อยู่อาศัยอย่างเหนือระดับกับ 4 โครงการบ้านเดี่ยว Ultra Luxury คอลเลกชันบ้านที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว
สัมผัสประสบการณ์อยู่อาศัยเหนือระดับกับ ‘Majestic Collection’ คอลเลกชันบ้านเดี่ยวระดับ Ultra Luxury จาก AP Thai ที่ผสานความสง่างามเหนือกาลเวลาเข้ากับฟังก์ชันการอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบ ทั้งการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ ประณีตในรายละเอียด โดยคำนึงถึงชีวิตจริงของผู้อยู่อาศัย ซึ่งทุกฟังก์ชัน ทุกพื้นที่ ล้วนเกิดจากความเข้าใจในความต้องการที่แตกต่างกันของแต่ละครอบครัว เพื่อสร้างสรรค์พื้นที่แห่งการใช้ชีวิตที่เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย
ครั้งนี้จะพาไปสำรวจความน่าอยู่ของ 4 โครงการภายในคอลเลกชันดังกล่าว ได้แก่ THE PALAZZO ปิ่นเกล้า-บรมฯ, BAAN KLANG KRUNG สาธุประดิษฐ์ 57, THE PALAZZO กรุงเทพกรีฑา และ BEON เกษตร-นวมินทร์ ซึ่งทุกโครงการล้วนสะท้อนรสนิยม ถ่ายทอดนิยามแห่ง ‘Majesty Space’ การดีไซน์พื้นที่ที่รองรับการใช้ชีวิตจริงในทุกมิติ ทั้งพื้นที่ส่วนตัว ส่วนรวม และความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ตามแนวคิด ‘Designed from Real Life Living’ โดดเด่นด้านดีไซน์ที่มีความละเมียดละไม ทั้งในเชิงสุนทรียะและฟังก์ชันที่พร้อมสมบูรณ์
หลากหลายจุดเด่นของ ‘Majestic Collection’ รวมเป็นความงามเหนือกาลเวลา ผสานเข้ากับฟังก์ชันที่ลงตัว คือคอลเลกชันบ้านที่เข้าใจชีวิตจริงในทุกแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นการใช้พื้นที่ที่ตอบโจทย์ มอบความสะดวกสบาย สร้างสรรค์บรรยากาศที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตและการเติบโตของทุกครอบครัว ออกแบบมาเพื่อให้ ‘บ้าน’ เป็นพื้นที่ที่เติมเต็มความสุขและแรงบันดาลใจในทุกวัน ซึ่งแต่ละโครงการบ้านเดี่ยวของคอลเลกชันนี้จะน่าอยู่แค่ไหนนั้น ตามไปสัมผัสความเหนือระดับกับหลากหลายโมเมนต์การใช้ชีวิตภายในโครงการต่าง ๆ ที่เราเลือกเก็บภาพบรรยากาศมาฝากกันเลย
THE PALAZZO ปิ่นเกล้า-บรมฯ
เริ่มต้นสำรวจความโดดเด่นของแต่ละโครงการกันที่ ‘THE PALAZZO’ ซีรีส์โครงการบ้านที่งดงามในทุกดีเทลการออกแบบ ผสานความคลาสสิก ดีไซน์ร่วมสมัย รองรับการใช้ชีวิตของทุกเจเนอเรชัน โดยเปรียบบ้านเสมือนผลงานศิลปะชิ้นเอกระดับ Masterpiece ที่พร้อมส่งต่อความสุขให้ทุกเจเนอเรชัน
ซึ่งครั้งนี้จะเป็นการเยี่ยมชมบรรยากาศการอยู่อาศัยจริงภายใน 2 โครงการของ THE PALAZZO ได้แก่ ‘THE PALAZZO ปิ่นเกล้า-บรมฯ’ คฤหาสน์หรูระดับ Ultra Luxury อีกหนึ่งโครงการ ใน Majestic Collection ผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์แห่งสถาปัตยกรรมทรงคุณค่าเหนือกาลเวลา Majestic Fusion of Beaux-Arts Aesthetics พร้อมผสานความหรูหราอย่างพิถีพิถัน เข้ากับพื้นที่ชีวิตที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติอย่างกลมกลืนตามแนวคิด Biophilic Design
สำหรับโครงการนี้ผู้อยู่อาศัยจะได้สัมผัสถึงความเป็นที่สุดแห่งการใช้ชีวิตอย่างเหนือระดับ ด้วยการมอบความเป็นส่วนตัวสูงสุดเพียง 45 หลัง มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 885 ตร.ม. พร้อมฟังก์ชันบ้านที่มีความโอ่อ่า แยกเป็นสัดส่วน รองรับที่จอดรถสูงสุด 8 คัน ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนในครอบครัว สร้างบนทำเลศักยภาพที่หาได้ยาก ติดถนนบรมราชชนนี 200 เมตร ถึงทางขึ้นคู่ขนานลอยฟ้าบรมฯ เชื่อมต่อเส้นทางปิ่นเกล้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้งรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและโรงเรียนนานาชาติชั้นนำ
สร้างความประทับใจแรกด้วยความโอ่อ่าของงานดีไซน์สถาปัตยกรรม ด้วยมุมมองใหม่ของความหรูหราภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Twisted Classical Refinement’ ผสานความสง่างามเหนือกาลเวลาของสถาปัตยกรรมคลาสสิก เข้ากับดีไซน์ร่วมสมัยอย่างมีชั้นเชิง สะท้อนรสนิยมเหนือระดับในทุกรายละเอียดอันประณีต ไม่ว่าจะเป็นหลังคาจั่วที่ยื่นรับซุ้มทางเข้าอย่างลงตัว ทำให้ Main Entrance กลายเป็นจุดดึงสายตา เพิ่มความแกรนด์ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าบ้าน
ตามด้วยการเลือกใช้โทนสี Grey ผสานกับ Olive Green อย่างมีชั้นเชิง ถ่ายทอด Mood & Tone ของความสงบ สุขุม และความโมเดิร์นที่เติมเต็มด้วยความสดชื่น มีชีวิตชีวา พร้อมเชื่อมโยงกับธรรมชาติอย่างลงตัว สร้างสุนทรียภาพแห่งการอยู่อาศัยได้มากขึ้น นอกจากนี้บริเวณซุ้มทางเข้ายังถูกออกแบบมาให้เป็นไฮไลต์หลักของตัวบ้าน ด้วยเสาสมมาตรที่เรียงตัวอย่างประณีต ผสมผสานซุ้มโค้ง (Arch) เสริมเสน่ห์แห่งความสมมาตรที่สะท้อนความสง่างามเหนือกาลเวลา
หลังจากนั้น เมื่อเราเข้าสู่ตัวบ้านจะพบกับโถงต้อนรับตกแต่งผสมผสานสถาปัตยกรรม Beaux-Arts และ Biophilic ที่ใส่ใจในดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ ของการออกแบบ สังเกตได้จากความโค้งของเพดานที่ออกแบบในลักษณะของโครงสร้าง Vault มีดีเทลลูกฟัก และลาย Pattern จากธรรมชาติ หรือแม้แต่ลวดลายบนแจกันดอกไม้ เพิ่มมิติให้เป็นพื้นที่พิเศษตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าสู่ตัวบ้าน
ถัดมาคือการรังสรรค์ทุกพื้นที่ด้วยความประณีตตามแนวคิด Majesty Space อย่าง The Grand Parlour ห้องรับแขกบริเวณโถงทางเข้าหลักของตัวบ้าน ที่มีการจัดวาง Layout ไว้อย่างลงตัว หรือจะเป็น The Majestic Lounge พื้นที่ที่เชื่อมต่อทุกการใช้งานสำหรับเจ้าของบ้าน โดยมีแนวคิดของการใช้พื้นที่อย่างแท้จริง พื้นที่เป็น Open Plan ยาวที่แบ่งโซนการใช้พื้นที่ด้วยเฟอร์นิเจอร์ เชื่อมต่อกันระหว่าง 3 ฟังก์ชันการใช้งาน Private Living, Dining Area และ Pantry อีกทั้งยังให้ความรู้สึกโปร่งโล่งด้วย Space Double Volume ขนาดใหญ่ เปิดรับวิวทั้ง Courtyard และ Backyard Garden โดยสามารถปรับพื้นที่ให้เข้ากับทุกสถานการณ์ได้แบบ Flexible ทั้งวันที่จัดปาร์ตี้ส่วนตัวกับเพื่อน ๆ กับคนในครอบครัว รวมถึงสามารถใช้พื้นที่นี้ให้เป็นพื้นที่สนุกแบบส่วนตัวได้ด้วยเช่นกัน
ในส่วนของการออกแบบฟังก์ชันห้องต่าง ๆ แน่นอนว่ามีความยืดหยุ่นและพร้อมตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของสมาชิกในบ้าน อย่างการดีไซน์ห้อง Multi-Purpose Rooms หรือห้องอเนกประสงค์บริเวณชั้นล่าง ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน ห้องออกกำลังกาย ห้องเรียนรู้ หรือแม้แต่ห้องสำหรับงานอดิเรก ทุกตารางเมตรถูกใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด
ชั้นบนของบ้านเปิดมุมมองใหม่ให้กับ Grand Living Court ด้วยการออกแบบแบบโถงสูง (Double Volume) ที่เผยให้เห็นความเชื่อมโยงของทุกสเปซอย่างชัดเจน บานหน้าต่างขนาดใหญ่ยังคงเปิดรับแสงธรรมชาติตลอดแนว ย้ำแนวคิด Biophilic ที่ปรากฏอยู่ทั่วทั้งหลัง โดยเฉพาะ Extra Living Space ชั้น 2 พื้นที่เปิดโล่งที่เป็นจุดศูนย์กลางของบ้านในแนวตั้ง ทำให้สมาชิกในบ้านสามารถมองเห็นกันได้ทั่วถึง แม้อยู่คนละชั้น
ถัดจาก Living Space จะเป็น Grand Master Bedroom ห้องนอนใหญ่ ซึ่งไม่เพียงเป็นพื้นที่พักผ่อนที่โอ่อ่า (Personal Empire Bedroom) แต่ยังให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยจริง เหมือนเป็นอาณาจักรส่วนตัวที่ให้ความรู้สึกเป็นเจ้าของพื้นที่ ด้วยการออกแบบให้ภายในห้องมีมุมพักผ่อนที่จัดวางอย่างเป็นสัดส่วน พร้อมเปิดรับแสงธรรมชาติเต็มที่จากช่องหน้าต่างทรงสูงและเลือกใช้โทนสีอุ่นผสมกับเฟอร์นิเจอร์แบบ Customized ช่วยยกระดับให้ห้องนี้ดูหรูแบบร่วมสมัย ให้ความรู้สึกสงบอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะใช้พักผ่อน นั่งอ่านหนังสือ หรือใช้ชีวิตอยู่ในห้องนี้ทั้งวันก็ยังรู้สึกสบายตาและสบายใจ
นอกจากสเปซอยู่อาศัยส่วนตัวที่หรูหราและลงตัวแล้ว พื้นที่ส่วนกลาง Clubhouse ยังมาในขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 1,500 ตร.ม. ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ซึ่งทางโครงการออกแบบมาอย่างใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ ฟิตเนส พื้นที่พักผ่อน หรือสวนส่วนกลาง ทุกองค์ประกอบถูกคิดมาเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ สัมผัสความสะดวกสบาย และความสุขทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น
- The Harmonia Garden : สวนสวยสไตล์ Biophilic Design วางตำแหน่งต้นไม้และตำแหน่งของกลิ่นอย่างมีชั้นเชิง โอบล้อมทุกอณูพื้นที่ให้ได้พบความสดชื่น
- The Western Blue Pavilion : สถาปัตยกรรมที่เข้าใจความสุขในการพักผ่อน ดีไซน์เปิดรับแสงธรรมชาติและลมจากสระว่ายน้ำ สร้างประสบการณ์ผ่อนคลายให้ทุกมุมมอง
- The Signature Club : อาคารต้อนรับที่เข้าใจทั้งการใช้งานและความเป็นส่วนตัว ดีไซน์แยกจาก Clubhouse หลักและวางตำแหน่งด้านหน้า เพื่อให้การรับแขกมีความพิเศษ พร้อมคงความสงบของลูกบ้านด้านใน
ปิดท้ายด้วย Main Gate ของโครงการที่สะท้อนกลิ่นอายความความสิกในยุค Beaux-Arts ถ่ายทอดความสง่างามผ่านสัดส่วนที่สมมาตร มีการวางผังแบบ Grand Axis และ Façade อย่างละเอียด ทำให้จุดต้อนรับนี้ไม่ใช่แค่ทางเข้า แต่เป็นพื้นที่ที่ดูมีระดับและเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังมี Double Gate ยกระดับความปลอดภัยให้อุ่นใจ คลายกังวล และทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่ทำให้ THE PALAZZO ปิ่นเกล้า-บรมฯ เป็นมากกว่าแค่ที่อยู่อาศัยแต่คือ Masterpiece ที่สะท้อนความสมบูรณ์แบบทั้งในแง่ปรัชญาการอยู่อาศัย การออกแบบเชิงลึก และความตั้งใจที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างแท้จริง
THE PALAZZO ปิ่นเกล้า-บรมฯ เริ่ม 50-85 ล้าน*
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก : www.apthai.com/th/single-detached-house/the-palazzo-pinklao-borom
THE PALAZZO กรุงเทพกรีฑา
อีกหนึ่งโลเคชันโครงการจากซีรีส์ THE PALAZZO คือ ‘THE PALAZZO กรุงเทพกรีฑา’ คฤหาสน์หรูที่จะพาคุณไปพบความสุขในการใช้ชีวิตบนพื้นที่ 1,000+ ตารางเมตร พร้อมฟังก์ชันภายในที่คิดมาเพื่อรองรับครอบครัวใหญ่ ประกอบด้วย 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 5 ห้องนั่งเล่น ห้องแม่บ้าน และมี Private Garage รองรับที่จอดรถสูงสุด 12 คัน
ตั้งอยู่บนทำเล ‘กรุงเทพกรีฑา’ เดินทางสู่ย่าน CBD ด้วยการเชื่อมต่อกับถนนพระราม 9 หรือ สุขุมวิท ทองหล่อ ได้สะดวกสบาย อีกทั้งใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก โรงเรียนนานาชาติชั้นนำกว่า 3 แห่ง ไม่ว่าจะเป็น Ascot International School, Brighton College Bangkok และ Wellington College International Bangkok ตามด้วยทำเลใกล้โรงพยาบาลมาตรฐานระดับ World Class นอกจากนี้ยังรายล้อมไปด้วย Community Mall อาทิ Little Walk, Market Place และ Emdistrict แหล่งรวมความบันเทิงและความสะดวกสบายที่เติมเต็มทุกวันให้สมบูรณ์แบบ
โครงการนี้ ยังคงดีไซน์พื้นที่ที่จะช่วยเติมเต็มการใช้ชีวิตภายใต้คอนเซ็ปต์ Majestic Fusion of Beaux-Arts Aesthetics and Biophilic Principle การผสมผสานศิลปะชั้นสูงเข้ากับงานดีไซน์ที่เชื่อมโยงเข้ากับธรรมชาติอีกเช่นเคย รวมถึงพิถีพิถันกับการเลือกใช้วัสดุพรีเมียม Customize ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้อาศัย สะท้อนรสนิยมที่เก็บทุกรายละเอียดเพื่อการยกระดับคุณภาพชีวิต
สัมผัสความเป็นมาสเตอร์พีซตามนิยาม ‘ความสง่างามเหนือกาลเวลา’ หนึ่งเดียวบนถนนกรุงเทพกรีฑา ที่มาพร้อมพื้นที่ใช้สอยที่เริ่มตั้งแต่ 520-1,140 ตร.ม. บนผืนที่ดินใหญ่สุด 287 ตร.วา* ซึ่งมอบความเป็นส่วนตัวสูง เพราะมีเพียง 23 ยูนิตเท่านั้น
การออกแบบพื้นที่ของโครงการนี้เน้นสร้างความโปร่งโล่งด้วย Double Volume ความสูงขนาด 10 เมตร มาพร้อมห้องนิรภัยส่วนตัว เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยสูงสุด ภายในแบ่งพื้นที่ไว้อย่างประณีต ประกอบด้วยโซนไฮไลต์ ได้แก่ Grand Living Court ใจกลางบ้าน, Double Grand Master Bedroom และ 4-12 Indoor Parking Spaces รองรับ Supercars เพื่อปกป้องและดูแลยานพาหนะระดับลักส์ชัวรีได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมแนวคิด Universal Design สำหรับทุกเจเนอเรชัน สะท้อนผ่าน 3 แกนหลักของงานดีไซน์ที่สะท้อนความเป็นตัวตนความเป็น THE PALAZZO กรุงเทพกรีฑาอย่างชัดเจน
- Golden Ratio : Facade ออกแบบตามสัดส่วนทองคำ สวยงามสมมาตรตั้งแต่หน้าอาคารไปจนถึงพื้นที่ภายในทุกตารางเมตร
- Beaux-Arts : สถาปัตยกรรมที่ได้แรงบันดาลใจจากความโค้ง อ่อนช้อย แต่ยังคงความมั่นคง แข็งแรง
- Biophilic Design : ผสมผสานความเป็นธรรมชาติเข้ากับพื้นที่อยู่อาศัยอย่างลงตัว ตั้งแต่หน้าบ้าน บริเวณ Courtyard ตรงกลางบ้านที่สามารถเทควิวสวนจากทุกห้อง กลมกลืนไปกับทุกพื้นที่ของตัวบ้าน
จัดสรรพื้นที่การใช้งานไว้อย่างเป็นสัดส่วน โดยเราจะสามารถสัมผัสถึงความแกรนด์ได้ตั้งแต่เดินเข้าบ้าน ซึ่งจะพบกับ Grand Living Area เปิดรับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ จากช่องแสงชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ซึ่งส่องลงมายังห้องนี้ที่เป็น Public Space ของบ้าน
Grand Foyer จัดเต็มด้วยความโอ่โถง หรูหรา กับพื้นที่ขนาดใหญ่เชื่อมต่อพื้นที่ภายและภายนอก มีดีเทลตกแต่งอย่างละเมียดละไมด้วย Transition Space ที่ให้มากถึง 3 โซนมองเห็นทะลุตั้งแต่ Main Foyer ต่อด้วย Sub Foyer และโถงบันไดที่เชื่อมต่อขึ้นไปยังชั้นบน สามารถจัดวางโซฟาดีไซน์เก๋ให้เป็นมุมพักผ่อนสบาย ๆ พร้อมเทควิวจากสระว่ายน้ำข้างบ้าน หรือจะเป็นมุมนั่งอ่านหนังสือยามบ่ายก็ได้เช่นกัน
ส่วน Key Highlight ของบ้านคือ Grand Living Court พื้นที่ Double Volume Living & Dinning Area ที่มองเห็นวิวสระว่ายน้ำและสวนด้านข้างอย่างเต็มตา ก่อนจะเพิ่มความร่มรื่นให้ได้ใกล้ชิดธรรมชาติด้วยการเลือกจัดสวนหลากสไตล์ เช่น Zen Garden, Japanese Garden, Tropical Garden ฯลฯ ตามความชอบของเจ้าของบ้าน
ถัดมาคือ Grand Master Bedroom ที่มีความกว้างขวาง จัดวางเตียงคิงไซส์ได้แบบสบาย ๆ พร้อมพื้นที่พักผ่อนแบบส่วนตัวในห้องนอน ด้วยการดีไซน์สเปซ วางตำแหน่งหน้าต่างที่เหมาะสมกับการพักผ่อน พ่วงด้วยวิว Courtyard ด้านข้างให้ได้ชมทัศนียภาพแสนสบายตาตั้งแต่ตื่นนอน รวมถึง Master Bedroom ที่ดีงามไม่แพ้กัน มีหน้าต่างบานใหญ่เซ็ตตัวเข้ามาจาก Façade หน้าบ้าน ซึ่งเปิดรับแสงธรรมชาติให้ส่องเข้ามาในตัวห้องได้แบบพอดิบพอดี
นอกจากความหรูหราน่าอยู่ของพื้นที่อาศัยภายในตัวบ้านแล้ว พาร์ทส่วนกลางของโครงการนั้นยังได้รับการออกแบบให้เป็น Private Clubhouse ระดับพรีเมียม ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์สุดเอ็กซ์คลูซีฟในทุกรายละเอียด แสดงถึงความใส่ใจในงาน Craftsmanship อย่างประณีต ภายใน The Grand Club ต้อนรับลูกบ้านโครงการด้วย Galerie Royale Grand Lobby ที่สะท้อนความหรูหราผ่านศิลปะการตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็น Signature Pattern ลวดลายกระเบื้องดีไซน์เฉพาะหรือ Custom-Made แชนเดอเลียร์ ที่ได้แรงบันดาลใจจากความงามเหนือจินตนาการของดอกไม้ที่หายาก, Jardin Lounge พื้นที่พักผ่อนสุดหรูที่ถ่ายทอดบรรยากาศแสนสงบ ผสานแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ
ทุกองค์ประกอบตั้งแต่สถาปัตยกรรมแบบคลาสสิกไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์สุดประณีต ถูกคัดสรรอย่างพิถีพิถัน เพื่อมอบประสบการณ์เหนือระดับ, Botanical Brasserie สัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารสุดหรูในห้องไพรเวท พร้อมครัวเทปันยากิสุดเอ็กซ์คลูซีฟ, Verdant Theatre แรงบันดาลใจจากหลักการออกแบบ Biophilic สู่โรงภาพยนตร์ส่วนตัวที่มอบความบันเทิงเหนือระดับ และ Therme สระว่ายน้ำระบบเกลือที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Roman Bath ออกแบบมาเพื่อการผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์แบบ เป็นต้น
เรียกได้ว่า THE PALAZZO กรุงเทพกรีฑา ถูกออกแบบตามปรัชญาใหม่ของพื้นที่ชีวิตได้อย่างเหนือระดับสมกับเป็นคฤหาสน์สุดหรู นับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยระดับ Ultra Luxury อย่างแท้จริง
THE PALAZZO กรุงเทพกรีฑา เริ่ม 56.9 - 120 ล้าน*
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก : www.apthai.com/th/single-detached-house/the-palazzo-krungthep-kreetha
บ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์ 57
ขยับเข้ามายังใจกลางเมืองย่านสาธุประดิษฐ์ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศการสำรวจโครงการบ้าน Ultra Luxury จาก Majestic Collection อีกแห่ง ซึ่งมีความเอ็กซ์คลูซีฟให้ได้สัมผัสกับความเหนือระดับในการใช้ชีวิตอีกเช่นเคย ที่ ‘บ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์ 57’ บ้านที่มาพร้อมแนวคิด The Pinnacle of Vertical Estate Living บ้านเดี่ยว 6 ชั้น กับผืนที่ดินใหญ่กว่า 80 ตร.วา* บนสุดยอดทำเลใจกลางกรุง (สาธุประดิษฐ์ 57) เชื่อมต่อได้หลากเส้นทาง รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าชื่อดัง หรือโรงเรียนนานาชาติชั้นนำอย่าง King’s College มอบความเป็นส่วนตัวสูงสุด เพราะทั้งโครงการมีเพียง 9 ยูนิตเท่านั้น
โดดเด่นด้วยแนวการออกแบบฟังก์ชันโดยยึดหลักความเป็นส่วนตัวท่ามกลางใจกลางเมือง ทุกชั้นอยู่อาศัยมีลิฟท์ในตัว เปรียบเสมือน Penthouse ส่วนตัวในทุก ๆ ชั้น ส่วนสเปซต่าง ๆ ภายในบ้าน มาพร้อมฟังก์ชันกว้างขวาง เปิดรับช่องแสงธรรมชาติ อีกทั้งมีที่จอดรถที่ผ่านการคิดมาเพื่อตอบโจทย์คนเมือง ซึ่งทุกหลังมาพร้อม Auto Lift Parking เสริมการรองรับจำนวนรถที่เพิ่มขึ้นได้ถึง 5 ที่จอดรถโดยทุกองค์ประกอบของโครงการถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นมากกว่าบ้าน ทั้งสถาปัตยกรรม ฟังก์ชันที่ตอบโจทย์นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เพิ่มความสะดวกสบาย และการเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมียม เพื่อสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่สะท้ อนตัวตนของผู้อยู่ และคุณค่าทางการลงทุนไปพร้อม ๆ กัน
ที่นี่ถูกออกแบบเพื่อตอบโจทย์คนเมืองที่มีครอบครัวขนาดใหญ่ ต้องการพื้นที่ใช้สอยอย่างคุ้มค่าในทำเลใจกลางเมือง และผู้ที่มองหาความเป็นส่วนตัวระดับ Private Luxury ด้วยบ้านสูง 6 ชั้นสไตล์ Vertical Living On Ground ตามแนวคิด Vertical Estate Living บ้านถูกออกแบบให้มีหลายชั้น ใช้พื้นที่แนวตั้งอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับครอบครัวที่ต้องการความเป็นส่วนตัวแต่ยังใกล้ชิดกันในทุกกิจกรรม พ่วงด้วยการติดตั้งลิฟต์ภายในบ้าน เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับทุกเจเนอเรชัน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้สูงอายุ หรือสมาชิกในบ้านที่ต้องการความคล่องตัว
พร้อม Universal Design รองรับทุกเจเนอเรชัน โดดเด่นด้วยดีไซน์ Modern เเละ Classic Luxury ผสานความงามแบบยุโรป เหมาะสำหรับ Ultra-High-Net-Worth Families ที่มองหาทั้งคุณค่า ความภูมิฐาน และการลงทุนระยะยาว เหนือระดับแห่งการใช้ชีวิต ด้วยความเป็นส่วนตัวอย่างมาก
ตัวอาคารบ้านโดดเด่นและงดงามด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ใหม่แบบ Modern Classic Luxury ที่ออกแบบให้บ้านเดี่ยวแห่งนี้ ผสานความหรูหรา เข้ากับความทันสมัยอย่างลงตัว ท่ามกลางบรรยากาศที่เน้นความเป็นส่วนตัวแต่ยังแวดล้อมไปด้วยความสะดวกสบาย เพื่อให้ที่นี่เป็นพื้นที่สงบของใจภายใต้แนวคิด Vertical Live on Ground อย่างแท้จริง
สังเกตได้จากหน้า Facade ที่เน้นช่องแสง ด้วยประตู หน้าต่างกระจกบานใหญ่ เปิดรับแสงธรรมชาติได้เป็นอย่างดี เพิ่มมิติของการพักผ่อนให้โปร่งโล่ง สบายตามากขึ้น สามารถเปลี่ยนมุมพักผ่อนของห้องต่าง ๆ ภายในบ้านให้ Productive มากขึ้น ไม่ว่าจะวันพักผ่อนหรือวันทำงานก็เติมเต็มแรงบันดาลใจและไอเดียให้ได้รื่นรมย์กับการใช้ชีวิตประจำวันอย่างเต็มที่ นอกจากนี้บ้านกลางกรุง ยังให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยแบบเหนือชั้น โดยออกแบบให้ตัวบ้านมาพร้อมนวัตกรรมใหม่อย่าง Home Automation, Smart OxyFlow ระบบกรองอากาศที่ครอบคลุมทั้งตัวบ้าน, Solar Cell, EV Charger, Auto Lift Parking และ Private Passenger Lift
การดีไซน์สเปซแต่ละชั้นภายในบ้านออกแบบให้เหมือนเป็น Penthouse ส่วนตัว ด้วยเพดานสูงที่โปร่งสบาย ไม่มีสิ่งกีดขวาง เชื่อมทุกฟังก์ชันผ่านลิฟต์ส่วนตัว ตอบโจทย์ชีวิตเมืองที่อยากได้ทั้งความหรู ความสงบ และพื้นที่ที่มีความหมาย สำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับสไตล์และความแตกต่าง ใส่ใจในทุกรายละเอียดโดยเฉพาะ สะท้อนรสนิยมที่ไม่เหมือนใคร ด้วยดีไซน์ที่ผสมผสานความโมเดิร์นกับความคลาสสิกอย่างลงตัว
สามารถออกแบบให้เป็นพื้นที่ความสุขของคนในครอบครัว อย่างโซน Living Area ที่ต่อเนื่องกับ Dining และ Western Kitchen ขนาดใหญ่ ถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่เดียวกัน ที่ทุกคนในบ้านได้ใช้เวลาร่วมกัน จะนั่งเล่น ทำอาหาร หรือแชร์โมเมนต์เล็ก ๆ ในแต่ละวัน ก็ลื่นไหลแบบไม่ต้องจัดโซนให้ยุ่งยาก พร้อมห้อง Multi-Purpose ขนาดใหญ่ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามจังหวะชีวิตในแต่ละวัน รวมถึงได้ค้นพบความผ่อนคลายในรูปแบบส่วนตัว อบอวลไปด้วยศิลปะ ไลฟ์สไตล์ และดีเทลที่ใส่ใจทุกมุมบ้าน ออกแบบมาในโทนสีอบอุ่น ละมุนตา ที่แฝงทั้งความงามและความสง่างามเอาไว้ในทุกองค์ประกอบ
บ้านกลางกรุงแห่งนี้ใส่ใจในทุกดีเทลของแต่ละชั้น ให้ทุกคนมีมุมพักผ่อนเป็นของตัวเอง และยังคงอยู่ร่วมกันในแบบที่อบอุ่น ตั้งแต่ชั้นล่างที่ออกแบบให้เป็นโซนรับแขก แยกความเป็นส่วนตัวกับโซนพักผ่อนบนชั้น 2 ไปจนถึง Penthouse ส่วนตัวบนชั้น 3-4 ที่เปิดให้ตกแต่งตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนในครอบครัว ชั้นบนสุดยังมี Rooftop พร้อม Outdoor Terrace ที่ให้ทุกคนในครอบครัวมาใช้เวลาร่วมกันในบรรยากาศสบาย ๆ เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศใจกลางเมืองสุดพิเศษ เพิ่มเสน่ห์ให้บ้านหลังนี้ไม่เหมือนใคร
บ้านแต่ละหลังภายในโครงการ ถูกออกแบบมาเพื่อคนที่ให้ความสำคัญกับสไตล์และความแตกต่าง สะท้อนรสนิยมที่ไม่เหมือนใคร ตอบโจทย์ครอบครัวทุกเจเนอเรชันด้วย Universal Design พร้อมพื้นที่ส่วนตัวในแบบ Vertical Live on Ground ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามจังหวะชีวิตและการเติบโตของครอบครัว สอดรับกับการตกแต่งระดับไฮเอนด์ และพื้นที่ที่กว้างขวาง เปรียบเหมือนฉากหลังของชีวิตที่เต็มไปด้วยความเป็นส่วนตัว และบอกเล่าเรื่องราวได้อย่างชัดเจน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ใจกลางเมืองที่ทุกดีเทลมีความหมายกับชีวิตอย่างสมบูรณ์
บ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์ 57 เริ่ม 59.5 ล้าน*
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก : www.apthai.com/th/single-detached-house/baan-klang-krung-sathupradit-57
BEON เกษตร-นวมินทร์
ปิดท้ายการสำรวจที่สุดของความเป็น Ultra Luxury ของโครงการบ้านเดี่ยวในซีรีส์ Majestic Collection กันที่ ‘BEON เกษตร-นวมินทร์’ บ้านเดี่ยวสุดหรู 3 ชั้น ใจกลางเกษตร-นวมินทร์ ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ Modern ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ Living in the edge of Contrast ซึ่งนำเสนอความมีเอกลักษณ์ที่แตกต่าง โดยนับเป็นครั้งแรกของการดีไซน์ฟังก์ชันใหม่แบบ Ultra Volume ที่เชื่อมต่อกับ Double Volume ในทุกชั้นของบ้าน และยังมี Vertiplex ซึ่งเป็นการเพิ่มพื้นที่ส่วนตัวในมิติใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Walk-in Closet สองชั้น ที่สามารถปรับให้เป็นมุมเก็บงานศิลป์ หรือ Lounge ส่วนตัวภายในห้องนอนได้ตามต้องการ
บ้านแต่ละหลังถูกออกแบบให้เป็นทั้งสเปซเพื่อการสังสรรค์ และสเปซที่รองรับความเป็นส่วนตัว เพราะทุกคนมีมิติการใช้ชีวิตหลายด้าน เปรียบเสมือน Statement ของการใช้ชีวิตที่ครบทุกมิติ มาพร้อมความเอ็กซ์คลูซีพเพียง 23 ครอบครัว บน Prime Location ใกล้เมืองที่ได้สัมผัสการอยู่อาศัยในสังคมคุณภาพระดับสูง บนทำเลศักยภาพใจกลางเกษตร-นวมินทร์ ที่เชื่อมต่อสะดวกทุกจุดหมายปลายทาง อย่างเอกมัย-ทองหล่อ และศูนย์การค้าย่านเลียบด่วน-รามอินทราได้แบบสะดวกสบายรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน ทั้งแหล่งไลฟ์สไตล์ โรงพยาบาล และสถานศึกษาชั้นนำ พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่อย่างมีรสนิยม
โครงการนี้บ้านเดี่ยวแห่งนี้โดดเด่นด้วยแนวคิดแบบ Open Plan ที่เปิดพื้นที่ภายในบ้านให้เชื่อมต่อกันอย่างไร้รอยต่อ ทุกกิจกรรมของครอบครัวสามารถเกิดขึ้นได้ในพื้นที่เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร ทำงาน หรือพักผ่อน โดยเฉพาะ Family Space ที่ถูกออกแบบให้เป็นศูนย์กลางของบ้าน ทุกคนสามารถใช้เวลาร่วมกันและสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น รวมถึงออกแบบให้มี Courtyard หรือลานกลางบ้าน ซึ่งเหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งหรือการพักผ่อนในบรรยากาศส่วนตัว เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่ช่วยนำแสงธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ตัวบ้าน เพื่อเพิ่มความโปร่งโล่งและลดความตึงเครียดจากชีวิตประจำวัน โดยนับเป็นครั้งแรกของการออกแบบบ้านเดี่ยวสุดหรู 3 ชั้น ที่ถ่ายทอดความ Modern Luxury ผ่าน Overscale Design ขยายทุกตารางเมตรให้โอ่อ่า ผสานพื้นที่ภายในและภายนอกเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
ทุกแบบบ้านของโครงการมาพร้อมไฮไลต์ฟังก์ชันใหม่ที่ดีไซน์มาเพื่อการใช้ชีวิตที่เหนือกว่า ไม่ว่าจะเป็น
- Ultra Volume : เปิดประสบการณ์การอยู่อาศัยเหนือชั้นของบ้านเดี่ยวดีไซน์ Ultra Volume ที่เชื่อมต่อพื้นที่ทุกชั้นเข้าด้วยกัน เติมเต็มบรรยากาศอันโอ่อ่า โปร่งสบาย ลงตัวทุกการใช้เวลาคุณภาพในครอบครัว
- Vertiplex Design : ที่สุดกับฟังก์ชันใหม่ในบ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้น ที่เพิ่มมิติของความเป็นส่วนตัวในห้องนอน Master Bedroom สามารถ “Create Your own Space” ทั้งมุมทำงาน มุมนั่งเล่น หรือ Walk-in Closet 2 ชั้นได้ตามไลฟ์สไตล์
- Sense of Arrival & Foyer : บ้านที่ออกแบบอย่างตั้งใจทุกรายละเอียด กับโถงใหญ่ ที่ให้ความรู้สึกพิเศษตั้งแต่ก้าวแรกที่สัมผัส
- Open Living Space with Courtyard : ใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ ด้วยการเชื่อมต่อพื้นที่ภายในและภายนอกบ้าน เปิดรับแสงธรรมชาติและมองเห็นสวนสีเขียวส่วนตัวอันร่มรื่น มีชีวิตชีวา
โครงการ BEON ตั้งใจรังสรรค์การออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันในทุกมิติ บนพื้นที่ส่วนกลางที่เป็น Exclusive Community สำหรับครอบครัวระดับพรีเมียม ภายใต้แนวคิด “The Refined Heart of Nature” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Terrarium หรือธรรมชาติในขวดแก้ว ผสานความ Modern Luxury เข้ากับธรรมชาติ เพื่อสะท้อนความสมดุลของการใช้ชีวิต
ไม่เพียงแต่ครบสมบูรณ์เฉพาะพาร์ทของการอยู่อาศัยในพื้นที่ส่วนตัวเท่านั้น ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางหรือ Clubhouse ก็สมบูรณ์แบบไม่แพ้กัน ด้วยแรงบันดาลใจจากงานเจียระไนอัญมณี โดยถ่ายทอดผ่านสถาปัตยกรรมและการตกแต่งอันหรูหรา ละเมียดละไมแบบร่วมสมัย เช่น แชนเดอเลียร์หรู บาร์หินสแตนเลส และบันไดวนอันโดดเด่นดึงดูดสายตา มาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยรอบด้าน พร้อมตอบโจทย์การพักผ่อนเหนือชั้น ประกอบด้วย
- Fitness : ห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานสากลครบครัน
- Yoga Room & Digital Exercise Studio : เตรียมฟื้นฟูร่างกาย ชวนผ่อนคลายอย่างสบายใจ ด้วยการออกกำลังกายแบบอินเตอร์แอคทีฟและห้องโยคะ
- Game Room & Banquet Seat : ห้องเกม ที่มีโต๊ะพูล และ Banquet Seat บิลด์อินที่นั่งครึ่งวงกลมสุดหรู
นอกจากนี้ยังจัดภูมิทัศน์ให้มีความร่มรื่น ภายใต้คอนเซ็ปต์ Nature’s Cradle ต้นกำเนิดของธรรมชาติ รายล้อมด้วยต้นไม้มงคล Pavillion ในสวน และพื้นที่สีเขียว ตั้งแต่ Main Gate ไปจนถึง Courtyard ของบ้านทุกหลัง รวมเรียกว่าเป็นนิยามความ Luxury ในมุมมองใหม่ที่แตกต่างอย่างมีเสน่ห์ซึ่งทาง BEON เกษตร-นวมินทร์ ตั้งใจยกระดับบ้านให้กลายเป็น Statement แห่งการใช้ชีวิต บนทำเลศักยภาพเกษตร-นวมินทร์ พร้อมตอบโจทย์วิถีชีวิตสมัยใหม่ของครอบครัวระดับพรีเมียมได้อย่างสมบูรณ์
BEON เกษตร-นวมินทร์ เริ่ม 45 ล้าน*
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก : www.apthai.com/th/single-detached-house/beon-kaset-nawamin
‘Majestic Collection’ คอลเลกชันบ้านเดี่ยวระดับ Ultra Luxury จาก AP Thai จึงนับเป็นการรวมตัวของโครงการบ้านที่เข้าใจชีวิตจริงในทุกแง่มุมที่แตกต่างกันของแต่ละครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการใช้พื้นที่ที่ตอบโจทย์ มอบความสะดวกสบาย สร้างสรรค์บรรยากาศที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตและการเติบโตของทุกครอบครัว ออกแบบมาเพื่อให้ ‘บ้าน’ เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย แต่เป็นพื้นที่ที่เติมเต็มความสุขและแรงบันดาลใจในทุกวัน
ใครที่อยากสัมผัสความคราฟต์ที่เหนือระดับในทุกมิติของโครงการบ้านเดี่ยวใน ‘Majestic Collection’ ด้วยตัวเอง สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอเข้าเยี่ยมชมโครงการต่าง ๆ ได้ที่โทร. 1623 หรือทาง www.facebook.com/APthai



