใจมอบให้ค่ะ”

 

หลากหลาย Homemade Product ของทางร้าน

“อีก Core Value หนึ่งของเรา คือการรับฟังลูกค้าค่อนข้างมาก อย่างการทำ Personalization สำรวจความต้องการของลูกค้าจริง ๆ อย่างการทำเมนูพายแบบ Customize ชื่อได้ ใส่ข้อความบนพายได้ ซึ่งเราค่อนข้างเปิดกว้าง

ให้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ พายคิดว่าพอเราเป็นธุรกิจครอบครัว หรือไม่มีอะไรที่ต้องตามระบบระเบียบมากนัก เลยทำให้มีความยืดหยุ่น พอเรารู้ว่าลูกค้าต้องการแบบไหน ได้รับฟังความเห็น 

ความต้องการจากลูกค้า ก็จะทำให้เรามี Option ให้กับลูกค้ามากขึ้น ตอบโจทย์ลูกค้าได้ตรงจุด”



‘ความโฮมเมด’ และ ‘Vibe โฮมมี่’ 

ตัวตนของ Home Work ที่ให้ความสำคัญ


“ด้วยความที่ครอบครัวเราค่อนข้างชอบอะไรสไตล์นี้ ตามหาร้านอาหารที่โลคอลหรือเป็นแบบ Family Made 

ชอบอะไรที่มีความเป็น Family Recipe สิ่ง ๆ นี้เลยน่าจะสะท้อนตัวตนที่เป็นเรา ทำให้เราอยากทำร้านออกมา

ในสไตล์นี้ อยากให้ลูกค้าได้กินข้าวกับครอบครัว ซึมซับความรู้สึกที่อบอุ่นจากการได้ทานอาหารที่นี่”

 

เพิ่มสีสันและความโมเดิร์นให้กับบรรยากาศภายในร้านด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสีส้มอิฐ

“จริง คีย์เวิร์ดคำว่าโฮมเมดหรือว่าโคซี่อะไรแบบนี้ พายก็ไม่ได้รู้สึกนะว่าคนเขาจะเอาไปพูดต่อเยอะขนาดนี้ เช่น ลูกค้าแท็กรูปมาในแคปชั่นว่าคาเฟ่สไตล์โฮมมี่ โคซี่มาก เลย’ ทั้ง ที่เราก็ไม่รู้ว่าเขาไปเห็นคำนี้มาจากไหน หรือมันเป็นสิ่งที่เขารู้สึกเอง ซึ่งมันก็เป็นอะไรที่น่าสนใจดีที่เลือกใช้คำพวกนี้ เราไม่ได้ย้ำอะไรมากใน Message 

ที่ส่งออกไปขนาดนั้น แต่กลายเป็นว่าลูกค้าพิมพ์เองหรือว่าสัมผัสได้เอง ถึงร้านที่เป็นโฮมเมดจะมีอยู่เยอะเหมือนกัน แต่ของเราเป็นอีกสไตล์นึงที่ลูกค้าสัมผัสเองได้จากการที่มาร้าน เวลามีคนที่รู้จักกันมาเจอที่ร้านโดยบังเอิญ 

ส่วนใหญ่ก็จะบอกว่า ‘ร้านโคซี่มากเลย’ นั่นแหละเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าเราทำบางอย่างถูกแล้ว มาถูกทางแล้ว”



สารพัดเมนูโฮมเมดแนะนำน่าลอง


อย่างที่ทราบกันดีว่าทางร้านโดดเด่นในเรื่องเมนูเบเกอรีโฮมเมด (จะเห็นได้จากภายในร้านมีบาร์ขนาดใหญ่

ที่เรียงรายด้วยเบเกอรีและพายโฮมเมดที่หลากหลายน่าลิ้มลอง) ด้วยการนำสูตรดั้งเดิมของคุณแม่คุณพาย

มารังสรรค์เป็นเมนูต่าง ๆ โดยเฉพาะเมนูพายไม่ว่าจะเป็นพายไส้สตูว์เนื้อ พายผักโขม พายไก่ครีมเห็ด เรื่อยไปจนถึงเมนูโฮมเมดสไตล์เวสเทิร์นแนว Comfort Food ที่เข้าถึงง่าย ส่วนซิกเนเจอร์เมนูไหนที่เมื่อมาเยือนร้าน

ต้องห้ามพลาดสั่งมาชิมบ้างนั้น ครั้งนี้คุณพายจะอัพเดท Recommend Menu ให้ได้ตามมาพิสูจน์ความอร่อยกัน


“Recipe ของเรามีเยอะมาก ซึ่งล่าสุดนำมามิกซ์ใหม่ให้น่าสนใจแล้วก็ครอบคลุม เข้ากับบรรยากาศร้านมากขึ้น 

เลยเลือกทำเป็น Comfort Rice Bowl จำพวกข้าวหน้าต่าง มากขึ้น หรือว่าเป็นพาสต้าง่าย ทั่วไป อย่างเมนู Chicken and Macaroni Soup ซุปไก่ใส่มักกะโรนีร้อน ๆ รสกลมกล่อม หอมกลิ่นพริกไทย หนึ่งในเมนูที่ชวนนึกถึงวันวาน ซึ่งใครหลายคนอาจเคยทานในวัยเด็ก หรือจะเป็นเมนูอิ่มท้องอย่าง Homemade Stew สตูว์เนื้อวัวและลิ้นวัวที่เสิร์ฟมากับมันฝรั่งบดสูตรโฮมเมด คือร้านทำเองทุกอย่างเลย แล้วก็เราคัดลิ้นวัวคุณภาพมาเป็นพิเศษ ปรับรูปร่างหน้าตาอาหารให้ดูโมเดิร์นขึ้นด้วยการท็อปแผ่นพาร์เมซานคริสป์ กลายเป็นเมนูคลาสสิกที่หน้าตา

ดูร่วมสมัยมากขึ้น”

 

เมนู Chicken and Macaroni Soup

 

เมนู Homemade Stew

Homemade Pie - Beef Fillet Stew Pie with Gravy เมนูพายสตูว์เนื้อที่ขายดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแบบเดลิเวอรีหรือหน้าร้านเพราะให้รสชาติเข้มข้นกลมกล่อม เข้ากับแป้งพายสูตรเฉพาะที่ทำมาตั้งแต่ร้านเปิดค่ะ ส่วนใครที่อยากเพิ่มความอิ่มท้องด้วยเมนูจานหลัก ร้านเรามี All Day Breakfast - Steak and Eggs เหมาะกับกลุ่มคนที่มองหาเมนูอาหารเช้าแบบจริงจังหรือเมนูอิ่มท้องจานใหญ่ เป็น Big Breakfast ของวัน ซึ่งเราทำออกมาในรูปแบบ 

Steak and Eggs เป็นสเต๊กเนื้อวากิว เสิร์ฟพร้อมไข่ดาว มะเขือเทศย่าง และขนมปังแบบจัดเต็มค่ะ”

 

เมนู Homemade Pie - Beef Fillet Stew Pie with Gravy

 

เมนู All Day Breakfast - Steak and Eggs

“สำหรับหมวดพาสต้า แนะนำเป็น Pesto Spinach Fettuccine served with Grilled Salmon Fillet เพสโต้เส้นเฟตตูชินีผักโขมเสิร์ฟพร้อมแซลมอนย่าง เหมาะกับลูกค้าที่ชอบความเฮลท์ตี้เป็นพิเศษ”

 

เมนู Pesto Spinach Fettuccine served with Grilled Salmon Fillet

“ถ้าเป็นหมวดเครื่องดื่มสายคาเฟอีน ต้องเมนูสดชื่น ๆ อย่าง Americano Citrus กาแฟอเมริกาโนใส่น้ำส้ม 

ความพิเศษคือเราทำน้ำส้มให้อยู่ในรูปของน้ำแข็งก่อน เพื่อเวลาที่เครื่องดื่มละลายจะได้รสชาติไม่จืดและยังคง

ความกลมกล่อมอยู่ภายในแก้ว แล้วก็มีสมูทตี้ซึ่งเป็น Collaboration ที่เราทำกับ Pleased Yoghurt ตอนแรก

ทำออกมาแค่ช่วงนึง แต่พอมีคนสั่งเยอะ ลูกค้าชอบอะไรที่มันเฮลท์ตี้มากขึ้น ก็เลยครีเอตให้เป็นเมนูเครื่องดื่ม

ประจำร้าน แนะนำให้ลองสั่ง Island Blue Smoothies สมูทตี้ที่ส่วนผสมของสาหร่ายสไปรูลิน่า กรีกโยเกิร์ต กล้วยหอม แอปเปิ้ล เบอร์รี และ Oat Milk ซึ่งพอมิกซ์กันแล้วได้รสชาติที่ลงตัว ดื่มแล้วสดชื่น”

 

เมนู Americano Citrus และ Island Blue Smoothies

หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจร้านอาหาร


“ปัจจุบันคู่แข่งทางธุรกิจด้านนี้อาจเยอะขึ้น แต่พายคิดว่าจริง ๆ แล้วอยู่ที่บาลานซ์มากกว่า การทำธุรกิจอาจมีวันที่ไม่ดีบ้างปะปนกันไป เลยกลายเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พายเริ่มหันมาใส่ใจเรื่องของเดลิเวอรีกับ Collaboration มากขึ้น เพราะเป็นการเปิดกลุ่มลูกค้า ทำให้คนรู้จักเรามากขึ้น อย่างร้านเราไม่ได้อยู่ในห้างฯ การที่ลูกค้าจะมาที่ร้าน

มันก็เป็น Afford นึงที่ต้องขับรถมาเพื่อทานอาหารที่นี่จริง ๆ ซึ่งบางครั้งเราอาจจะต้องออกไปหาลูกค้าในพาร์ท

เดลิเวอรีมากขึ้น หรืออาจจะเป็นการป๊อปอัพคาเฟ่ ซึ่งในปีนี้เราก็มีป๊อปอัพคาเฟ่ที่เซ็นทรัลชิดลมด้วย เรามองว่าเป็นการสร้างโอกาสจากการเริ่มขยับขยายสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้คนรู้จักเรามากขึ้น"


"ในการทำธุรกิจร้านอาหาร สิ่งสำคัญพายคิดว่าน่าจะเป็นการรับฟัง ไม่ใช่รับฟังแค่ลูกค้า แต่รับฟังคนในองค์กรเราด้วย"

 

พร้อมเสิร์ฟความอร่อยอย่างพิถีพิถัน

"เช่น กลุ่มพนักงานเราที่เขาเป็นคนคุยกับลูกค้าโดยตรง ทราบว่าลูกค้าคอมเมนต์อะไรบ้างหรือมีฟีดแบ็กอะไรบ้าง พายก็เลือกเอามาปรับเปลี่ยน มาคุยกัน พยายามดูว่าลูกค้าต้องการอะไร พายว่าสิ่งที่ลูกค้าต้องการก็คือสำคัญที่สุด แล้วก็เป็นสิ่งที่เรายึดมั่น แต่อีกสิ่งที่เรายึดมั่นก็คือ Core Value ความเป็นโฮมเมดของเรา คือเราจะไม่ Sensitive ต่อเทรนด์มากขนาดนั้น ต้องพิจารณาว่ามีอะไรบ้างที่เข้ากับความโฮมเมด แบบไหนบ้างที่เหมาะกับร้านเราค่ะ”



ความสุขของการทำร้านอาหาร


“ความสุขจริง ๆ มันเกิดขึ้นเวลาที่เราได้อ่านคอมเมนต์น่ารัก ๆ หรือว่าเวลาลูกค้าแท็กรูปมา เท่านี้ก็รู้สึกดีใจแล้วที่ลูกค้าเขา Appreciate สิ่งที่เราทำมากกว่าที่เราคิด" 

 

พื้นที่นั่งรับประทานอาหารที่เชื่อมต่อถึงกันกับโซนเคาน์เตอร์เบเกอรีและเครื่องดื่ม ในบรรยากาศสบาย ๆ และเป็นกันเอง

"ทีมเราจะมีกรุ๊ปแชทกันเพื่อตรวจเช็กขนมทุกชิ้นก่อนส่งลูกค้า เพราะกลัวว่าพอส่งออกไปแล้วจะไม่ถูกใจลูกค้า บางทีดีเทลเล็ก ๆ ก็มองข้ามไม่ได้ อย่างเค้กตัวใหม่ที่เป็นเค้กสำหรับเด็ก Baby ก็คือเป็นเค้กที่ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่ไข่ 

ไอเดียนี้ก็มาจากลูกค้าที่รีเควสเรามา ความน่ารักคือลูกค้าเขาถ่ายรูปครอบครัวส่งมาให้เรา อะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ 

แบบนี้ น่าจะเป็นความสุขของคนที่ได้ทำ แล้วพอเราได้คุยกับลูกค้าแบบใกล้ชิด ซึ่งลูกค้าสามารถคุยกับเราได้

หลายช่องทาง ไม่ว่าจะไลน์มา โทรมา หรือแท็กรูปมา แค่นี้ก็เป็นความสุขสำหรับคนที่ได้ทำแล้ว ดีใจที่ลูกค้า

ชอบในสิ่งที่เราทำ แล้วก็เอ็นจอยกับสิ่งที่ได้รับจากร้านของเราค่ะ”



สเต็ปต่อไปของ Home Work


“จริง ๆ ปีที่แล้วกับปีนี้เราแพลนที่จะนำเสนอเมนูพายของเรา เพราะอย่างที่บอกว่าคู่แข่งเราเยอะ แต่ละร้านส่วนใหญ่เขามีพาสต้า มีเมนูข้าว มีหลาย ๆ อย่างรวมกัน แต่สิ่งที่เราอาจจะสร้างความแตกต่างได้คือพายของเรา ซึ่งเราก็คุยกับทีมว่าอยากพรีเซนต์เมนูพาย ไม่ว่าจะเป็นพาร์ทของการ Collaboration เราพยายามเอาพายของเรา

ไปอยู่ในหลาย ๆ โปรเจ็กต์ Collaboration หรือครีเอต Option พายให้เยอะขึ้น มีไซส์ที่เยอะขึ้น ถ้าคิดถึงพาย

ต้องนึกถึงเรา อยากให้เป็นอย่างนี้มากขึ้นภายในปีนี้ ทุกเดือนเราจะมี Pie of the month เป็นการดึงไส้พายไส้หนึ่งมาโปรโมท แล้วก็เพิ่มโปรโมชั่นลด 10% ให้กับลูกค้าที่สั่งไซส์ L กับ XL เช่น บางเดือนเป็นพายไส้วีแกน 

เราจะมีโปรฯ แบบนี้ในทุก ๆ เดือน อย่างเดือนกุมภาเดือนแห่งความรัก ก็จะมีพายรูปหัวใจที่เป็นไส้ช็อกโกแลต-กล้วยหอม ตามด้วยทาร์ตที่เป็นดอกกุหลาบ ทาร์ตรูปหัวใจ ขนมปังรูปหัวใจ เพื่อให้เกิด Vibe บางอย่าง

ที่สร้างความรู้สึกเซอร์ไพรส์ มอบความพิเศษให้กับลูกค้าของเราให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”

 

Home Work = A trendy all day cafe in a homey atmosphere.

ร้าน Home Work จึงนับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารโฮมเมดคุณภาพที่พร้อมส่งต่อความอร่อยด้วยความรัก 

ความใส่ใจในทุกรายละเอียดของการคัดสรรวัตถุดิบและปรุงอาหารแต่ละเมนูอย่างพิถีพิถัน เพื่อคงรสชาติ

ความโฮมเมดในแบบดั้งเดิม อีกทั้งเพิ่มเติมความครีเอตให้ได้เลือกลิ้มลองมากมาย ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ เต็มไปด้วยกลิ่นอายแสนอบอุ่นสมกับเป็นไวบ์ของการทานข้าวที่ ‘บ้าน’ อย่างแท้จริง



Home Work

ซอยสุขุมวิท 31 (ซอยสวัสดี) (MRT สถานีสุขุมวิท)

เปิด วันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 11.00-21.30 น.

โทร. 0-2259-4845

LINE : @homeworkcafe

www.facebook.com/homeworkbkk

www.instagram.com/homeworkbkk