เอาใจคนรักอาหารทะเล ด้วย 5 ร้านซีฟู้ดนานาชาติ เสิร์ฟความสดใหม่ให้ได้ลิ้มลอง

Published on May 02, 2019

'ซีฟู้ด' อาหารทะเลที่มักถูกจัดให้อยู่ในประเภทอาหารโปรดปรานของเหล่านักชิมและใครหลายคนเสมอ แม้ทุกวันนี้จะมีร้านอาหารซีฟู้ดให้ได้เลือกทานมากมาย แต่จะดีแค่ไหนถ้าในกรุงเทพฯ มีร้านอาหารซีฟู้ดนานาชาติ ที่รวมวัตถุดิบจากทั่วทุกมุมโลกมาให้ลิ้มลองแบบไม่ต้องเดินทางไกลไปทานถึงต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้เอง BKK. จึงได้มีการรวบรวมร้านอาหารซีฟู้ดนานาชาติมาให้คนรักอาหารทะเลได้ตามไปฟิน อิ่มอร่อยโดยเฉพาะ ส่วนจะมีร้านไหนน่าสนใจบ้าง ตามไปเช็คอินพร้อม ๆ กันได้เลย

 

Red Oven

ถ้าเอ่ยถึงบุฟเฟ่ต์นานาชาติ ร้านแรกที่ขอแนะนำคือ Red Oven ห้องอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ และ A La Carte บนชั้น 7 ของโรงแรม SO Sofitel Bangkok มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ World Food Market ที่คัดสรรวัตถุดิบจากทั่วทุกมุมโลก มาสร้างสรรค์เป็นเมนูอร่อยล้ำและสดใหม่โดยเชฟมากฝีมือ ที่พลาดไม่ได้คือ Saturday From The Bay ไลน์บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ด Weekend Brunch คุณภาพพรีเมียมสดใหม่ส่งตรงจากทะเล ให้ชิมพร้อมชมวิวกรุงเทพฯ ที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนยามรับทานอาหาร บนตึกสูงของโรงแรม

FULL REVIEW
 

ทานอาหารบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดบนตึกสูง ในบรรยากาศสบาย ๆ

เอาใจคนรักซีฟู้ดด้วยกองทัพบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดสดใหม่จากหลากหลายประเทศ ทุกวันเสาร์สุดสัปดาห์ตลอด 3 ชั่วโมงครึ่ง โดยเฉพาะโซน Seafood From The Bay ที่คุณจะต้องหลงรัก เพราะเต็มไปด้วยบรรดา Seafood Cold Platter ให้เลือกตั้งแต่ กุ้ง กั้ง ล็อบสเตอร์ตัวใหญ่ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยแมลงภู่สเปน หอยนางรมสดเนื้อฉ่ำนำเข้าหลายสายพันธ์ุ เช่น Boudeuse Oyster, Fine de Claire และ Majestic Oyster ปูก้ามโตทั้ง Blue Crab, Brown Crab, Mud Crab และ King Crab Alaska และสารพัดเมนูจากปลาแซลมอน ปลาหมึก ซาชิมิ และอื่น ๆ อีกเพียบ ให้ทานคู่กับซอสซีฟู้ดรสจัดจ้านที่เผ็ดกำลังดี 

 

โซน Seafood From The Bay

 

Seafood Cold Platter

ในส่วนของเมนูไฮไลต์ ขอยกให้กับ Seafood Gratin รวมซีฟู้ดอบชีสในสไตล์อิตาเลียน โรยด้วยเกล็ดขนมปังป่นและชีส ก่อนนำไปอบให้เหลืองเกรียมน่าทาน และ Lobster Thermidor ล็อบสเตอร์เนื้อฉ่ำในซอส Hollandaise เข้มข้นที่ปรุงรสด้วยมัสตาร์ด ไข่แดง และบรั่นดี เสิร์ฟมาในเปลือกกุ้ง และโรยหน้าด้วยชีสที่อบจนเยิ้ม ชวนให้ลองชิม

 

หลากหลายเมนูซีฟู้ดสุดพรีเมียม

Red Oven
ชั้น 7 โรงแรม SO Sofitel Bangkok
ทุกวันเสาร์ เวลา 12.00 - 15.30 น.
โทร. 0-2624-0000
 

The Raw Bar

ตามมาด้วย The Raw Bar ร้านอาหารซีฟู้ดที่เน้นเสิร์ฟเมนูหอยนำเข้า ภายใต้คอนเซ็ปต์เก๋ไก๋ การตกแต่งร้านแบบดิบเท่ ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ในอู่เรือเก่าของหมู่บ้านชาวประมง ซึ่งถูกดัดแปลงให้เป็นร้านอาหารและเพิ่มลวดลายกราฟิตี้ที่มาช่วยเบรกความดิบให้ดูร่วมสมัยมากขึ้น ส่วนด้านอาหาร พร้อมเสิร์ฟเมนูที่ปรุงด้วยวิธีง่าย ๆ เน้นความสดอร่อยของวัตถุดิบจากท้องทะเล เมนูไฮไลต์คือ หอยนางรมนำเข้าจากต่างประเทศที่มีมาให้เลือกกว่า 16 ชนิด

FULL REVIEW
 

บรรดาหอยนำเข้าถูกวางเรียงรายให้ได้ลองชิม

เรียกน้ำย่อยกันเลยกับ Dirty Oyster หอยนางรมคุมาโมโตะหวานกรอบ หอมแดงสับ ซาวครีม ท็อปด้วยคาเวียร์ รสชาติออกมาลงตัว ต่อด้วย Hokkaido Scallops and Tuna Salad Mix สลัดหอยเชลล์ฮอกไกโดเนื้อหวานกับทูน่าเข้ากับพริกหยวกสีสันสดใส 

 

Dirty Oyster (990 บาท)

 

Hokkaido Scallops and Tuna Salad Mix

นอกจากเมนูดิบ ๆ แล้วก็มีจานปรุงสุกให้เลือกสั่งด้วย เช่น Alaska King Crab Roll with Brioche Bun เนื้อปูแน่นวางบนบริยอชบันฉ่ำเนย ไม่ต้องใส่ซอสอะไรเพิ่มก็อร่อยด้วยความสดหวานของปูและขนมปัง

 

Alaska King Crab Roll with Brioche Bun

The Raw Bar
ซอยสุขุมวิท 55 
เปิดทุกวัน เวลา 17.30 - 01.00 น.
โทร.0-2713-8335
www.facebook.com/TheRawBarBKK

3

Crab and Claw

FULL REVIEW
 

Crab and Claw

ต่อด้วย Crab and Claw ร้านอาหารทะเลที่นำเข้าวัตถุดิบสด ๆ จากหลายแหล่งทั่วโลก มาให้ชาวกรุงเทพฯ ได้ทานกันภายในโซน Helix ของ EmQuartier เพียงแค่ก้าวเข้ามาในร้านก็ได้บรรยากาศร้านอาหารทะเลแบบ New England ด้านหน้ามีลังไม้ใส่หอยนางรมตัวใหญ่ที่วางเรียงรายกัน ส่วนด้านในตกแต่งด้วยอุปกรณ์จับปลาต่าง ๆ ทั้งตาข่าย เบ็ด ทุ่น ที่ห้อยมาจากเพดาน ส่วนบนผนังซีเมนต์ที่ก่อหยาบ ๆ ก็มีภาพล็อบสเตอร์และปูสีแดงสดให้ได้บรรยากาศของทะเล รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์โต๊ะเก้าอี้ไม้เนื้อด้านก็ให้ความรู้สึก Rustic แบบเท่ ๆ

FULL REVIEW
 

อาหารทะเลสดใหม่มีให้เลือกทานมากมาย

แน่นอนว่าอาหารทะเลที่ดีต้องมีความสดใหม่ ที่นี่ยังได้เชฟจากนิวยอร์กและฮาวายแท้ ๆ มาปรุงอาหารในสไตล์ New England แบบเรียบง่ายให้คนทานได้รับรสอาหารทะเลที่แท้จริง จานที่ทุกคนไม่ควรพลาด Whole Lobster (1,800 / 2,600 บาท) ล็อบสเตอร์สีแดงสด เนื้อเหนียวนุ่มและมีความหวาน จะสั่งแบบนึ่งหรือย่างเสิร์ฟพร้อมเนย หรือสั่งแบบอบเนยกระเทียมก็อร่อยไม่แพ้กัน

 

Whole Lobster (1,800 / 2,600 บาท)

หรือใครชอบทานหอยนางรมสด ๆ ที่นี่ก็มีให้เลือกหลากหลายแบบ แนะนำให้ลองทาน Irish Premium (155 บาทสำหรับ 1 ตัว 900 บาทสำหรับ 6 ตัว 1,800 บาทสำหรับ 12 ตัว) จากไอร์แลนด์โดยจะมีรสหวานมัน ส่วนใครชอบรสชาติออกเค็มนิด ๆ แนะนำหอยนางรมจากฝั่งอเมริกาอย่าง Flapjack Point

 

Irish Premium (155 บาท สำหรับ 1 ตัว / 900 บาท สำหรับ 6 ตัว / 1,800 บาท สำหรับ 12 ตัว)

Crab and Claw
ชั้น 7 โซน Helix, EmQuartier
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 21.00 น.
โทร. 09-5564-5422
www.facebook.com/CrabandClaw

 

Shinsen Fish Market

Shinsen Fish Market ตลาดปลาของคนรุ่นใหม่ใจกลางสุขุมวิท 39 ที่นำเข้าอาหารทะเลแบบสด ๆ จากหลากหลายแหล่งทั่วโลก ทั้งอาหารทะเลแบบเป็น ๆ ให้เลือกช้อปและยังสามารถให้ทางร้านนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ในสไตล์โมเดิร์นแบบเรียบง่ายเลือกใช้สีโทนมืดเป็นส่วนใหญ่ ตกแต่งด้วยต้นไม้สีเขียวสบายตา เน้นทางเดินที่สะดวกเพื่อให้เดินช้อปปิ้งได้ได้อย่างสบายที่สุด ภายในร้านแบ่งกว้าง ๆ ออกเป็น 3 โซน คือ โซน Market ของสดที่มีทั้งอาหารทะเล เนื้อวัว อาหารแช่แข็ง โซนด้านหลัง จะเป็นบ่อเลี้ยงที่เต็มไปด้วย Live Product เป็นวัตถุดิบที่ยังมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็น หอยงวงช้าง หอยเชลล์ ล็อบสเตอร์ และปูทาราบะตัวยักษ์ 

 

อาหารทะเลสด ๆ จากหลากหลายแหล่งทั่วโลก

ส่วน โซนสุดท้าย จะกระจายตัวกันอยู่ทั่วร้านเป็นส่วนของร้านอาหาร ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ตามประเภทของอาหารที่ปรุง ได้แก่ Raw & Steam Bar, Sushi Bar, Grill Bar, Cafe และ Shabu เริ่มกันที่เมนูจาก Sushi Bar ทางร้านแนะนำ Assort Sashimi 9 (990 บาท) ซาชิมิสดใหม่รวม 9 ชนิด ได้แก่ Salmon, Ikura, Uni, Hotate, Amaebi, Aori Ika, Hamachi, Chutaro และ Akami  

 

Assort Sashimi 9 (990 บาท)

Live Taraba (250-300 บาท/100 กรัม) เมนูจากทาง Raw Bar ปูทาราบะนึ่ง เนื้อแน่นหวานแบบไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้ม ซึ่งเมนูนี้สามารถเลือกขนาดปูที่ชอบได้จากบ่อเลี้ยงด้านหลัง หรือจะสั่งเป็นเฉพาะขามากินก็ได้

 

Live Taraba (250-300 บาท / 100 กรัม)

Shinsen Fish Market
สุขุมวิท 39
เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 21.00 น.
โทร. 0-2260-6522
www.facebook.com/Shinsenfishmarket

 

The Dock

The Dock ร้านอาหารซีฟู้ดเต็มรูปแบบ พร้อมเสิร์ฟอาหารทะเลสด ๆ นำเข้าอาหารทะเลจากน่านน้ำรอบโลก เหมือนเพิ่งยกขึ้นจากท่าเรือ เพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มลองและเข้าถึงกันง่ายขึ้น คอนเซ็ปต์การตกแต่งร้านเน้นให้ตัวร้านมีบรรยากาศสบาย ๆ คล้ายท่าเรือ บริเวณตรงกลางร้าน มีตู้กระจกบรรจุอาหารทะเลเป็น ๆ ให้เลือกมากมาย เช่น หอยนางรมจากหลายประเทศ ล็อบสเตอร์จากรัฐเมน และหอยงวงช้างจากบอสตัน เป็นต้น ซึ่งทุกอย่างจะถูกส่งจากอเมริกาและยุโรปมาถึงประเทศไทยภายใน 48 ชั่วโมง

FULL REVIEW
 

บรรยากาศสบาย ๆ คล้ายได้นั่งทานซีฟู้ดที่ท่าเรือ

เริ่มต้นด้วยจานเรียกน้ำย่อยกับเมนู Oyster & Caviar Pearls (850 บาท) ที่จับคู่เมนูขายดีอย่างหอยนางรม Tsarkaya กับวัตถุดิบชั้นเยี่ยมอย่างคาเวียร์ Lumpfish มาไว้ในจานเดียวกัน ทานแล้วอย่าลืมตบท้ายด้วยแชมเปญช็อตเพื่อล้างปากเตรียมทานเมนูต่อไป 

 

Oyster & Caviar Pearls (850 บาท)

สำหรับ​ใครที่ชอบทานแซลมอน ลองสั่ง Loch Duart Salmon Tartare (395 บาท) นำเอาแซลมอนสด Loch Duart จากสกอตแลนด์ที่มีจุดเด่นคือไขมันน้อยและรสสัมผัสที่ค่อนข้างเด้ง นำมาทำเป็นทาทาร์ ปรุงรสด้วยวาซาบิสดกับซอสญี่ปุ่น ด้านบนท็อปด้วยคาเวียร์ ทานกับซอสกัวคาโมเล ซอสบีทรูท และซอสมะม่วง รสชาตินุ่ม ไม่มีกลิ่นคาว

 

Loch Duart Salmon Tartare (395 บาท)

The Dock
Maze Thonglor ซอยทองหล่อ 4
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 21.00 น.
โทร. 0-2259-8452
www.facebook.com/TheDockSeafood