เติมเต็มมื้อสุดพิเศษกับ 5 ร้านดังใน EmQuartier Dining พื้นที่ที่ให้คุณอิ่มอร่อยแบบครบครัน

Published on September 04, 2019

สัมผัสประสบการณ์ความอร่อยครั้งใหม่กับ EmQuartier Dining โซนร้านอาหารภายในศูนย์การค้า The EmQuartier ซึ่งรวบรวมร้านอาหารกว่า 200 ร้าน มาไว้ในแห่งเดียว ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Bangkok’s Best All Day Dining & Entertainment Destination’ ศูนย์รวมความอร่อยแบบครบครันที่มีอาหารหลากหลายสัญชาติจากร้านอาหารและคาเฟ่ชั้นนำมาร่วมเสิร์ฟเมนูสุดพิเศษในราคามิตรภาพ ให้เหล่านักชิมได้เลือกทานอย่างจุใจตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังเพลิดเพลินไปกับการช้อปและชิลล์เอาต์ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองด้วยทำเลที่ตั้งที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ ทำให้การเดินทางนั้นสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น 


ครั้งนี้ BKK จึงไม่รอช้าขออาสาพาทุกคนไปใช้ช่วงเวลาดี ๆ กันที่ EmQuartier Dining ผ่านความอร่อยสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ 5 ร้านดังที่คุณไม่ควรพลาด ส่วนจะเป็นร้านไหนบ้างนั้น ตามไปเช็คอินพร้อม ๆ กันเลย 

1

Café Leitz By Pacamara

FULL REVIEW
 

Café Leitz By Pacamara

ประเดิมความอร่อยกันที่ Café Leitz By Pacamara ไลฟ์สไตล์คาเฟ่สุดเท่ สำหรับคนที่รักการถ่ายภาพด้วยกล้อง Leica โดยเฉพาะ พร้อมให้บริการอย่างเต็มรูปแบบทั้งช็อป Leica อาหาร ขนมหวาน และ Specialty Coffee ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของเมล็ดกาแฟเป็นพิเศษกับแบรนด์ Pacamara ที่ขยายความอร่อยมาเปิดสาขาภายในศูนย์การค้า The EmQuartier โดยเน้นเสิร์ฟเมนูกาแฟและเครื่องดื่มหลากหลายแบบ พร้อมกับเมนูอาหารที่ครีเอทขึ้นใหม่เฉพาะสาขานี้เท่านั้น


หากใครเคยสัมผัสกล้อง Leica มาก่อน เมื่อย่างก้าวเข้าร้านจะสัมผัสได้ถึงองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ถอดแบบสไตล์การตกแต่งจากตัวกล้อง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้โทนสีอย่างดำ เงิน เทา และที่ขาดไม่ได้คือป้ายไฟวงกลมสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ พร้อมเฟอร์นิเจอร์ไม้ มู้ดแอนด์โทนสีขาวที่มาเติมความอบอุ่นเป็นกันเอง 

FULL REVIEW
 

โซนช็อป Leica

บางมุมประดับประดาด้วยภาพถ่ายของช่างภาพระดับโลกที่ใช้กล้อง Leica จับโมเมนต์ต่าง ๆ มาร่วมจัดแสดงบนฝาผนังร้าน นอกจากนี้ ที่นี่ยังเพิ่มความหรูหราด้วยผนังสีดำและบาร์ Stainless พื้นที่สโลว์บาร์สำหรับนั่งดื่มกาแฟ อีกทั้งยังมีโซนนั่งด้านนอกบริเวณทางเดินเชื่อมอาคารของศูนย์การค้าฯ ในลักษณะของเรือนกระจก ให้ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติแบบสบาย ๆ อีกด้วย

 

พื้นที่สโลว์บาร์สำหรับนั่งดื่มกาแฟ

ในส่วนของเมนูอาหาร ส่วนใหญ่ทางร้านจะเน้นเสิร์ฟเมนูบรันช์ทานง่าย ให้เลือกอิ่มท้องตลอดวัน ไม่ว่าจะเป็น Egg Ham Cheese Croissant (185 บาท) เมนูซิกเนเจอร์ครัวซองต์ของทางร้าน ที่สอดไส้ด้วยผักสลัด มะเขือเทศ ไข่ออมเล็ต แฮม ชีส พร้อมราดด้วยซอสศรีราชามาโย สูตรพิเศษที่มาช่วยตัดรสชาติให้ได้กลิ่นอายสไตล์ไทย ๆ ก่อนจะโรยหน้าตามด้วยชีสและเกล็ดขนมปังโทสต์ที่ให้เนื้อสัมผัสกรุบกรอบ 

 

Egg Ham Cheese Croissant (185 บาท)

ส่วนใครที่ชอบทานมันบดเป็นพิเศษ ต้องลอง Banger & Mash (295 บาท) ไส้กรอกหมูสด ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับมันบด ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย ราดซอสไวน์แดง ก่อนจะท็อปด้านบนด้วยมะเขือเทศราชินีและพาร์สลีย์ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทานแล้วอิ่มท้องแน่นอน

 

Banger & Mash (295 บาท)

หรือจะเป็นชุดเบอร์เกอร์ที่มาพร้อมกับความอร่อยแบบจัดเต็มอย่าง Pull Pork Burger with Earl Grey Cream Sauce (340 บาท) โดยทางร้านได้เลือกใช้ Bun Burger ชิ้นใหญ่ที่สั่งทำเป็นพิเศษ สอดไส้ด้วยผักสลัด มะเขือเทศ และเนื้อสันคอหมูที่เชฟนำไปต้มจนเปื่อยนุ่ม แล้วนำไปคลุกเคล้ากับน้ำซอสที่ทำมาจากใบชาเอิร์ลเกรย์จนได้รสชาติเข้มข้นกลมกล่อม เสิร์ฟพร้อมซอสมะเขือเทศ พริกดอง แตงกวาดอง และเฟรนช์ฟรายส์ ทั้งนี้อาหารแต่ละเมนู สามารถสั่งกาแฟหรือเครื่องดื่มอื่น ๆ มาดื่มคู่กันได้ด้วย จะช่วยเสริมความอร่อยให้มื้อนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดีทีเดียว

 

Pull Pork Burger with Earl Grey Cream Sauce (340 บาท)

Café Leitz By Pacamara
ชั้น M, The Helix Quartier, The EmQuartier
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
โทร. 0-2003-6068, 0-2048-5900
www.facebook.com/cafeleitz

2

Vanilla Cafeteria

 

Vanilla Cafeteria

เอาใจสาย Cafe Hopping กันอย่างต่อเนื่องกับ Vanilla Cafeteria คาเฟ่สไตล์ Modern Industrial ที่เน้นเสิร์ฟเมนู Comfort Food แสนอร่อย บรรยากาศภายในร้านสบายตาด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และการเลือกตกแต่งร้านด้วยมู้ดแอนด์โทนสีน้ำตาล-ขาว ส่วนโซนนั่งทานอาหารมีม้านั่งยาวที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้ทานข้าวที่โรงอาหารของโรงเรียน ตัวร้านถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก ๆ ได้แก่ โซนนั่งด้านในที่เชื่อมต่อกับศูนย์การค้าฯ และโซนนั่งด้านนอกที่ให้รับลมเย็น ๆ พร้อมชมวิวน้ำตกจากสวน Tropical ฝั่งตรงข้าม อีกทั้งยังมีโซนครัวแบบ Open Kitchen ให้คนที่เข้ามาทานได้เห็นเบื้องหลังความอร่อย กรรมวิธีการปรุงอาหารแต่ละจานของทางร้านอย่างใกล้ชิด 

 

ตัวร้านตกแต่งในสไตล์ Modern Industrial

เมื่อมาถึงที่ร้าน แนะนำให้ลองสั่งเมนูยอดนิยมอย่าง Egg Benedict Caesar Salad (495 บาท) มาทาน เป็นเมนูซีซาร์สลัดที่ท็อปด้านบนด้วยเอ้กเบเนดิกต์หรือไข่น้ำ นอกจากผักสลัดใบเขียวที่ทางร้านเลือกนำมาเสิร์ฟความอร่อยเพื่อเหล่านักชิมที่รักสุขภาพแล้ว ภายในจานนี้ยังประกอบด้วยวัตถุดิบคัดพิเศษคือ หน่อไม้ฝรั่งสีขาวและไส้กรอกอิตาเลียน ราดตามด้วย Horseradish Cream Sauce น้ำสลัดครีมซอสสูตรเฉพาะของทางร้าน ก่อนจะตกแต่งด้านบนสุดด้วยไข่ปลาคาเวียร์ เสิร์ฟมาพร้อมกับ Croutons หรือขนมปังกรอบรสชีสนำเข้าจากอิตาลีที่นิยมนำมาโรยหน้าซีซาร์สลัด ทานแล้วได้ความครีมมี่ รสชาติกลมกล่อม

 

Egg Benedict Caesar Salad (495 บาท)

ก่อนจะอิ่มท้องขึ้นมาอีกนิดกับ Smorked Pock Chop with Raspberry Gravy (560 บาท) พอร์คช็อปหมูรมควัน ที่ท็อปมาบนกะหล่ำปลีม่วงผัดเบคอน คลุกเคล้ามากับซอสมิกซ์เบอร์รีสูตรเฉพาะของทางร้าน ให้รสเปรี้ยวอมหวาน ทานแล้วไม่เลี่ยน โดยจะเสิร์ฟเคียงมากับหอมทอด ทานเข้ากันอย่างลงตัว

 

Smorked Pock Chop with Raspberry Gravy (560 บาท)

แล้วปิดท้ายกันด้วยเมนูของหวานกับ Dark Chocolate Self-Saucing Cake with Fresh Berries (460 บาท) เค้กช็อกโกแลตอบร้อน เสิร์ฟพร้อมซอสช็อกโกแลตและผลไม้สดตระกูลเบอร์รี เมนูนี้ได้ความหอมหวานของช็อกโกแลตที่ตัดกับรสเปรี้ยวของผลไม้ได้แบบพอดิบพอดี

 

Dark Chocolate Self-Saucing Cake with Fresh Berries (460 บาท)

Vanilla Cafeteria
ชั้น 2, The Helix Quartier, The EmQuartier
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
โทร. 0-2003-6124
www.vanillaindustry.com
www.facebook.com/vanillaindustry

3

Mozza By Cocotte

FULL REVIEW
 

Mozza By Cocotte

เปลี่ยนบรรยากาศมาทานอาหารสไตล์อิตาเลียนกันบ้างที่ Mozza ร้านอาหารอิตาเลียนในเครือเดียวกับ Cocotte และ Pesca Mar & Terra Bistro ที่ชูคอนเซ็ปต์การนำเสนออาหารอิตาเลียนสูตรดั้งเดิมจากครัวคุณย่าคุณยายมาให้ทุกคนได้ทาน โดยร้าน Mozza ตั้งอยู่บริเวณชั้น G ของ The EmQuartier คอยต้อนรับทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาใช้ช่วงเวลาดี ๆ ดื่มด่ำกับอาหารอิตาเลียนโฮมเมดกัน

FULL REVIEW
 

ต้อนรับกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาใช้ช่วงเวลาดี ๆ ดื่มด่ำกับอาหารอิตาเลียนโฮมเมด

ถึงแม้ว่าตัวร้านจะตั้งอยู่ในบริเวณศูนย์การค้าฯ แต่ก็ได้โลเคชันที่ติดกับบริเวณสวนส่วนกลาง จึงมีมุมนั่งสบาย ๆ ให้เลือกมากมายทั้งด้านในและด้านนอก ภายในร้านตกแต่งด้วยไม้สีเข้มและพื้นกระเบื้องลายที่ชวนให้นึกถึงร้านอาหารในอิตาลี ยังมีบริเวณครัวที่เปิดให้เห็นขั้นตอนการทำพิซซ่าอบสดใหม่ และบริเวณบาร์เครื่องดื่มที่ประดับด้วยขวดไวน์และเหล้านานาชนิด ตัดกับกำแพงต้นไม้สีเขียวที่เพิ่มความร่มรื่นให้กับร้าน

 

บรรยากาศร้านโซน Indoor

สำหรับอาหารของที่นี่ ยังคงคอนเซ็ปต์เดียวกับทุกร้านในเครือ Cocotte ที่เลือกใช้วัตถุดิบชั้นดีและเน้นการแบ่งกันทานเป็นหลัก เพื่อเป็นการสร้างช่วงเวลาแห่งความทรงจำร่วมกัน โดยได้เชฟใหญ่ Samuele Alvisi เชฟชาวอิตาลีที่เคยทำงานในร้านอาหารโรงแรมดังมาแล้วหลายประเทศ มาดูแลทุกเมนูของที่นี่ เมนูส่วนใหญ่จะเป็นเมนูสไตล์อิตาลีโฮมเมดที่ทางร้านตั้งใจนำเสนอให้เหมือนทานอาหารจากครัวของครอบครัวชาวอิตาลีแท้ ๆ 

 

หลากหลายเมนูอาหารสไตล์อิตาเลียนแท้ ๆ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยแบบจัดเต็ม

เริ่มจากเมนูยอดนิยมอย่าง Burrata with Tomato Confit & Balsamic Caramel (150 กรัม 490 บาท) เมนูชีสบูราต้าเนื้อเนียนนุ่มสไตล์อิตาลีที่มีให้เลือก 2 ขนาดทั้งแบบ 150 กรัม และ 300 กรัม ราดด้วย Vinegar Sauce และท็อปด้านบนด้วยมะเขือเทศลูกโตเนื้อสดฉ่ำ เป็นจานที่ทานแล้วสดชื่นเหมาะกับวันอากาศร้อน ๆ อย่างมาก

 

Burrata with Tomato Confit & Balsamic Caramel (150 กรัม 490 บาท)

จากนั้นมาต่อกันที่เมนู Carpi Salerno (760 บาท) โฮมเมดพิซซ่า ที่ท็อปด้านบนด้วย Stracciatella ชีสสไตล์อิตาเลียนที่ผลิตจากน้ำนมควาย มีรสชาตินุ่มละมุนใกล้เคียงกันกับชีสบูราต้า เสิร์ฟพร้อมมะเขือเทศสด และพาร์มาแฮมที่หมักมาถึง 24 เดือน ท็อปด้านบนมาด้วยใบโหระพาและมะเขือเทศเชอร์รี ได้ทั้งรสเค็มจากพาร์มาแฮมและรสหวานจากมะเขือเทศ ก่อนจะเอาใจคนรักเส้นด้วย Truffle Tagliolini (690 บาท) โฮมเมดพาสต้าเส้นสดแบบแทลเลียเตลเลหรือพาสต้าเส้นแบน ที่ท็อปด้านบนด้วยเห็ดทรัฟเฟิลสดสไลซ์และทรัฟเฟิลออยล์หอม ๆ 

 

Carpi Salerno (760 บาท)

 

Truffle Tagliolini (690 บาท)

ทานเมนูของคาวไปแล้ว อย่าลืมตบท้ายด้วยขนมหวานอย่าง Cocotte’s Tiramisu (290 บาท) ซอฟต์เค้กทีรามิสุ ที่ท็อปด้านบนด้วยครีมมาสคาโปนชีส เสิร์ฟพร้อมบิสกิตแบบแท่งที่นิยมนำมาตกแต่งหน้าเค้กทีรามิสุ คาราเมลนมหวาน และเจลลี่รสกาแฟ ตักทานพร้อมกันให้รสนุ่มละลายในปาก ผสานกลิ่นหอมหวานของคาราเมลและกาแฟอย่างลงตัว

 

Cocotte’s Tiramisu (290 บาท)

Mozza By Cocotte
ชั้น G, The Helix Quartier, The EmQuartier
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-22.00 น.
โทร. 09-7004-0072
www.mozza-bangkok.com
www.facebook.com/Mozzabkk

4

D’ARK

 

D’ARK

หากใครที่กำลังมองหาเมนูอาหารเพื่อสุขภาพอยู่ละก็ อย่าลืมไปอิ่มอร่อยกันต่อที่ D’ARK ไลฟ์สไตล์คาเฟ่สุดเก๋อีกหนึ่งสาขาที่ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้า The EmQuartier โดยทางร้านจะเน้นเสิร์ฟเมนูอาหาร Comfort Food สไตล์ Gourmet พร้อมด้วยเมนูเพื่อสุขภาพมากมาย รองรับตั้งแต่มื้อกลางวันไปจนถึงมื้อค่ำ ซึ่งทานแล้วเข้ากันกับเมนูเครื่องดื่มกาแฟคัดพิเศษ

 

โซนนั่ง Outdoor ในบรรยากาศสบาย ๆ ให้ความรู้สึกคล้ายกับ Street Cafe ของต่างประเทศ

บรรยากาศภายในร้านเป็นแบบเพดานยกสูง ให้ผู้ที่เข้ามาทานรู้สึกโปร่งโล่งสบาย ผ่อนคลายจากวันที่เหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี สำหรับเมนูแนะนำ เริ่มต้นกันที่เมนูเบา ๆ อย่าง Acai Super Bowl (450 บาท) สมูทตี้อาซาอิ ที่โรยหน้าด้วยกราโนล่าสูตรโฮมเมดและดอกอัญชัน พร้อมท็อปบนมาด้วยผลไม้สดรสเปรี้ยวและตระกูลผลไม้ที่ทานแล้วสดชื่น ได้แก่ แก้วมังกร กีวี สตรอเบอร์รี และมะม่วง ตักทานแล้วสัมผัสได้ถึงความหอมสดชื่น ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยวกำลังดี

 

Acai Super Bowl (450 บาท)

ก่อนจะเพิ่มความอิ่มสบายท้องมากขึ้นอีกนิดกับเมนู Truffle Mayo Chicken Sourdough (490 บาท) ขนมปัง Sourdough ราดซอสทรัฟเฟิลมายองเนส ท็อปบนด้วยอะโวคาโดบดที่ทางร้านนำมาคลุกเคล้ากับซอสสูตรเฉพาะ เสิร์ฟมาพร้อมกับเนื้อไก่ส่วนสะโพก แล้วโรยหน้าด้วยแผ่นชีส พริกไทย เกล็ดขนมปัง และผิวเลมอนที่มาช่วยเพิ่มความหอมสดชื่นตัดรสเลี่ยนให้จานนี้ได้เป็นอย่างดี 

 

Truffle Mayo Chicken Sourdough (490 บาท)

จากนั้นหันมาเอาใจคนรักเส้นด้วยเมนู Spaghetti Aglio Olio with Mussels (390 บาท) สปาเก็ตตี้ผัดเนยกระเทียม น้ำมันมะกอก และหอยแมลงภู่ไซส์ยักษ์ที่นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย เส้นสปาเก็ตตี้ที่ได้นั้นเหนียวนุ่ม มีกลิ่นหอมของเนยทุกคำที่ทานเข้าไป ใครได้ชิมเป็นต้องติดใจ

 

Spaghetti Aglio Olio with Mussels (390 บาท)

D’ARK
ชั้น G, The Helix Quartier, The EmQuartier
เปิด วันอาทิตย์-พฤหัสบดี เวลา 08.00-22.00 น.
วันศุกร์ เวลา 08.00-24.00 น.
วันเสาร์ เวลา 08.00-23.00 น.
โทร. 0-2003-6013
www.darkoffee.com
www.facebook.com/darkbkk

5

Roast

 

Roast

ส่งท้ายมื้อสุดประทับใจของวันกันที่ Roast ร้านอาหารที่เสิร์ฟความอร่อยด้วยอาหารแนว Western สไตล์ Comfort Food ภายในร้านเน้นบรรยากาศอบอุ่น สบาย ๆ เหมือนได้นั่งทานอาหารภายในบ้าน ด้านอาหารทางร้านได้มีการครีเอทหลากหลายเมนูจากวัตถุดิบคุณภาพดี สดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเมนูอาหารเช้า สลัด ซุป พาสต้า เบอร์เกอร์ เนื้อสัตว์ต่าง ๆ ปรุงสด ๆ แบบจานต่อจานจากเชฟผู้มีประสบการณ์ และของหวานหลากหลายรูปแบบ อาทิ วาฟเฟิล ซูเฟล และแพนเค้ก พร้อมด้วยเมนูกาแฟคั่วสดและเครื่องดื่มประเภทอื่น ๆ อีกมากมายแบบอิ่มครบจบคุ้มในร้านเดียว

 

บรรยากาศอบอุ่น สบาย ๆ ภายในร้าน ราวกับได้นั่งทานอาหารที่บ้าน

เมนูแนะนำ สำหรับอาหารคาว ได้แก่ Truffle Alfredo (280 บาท) โฮมเมดพาสต้าราดด้วยครีมซอสที่มีส่วนผสมของเห็ดชิตาเกะ เห็ดชิเมจิ เห็ดทรัฟเฟิลขูด และน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล ที่ให้รสชาติกลมกล่อมหอมละมุนแบบเต็มคำ

 

Truffle Alfredo (280 บาท)

ส่วนขนมหวานต้องลองซิกเนเจอร์เมนูอย่าง Strawberry Waffle (260 บาท) โฮมเมดวาฟเฟิลเนื้อกรอบนอกนุ่มในสอดไส้ด้วยวิปครีมและสตรอเบอร์รีสดชิ้นใหญ่แบบเน้น ๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศกรีมวานิลลาสูตรโฮมเมดที่ราดด้วยไซรัปข้าวโพดรสหวานละมุนให้ได้ทานคู่กัน

 

Strawberry Waffle (260 บาท)

Roast
ชั้น 1, The Helix Quartier, The EmQuartier
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
โทร. 09-4176-3870
www.roastbkk.com
www.facebook.com/roastbkk


เรียกได้ว่า EmQuartier Dining เป็นแหล่งรวมที่สุดของความอร่อย ซึ่งคัดสรรมาไว้ภายในศูนย์การค้า The EmQuartier แห่งนี้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเลือกทานที่ไหน ทุก ๆ ร้านล้วนเติมเต็มประสบการณ์การทานอาหารของคุณได้อย่างสมบูรณ์ ใครที่อยากมาลิ้มลองความอร่อย สัมผัสโมเมนต์ดี ๆ บรรยากาศการทานอาหารสบาย ๆ แบบนี้บ้าง ต้องห้ามพลาดมาเช็คอินที่ EmQuartier Dining ด้วยตัวเองสักครั้งแล้วล่ะ สามารถติดตามความอร่อยของร้านอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.emquartier.co.th หรือ www.facebook.com/EmporiumEmquartier