8 ร้าน Specialty Coffee ตัวจริงเรื่องกาแฟ ที่พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มแก้วพิเศษเพื่อคุณ!

Published on March 31, 2021

ว่ากันว่า “วันดี ๆ เริ่มต้นที่กาแฟแก้วแรก” BKK. จึงขอชวนทุกคนมาเริ่มต้นวันใหม่ด้วยกาแฟดี ๆ กันสักแก้ว ที่รังสรรค์ความพิเศษโดย 8 ร้าน Specialty Coffee ตัวจริงเรื่องกาแฟ พร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้คุณได้ดื่มด่ำกาแฟแก้วโปรด ที่จะเปลี่ยนวันธรรมดาของคุณให้กลายเป็นช่วงเวลาดี ๆ ที่น่าประทับใจ

หมายเหตุ : จากประกาศกรุงเทพมหานคร ทางร้านยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบวันเวลาเปิด-ปิด โดยตรงกับทางร้าน ทั้งนี้อย่าลืมให้ความสำคัญกับการสวมหน้ากากอนามัยและการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อลดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของ Covid-19

1

Factory Coffee Bangkok

FULL REVIEW
 

Factory Coffee Bangkok

เริ่มต้นกันที่ร้านกาแฟในตำนานอย่าง Factory Coffee ที่พร้อมเปิดร้านต้อนรับการเริ่มต้นวันใหม่ของคุณด้วยกาแฟแก้วคุณภาพ โดยฝีมือบาริสต้ามากประสบการณ์ การันตีความพิเศษด้วยหลากหลายรางวัลที่บาริสต้าของทางร้านคว้ามา ทั้งตำแหน่งชนะเลิศ Thailand Indy Barista Champion 2017 จาก คุณสมาร์ท-วรพล ถือความสัตย์ รางวัล National Thailand Barista Champion 2017 จาก คุณบิว-เศรษฐการ วีรกุลเทวัญ หรือจะเป็นแชมป์ National Thailand Barista Champion 2018 จาก คุณแมน-อธิป 

FULL REVIEW
 

Factory Coffee Bangkok

เพราะว่ากาแฟที่ดีนอกจากจะอยู่ที่รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว คาแร็กเตอร์ของเมล็ดกาแฟ รวมถึงเทคนิคการชงของบาริสต้าแต่ละคนยังช่วยสร้างเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าจะให้ดีต่อใจขอเลือกเมนูที่สมาร์ทตั้งใจทำและแนะนำให้ลองดื่มอย่าง Mrs.Cold (90 บาท) กาแฟ Signature ที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอ โดยเลือกใช้นมเย็นจัดสูตรพิเศษของทางร้าน ราดด้วยช็อตเอสเพรสโซและไซรัปโฮมเมดสูตรลับ ที่ทำให้รสสัมผัสในแต่ละครั้งมีความ Creamy เข้ากับความเข้มขมของกาแฟ ก่อนจะทิ้งท้ายด้วยความกลมกล่อมหอมละมุนที่หลงเหลืออยู่ภายในปาก

เพื่อความสะดวกและปลอดภัย สามารถเลือกใช้บริการในรูปแบบ Take Away และสั่งเดลิเวอรีผ่านทางแอปพลิเคชัน GrabFood หรือ LINE MAN

 

Mrs.Cold (90 บาท)

Factory Coffee Bangkok
Airport Rail Link สถานีพญาไท
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.
โทร. 08-0958-8050
www.facebook.com/factorybkk

2

Bottomless Flagship Store

FULL REVIEW
 

Bottomless Flagship Store

ต่อด้วย Bottomless Flagship Store ร้านกาแฟบริเวณถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ซึ่งเปลี่ยนร้านเล็กในซอยลึกมาเป็นพื้นที่ใหม่เพื่อให้คนรักกาแฟได้มาพบปะกัน พร้อมเสิร์ฟ Specialty Coffee ที่ยกมาครบทั้งทีมบาริสต้ามากฝีมือและอุปกรณ์ครบครันเพื่อให้ได้กาแฟแก้วที่ดีที่สุดกับคอกาแฟตัวจริง

FULL REVIEW
 

Bottomless Flagship Store

ที่นี่เกิดจากองค์ความรู้ทั้งหมดในการศึกษาเรื่องกาแฟมากว่า 20 ปี จนเข้าใจถึงธรรมชาติของกาแฟ ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านการเลือกเมล็ดกาแฟหลายสัญชาติที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น เบลนด์ออกมาเป็นรสชาติที่ให้มิติและคาแร็กเตอร์เฉพาะตัว เช่น Brix Blend ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างเมล็ดกาแฟไทย โคลอมเบีย และกัวเตมาลา ที่ให้ Taste Note หอมสดชื่นของช็อกโกแลต, ส้ม Citrus ที่ชัดเจน และ Wanna Be เมล็ดกาแฟเบลนด์จากบราซิลและเอธิโอเปีย แต่ถ้าใครชอบดื่มแบบ Single Origin ทางร้านก็มีเมล็ดพันธุ์ใหม่ ๆ หมุนเวียนมาให้ลองชิมกันอยู่เสมอ 

มาแล้วลองชิม Cold Brew Cherry (150 บาท) ดื่มด่ำรสสัมผัสเบาบางแต่นุ่มลึกของกาแฟสกัดเย็น ที่เติมความซาบซ่าของโซดาลงไปเพื่อเพิ่มความสดชื่น พร้อมด้วยรสหวานอมเปรี้ยวของไซรัปเชอร์รี

เพื่อความสะดวกและปลอดภัย สามารถเลือกใช้บริการในรูปแบบ Take Away และสั่งเดลิเวอรีผ่านทางแอปพลิเคชัน GrabFoodLINE MAN หรือ foodpanda

 

Cold Brew Cherry (150 บาท)

Bottomless Flagship Store
ถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี

เปิดทุกวัน เวลา 10.00-18.00 น.

โทร. 06-5592-2945

www.facebook.com/Bottomless.es

3

Hario Cafe Bangkok

FULL REVIEW
 

Hario Cafe Bangkok

หนึ่งคาเฟ่จากญี่ปุ่นอย่าง Hario Cafe Bangkok ที่ทั้งเรียบง่ายและแฝงไว้ด้วยความอบอุ่น ซึ่งหากใครที่ชื่นชอบและคลุกคลีอยู่ในวงการกาแฟมาก่อนนั้น จะต้องรู้จักแบรนด์ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์กาแฟดริปคุณภาพสูงจากประเทศญี่ปุ่นอย่าง Hario แน่นอน

จากสาขาแรกที่ญี่ปุ่นและสาขา 2 ที่จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ก็ได้ขยายความอร่อยสู่สาขา 3 ที่ย่านโชคชัย 4 โดยโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์การตกแต่งร้านให้ออกมาในโทนสีขาวแบบสไตล์ Minimal ที่เน้นความสบายตาด้วยแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านกระจกรอบทิศทาง ดึงดูดใจให้ใครหลายคนได้แวะเวียนมาชิลล์เอาต์ ณ สวนสวยสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของร้านแห่งนี้เลยก็ว่าได้

FULL REVIEW
 

Hario Cafe Bangkok

สำหรับใครที่เป็นสายดริป ทางร้านแนะนำให้ลองดื่ม Hot Drip (85 บาท) กาแฟดริปที่สกัดจากเมล็ดกัวเตมาลา ให้รสสัมผัสแบบ Fruity โดยจะให้กลิ่นของสตรอเบอร์รีและมอลต์ ให้คุณดื่มด่ำช่วงเวลาดี ๆ ได้อย่างน่าประทับใจ 

เพื่อความสะดวกและปลอดภัย สามารถเลือกใช้บริการในรูปแบบ Take Away และสั่งเดลิเวอรีผ่านทางแอปพลิเคชัน GrabFoodLINE MANfoodpanda หรือ Robinhood

 

Hot Drip (85 บาท)

Hario Cafe Bangkok 
โชคชัย 4 ซอย 39 
เปิดทุกวัน เวลา 06.00-21.00 น.
โทร. 08-5480-2920
www.facebook.com/hariocafebkk

 

Sleep Enemy

Sleep Enemy หนึ่งในร้าน Specialty Coffee ร้านโปรดของใครหลายคน โดยตอนนี้ได้ทำการโยกย้ายจากบ้านหลังเก่าในย่านรัชโยธินมายังเปิดตัวยังโลเคชันใหม่ที่ย่านสะพานควาย ซึ่งกลับมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์และแนวการตกแต่งสุดเท่แบบ American Factory ที่แบ่งสัดส่วนภายในร้านออกเป็นโรงคั่วและคาเฟ่ในพื้นที่เดียวกัน พร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนูเครื่องดื่มที่รังสรรค์จากเมล็ดกาแฟ House Blend ใหม่ ๆ ที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนมาให้คอกาแฟได้สนุกไปกับการเลือกดื่มกันอีกด้วย

FULL REVIEW
 

Sleep Enemy

ที่นี่มีเมนู Signature น่าลองมากมาย พร้อมด้วยเมล็ดกาแฟให้เลือกกันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็น Hurt Specialist (125 บาท) หรือชื่อไทยคือ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านความเจ็บปวด' เมนูที่ใช้เมล็ดกาแฟ Boring Bean ที่เป็นกิมมิกของทางร้าน ผสานเข้ากับน้ำองุ่น และ Rose Water ให้สัมผัสสดชื่นออกมาเป็นเมนูดื่มง่ายเหมาะสำหรับสาว ๆ 

เพื่อความสะดวกและปลอดภัย สามารถเลือกใช้บริการในรูปแบบ Take Away และสั่งเดลิเวอรีผ่านทางแอปพลิเคชัน Robinhood

 

Hurt Specialist (125 บาท)

Sleep Enemy
โครงการ The Hub สะพานควาย
เปิด วันพฤหัสบดี-อังคาร (ปิดวันพุธ) เวลา 10.00-17.00 น.
โทร. 06-4915-6696
www.facebook.com/sleepenemy

5

กระทรวงการคั่ว

FULL REVIEW
 

กระทรวงการคั่ว

ชวนมาดื่มด่ำหลากหลายเมนู Specialty Coffee ที่ กระทรวงการคั่ว Ministry of Roasters ร้านกาแฟและโรงคั่วที่คัดสรรหลากหลายเมล็ดกาแฟคุณภาพดีจากทั่วโลก พร้อมเสิร์ฟความอร่อยด้วยฝีมือจากทีมแชมป์บาริสต้าหลากหลายเวที โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากความหลงใหลในกาแฟของเจ้าของร้าน และอยากเเชร์ความรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำ จึงเป็นที่มาการตั้งชื่อร้าน ‘กระทรวงการคั่ว’ ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

FULL REVIEW
 

กระทรวงการคั่ว

สัมผัสกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟแก้วแรกกับ Single Origin ​Filter Coffee Hot (120-350 บาท) กาแฟดริปที่ทางร้านมีให้เลือกกว่า 30 รสชาติด้วยกัน โดยราคาจะขึ้นอยู่กับเมล็ดกาแฟและอุปกรณ์ที่เลือกใช้ เสิร์ฟมาในแก้วทรงไวน์ เพื่อให้ได้รสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอมอโรมาของกาแฟที่ชัดเจน

เพื่อความสะดวกและปลอดภัย สามารถเลือกใช้บริการในรูปแบบ Take Away 

 

Origin ​Filter Coffee Hot (120-350 บาท)

กระทรวงการคั่ว
1 ถนนสุขุมวิท 101/1 เขตพระโขนง
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-19.00 น.
โทร. 09-6697-5060
www.facebook.com/MinistryofRoasters

6

Roast Runner

 

Roast Runner

ถัดมากันที่อีกหนึ่งตัวจริงเรื่องกาแฟอย่างร้าน Roast Runner โรงคั่วกาแฟชื่อดังในย่านถนนบรมราชชนนี ที่มีดีกรีรางวัล World Cup Tasters มาการันตีคุณภาพ ทำให้มั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้รับเมล็ดกาแฟที่ถูกใจไปดื่มด่ำกันที่บ้านแน่นอน

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 Roast Runner คือโรงคั่วกาแฟขนาดเล็ก หรือ Micro Roaster ที่เกิดจากความหลงใหลในรสชาติกาแฟของกลุ่มเพื่อน 3 คน คือ คุณแชมป์- วรุตม์ ตั้งสุริยาไพศาล, คุณแท๊ป-ธนทัต สมบัติพานิช และ คุณกร-ปกรณ์ สุนทรญาณกิจ ที่ร่วมมือกันเริ่มต้นคั่วกาแฟด้วยตัวเอง เริ่มจากการเป็นนักชิม สะสมประสบการณ์การทางด้านกาแฟ จนคว้ารางวัลจากหลายรายการแข่งขัน กลายมาเป็น Roast Runner โรงคั่วกาแฟเจ้าแรก ๆ ที่ทำให้เกิดกระแสของ Specialty Coffee โดยมีพระเอกเป็นเมล็ดเบลนด์เฉพาะของทางร้านภายใต้ชื่อ Jason Brown และ Marathon นั่นเอง 

 

เมล็ดกาแฟ Marathon จาก Roast Runner

หนึ่งในกิมมิกของทางร้านก็คือ Exotic Special Blend ที่ทาง Roast Runner เลือกเอาความโดดเด่นของเมล็ดกาแฟหายากมาเบลนด์ออกมาให้ชิมเพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ซึ่งจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปในแต่ละครั้งและมีจำนวนจำกัด ภายใต้ชื่อ Panther (250 g. / 450 บาท) หรือจะเป็นเมล็ดที่เหมาะกับการดริปกาแฟเองที่บ้านอย่าง Peru Jumarp (200 g. / 490 บาท) ที่ผ่านกระบวนการ Washed Process ให้ Taste note ออก Nutty คล้ายกับอะโวคาโดและวอลนัท และแทรกไปด้วยความเปรี้ยวเล็กน้อย หรือจะเป็นเมล็ด Kochere Yirgacheffe Ethiopia (200 g. / 520 บาท) จาก Natural Process ให้สัมผัส Fruity มี Taste Notes แบบ Strawbery Jam, English Tea และ Lavender

เพื่อความสะดวกและปลอดภัย สามารถสั่งเดลิเวอรีเมล็ดกาแฟผ่านทางแอปพลิเคชัน LINE Official @roastrunner

 

Panther (250 g. / 450 บาท)

 

Roast Runner

Roast Runner
99/8 ถนนบรมราชชนนี
เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น.
โทร. 09-5925-4437
www.facebook.com/roastrunner

 

Red Diamond Cafe

หรือจะลองแวะมาที่ Red Diamond Cafe ร้าน Specialty Coffee และโรงคั่วในบรรยากาศดิบเท่ ที่ตั้งอยู่ปากซอยสังคมสงเคราะห์ ร้านนี้เกิดขึ้นจากความคิดของ คุณวู้ดดี้-เจ้าของร้าน และ Coffee Trainer ที่ได้การรับรองจาก Specialty Coffee Coffee Association of Europe (SCAE) ซึ่งคุณวู้ดดี้อยากให้คาเฟ่แห่งนี้เป็นพื้นที่สำหรับแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับกาแฟในทุกด้าน

FULL REVIEW
 

Red Diamond Cafe

ขั้นตอนการสั่งกาแฟที่ Red Diamond Cafe จะเริ่มจากการเลือกเครื่องชงกาแฟที่ทางร้านมีทั้งหมด 3 เครื่อง ตัวแรกคือ Mavam Espresso Machine ที่มีความพิเศษคือเป็นเครื่องประเภท Under Counter ทำให้ผู้ดื่มและผู้ชงกาแฟได้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น เพราะไม่มีเครื่องใหญ่ ๆ มาตั้งขวางหน้า 

เพื่อความสะดวกและปลอดภัย สามารถสั่งเดลิเวอรีเมล็ดกาแฟผ่านทางแอปพลิเคชัน LINE Official @RED DIAMOND CAFE

 

Mavam Espresso Machine

Red Diamond Cafe
ถนนสังคมสงเคราะห์
เปิด วันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 09.00-20.00 น.
โทร. 08-5044-2662
www.facebook.com/Reddiamondthailand

8

Nana Coffee Roasters Ari

FULL REVIEW
 

Nana Coffee Roasters Ari

ปิดท้ายกันที่ Nana Coffee Roasters Ari สาขาใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ Nana Coffee Roasters ที่ครั้งนี้มาเปลี่ยนบ้านหลังใหญ่ในอารีย์ซอย 4 ให้กลายเป็นพื้นรวมตัวแห่งใหม่ของคอกาแฟโดยฝีมือของ คุณกุ้ง-กานดา โทจำปา และ คุณกุ้ง-วรงค์ ชลานุพงษ์ สองนักคั่วกาแฟฝีมือดีและแชมป์บาริสต้าจากหลายเวทีที่เป็นผู้ริเริ่มแบรนด์ ก่อนจะจับมือกับ คุณฝ้าย-นันท์นภัส มัลลิกะมาลย์ ที่ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์และสร้างสรรค์สาขาที่สามแห่งย่านอารีย์นี้

ขึ้นมา

FULL REVIEW
 

Nana Coffee Roasters Ari

สำหรับเมนูต่าง ๆ ของทางร้านแน่นอนว่าเมื่อเอ่ยถึง Nana Coffee Roasters คงต้องนึกถึงหลากหลายเมนู Specialty Coffee ระดับคุณภาพเป็นอันดับแรก และสำหรับที่สาขาอารีย์นี้ก็มีเมล็ดกาแฟ Single Origin ให้เลือกมากถึง 30 ชนิด ตั้งแต่เมล็ดกาแฟไทยไปจนถึงเมล็ดจากต่างประเทศ​ โดยแต่ละตัวนั้นมีความพิเศษและมี Taste Note ที่แตกต่างกันออกไปไม่ว่าจะสดชื่นสุด ๆ ในโทนฟรุ้ตตี้หรือละมุนแบบนัตตี้ก็ดีไม่แพ้กัน 

สำหรับใครที่เป็นคอกาแฟ ทางร้านแนะนำให้ลองแวะมาที่ Slowbar กับเมนู Moonstone Siphon (250 บาท) กาแฟไซฟอนจาก Moonstone ให้กลิ่นและรสชาติที่สดชื่นเฉพาะตัวไม่เหมือนใครกับ Taste Note ที่หอมลิ้นจี่และกุหลาบ

เพื่อความสะดวกและปลอดภัย สามารถเลือกใช้บริการในรูปแบบ Take Away และสั่งเดลิเวอรีผ่านทางแอปพลิเคชัน LINE Official @nanacoffeeari หรือ LINE MAN

 

Moonstone Siphon (250 บาท)

Nana Coffee Roasters Ari
อารีย์ซอย 4
เปิด วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00-18.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-18.00 น.
www.facebook.com/nanacoffeeroastersari