สัมผัสรสชาติสไตล์ออร์แกนิก ที่ FABB Academy of Coffee

Published on June 06, 2018

หากพูดถึงอาหารออร์แกนิกแล้ว หลายคนคงจะนึกถึงอาหารเพื่อสุขภาพที่เลือกใช้แต่วัตถุดิบคุณภาพดีราคาแพง หรืออาหารรสชาติอ่อน ๆ ไม่จัดจ้านถูกปากคนไทยกันสักเท่าไหร่ แต่ในครั้งนี้ เราขอนำเสนออาหารออร์แกนิกจากเชฟเอฟลิน (Evelyn yab)  ผู้เคยผ่านประสบการณ์ฝึกฝนโดยเชฟมิชลินและเชฟที่ชนะรางวัล James Beard Award หลายท่าน และคุณ Kelvin สามีของเชฟเอฟลิน ได้มาแสดงฝีมือให้คุณมาลองชิมได้ง่าย ๆ แล้วที่ FABB Academy of Coffee ใน "Happivore Supper Club : Cuisine of 3000km" ที่ซอยปรีดีพนมยงค์ 15 ถนนสุขุมวิท 71

 

บรรยากาศมื้อค่ำใต้แสงเทียน

จุดเริ่มต้นในการทำอาหารเองของเชฟเอฟลินคืออาการป่วยของเชฟเมื่อครั้งยังอาศัยอยู่ที่ประเทศจีน ความเจ็บป่วยในครั้งนั้นทำให้เชฟเอฟลินไม่สามารถทานอาหารแบบคนทั่วไปได้ จึงเริ่มเกิดการทำอาหารทานเอง เริ่มเกิดความชื่นชอบในการทำอาหารแบบออร์แกนิกด้วยตัวเอง ต่อยอดไปสู่การเดินทางไปเรียนรู้การทำอาหารอย่างแท้จริงที่แคลิฟอร์เนีย

 

คุณ Kelvin สามีของเชฟเอฟลิน

โดยเชฟเอฟลินมีปรัชญาการทำอาหารจากการแสวงหาวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากกลุ่มเกษตรกรรายย่อยที่เชี่ยวชาญเรื่องวัตถุดิบ และยังใช้เวลาถึงหนึ่งเดือนเต็มในการเดินทางเสาะหาวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากทั่วประเทศไทยมารังสรรค์เป็นเมนูแปลกใหม่ และปลอดภัยต่อสุขภาพ 100% แถมยังรับเพียงวันละ 20 ที่นั่งเท่านั้น

ในครั้งนี้เราจะพาไปสัมผัสประสบการณ์การทานคอร์สเมนูอาหาร 8 จานที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์
งานนี้ต้อนรับแขกด้วย Welcome Drinks แก้วพิเศษอย่าง Cold Brew Coffee Sangria ที่ใช้กาแฟสกัดเย็นผสมเข้ากับ Mao Berry Wine และ Issan Agricole Rum ให้กลิ่นและรสชาติเฉพาะ ก่อนเริ่มเมนูจานแรกอย่าง Bacon Jam Amuse Bouche จานเบา ๆ ให้รสสัมผัสและกลิ่นของกล้วยเต็ม ๆ 

 

Bacon Jam Amuse Bouche

ต่อด้วย Hakka Tea Amuse Bouche ที่โด่ดเด่นไปด้วยความหอมเย็นของ Basil และ Mint เป็นซุปแบบเย็นรสอ่อน มีส่วนผสมของผักและสมุนไพรไทยหลายชนิด

 

Hakka Tea Amuse Bouche

จานต่อไปคือ Red Barn ที่เชฟใช้บีทรูทเป็นวัตถุดิบหลัก ผสมเข้ากับชีสและน้ำผึ้งป่า ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่น
 

Red Barn

Mud House in Buriram เป็นอีกจานที่เชฟได้แรงบันดาลใจมาจากบ้านดินในจังหวัดบุรีรัมย์ที่ใช้ผักสด ๆ ราดด้วย Soubise Sauce และโรย House Made Vegan Furukake และเชฟยังใช้เทคนิค Bottarga แต่ใช้ไข่เป็ดแทนไข่ปลาอีกด้วย
 

Mud House in Buriram


ต่อมาเป็นซุปมะเขือเทศแบบร้อนในชื่อ Issan Out ที่ใช้มะเขือเทศพันธุ์โมโมทาโร่ มะเขือเทศเกรดดีจากเชียงใหม่ ในซุปมีส่วนผสมของสมุนไพรหลายอย่างเพิ่มกลิ่นสัมผัสแปลกใหม่ในรสชาติของมะเขือเทศ เสิร์ฟมาพร้อมกับขนมปังที่อบเองและ Gooseberries รสเปรี้ยวเข้ากับกับรสของซุป
 

Issan Out

Sakon Nakon อีกจานที่น่าสนใจจากวัตถุดิบชั้นดีอย่างเนื้อวัวโพนยางคำ รองจานด้วยเส้นขนมจีนที่ถูกจี่เป็นแผ่นกลม มีเนื้อหมูรมควันและผักพื้นบ้านต่าง ๆ ของไทยเป็นเครื่องเคียง
 

Sakon Nakon

ขั้นด้วยเมนูล้างปากอย่าง Kombucha Granita เกล็ดน้ำแข็งเย็น ๆ รสเปรี้ยวชื่นใจของ Mao Berry
 

Kombucha Granita

ต่อด้วย The Tribes ข้าวจี่ราดด้วยซุปใสที่ใช้ปลาท้องถิ่นรมควัน แต่ให้กลิ่นเหมือนกับน้ำซุปปลาดาชิของญี่ปุ่น หวานหอมชื่นใจ ได้กลิ่นข้าวจี่เต็ม ๆ 
 

The Tribes

ตัดรสด้วยมะเขือเทศในเมนู Yuchan’s Pre-Dessert ที่เชฟใช้มะเขือเทศโมโมทาโร่สด ๆ มาย่าง เสิร์ฟคู่มากับเจลมะเขือเทศสีใสแต่เปี่ยมไปด้วยรสชาติของมะเขือเทศสด
 

Yuchan’s Pre-Dessert

สุดท้ายเป็นของหวานที่เชฟภูมิใจนำเสนออย่างมูสดาร์กช็อกโกแลต ที่ใช้ช็อกโกแลตชั้นดีจากเชียงใหม่ท็อปด้วยวิปครีมเนื้อเนียน เสิร์ฟพร้อมบิสกิตอัลมอนแบบโฮมเมดชิ้นโต สร้างความประทับใจให้คุณทั้งมื้ออาหารแสนพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ บรรยากาศสบาย ๆ แอบโรแมนติกของที่ร้าน และรอยยิ้งที่คุณจะได้กลับไปพร้อมความอิ่มท้องแน่นอน
 

มูสดาร์กช็อกโกแลต


Happivore Supper Club : Cuisine of 3000km
เวลา 19.00 - 22.00 น.

สอบถามและจองที่นั่งได้ที่ www.facebook.com/evehappivore 
หรือโทร 081-444-1554, 097-226-0221