ทำความรู้จักกับ 10 ร้านอาหารหน้าใหม่ เจ้าของรางวัลมิชลินสตาร์ประจำปี 2562

Published on November 14, 2018

สิ้นสุดการรอคอย สำหรับงานประกาศรางวัลมิชลินสตาร์ประจำปี 2562 หรือ Thailand's MICHELIN Star Revelation 2019 ที่ทุกคนต่างตั้งตารอคอยกับการแจกดาวให้กับร้านอาหารที่ผ่านมาตรฐานในแบบมิชลิน รวมร้านอาหารที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ ภูเก็ต และพังงา เพื่อเฟ้นหาสุดยอดร้านอาหารที่โดดเด่นและผ่านหลักเกณฑ์ของมิชลินว่าควรค่าแก่การเดินทางไปชิมและคัดเลือกลงในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต และพังงา ประจำปี 2562' ซึ่งเป็นคู่มือฉบับที่ 2 ของประเทศไทย และเป็นฉบับแรกที่ครอบคลุมพื้นที่นอกเขตกรุงเทพฯ ได้แก่ ภูเก็ต พังงา และจังหวัดในเขตปริมณฑล เล่มล่าสุดนี้มีการบรรจุรายชื่อร้านอาหารที่ผ่านการคัดสรรวมทั้งสิ้น 217 แห่ง โดยมีร้านอาหารที่ได้รับรางวัล 2 ดาวมิชลิน จำนวน 4 ร้าน (เป็นร้านอาหารใหม่ 1 ร้าน) และ 1 ดาวมิชลิน จำนวน 23 ร้าน (เป็นร้านอาหารใหม่ 10 ร้าน), ร้านอาหารประเภท Bib Gourmand และโรงแรมต่าง ๆ 


หลักเกณฑ์การพิจารณาร้านอาหาร ประกอบไปด้วย 1.วัตถุดิบที่นำมาใช้ปรุงอาหาร 2.เทคนิคการปรุงอาหารและรสชาติ 3.ความคุ้มค่าคุ้มราคา 4.บุคลิกภาพของเชฟ และ 5.ความคงที่ของอาหาร


สำหรับร้านอาหารที่ได้รับเลือกในปีนี้ นอกจากจะสะท้อนให้เห็นถึงประสบการณ์ด้านอาหารที่หลากหลาย ทั้งในและนอกเขตกรุงเทพฯ แล้ว ในปีนี้ยังมีร้านอาหารไทยที่ได้รับมิชลินสตาร์ถึง 50% ของทั้งหมด สื่อถึงวัฒนธรรมอาหารไทยอันเป็นเอกลักษณ์ และยังได้เห็นแนวโน้มความนิยมในการให้เชฟเป็นผู้กำหนดเมนูครบคอร์ส เพื่อให้ผู้ทานอาหารได้รับความประทับใจในการทานอาหารที่สมบูรณ์แบบที่สุด

 

ร่วมถ่ายภาพความประทับใจ (Photo by Michelin Guide)

ร้านที่ผ่านการคัดสสรรรให้ได้รับรางวัล 2 ดาวมิชลิน ในปีก่อนยังคงรักษาสถานะดาวมิชลินเอาไว้ได้เช่นเดิม ได้แก่ Gaggan, Le Normandie และ Mezzaluna โดยมี Sühring เป็นร้านอาหารเพียงร้านเดียวที่มีรายชื่อเพิ่มเข้ามาในปีนี้ โดยเลื่อนระดับจาก 1 ดาวมิชลิน เป็น 2 ดาวมิชลิน 


นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหาร 23 ร้านที่ได้รับรางวัล 1 ดาวมิชลิน โดย Le Du และ GAA เป็นเพียง 2 ร้านที่ครองรางวัล 1 ดาวมิชลินด้วยการเลื่อนระดับมาจากรางวัล Plate ซึ่งมอบให้กับร้านอาหารที่นำเสนออาหารคุณภาพดีโดยใช้วัตถุดิบที่สดใหม่และสะท้อนความสามารถในการปรุงอาหารที่ดี  และในบรรดาร้านอาหาร 1 ดาวมิชลินที่ติดอับดับในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ครั้งแรกจำนวน 8 ร้าน โดย 5 ร้านในจำนวนนี้อยู่ในเขตกรุงเทพฯ ได้แก่ Canvas ร้านที่ผสานอาหารและศิลปะเข้าไว้ด้วยกัน อาหารทุกจานเปรียบเสมือนผลงานชิ้นเอกที่เชฟบรรจงรังสรรค์ขึ้นจากวัตถุดิบท้องถิ่นระดับพรีเมียมโดยใช้เทคนิคประกอบอาหารที่หลากหลาย, เมธาวลัย ศรแดง ร้านที่โดดเด่นด้วยอาหารรสชาติเข้มข้นถึงเครื่องและปรุงขึ้นอย่างประณีต จนทำให้ลูกค้าแวะเวียนกลับมาตลอด 60 ปี, R-Haan ร้านที่นำเสนออาหารไทยสไตล์ต้นตำรับ ทั้งอาหารท้องถิ่นพื้นบ้านและอาหารชาววัง โดยใช้วัตถุดิบชั้นดีจากทั่วประเทศ, Sawaan ร้านอาหารที่นำเสนอเฉพาะเซ็ตเมนูอาหารไทย 10 คอร์ส ซึ่งรังสรรค์ขึ้นจากวัตถุดิบตามฤดูกาลที่คัดเลือกจากแหล่งชั้นดี ทุกจานมีรสชาติและรสสัมผัสที่ซับซ้อนแต่กลมกล่อมและลุ่มลึก และ ศรณ์ ร้านอาหารที่ได้ชื่อว่าคืนชีวิตให้แก่ศิลปะแห่งอาหารใต้ที่เคยสูญหายไปตามกาลเวลา โดยใช้วัตถุดิบจากกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรและชาวประมง ผ่านการปรุงด้วยความรักและความใส่ใจอย่างละเมียดละไมในทุกขั้นตอน ในเขตปริมณฑล ได้แก่ เรือนปั้นหยา (จังหวัดสมุทรสาคร) ธุรกิจร้านอาหารของครอบครัวเล็กๆ แต่มีชื่อเสียงจากการบอกต่อกันปากต่อปากด้วยความอร่อยและคุณภาพที่เหนือชั้น และ สวนทิพย์ (จังหวัดนนทบุรี) ร้านอาหารท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นท่ามกลางแมกไม้เขียวขจีริมแม่น้ำที่นำเสนออาหารไทยโบราณแสนประณีตสไตล์ชาววัง และมีร้านอาหารแห่งเดียวในจังหวัดภูเก็ตที่ได้รับรางวัล 1 ดาว คือ PRU ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในรีสอร์ทสุดหรู นำเสนออาหารที่ปรุงอย่างพิถีพิถันและจัดแต่งอย่างประณีต 

 

บรรยากาศการแถลงข่าวภายในงาน (Photo by Michelin Guide)

ที่น่าสนใจก็คือ ร้านอาหาร 3 ร้าน ซึ่งได้รับรางวัล 1 ดาวมิชลิน ในปีที่ผ่านมา ได้แก่ Elements, Nahm และ เสน่ห์จันทน์ ยังคงสามารถรักษาสถานะดาวของตนเองไว้ได้ แม้จะมีการเปลี่ยนเชฟประจำร้านก็ตาม นอกจากนี้ร้านที่ยังคงรักษาดาวมิชลินไว้ได้ ยังมี Paste, Srabua By Kinn, Savelberg, J'aime, L'atelier de Joel Robuchon, Chim by Siam Wisdom, Upstairs by Mikkeller, Bo.Lan, Ginza Sushi Ichi และ เจ๊ไฝ

 

มร.เกว็นเดล พูเลเนค และโฉมหน้าเหล่าเชฟมิชลิน 2 ดาว (Photo by Michelin Guide)

 

มร.เกว็นเดล พูเลเนค และโฉมหน้าเหล่าเชฟมิชลิน 1 ดาว (Photo by Michelin Guide)

ผู้ที่สนใจสามารถคลิกดูรายชื่อและข้อมูลร้านอาหารทั้งหมดที่ได้รับคัดสรรและจัดอันดับอยู่ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ตและพังงา’ ประจำปี 2562 ซึ่งจัดทำเป็น 2 ภาษา ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ได้ทางเว็บไซต์ www.guide.michelin.com สำหรับคู่มือแบบรูปเล่มจะเริ่มวางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป ในราคาเล่มละ 650 บาท ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน เป็นต้นไป


สำหรับใครที่ติดตามมิชลินสตาร์ตั้งแต่ปีที่แล้ว คงรู้จักร้านที่ได้รับดาวมิชลินปี 2018 กันแล้ว สำหรับปี 2019 นี้ BKK. ขอแนะนำ 10 ร้านหน้าใหม่ที่ได้รับมิชลินสตาร์ปีนี้มาให้ได้ทำความรู้จักพร้อม ๆ กันเลย

 

ร้านอาหารไฟน์ไดน์นิ่งพร้อมต้อนรับเหล่าฟู้ดดี้และผู้ที่สนใจเปิดประสบการณ์ทานอาหารสไตล์ที่แตกต่างจากฝีมือเชฟ Riley Sanders เชฟใหญ่ผู้สั่งสมประสบการณ์ด้านอาหารและเทคนิคต่าง ๆ จากการตระเวนไปเรียนรู้กับเชฟมิชลินชื่อดังและเดินทางท่องเที่ยวรอบโลกเพื่อค้นหารสชาติและวัตถุดิบใหม่ ๆ มาสรรค์สร้างเป็นอาหารจานพิเศษที่ไม่เหมือนใคร พิถีพิถัน คัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นระดับพรีเมียมมาผสมผสานเข้ากับเทคนิคขั้นสูงที่หลากหลาย นำเสนอเมนูทั้ง 6 และ 9 คอร์ส โดยปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาลและแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ของเชฟ ท่ามกลางบรรยากาศสุดหรูที่นำภาพวาด Canvas ขนาดใหญ่กลางห้องที่บ่งบอกถึงความเป็นศิลปะของที่นี่ 


Canvas
113/9-10 ซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ)
เปิดทุกวัน เวลา 18.00-00.30 น.
โทร. 0-2069-3067, 099-614-1158
www.facebook.com/Canvasbkk

FULL REVIEW
 

ร้านอาหารที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างอดีตเชฟจาก Gaggan และหุ้นส่วนอีกสามคน เข้ามาทำให้ย่านนี้มีร้านอาหารดี ๆ เพิ่มมากขึ้น ทางร้านได้เชฟ Garima Arora เชฟสาวเชื้อสายอินเดียมาดูแลและครีเอทเมนูต่าง ๆ ของร้าน ผ่านการเรียนทำอาหารจากปารีสอีกทั้งยังได้ร่วมงานกับ Gordon Ramsay ในร้านอาหาร Bread Street Kitchen & Bar ที่ดูไบ ต่อด้วย Noma ห้องอาหารระดับมิชลิน 2 ดาวที่กรุงโคเปนเฮเกน และได้มาอยู่ที่ Gaggan จนกระทั่งมาเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเองที่ฝั่งตรงข้าม สำหรับอาหารมาในคอนเซ็ปต์ Modern Eclectic ที่ผสมผสานระหว่างวัตถุดิบชั้นเลิศทั่วประเทศไทยเข้ากับเทคนิคการทำอาหารสมัยโบราณและสมัยใหม่เข้าด้วยกัน โดยทีมเชฟในร้านยังเป็นผู้ปรุงซอสและส่วนผสมทุกอย่างเองทั้งหมด สำหรับเมนูอาหารที่นี่จะเน้นความเรียบง่าย แต่ให้รสชาติและกลิ่นที่ผสมผสานจากวัตถุดิบและเครื่องปรุงสูตรเฉพาะ สามารถเลือกจับคู่กับไวน์หรือน้ำผลไม้ได้เช่นกัน โดยการจับคู่อาหารกับน้ำผลไม้ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของ Gaa มีให้เลือก 2 แบบ คือ 8 คอร์ส หรือ 12 คอร์ส สำหรับเมนูที่แนะนำ ได้แก่ ซี่โครงย่างซอส Piso และขนมลาโบราณผสมทาโก้


Gaa
68/3 ซอยหลังสวน
เปิดทุกวัน เวลา 18.00-11.30 น.
โทร. 091-419-2424
www.facebook.com/gaabangkok

FULL REVIEW
3

Le Du

 

ร้านอาหารไทยร่วมสมัยโดยเชฟ ต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร ที่มีการนำเทคนิคการทำอาหารรูปแบบใหม่มาตีความให้มีความทันสมัย พร้อมปรับประยุกต์เมนูให้สับเปลี่ยนหมุนเวียนตามฤดูกาลตามชื่อร้านอย่างเมนูฤดูร้อนที่มีจานขึ้นชื่ออย่าง ข้าวแช่มานำเสนอในรูปแบบไอศกรีมข้าวหอมกลิ่นน้ำลอย อีกเมนูที่ไม่ควรพลาดคือ ข้าวคลุกกะปิที่ใช้ข้าวออร์แกนิกและกะปิชั้นดี กลิ่นหอมรัญจวน เสิร์ฟพร้อมกุ้งแม่น้ำราดซอสมันกุ้งต้มยำ


Le Du
399/3 ซอยสีลม 7 
เปิดทุกวัน เวลา 18.00-21.30 น.
โทร. 092-919-9969
www.facebook.com/LeDuWineBarandrestaurant

 

ร้านอาหารไทย Fine Dining ภายใต้แนวคิดที่ว่า ‘ในน้ํามีปลา ในนามีข้าว’ ที่นิยามให้เราได้เห็นความสมบูรณ์ของแผ่นดินไทย ที่เต็มไปด้วยวัตถุไทยแท้ชั้นเลิศ ที่ผ่านการถ่ายทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ทำให้แผ่นดินแห่งนี้เต็มไปด้วยรสชาติอันน่าหลงใหล และผู้ที่ได้ชิมจะได้ซึมซับความเป็นไทยอย่างสมบูรณ์แบบ ไฮไลท์ของร้านนี้อยู่ที่เชฟชื่อดังจากเชฟกระทะเหล็กอย่าง เชฟชุมพล แจ้งไพร ที่ลงมือสร้างสรรค์เมนูหลากหลาย และให้ความสำคัญกับเรื่องของวัตถุดิบเป็นอันดับแรกโดยเน้นความเป็นไทยแท้  วัตถุดิบที่นี่จะไม่ใช้ของนำเข้าจากต่างประเทศ ไม่ใช้วัตถุดิบแช่แข็ง แต่จะใช้ของตามฤดูกาลของประเทศไทยและตามประสบการณ์ของเชฟที่เสาะหาของดีจากทั่วประเทศในการสร้างสรรค์เมนูแทน เช่น ใช้ปลากะพงจากบางปะกง ปูม้าจากปากน้ําบางตะพูน โคขุนไทยกําแพงแสน พริกขี้หนูสวนราชบุรี หรือ ข้าวหอมมะลิสองภาค เพื่อให้คนไทยได้รับรู้ถึงความรู้สึกของผู้คนในสมัยก่อนที่ทานอาหารตามเวลาและสภาพแวดล้อม พร้อมเสิร์ฟอาหารรูปแบบคอร์ส จัดเป็นสำรับเอก สำรับโท และสำรับตรี ตามเสียงวรรณยุกต์ของไทย โดยในแต่ละสำรับจะมีทั้งเครื่องคาว เครื่องหวาน เครื่องจิ้มและของหวานเสิร์ฟอย่างไทยโบราณ อีกสิ่งที่สำคัญคือความสมดุลในแต่ละสำรับที่จะต้องมีความพอดีของรสเปรี้ยว เค็ม เผ็ด ให้ลงตัว ถือเป็นความครบรสในเสน่ห์ของอาหารไทย 


R-HAAN
131 ซอยสุขุมวิท 53 (ทองหล่อ)
เปิดทุกวัน เวลา 18.00-23.00 น.
โทร. 0-2059-0433
www.facebook.com/RHAANThai

FULL REVIEW
 

อีกหนึ่งร้านอาหารไทยฟิวชั่นน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดในซอยสวนพลู ที่แม้จะป็นร้านใหม่ แต่ในเรื่องของประสบการณ์นั้นโชกโชนแบบหาตัวจับยาก ร้าน Saawaan ถูกดูแลโดย เชฟอ้อม เชฟผู้มากประสบการณ์และอยู่ในวงการอาหารมาอย่างยาวนาน เพราะเชฟอ้อมนั้นเคยผ่านการทำงานในห้องอาหารใหญ่ ๆ หลายที่ แถมยังเคยร่วมงานกับเชฟคนดังอย่างเชฟเอียนมาอีกด้วย ด้วยความรู้ทางด้านอาหารยุโรป และความชอบส่วนตัวทางด้านการทำอาหารไทย เชฟอ้อมจึงรังสรรค์เมนูต่าง ๆ ของที่นี่ขึ้นมาด้วยจุดประสงค์ที่ว่า “อยากรักษาอาหารไทยเมนูหากินยากไว้ให้คนไทยได้รู้จักกันไปนาน ๆ และเป็นการยกระดับอาหารไทยบ้าน ๆ สู่ความ High-End แบบสากล”  รูปแบบอาหารของทางร้านจะเสิร์ฟเป็นคอร์ส ที่เชฟได้ตั้งใจคัดสรร และคิดค้นมาอย่างตั้งใจ ทุกจานนั้นต่างมีเรื่องราวและส่วนประกอบที่ละเอียด เชฟอ้อมจึงกระซิบบอกว่าคนที่มาทานนั้นควรมีเวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพื่อซึมซับรสสัมผัสเหล่านี้ และเข้าใจถึงแรงบันดาลใจในคอร์สอย่างเต็มที่ พร้อมได้ความสุขอิ่มอร่อยและประทับใจ ให้กลับบ้านไปพร้อมรอยยิ้ม


Saawaan
39/19 ซอยสวนพลู ถนนสาทร
เปิดทุกวัน เวลา 18.30-00.00 น.
โทร. 0-2679-3775
www.facebook.com/saawaanbkk

FULL REVIEW
6

เมธาวลัย ศรแดง

 

(Photo by เมธาวลัย ศรแดง)

เมธาวลัย ศรแดง ร้านอาหารไทยในตำนานที่เปิดมากว่า 60 ปี บนถนนราชดำเนินบริเวณหัวมุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โด่งดังกับอาหารไทยต้นตำรับชาววังที่ปรุงด้วยวิธีการดั้งเดิมตามแบบฉบับของคนโบราณ ทำให้เป็นที่ถูกอกถูกใจของใครหลาย ๆ คน สำหรับเมนูที่ขึ้นชื่อของทางร้าน ได้แก่ หมี่กรอบ หมูสะเต๊ะ ฟองเต้าหู้ทอดสอดไส้ ยำส้มโอ ยำถั่วพู ยำมะระกุ้งสด และข้าวตั้งหน้าตั้ง เป็นต้น


เมธาวลัย ศรแดง
78/2 ถนนราชดำเนินกลาง
เปิดทุกวัน เวลา 10.30 - 22.00 น.
โทร. 0-2224-3088
www.facebook.com/methavalaisorndaeng

 

ศรณ์

ศรณ์ ร้านอาหารที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน แต่ก็คว้ามิชลินสตาร์มาได้ มาพร้อมกับหลากหลายเมนูอาหารใต้ที่ถูกนำเสนอในรูปแบบของ Fine Dining เพื่อให้คนกรุงเทพฯ ได้ลิ้มลองความอร่อยของอาหารไทยทุกเมนูอย่างพิถีพิถัน ดูแลเมนูอาหารโดย คุณยอดขวัญ อยู่พุ่มพฤกษ์ เชฟมากฝีมือที่ใส่ Passion ใส่ใจทุกรายละเอียดของการทำอาหารลงไป โดยใช้วิธีแบบโบราณที่หลายคนอาจหลงลืมไปแล้ว ผสานเข้ากับกรรมวิธีการสมัยใหม่ ด้วยรสชาติปักษ์ใต้แท้ ๆ แต่ถูกครีเอทใหม่และเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามฤดูกาล 


ศรณ์
56 ถนนสุขุมวิท ซอย 26
เปิดวันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 12.00 - 14.00 น. และ 18.00 - 23.00 น. (หยุดวันจันทร์)
โทร. 09-9081-1119
www.facebook.com/Sorn-%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C-852134098291382

FULL REVIEW
8

สวนทิพย์

 

(Photo by สวนทิพย์)

สวนทิพย์ ร้านอาหารไทยกลางบ้านสวนริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดดเด่นด้วยเรือนไทยตั้งตระหง่านพร้อมให้ทุกคนได้เข้ามาเสพย์วัฒนธรรมความเป็นไทย และยังมีโซนนั่งรับประทานอาหารหลากหลายโซน ทั้งบนศาลาเรือนใหญ่ โถงด้านใน และระเบียงรอบนอกที่สามารถชมวิวของสวนสวย ๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และนอกจากที่แห่งนี้จะเป็นร้านอาหารแล้ว ยังเหมาะจัดเลี้ยงสังสรรค์กลุ่มเล็ก ๆ ที่มีความเป็นส่วนตัวอีกด้วย สำหรับเมนูที่แนะนำ ได้แก่ เมี่ยงสวนทิพย์ ชุดข้าวห่อใบบัว ชุดข้าวมันส้มตำ ชุดขนมจีนซาวน้ำ ชุดข้าวผัดน้ำพริกปลาทู ชุดมังสวิรัติ ชุดขนมจีนน้ำพริก ส้มตำไหลบัว และข้าวเกรียบปากหม้อ


สวนทิพย์
17/9 หมู่ 7 9 สุขาประชาสรรค์ 2 ซอย 76 ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 21.00 น.
โทร. 0-2583-3748
www.facebook.com/SuanThip

 

(Photo by Pru)

และหลังจาก Michelin Guide ได้เปิดตัวมิชลินไกด์ฉบับภูเก็ตและพังงาแล้ว ทำให้ในปีนี้มี 2 ร้านอาหารได้รับรางวัล 1 ดาวมิชลินด้วยเช่นกัน ได้แก่ Pru ร้านอาหาร Find Dining แบบ Farm to Table ในจังหวัดภูเก็ต โดยคำว่า Pru มาจาก “พรุจำปา” ชื่อหมู่บ้านที่เป็นที่ตั้งของฟาร์มออร์แกนิกของทางร้านเอง ดูแลโดยเชฟ Jim Ophorst ซึ่งได้เลือกผสมผสานระหว่างอาหารทะเลกับอาหารบกที่มาในคอนเซ็ปต์จากฟาร์มถึงมือผู้บริโภค โดยเลือกใช้พืชผักที่ปลอดสารพิษเป็นหลัก ผสมผสานกับวัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพดีจากในภูเก็ตและทั่วประเทศไทย ทำให้เมนูของที่นี่หมุนเวียนไปตามฤดูกาล


Pru
60/1 หมู่ 6 ถนนศรีสุนทร ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
เปิดวันจันทร์ - เสาร์ เวลา 18.00 - 22.30 น. (หยุดวันอาทิตย์)
โทร. 07-631-0100
www.facebook.com/PruRestaurant

10

เรือนปั้นหยา

 

(Photo by เรือนปั้นหยา)

เรือนปั้นหยา ร้านอาหารบรรยากาศครอบครัวในจังหวัดสมุทรสาคร มาพร้อมอาหารไทยและอาหารทะเลต้นตำรับรสชาติดั้งเดิมที่ชวนให้นึกถึงรสมือแม่ได้ไม่ยาก ตกแต่งแบบง่าย ๆ ด้วยรูปปูนปั้น และรูปภาพต่าง ๆ ในบ้านหลังเก่า เมนูที่ขึ้นชื่อเห็นจะเป็น หลนปูทะเล หลนเนื้อกุ้ง ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม และปลากะพงนึ่งมะนาว


เรือนปั้นหยา
1300/600 ถนนท่าปลง จังหวัดสมุทรสาคร
เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 20.00 น.
โทร. 03-4424-707 / 03-4836-689