อิ่มอร่อยกับโอมากาเสะสไตล์ฟิวชั่น กับหลากหลายเมนูใหม่สุดสร้างสรรค์ที่ The White Room - Maison De Bangkok

Published on March 06, 2018

The White Room - Maison De Bangkok ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ Chef’s Table ในโครงการ KRAM COLLABO ซอยพบมิตร สุขุมวิท 39 แห่งย่านทองหล่อ ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ สุดส่วนตัวที่ตกแต่งด้วยโทนสีขาวแสนโรแมนติก โดยร้านอาหารแห่งนี้เกิดจากความตั้งใจอันดีของ คุณกันต์ รตนาภรณ์ ที่อยากให้ผู้ที่เข้ามาทานอาหารทุกคนรู้สึกเหมือนทานข้าวอยู่ที่บ้านแต่มีเชฟฝีมือดีเป็นผู้ครีเอทเมนูให้ทาน ล่าสุดทางร้านพร้อมเปิดประสบการณ์การทานอาหารครั้งใหม่ให้ชาวโอมากาเสะเลิฟเวอร์ทั้งหลายได้มาลิ้มรสความอร่อยกับหลากหลายเมนูใหม่ในสไตล์ Omakase Fusion หรืออาหารญี่ปุ่นที่นำมาแปลงรูปแบบทั้งหมด เพื่อให้แต่ละจานมีเอกลักษณ์เฉพาะอีกเช่นเคย 

 

สำหรับอาหารที่ The White Room เสิร์ฟนั้น จะเน้นใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลและมีการปรับเปลี่ยนเมนูไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ทุกครั้งที่มา ผู้ทานจะได้พบกับความแปลกใหม่เสมอ โดยลูกค้าจะได้สัมผัสทั้งรูป รส กลิ่น เสียง อาหารแต่ละเมนูมีการนำเอาศิลปะมาผสมผสานกันอย่างสร้างสรรค์ ทำให้อาหารดูน่าทานมากยิ่งขึ้น พร้อมครีเอทรสชาติใหม่ขึ้นมา โดยรสชาติต่าง ๆ ที่นำมาครีเอทนั้นเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติทั้งสิ้น ทำให้อาหารดูน่าทานมากยิ่งขึ้น รวมถึงระหว่างที่ทานก็ได้มีการเปิดเพลงบรรเลง ใช้เสียงดนตรีประกอบมาจับคู่กับเมนูอาหารที่เสิร์ฟ ณ ตอนนั้น เพื่อเพิ่มอรรถรสในระหว่างทานมากขึ้น

 

ในส่วนของการเสิร์ฟอาหารในธีม Omakase Fusion นี้ ประกอบด้วยซีฟู้ดชั้นเลิศหลายชนิด โดยเสิร์ฟแบบ 15 คอร์ส (รวมของหวานและน้ำเปล่า) ราคา 3,999++ บาท วันละ 2 รอบ คือมื้อกลางวัน (12.30 น.) และมื้อเย็น (18.30 น.) โดยจะต้องโทรจอง สำรองที่นั่งล่วงหน้าก่อนทุกครั้ง เพราะทางร้านมีการเตรียมวัตถุดิบสดใหม่แบบวันต่อวัน เริ่มต้นมื้อพิเศษด้วย Welcome Drinks เวลคัมดริงก์ที่ชื่อว่า Sea เป็นเครื่องดื่มแนว Sparkling ที่ใส่เม็ด Pearl ซึ่งมีส่วนผสมของโยเกิร์ตลงไปในน้ำบลูเบอร์รีเลมอน ที่ให้รสเปรี้ยวอมหวาน ดื่มแล้วสดชื่น

 

ก่อนจะอุ่นเครื่องความอร่อยด้วยเมนู Starter กับ Seaweed Pizza ข้าวห่อสาหร่ายแบบ Traditional Japanease ปิ่นโตของญี่ปุ่น แต่เพิ่มสีสันด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบ 5 คำ 5 ชนิด ครีเอทให้ได้รสสัมผัสใหม่ โดยด้านนอกเป็น Homemade Sea Weed ที่ส่วนตรงกลางมีเนื้อปลา 3 ชนิด ได้แก่ White Fish, Ray Fish, กุ้งหวาน โดยบดเนื้อปลาทั้ง 3 ชนิดนี้แล้วหมักด้วย Dark Brown Sauce รสเข้มข้น   

 

ตามมาด้วย Course 1 Three Marketeers เป็นโอมากาเสะ 3 อย่างที่เชฟนำมารวมไว้ในเมนูเดียวกัน ประกอบด้วย Japanese Corn ข้าวโพดญี่ปุ่นที่ส่งตรงมาจากโอซาก้า เผาและอบด้วยเนย ท็อปบนด้วยกลีบกุหลาบและไข่ปลาแซลมอนเพื่อให้ได้กลิ่นอายแบบญี่ปุ่น, Ome เฟรนช์ฟรายที่ท็อปบนด้วย Uni ไข่หอยเม่นที่หมักกับ Black Truffle ก่อนจะนำไป Deep Fried นำน้ำมันออกจนหมดจนเหลือไว้แต่ความกรอบ พร้อมกลิ่นหอม ๆ ของ Black Truffle 

 

Course 2 Three Queens ซุปหอย 3 ชนิด ได้แก่ หอยเม่น หอยลาย และหอยเชลล์ฮอกไกโด มีลักษณะเป็นซุปใสที่เคี่ยวจากหัวปลาใหญ่ 4 ชนิด นานถึง 16 ชั่วโมง จนได้รสเค็ม ได้กลิ่นอายของทะเลทุกคำที่ทานเข้าไป

 

Course 3 Two Carrots เมนูนี้ได้แรงบันดาลใจจากสีสันของธรรมชาติ ภายในจานประกอบด้วยแครอทสด 1 ชิ้น และแครอทจำลอง 1 ชิ้น ที่ทำมาจาก Black Truffle ผสมกับข้าวญี่ปุ่นที่ทางร้านหมักเอง จนได้ทั้งความนุ่มและความหอมเป็นพิเศษ แล้วนำไปคลุกเคล้ากับไข่กุ้ง เป็นการผสมผสานวัตถุดิบจากญี่ปุ่นและตะวันตกได้อย่างลงตัว ส่วนวิธีทาน เชฟแนะนำว่าให้ทานแครอทจำลองก่อนแล้วจึงทานแครอทสดเพื่อเป็นการล้างรสชาติภายในปาก

 

Course 4 White Fish จานนี้เป็น Signature Sushi ที่ทางร้านครีเอทรสสัมผัสขึ้นมาใหม่ โดยนำเนื้อปลามาถักเปีย เพื่อนำเสนอเรื่องการนำศิลปะเข้ามาใช้ในอาหาร ด้านบนท็อปด้วยไข่กุ้งและ Black Caviar ภายในจานมีการหยด Fruit Drop สีธรรมชาติที่ได้จากผลไม้มาช่วยเพิ่มรสชาติและสีสันให้น่าทานมากขึ้น

 

Course 5 Black Truffle With White Fish เห็ดทรัฟเฟิลที่ครีเอทรสชาติขึ้นมาใหม่ในรูปแบบของซูชิ โดยนำ Black Truffle มาหมักกับข้าวญี่ปุ่น ปั้นเป็นรูป แล้วท็อปบนด้วย White Fish, Black Truffle สไลซ์สด แล้วรมควันตอนเสิร์ฟ

 

Course 6 IKA ปลาหมึกญี่ปุ่นที่ทางร้านเลือกเฉพาะส่วนของกล้ามเนื้อปลาหมึกที่ให้รสสัมผัสที่เหนียวนุ่มกว่า จากนั้นใช้ขิงสดไว้ด้านใต้เพื่อดับความคาว ก่อนจะท็อปบนด้วย Black Caviar บนข้าวที่หมักกับไข่กุ้ง แล้วทาเคลือบด้วย Dark Brown Sauce ที่ทำมาจากสมุนไพร 3 ชนิด เคี่ยวจนได้รสหวานกลมกล่อม  

 

Course 7 Surprise เป็นเมนูซูชิที่ทางร้านไม่บอกว่าสิ่งที่ทานทำมาจากอะไร เพียงแต่รู้ว่าเป็นข้าวปั้นที่หมักกับมันปู แล้วท็อปบนด้วยเนื้อปลาปริศนาและมันกุ้ง ให้รสชาติมัน ๆ เค็ม ๆ อร่อยในแบบเซอร์ไพรส์สมชื่อ


 

Course 8 Unagi Sunny Side Up ปลาไหลญี่ปุ่นที่เสิร์ฟพร้อมกับไข่ดาวที่ยังไม่สุกแบบ Japanese Egg Yolk โดยเลือกใช้ไข่นกกระทาญี่ปุ่นมาทอด เสิร์ฟกับปลาไหลย่างที่หมักด้วย Dark Brown Sauce ให้ได้ปลาไหลย่างรูปลักษณ์ใหม่และรสชาติใหม่ที่ทั้งนุ่มทั้งหอมมันไม่เหมือนที่ไหน ๆ เลย

 

Course 9 Signature Swing ที่ด้านนอกหุ้มด้วย White Fish ด้านในเป็น Home Made Cheese Bake ชีสกรอบ แล้วราดด้วย Sparky Sauce ที่ทำมาจาก Uni Sauce ก่อนจะท็อปบนด้วยป็อปคอร์น โรยผงสาหร่ายอบแห้ง เสิร์ฟมาพร้อมชิงช้าแก้วที่ทางร้านดีไซน์เพื่อเมนูนี้โดยเฉพาะ 

 

Course 10 Signature Cold Tofu เต้าหู้เย็นที่ทำมาจากเมล็ดถั่วเหลืองญี่ปุ่น นำมาบดและต้มเองแบบสไตล์โฮมเมด ราดด้วยซอสถั่ว 3 ชนิด ได้แก่ เกาลัด แมคคาเดเมีย และ Cadhew Nut พร้อมโรยด้วยสาหร่ายและปลาทูน่าอบแห้ง

 


Course 11 Cold Noodle บะหมี่เย็นเส้นโฮมเมด ซึ่งให้รสสัมผัสที่เหนียวนุ่ม เสิร์ฟในน้ำซอสที่ทางร้านครีเอทรสชาติขึ้นมาใหม่ให้ได้รสเค็มอมเปรี้ยวของผลไม้อย่างลงตัว ส่วนด้านบนท็อปด้วยสาหร่ายน้ำลึกพร้อมกับฟัวกราส์

 

Course 12 Black Stick แท่งสีดำที่ทำมาจากสาหร่ายที่ทางร้านครีเอทใหม่ทั้งหมด

 

Course 13 2018 Chutoro ซูชิปลาทูน่าเนื้อแดงที่นำเสนอในแนว Western ซึ่งท็อปบนด้วยวัตถุดิบหลายเลเยอร์ ไม่ว่าจะเป็น Egg Benedict, Home Made Cream Cheese และซอสพริกเผา เพื่อให้รสสัมผัสที่หลากหลาย เป็นซูชิรูปแบบใหม่ที่เพิ่มความเผ็ดลงไปไม่ให้เลี่ยน

 

Course 14 Sushi Sandwich เป็นการนำขนมปังอบกรอบมาใช้แทนข้าวปั้น ด้านในสอดไส้ด้วยปลา 3 ชนิด พร้อมด้วยกุ้งบด แล้วท็อปด้วยไข่หอยเม่น, Black Cavior เมนูนี้เหมือนเป็นการรวมสุดยอดวัตถุดิบแสนอร่อยจากท้องทะเล รวมเนื้อปลา รวมเนื้อกุ้ง รวมไข่มาไว้ในคำเดียว 

 

Course 15 Macaron มาการองที่ตรงกลางสอดไส้ไข่ปลาแซลมอน ให้ได้รสสัมผัสใหม่หวาน ๆ เค็ม ๆ เข้ากันเป็นอย่างดี

 

แล้วปิดท้ายด้วย Course 16 Rainbow เมนูของหวานที่เน้นการนำเสนอในเรื่องของสีสัน ผ่านไอศกรีมโฮมเมดและเยลลี่ผลไม้ 3 รสชาติ ได้แก่ กล้วยหอม สตรอเบอร์รี และแบล็คเบอร์รี ให้รสเปรี้ยวอมหวาน เสิร์ฟพร้อมลูกพีชสดจากโครงการหลวง เมนูนี้การันตีว่าทานแล้วสดชื่นแน่นอน 

 

ใครที่อยากมาสัมผัสความพิเศษทั้งในเรื่องของรสชาติและบรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟแบบนี้แล้วละก็ ต้องแวะมาพิสูจน์ความอร่อยในแบบพรีเมียมนี้ที่ The White Room - Maison De Bangkok แห่งนี้เท่านั้น


The White Room - Maison De Bangkok
KRAM COLLABO ซอยพบมิตร สุขุมวิทซอย 39 เขตวัฒนา
โทร. 088-556-5566
เปิดทุกวัน เวลา 12.30-14.30 น. และ 18.30-20.30 น.