เยียวยาใจและกายด้วยบรรยากาศสุดผ่อนคลายกับหลากหลายคาเฟ่เรือนกระจกสไตล์ Glasshouse

Published on February 24, 2020

ในช่วงเวลาที่เราต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ตึงเครียด จะมีอะไรที่ดีไปกว่าการได้พาตัวเองออกไปพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศสุดผ่อนคลายกับหลากหลายสถานที่ดี ๆ ให้คุณได้รีเฟรชความสดชื่นอย่างเต็มที่ ดังนั้น BKK. จึงไม่พลาด ขออาสาพาไปปักหมุด 5 คาเฟ่เรือนกระจกสไตล์ Glasshouse ให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศสวย ๆ รับเเสงธรรมชาติสุดอบอุ่น ส่วนจะมีที่ไหนบ้าง ลองตามไปดูกันได้เลย

หมายเหตุ : จากประกาศกรุงเทพมหานคร ทางร้านได้เปิดให้บริการตามปกติ ผู้ใช้บริการอย่าลืมให้ความสำคัญกับการสวมหน้ากากอนามัยและการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อลดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของ Covid-19

 

Emmie's

เริ่มกันที่ Emmie’s คาเฟ่สวยในซอยพระรามเก้า 49 จากทีมงานร้านอาหาร Photynine โดยครั้งนี้มาพร้อมความตั้งใจจากทางเจ้าของร้านอยากสร้างคาเฟ่นั่งสบาย พร้อมเสิร์ฟเมนู Brunch และขนมหวานหลากหลายในบรรยากาศผ่อนคลาย อันโดดเด่นด้วยตัวร้านรีโนเวทจากบ้านเก่า ที่ยังคงโครงสร้างของบ้านหลังเดิมไว้ และเพิ่มกระจกใสทำให้โล่งและโปร่งมากขึ้น

FULL REVIEW
 

มุมตรงกลางร้านมีโต๊ะไม้ตัวยาว และเก้าอี้ทรงน่ารัก พร้อมต้นอินทผลัม

การตกแต่งภายในร้าน ทางทีมงานออกแบบกันเองแบบค่อยเป็นค่อยไป เน้นการใช้สีขาวสะอาดตา ตัดกับสีน้ำตาลของไม้เนื้อด้าน ให้สัมผัสกลิ่นอายแบบ Rustic นิด ๆ พิเศษด้วยตรงกลางร้านมีโต๊ะไม้ตัวยาว และเก้าอี้ทรงน่ารัก พร้อมต้นอินทผลัมตั้งตระหง่านอยู่ ให้นั่งกันแบบสบาย ๆ หรือหากใครที่อยากนั่งแบบเป็นส่วนตัวก็สามารถขึ้นไปบนชั้น 2 หรือจะเป็นโซน Out Door ใต้ร่มเงาต้นไม้ได้เช่นกัน

 

บรรยากาศโซน Out Door ที่ให้คุณสัมผัสความผ่อนคลายใต้เงาต้นไม้สุดร่มรื่น

เมนูอาหารของที่นี่ ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารที่ไม่หนักมาก โดดเด่นด้วยการเลือกใช้ผักไฮโดรโปนิกส์และผักออร์แกนิก แนะนำ Mixed Leaves and Bacon (180 บาท) หลากหลายผักออร์แกนิกราดด้วยเลมอนวิเนเกรตเดรสซิ่ง ให้รสกลมกล่อม ผสมรสชาติเปรี้ยวนิด ๆ ทานแล้วดีต่อสุขภาพ

 

Mixed Leaves and Bacon (180 บาท)

Emmie's
ซอยพระรามเก้า 49
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-21.00 น. 
โทร. 09-7237-9777
www.facebook.com/Emmiesbkk

สามารถสั่ง Take Away ได้ที่หน้าร้านหรือสั่ง Delivery ผ่านแอปพลิเคชัน LINE Official @Emmie's

 

Daydream Believer

อีกหนึ่งคาเฟ่สไตล์ Glasshouse ที่เราอยากแนะนำ Daydream Believer ร้านอาหารและคาเฟ่ในซอยพหลโยธิน 12 เน้นเสิร์ฟอาหารทานง่ายที่ผสมผสานระหว่างสไตล์ฝรั่งและไทยเข้าไว้ด้วยกัน อีกทั้งยังมีเครื่องดื่มและของหวาน ให้ทานท่ามกลางบรรยากาศของบ้านในสวนสวยสไตล์อังกฤษ แถมยังออกแบบให้เป็น Creative Space พื้นที่สำหรับเหล่าคนรักงานอาร์ต ให้มานั่งทำงาน รวมไปถึงยังสามารถเช่าพื้นที่เพื่อจัดคลาสเวิร์คช็อป หรือจัดอีเวนต์ต่าง ๆ ได้อีกด้วย

FULL REVIEW
 

บ้านหลังใหญ่สีขาวที่ตกแต่งในสไตล์วินเทจยุค 70’s

พื้นที่ทั้งหมดของ Daydream Believer ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ โซนคาเฟ่ บ้านหลังใหญ่สีขาวที่ตกแต่งในสไตล์วินเทจยุค 70’s ถัดมาที่โซน Glasshouse ห้องเรือนกระจกที่แยกตัวออกมาด้านข้าง และโซน Green House กลาสโดมเรือนกระจกบริเวณด้านหน้าที่ล้อมรอบด้วยสวนสวยสไตล์อังกฤษ

 

Glass Dome เรือนกระจกที่ล้อมรอบด้วยสวนสวยสไตล์อังกฤษ

สำหรับเมนูแนะนำ ต้องลอง Salmon Pasta Squid Ink Green Pea Sauce (295 บาท) พาสต้าเส้นดำ ผัดคลุกเคล้ากับเครื่องเทศอย่าง พริก กระเทียม เพื่อให้ได้รสที่เข้มข้น และเผ็ดนิด ๆ เสิร์ฟมาพร้อมแซลมอนชิ้นโตที่กริลล์มาจนสุกกำลังดี และซอสถั่วลันเตา

 

Salmon Pasta Squid Ink Green Pea Sauce (295 บาท)

Daydream Believer
ซอยพหลโยธิน 12
เปิด วันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 10.00-20.00 น. 
(สามารถนั่งทานภายในร้านได้เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ เท่านั้น!)
โทร. 06-2569-7946
www.facebook.com/Daydreambelieverbkk

สามารถสั่ง Take Away ได้ที่หน้าร้านหรือสั่ง Delivery ผ่านแอปพลิเคชัน LINE MAN และ Robinhood

 

Patom

ถัดมาที่ Patom ออร์แกนิกคาเฟ่ใจกลางทองหล่อ ที่มาพร้อมบรรยากาศแบบ Glasshouse แสนอบอุ่นที่รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวสุดร่มรื่น ภายใต้คอนเซ็ปต์ Organic Living โดยเน้นเสิร์ฟเมนูสุขภาพ ที่มีส่วนผสมของผักและผลไม้ ด้วยวัตถุดิบออร์แกนิกมาตรฐานสากลจากกลุ่มเกษตรกรในมูลนิธิสังคมสุขใจ อีกทั้งภายในร้านยังมีจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น สบู่ ยาสระผม หรือยาดม ให้ได้เลือกช้อปกันอีกมากมาย

FULL REVIEW
 

บรรยากาศอบอุ่น พร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบธรรมชาติ

บรรยากาศของทางร้าน โดดเด่นด้วยโครงสร้างที่ใช้ไม้เก่าจากแพสวนสามพราน และเพดานถูกยกสูง ล้อมรอบด้วยกระจกใส ให้ความรู้สึกโปร่งและอบอุ่นด้วยแสงธรรมชาติจากด้านนอกที่ส่องเข้ามา ที่สำคัญยังสบายตา เพราะมองเห็นวิวสวนที่โอบล้อมอยู่โดยรอบร้านอีกด้วย

 

โครงสร้างของตัวร้านใช้ไม้เก่าจากแพสวนสามพราน ล้อมรอบด้วยกระจกใส

ทางร้านเน้นเสิร์ฟอาหารกล่อง เมนูเพื่อสุขภาพทานง่าย ที่ทางร้านปรุงสดใหม่ทุกวัน ด้วยวัตถุดิบออร์แกนิกมาตรฐานสากลจากกลุ่มเกษตรกร โดยรายได้จากการจำหน่าย 3% มอบให้กับมูลนิธิสังคมสุขใจ เพื่อสมทบทุนการพัฒนาระบบอาหารที่สมดุล แนะนำ ข้าวเหนียวกับหมูแดดเดียว (130 บาท) ข้าวเหนียวร้อน ๆ ที่เสิร์ฟมาพร้อมหมูแดดเดียว และน้ำจิ้มแจ่วรสชาติกลมกล่อม พร้อมเครื่องเคียงอย่างผักออร์แกนิกสดหลากหลายชนิด

 

ข้าวเหนียวกับหมูแดดเดียว (130 บาท)

Patom
ซอยสุขุมวิท 49
เปิดทุกวัน เวลา 09.30-18.00 น.
โทร. 0-2084-8649
www.facebook.com/patom.organics

สามารถสั่ง Take Away ได้ที่หน้าร้านหรือสั่ง Delivery ผ่านแอปพลิเคชัน Robinhood และ LINE Official @patom 

 

Sometimes I Feel

ลองมาสัมผัสความเรียบง่ายสไตล์ดิบเท่ที่ร้านกาแฟเล็ก ๆ แต่มาพร้อมลุคคูล ๆ อย่าง Sometimes I Feel ในซอยสุขุมวิท 31 พร้อมนำเสนอความสวยงามของศิลปะหลากหลายแขนง ผ่านการสร้างสรรค์เมนูเครื่องดื่มและการจัดแสดงงานศิลปะภายในร้าน โดยตัวร้านนั้นถูกแบ่งออกเป็นส่วนของคาเฟ่และส่วนของแกลเลอรีที่ทางร้านเปิดโอกาสให้ศิลปินเข้ามาจัดแสดงผลงานได้อย่างไม่จำกัด

FULL REVIEW
 

บรรยากาศดิบเท่ด้านหน้าเคาน์เตอร์

บรรยากาศของทางร้านถูกออกแบบมาแบบ non-style fusion หรือการตกแต่งแบบไร้รูปแบบ โดยภายนอกจะดูดิบ ๆ ด้วยโครงของเรือนกระจกที่ใช้ทำกาแฟ ตัดกับสีเขียวของต้นไม้ ส่วนภายในร้านดูเรียบแต่มีสไตล์ด้วยการตกแต่งโดยใช้โทนสีครีม ดำ และน้ำเงิน พร้อมเพิ่มกิมมิกด้วยรูปภาพจากศิลปินมากมายทั้งที่เป็นของสะสมของเจ้าของร้าน และเป็นผลงานที่ศิลปินนำมาจัดแสดง

 

มุมอาร์ต ๆ ที่ตกแต่งด้วยภาพศิลปิน

สำหรับเครื่องดื่มของทางร้านนั้นจะเลือกใช้เมล็ดกาแฟไทยเป็นหลัก แต่ก็ยังคงมีกาแฟเบลนด์จากลาวและบราซิล รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์พิเศษต่าง ๆ ที่หมุนเวียนกันมาให้ลูกค้าได้ลองชิมกันในทุก ๆ เดือน ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการสนับสนุนเกษตรกรไทยและอยากที่จะนำเสนอรสชาติแบบไทยให้คนทั่วไปได้รู้จัก แนะนำเมนูเอาใจสายกาแฟส้ม อย่าง Orangepresso (140 บาท) เจลลีกับเนื้อส้มและน้ำส้มผสม Sparkling Water แยกเลเยอร์กันมากับเอสเพรสโซ่ช็อต ให้กลิ่นหอมของกาแฟและเปลือกส้ม เป็นแก้วที่ช่วยเติมความสดชื่นได้เป็นอย่างดี

 

Orangepresso (140 บาท)

Sometimes I Feel
สุขุมวิท 31
เปิด วันอังคาร-ศุกร์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 09.30-18.30 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-19.00 น.
โทร. 08-9223-1493
www.facebook.com/sometimesifeel.bkk

สามารถสั่ง Take Away ได้ที่หน้าร้านหรือสั่ง Delivery โทร. 08-9223-1493

 

LAFF Cafe

สำหรับใครที่ยังไม่มีแพลนไปไหน เราอยากชวนคุณไปนั่งจิบกาแฟในบรรยากาศชิลล์ ๆ ที่ LAFF Cafe คาเฟ่สไตล์อังกฤษในซอยสุขุมวิท 50 ที่จะทำให้เราหลงใหลในความเรียบง่ายเหมือนนั่งอยู่ภายในบ้าน แถมยังเดินทางได้ง่าย ๆ ด้วยรถไฟฟ้า หรือจะขับรถมา ทางร้านก็มีที่จอดรถพร้อมคนดูแลรถให้ด้วย โดดเด่นด้วยบรรยากาศแบบเป็นกันเองเหมือนเราได้นั่งอยู่ในบ้าน พร้อมความหอมอบอวลด้วยกลิ่นกาแฟและเบเกอรี

FULL REVIEW
 

บรรยากาศด้านนอกที่ดูคล้ายโบสถ์คริสต์

LAFF Cafe พร้อมต้อนรับทุกคนด้วยบรรยากาศสบาย ๆ แบบ Home Cafe ในรูปแบบห้องโถงโล่งกว้าง ได้ความสว่างจากแสงธรรมชาติที่ส่องลอดกระจกบานใหญ่สไตล์ Glasshouse บวกกับโครงสร้างเก๋ ๆ ที่มองจากด้านนอกอาจดูคล้ายโบสถ์คริสต์  ส่วนด้านในถูกจัดวางเฟอร์นิเจอร์หลากหลายรูปแบบ ให้คุณดื่มด่ำกับพื้นที่ส่วนตัว ท่ามกลางความร่มรื่นจากสีเขียวของดอกไม้สด ให้ความรู้สึกสบาย ๆ เหมือนนั่งจิบกาแฟที่บ้าน

 

บรรยากาศโปร่งโล่งสบาย ๆ

เมนูที่นี่เน้นในเรื่องของคุณภาพวัตถุดิบให้เหมือนทำทานเองที่บ้าน เน้นการทำสดใหม่ทุกวัน เช่นเดียวกันกับแก้วของสมูทตี้ต่าง ๆ ที่ใช้ผลไม้สดทุกแก้ว ส่วนสไตล์กาแฟจะได้รับอิทธิพลมาจากประเทศออสเตรเลีย แนะนำเมนู Signature ของที่นี่อย่าง My passion (180 บาท) กาแฟคุณภาพดีที่ทางร้าน Blend เอง ผสมเข้ากับเสาวรสสดจากโครงการหลวง แล้วเพิ่มรสสัมผัสที่ซาบซ่าด้วยโซดา ใครเป็นสายรักกาแฟผลไม้ต้องลองชิม

 

My passion (180 บาท)

LAFF Cafe
ซอยสุขุมวิท 50
เปิดทุกวัน เวลา 08.30-18.00 น.
โทร. 09-2929-8384
www.facebook.com/LaffCafebkk

สามารถสั่ง Take Away ได้ที่หน้าร้านหรือสั่ง Delivery ผ่านแอปพลิเคชัน LINE MAN