ดื่มด่ำความกลมกล่อมไปกับ REES ร้านกาแฟสุดพรีเมียมแห่งแรกและแห่งเดียวในสนามบินสุวรรณภูมิ

Published on January 21, 2022

สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการดื่มกาแฟพรีเมียมไปกับ REES คาเฟ่-ร้าน Craft Coffee ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ที่พร้อมเสิร์ฟความกลมกล่อมหอมกรุ่น ภายใต้วัฒนธรรมกาแฟระดับเฟิร์สคลาส ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อให้คอกาแฟนักเดินทางได้มีทางเลือกในการดื่มกาแฟมากขึ้น เพิ่มโอกาสในการลิ้มรสกาแฟที่ชงด้วยความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะออกเดินทางระหว่างประเทศหรือภายในประเทศก็ตาม

 

(Photo by REES)

สำหรับ REES ในภาษาลักเซมเบิร์กนั้นหมายถึง ‘การเดินทาง’ ทางแบรนด์จึงได้เลือกนำชื่อนี้มาใช้เพราะสื่อถึงการดื่มกาแฟเพื่อเติมเต็มความพร้อมให้คุณก่อนเริ่มต้นการเดินทางสุดพิเศษบนเครื่องบิน โดยทาง REES ได้เลือกใช้เมล็ดกาแฟเกรดพิเศษมาเบลนด์และชงในสไตล์เฉพาะตัว ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากทั้งในและต่างประเทศ
 

(Photo by REES)

สำหรับคอกาแฟที่ชื่นชอบรสชาติกาแฟในโทนนัตตี้และช็อกโกแลต ซึ่งมาพร้อมรสสัมผัสหอมหวานของผลไม้แห้ง ทาง REES ได้เลือกนำเสนอ Fake-Off blend โดยผสมผสานเมล็ดกาแฟที่ดีที่สุดจากทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าไว้ด้วยกัน ทั้งกาแฟจากประเทศอินโดนีเซีย สุมาตรา แมนเฮลิง เกรด 1 ที่หอมอบอวลไปด้วยกลิ่นไอดิน, กาแฟจากประเทศลาว ที่ราบสูงโบลาเวน ให้ Taste Note หวาน ๆ ในแบบสมุนไพร และกาแฟอาราบิก้า จากไร่กาแฟคุณภาพในจังหวัดน่าน เหมาะแก่การชงเข้ากับนม ไม่ว่าจะครีเอตเป็นเมนูลาเต้ คาปูชิโน่ หรืออเมริกาโน่ ก็กลมกล่อมไม่แพ้กัน ถูกใจคอกาแฟที่ชอบดื่มแบบบอดี้หนัก ๆ แน่นอน
 

(Photo by REES)

นอกจากนี้ยังมีเบลนด์เก๋ ๆ อีกมากมายให้ได้สั่งมาลิ้มลอง อาทิ Red Eye blend ที่ผสมผสานเมล็ดกาแฟจากไร่ที่ดีที่สุดทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกัน ไล่เรียงมานับตั้งแต่รวันดา เอธิโอเปีย ไปจนถึงกัวเตมาลา จนได้กาแฟเบลนด์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ส่วนใครที่อยากดื่มกาแฟที่ช่วยเติมความสดชื่น ได้กลิ่นหอมละมุนละไมในโทนฟลอรัลแล้วละก็ ทางร้านยังมีเมล็ดกาแฟที่ให้กลิ่นหอมของสับปะรดแห้ง เมเปิ้ล และบลูเบอร์รี ไว้เป็นทางเลือกอีกด้วย
 

(Photo by REES)

อีกหนึ่งเบลนด์กาแฟ Full Body โทนนัตตี้คือ REES Signature ที่มาพร้อมรสสัมผัสนุ่มนวล ที่เบลนด์จากเมล็ดไทยอาราบิก้าและบราซิลซานโตส สายพันธุ์ดั้งเดิมของบราซิล ขึ้นชื่อเรื่องในเรื่องของความหอมมันแบบนมเนยและกลิ่นโกโก้ เหมาะจะเป็นเมนูกาแฟปรุงแต่งกลิ่นรส เช่น คาราเมลลาเต้หรือท็อฟฟี่นัตลาเต้ แก้วโปรดของสายขนมหวานทุกคนเป็นที่สุด
 

(Photo by REES)

ปิดท้ายด้วยเมนูเครื่องดื่ม Non Coffee ที่แนะนำให้ลองสั่ง มัทฉะลาเต้ ซึ่งชงด้วยผงมัทฉะนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ปรุงอย่างประณีตเพื่อให้ได้กลิ่นหอมและรสชาติดั้งเดิมของใบชา ตามมาด้วยเมนูเด็ดอย่าง ชาไทย ที่ให้รสชาติเข้มข้นและมีกลิ่นหอมของใบชาเช่นเดียวกัน ซึ่งถ้าใครอยากเพิ่มดีกรีความอร่อยหรือปรับให้เครื่องดื่มนี้เป็นขนมหวานมากขึ้นสักหน่อย แนะนำให้ลองสั่งเป็นชาไทยปั่นก็เข้าท่าทีเดียว หรือจะเป็น ยูซุโซดา ที่อัดแน่นด้วยรสชาติแบบซิตรัสเต็ม ๆ ก็เพิ่มความสดชื่นไปอีกแบบ มีพร้อมเสิร์ฟทั้งเมนูเย็นและเมนูปั่นตามชอบ
 

(Photo by REES)

เรียกได้ว่าไม่ว่าจะเดินทางไปทริปไหนก็ได้ดื่มเครื่องดื่มที่ถูกใจแบบจบครบแน่นอน พร้อม Take Off อย่างสบายใจ นอกจากการเสิร์ฟเครื่องดื่มแล้ว ร้าน REES สาขาเที่ยวบินระหว่างประเทศ ยังพร้อมให้บริการด้านอาหาร เบเกอรี และของฝากให้เลือกสรรนำไปฝากคนที่คุณรักอีกด้วย
 

(Photo by REES)

ที่ร้าน REES จะเปิดให้บริการเพียงเฉพาะภายในสนามบินเท่านั้น (สาขาเที่ยวบินในประเทศ เปิดให้บริการแล้วเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2564 ส่วนรูปแบบเคาน์เตอร์บาร์ 15 ที่นั่ง สาขาเที่ยวบินระหว่างประเทศ จะเปิดให้บริการในเดือนมีนาคม 2565 โดยทั้ง 2 สาขาจะตั้งอยู่บริเวณ Gate รอขึ้นเครื่อง) ใครที่อยากลิ้มรสชาติของเมนูพรีเมียมต่าง ๆ ที่ว่ามานี้ คงต้องรีบแพ็คกระเป๋าเดินทาง วางแผนท่องเที่ยว พร้อมลุยไปตามสโลแกนที่ว่า ‘ให้การเดินทางของคุณเริ่มต้นไปกับเรา’ กันด่วน ๆ ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.facebook.com/Rees-Coffee-113493744440757