‘ความสงบที่สง่างาม’ นิยามใหม่ของการอยู่อาศัย ในโครงการ ‘ณริณสิริ’ บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรีแห่งย่านกรุงเทพกรีฑา
สัมผัสประสบการณ์การอยู่อาศัยของ ‘บ้านเดี่ยว’ ยุคใหม่ ด้วยแนวคิดการยกระดับพื้นที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองย่านกรุงเทพกรีฑา หนึ่งในทำเลศักยภาพของกรุงเทพฯ ให้เป็น ‘The Private Luxury’ หรือ ‘ความสงบที่สง่างาม’ ภายใต้ชื่อโครงการ ‘ณริณสิริ กรุงเทพกรีฑา - NARINSIRI Krungthep Kreetha’ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ระดับ Luxury Private Residence แบรนด์ใหม่จาก แสนสิริ ที่มอบความเป็นส่วนตัวสูงสุด มาพร้อมการออกแบบสไตล์ Georgian Revival สง่างามเหนือกาลเวลา โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์ ‘Grandeur Garden Serenity’ ด้วยบรรยากาศอันร่มรื่น รายล้อมไปด้วยสวนขนาดใหญ่ ให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสถึงความสงบท่ามกลางธรรมชาติ ผ่านการออกแบบที่มอบความรู้สึกเป็นส่วนตัวในทุกโมเมนต์ของชีวิตประจำวัน
ครั้งนี้ขอพาทุกคนไปสำรวจโครงการนี้กันแบบใกล้ชิด ตั้งแต่ความโอ่อ่าของบ้านสไตล์ Classic Georgian ขนาดใหญ่ บนพื้นที่ใช้สอยกว่า 330-530 ตร.ม. พร้อมรองรับทุกไลฟ์สไตล์และความสุขของครอบครัว ไปจนถึงหลากหลายจุดไฮไลท์ต่าง ๆ อย่างการเปิดโซนใหม่ แปลงสวยติดสวน และคอมมูนิตี้หรือพื้นที่สวนกลางกว่า 500 ไร่ ซึ่งตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบและสง่างามในทุกมิติ
‘ณริณสิริ กรุงเทพกรีฑา - NARINSIRI Krungthep Kreetha’ เป็น Luxury Private Residence แบรนด์ใหม่จากแสนสิริที่เนรมิตบรรยากาศความคลาสสิกตามแบบฉบับ Georgian Revival ที่สง่างามเหนือกาลเวลา มอบความเป็นส่วนตัวสูงสุด ผสมผสานความสงบ บรรจบกับความงดงามเหนือระดับ ให้ผู้อยู่อาศัยได้พักผ่อนหย่อนใจในสวนที่งดงาม มอบบรรยากาศเหมือนอยู่ต่างประเทศ ราวกับได้ย้อนกลับไปใช้ชีวิตในยุคจอร์เจียนทุกวัน
โครงการบ้านเดี่ยวสุดหรูแห่งนี้ นับเป็น ‘The Prime Gem of Krungthep Kreetha’ เพชรเม็ดงามแห่งกรุงเทพกรีฑาเลยก็ว่าได้ ด้วยทำเลที่ตั้งในกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก บนพื้นที่สุดพรีเมียมตั้งแต่ 85-239 ตารางวา ที่พร้อมมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยระดับมาสเตอร์พีซ บนทำเลทองที่กำลังเปลี่ยนโฉมสู่ New Luxury District ของกรุงเทพฯ
รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แหล่งไลฟ์สไตล์ คอมมูนิตี้มอลล์ โรงพยาบาลชั้นนำ อีกทั้งศูนย์กลางการศึกษานานาชาติ อาทิ Brighton College Bangkok ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนตั้งอยู่ภายในโลเคชันละแวกเดียวกัน เหมาะสำหรับครอบครัวที่มองหาทางเลือกที่สะดวกในการตอบโจทย์ความต้องการในทุกวัย เดินทางสะดวกสบายเพราะเชื่อมต่อสู่ทุกจุดหมายผ่าน 2 เส้นทางหลัก ได้แก่ ถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ และรามคำแหง 68 มาพร้อมความพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มีเพียง 36 ครอบครัวเท่านั้น ที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนระดับพรีเมียมบน Sansiri Krungthep Kreetha Community พื้นที่กว่า 500 ไร่ ให้ได้ร่วมสัมผัสมาสเตอร์พีซแห่งการอยู่อาศัยที่จะเป็นมรดกอันล้ำค่าสู่คนรุ่นต่อไป
‘ณริณสิริ กรุงเทพกรีฑา’ ได้นำหลักการอันเป็นหัวใจของสถาปัตยกรรมจอร์เจียน ซึ่งประกอบด้วยสัดส่วนอันสง่างาม งานคราฟท์ที่ประณีต และสุนทรียภาพที่หลอมรวมอยู่ในทุกพื้นที่ เพื่อรังสรรค์การใช้ชีวิตที่หรูหราและเปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์จากอดีตสู่ความสงบที่สง่างามในปัจจุบัน
เห็นได้จากความประทับใจแรกนับตั้งแต่ก้าวสู่โครงการ สร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยประตูทางเข้าหลัก (แบบ Double Gate ใช้ระบบ LPR (License Plate Recognition) ยกระดับระบบรักษาความปลอดภัย ด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย ‘LIV-24’ ที่ผสาน AI Technology ซึ่งมีเพียงที่แสนสิริแห่งเดียว ให้ใช้ชีวิตแบบอุ่นใจตลอด 24 ชั่วโมง) ที่เป็นดั่งผลงานชิ้นเอกแห่งความสง่างามแบบจอร์เจียนในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นลวดลายสถาปัตยกรรมซึ่งมาช่วยเพิ่มมิติ หรือการวางกรอบทางเข้าอย่างมีระดับ ไปจนถึงการดีไซน์เสาประดับที่สง่างาม ล้วนถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยความแม่นยำและใส่ใจในทุกองค์ประกอบ บ่งบอกถึงการก้าวเข้าสู่ประตูแห่งการใช้ชีวิตที่เหนือระดับ
คุณภาพชีวิตดี ๆ ที่ลงตัวภายในโครงการบ้านเดี่ยวสุดหรูแห่งนี้ คือความเป็นที่สุดของความสงบที่สง่างามตามคอนเซ็ปต์หลัก ‘Grandeur Garden Serenity’ ให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสความสงบและร่มรื่นด้วยสวนขนาดใหญ่ที่รายล้อม ควบคู่กับแนวคิดแห่งความใส่ใจทั้งผู้อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ เพื่อสุนทรียภาพในการใช้ชีวิตท่ามกลางบรรยากาศอันแสนสงบและร่มรื่นที่ดีต่อทั้งสุขภาพกายและจิตใจ
รังสรรค์ภูมิทัศน์อันงดงามจากพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ให้กลายเป็น ‘สวนสไตล์อังกฤษ’ อันวิจิตรตระการตา สอดคล้องไปกับคอนเซ็ปต์หลัก Grandeur Garden Serenity ความสงบที่สง่างามท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นของร่มไม้เล็กใหญ่ทั่วทั้งโครงการ ซึ่ง ณ ตอนนี้ทางณริณสิริ กรุงเทพกรีฑา ได้เปิดพื้นที่แปลงสวยติดสวนโซนใหม่ที่สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้วทั้งโครงการ รอให้ผู้ที่สนใจได้จับจองเป็นเจ้าของพื้นที่ใช้ชีวิตสุดร่มรื่นที่มีความกลมกลืนกับสถาปัตยกรรม ด้วยการจัดสวนแบบสมมาตรและคัดสรรพืชพรรณที่ได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มอบความรู้สึกที่เป็นระเบียบและความเป็นอยู่ที่ดี เป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อนอันเงียบสงบ ให้คุณสามารถดื่มด่ำกับความงามตามธรรมชาติและการออกแบบที่ประณีต
รวมถึงการออกแบบด้วยแนวคิด Green Living Design เพื่อส่งมอบบ้านที่เป็นมิตรต่อโลกอย่างยั่งยืน ผ่าน 3 แกนหลัก ได้แก่
- Green Procurement เลือกคู่ค้าที่ใส่ใจกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน
- Green Construction ก่อสร้างโครงการโดยมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
- Green Architecture & Design นวัตกรรมการออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน พร้อมสร้างสิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อสุขภาพ
การใช้ชีวิตประจำวันภายในโครงการ เพียงแค่เดินออกมาจากบ้าน ก็ได้เอ็นจอยกับวิวสวนด้านข้างที่เรียกได้ว่าเป็นแปลงสวยติดสวนโซนใหม่แบบไม่ต้องออกไปสวนสาธารณะไกล ๆ เพราะแค่ออกมาเดินเล่นในโครงการ (โซน Sansiri Backyard ที่มีมุม Dog Park พร้อมที่ล้างเท้าพิเศษและของเล่นสัตว์เลี้ยง ไว้คอยให้บริการสำหรับลูกบ้านในโครงการ) กับเจ้าสี่ขาตัวโปรด เพียงเท่านี้ก็ได้พบเจอกับ Vibes ของความร่มรื่น ความสุนทรีย์ ได้พบปะเพื่อนบ้านดี ๆ และได้สูดอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางพื้นที่ที่สวยงาม
การออกแบบมุมสวนส่วนตัวอันเงียบสงบ ถือเป็นพื้นที่ส่วนกลางสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่จะช่วยบาลานซ์ชีวิตเมือง และพื้นที่สีเขียวได้อย่างลงตัว ผ่านการผสมผสานความสง่างามและความสงบ สะดวกสบายของสวนสีเขียวที่เป็นธรรมชาติในเวลาเดียวกัน ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถผ่อนคลายอย่างมีระดับได้ทุกวัน
ที่ ‘ณริณสิริ กรุงเทพกรีฑา’ พรั่งพร้อมด้วยการลงลึกและประณีตกับทุกรายละเอียดด้านการออกแบบและตกแต่งอย่างมาก เพื่อรังสรรค์บ้านที่สง่างามเหนือกาลเวลาด้วยสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุครุ่งเรือง Georgian Revival ที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมด้วยสวนสไตล์อังกฤษที่จัดสรรอย่างวิจิตรบรรจง เผยความคลาสสิกสง่างามผ่านดีไซน์ความสมมาตร มั่นคงแข็งแรง ดูเป็นระเบียบ และสวยงาม ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของศิลปะยุค Renaissance
ไม่ว่าจะเป็น ‘TIMBER DOOR‘ ดีไซน์ประตูซิกเนเจอร์แบบจอร์เจียนที่สง่างาม ชาวจอร์เจียนขึ้นชื่อเรื่องการใช้ชีวิตอย่างมีระดับ และไลฟ์สไตล์ที่ไร้ที่ติ ซึ่งสะท้อนให้เห็นที่สุดแห่งความสง่างาม โดยคุณสมบัติของประตูแบบจอร์เจียน จะต้องมีความแข็งแกร่ง โดดเด่นด้วยขนาดและความหนา มีความสมมาตรเป็นกุญแจสำคัญ องค์ประกอบทุกส่วนดูสมบูรณ์แบบสำหรับการสร้างความประทับใจแรกอันน่าจดจำ และยังสร้างมาเพื่อให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานอีกด้วย, ‘DENTILS CORNICE’ ลายคิ้วบัว โดดเด่นแบบคลาสสิก ลายตกแต่งรูปบล็อกสี่เหลี่ยมต่อกันเป็นแนวยาวลักษณะคล้ายฟันเรียงเป็นแถว ดูสวยงามอย่างเป็นระเบียบ สะท้อนภาพสถาปัตยกรรมกรีก-โรมันโบราณ ให้เห็นถึงไลฟ์สไตล์ความละเอียดอ่อนที่มีรสนิยม
'DORMER & GABLE ROOF’ ความคลาสสิกที่เป็นเอกลักษณ์ของหลังคาแบบมีหน้าต่าง เปรียบเสมือนดวงตาของที่อยู่อาศัย มีลักษณะแบน โค้ง ทรงปั้นหยาเพื่อเป็นการเพิ่มแสงสว่าง ความสวยงาม ระบายอากาศ และดึงดูดสายตาให้บ้านดูสวยสะดุดตามีเสน่ห์, ‘MULTI-PANE WINDOWS’ หน้าต่างบานใหญ่ สวยงามเหนือกาลเวลา รูปแบบหน้าต่างสไตล์จอร์เจียน โดยเอกลักษณ์ความโดดเด่นของงานออกแบบสไตล์นี้ก็คือ ความคลาสสิก ความสมมาตร และการออกแบบที่ประณีตสง่างาม มีโครงสร้างที่ดูเพรียวบาง และมีกลิ่นอายของงานสถาปัตยกรรมโบราณของกรีกโรมัน, Georgian ‘CHIMNEY’ เสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครของปล่องไฟสไตล์จอร์เจียน จะเน้นการดีไซน์แบบ Quiet Luxury ซึ่งออกแบบบ้านให้เข้ากับบ้านได้อย่างลงตัว โดยมักจะเป็นปล่องไฟที่มีรูปทรงสี่เหลี่ยม หรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีลักษณะค่อนข้างเรียบและตรง เพื่อรักษาความเรียบง่าย ความสง่างามที่เป็นเอกลักษณ์ของสไตล์จอร์เจียนเอาไว้
สัมผัสความอลังการโอ่อ่าของบ้าน ‘Bexley’ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ สไตล์ Classic Goergian ทางเข้าโดดเด่นด้วยประตูสี Mid Royal Blue และ Forest Green Glamour ประดับด้วยโคมไฟ ให้ความรู้สึกเรียบหรู บนพื้นที่ใช้สอย 530 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 1 ห้องนั่งเล่นแบบ Double Volume Living, 1 Family Area, 4 ที่จอดรถ และ 1 ห้องแม่บ้าน พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวัน รองรับความสุขของทุกครอบครัว เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ที่อยู่กัน 3 Generations สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันภายในให้เหมาะสมกับการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของสมาชิกภายในบ้าน
โดยตัวบ้านใส่ใจในทุกรายละเอียด มีชานหน้าบ้านสร้างมิติ มีเสารับก่อนพบกับประตู Timber Door ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ต่างประเทศที่เงียบสงบ มาพร้อมพลังงานสะอาด ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งนวัตกรรมที่ทำให้บ้านเย็น แผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา หรือเครื่อง EV Charger ที่ถูกติดตั้งในบ้าน นอกจากนี้เสาไฟฟ้าภายในโครงการ ยังถูกนำลงดิน เพื่อทัศนียภาพที่ดีของการอยู่อาศัย ซึ่งทุกอย่างผ่านกระบวนการคิดมาละเอียดและใส่ใจอย่างแท้จริง
บริเวณโถงทางเข้าบ้านประดับฝ้าเพดานด้วยโคมไฟ Chandelier ส่วนบรรยากาศภายในบ้านตัวอย่างออกแบบให้เป็นโทนขาวเบจและเขียวพาสเทล ดูอบอุ่นสบายตา ก่อนเสริมรสนิยมของผู้อยู่อาศัยด้วยการดึงงานออกแบบ สีสัน และสถาปัตยกรรมจากยุคพระเจ้าจอร์จที่ 4 ที่ผสมผสานวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกได้แบบเข้ากันอย่างงดงามไร้กาลเวลา
บริเวณชั้นล่างมีห้องนอนอเนกประสงค์ 1 ห้อง ซึ่งออกแบบให้มีประตูที่เชื่อมต่อกับผนังกระจกเงา สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานหรือ Entertainment Room ได้ตามความต้องการ ภายในห้องมีขนาดกว้างขวาง เหมาะสำหรับปรับเป็นห้องนอนผู้สูงอายุด้วยการออกแบบที่รองรับการใช้งานอย่างครบถ้วน ภายในห้องมีหน้าต่างกระจกใสที่เปิดรับวิวสวนรอบบ้านได้ถึง 2 ฝั่ง
ตามด้วย Common Area ซึ่งเป็นหัวใจหลักของบ้าน ออกแบบให้มีขนาดใหญ่เชื่อมต่อการใช้งานบริเวณชั้นล่างเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว ไม่ว่าจะเป็นมุมรับแขก ห้องนั่งเล่นสำหรับพักผ่อนที่จัดวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ไว้หลายที่นั่ง โดดเด่นด้วยผนังกระจกใสบานใหญ่ สามารถเปิดประตูออกไปเดินเล่นที่สวนด้านนอกหรือจะนั่งชมวิวสวนสวยสบาย ๆ อยู่ภายในบ้านก็ได้เช่นเดียวกัน ทั้งยังอยู่ติดกับ Dining Area ซึ่งมีลักษณะเป็นโถงยาวขนานไปกับความกว้างของตัวบ้าน เชื่อมต่อกับ Island ของครัวยุโรป สามารถจัดวางโต๊ะรับประทานอาหารแบบ Long Table ได้อย่างลงตัว
ด้วยแปลงท่ีดินผืนใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างเยอะ บ้านหลังนี้จึงออกแบบให้ด้านนอกมี Pavillion พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวกลางสวนภายในบ้าน จัดวางชุดโซฟาเอาไว้สำหรับนั่งสังสรรค์กันในครอบครัว เหมาะกับวันพักผ่อนสบาย ๆ รื่นรมย์ท่ามกลางบรรยากาศของสวนสีเขียวภายในบ้านอย่างสบายใจ
เมื่อเดินขึ้นบันไดมายังชั้นบน จะสัมผัสได้ถึงความโปร่งโล่งสบาย ด้วยโถงขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ชั้นล่าง โดดเด่นด้วย Chandelier ที่ส่องแสงให้บ้านดูสว่างไสว และหลากหลายบานประตู-หน้าต่างที่เปิดรับแสงธรรมชาติ ให้รู้สึกผ่อนคลาย พร้อมปูพื้นด้วย Engineering Floor ซึ่งทำจากไม้แท้ เสริมมู้ดของความอบอุ่น อยู่สบาย
สำหรับบริเวณที่อยู่ติดกับโถงบันไดถูกดีไซน์ให้เป็น Family Area โดยคำนึงถึงการปรับใช้งานได้หลากหลาย ตามไลฟ์สไตล์และความต้องการของสมาชิกในครอบครัว อย่างการจัดวางชุดโซฟาให้เป็นมุมนั่งเล่น ดูทีวีหรือโฮมเธียเตอร์ชุดใหญ่ไว้เป็นมุมเอ็นเตอร์เทนของครอบครัว
ถัดมาที่ Master Bedroom ขนาดใหญ่ ซึ่งแบ่งฟังก์ชันการใช้สอยภายในห้องได้หลากหลายและลงตัว โดยทางโครงการ ได้ให้ความสำคัญกับทั้งเรื่องของความสวยงามและฟังก์ชันการใช้งานอย่างครบครัน บรรยากาศภายในห้องโปร่งโล่งสบายตาด้วยด้วยช่องแสงขนาดใหญ่รอบห้อง เสริมบรรยากาศการตกแต่งด้วยการใช้โทนสีอ่อนที่ช่วยสร้างบรรยากาศแสนสงบและผ่อนคลาย เหมาะเป็นสเปซของการพักผ่อน โดยเตียงขนาดใหญ่ถูกจัดวางไว้อย่างโดดเด่น โดยมีเก้าอี้พักผ่อนและโต๊ะกลางที่สามารถใช้เป็นพื้นที่ทำงานหรือนั่งอ่านหนังสือได้อีกด้วย
ภายในห้องมีมุมแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ซึ่งได้รับออกแบบที่ผสมผสานระหว่างความหรูหราและฟังก์ชันการใช้งานที่ลงตัว โดยมีการเน้นให้พื้นที่นี้เป็นมากกว่าห้องแต่งตัวธรรมดา แต่เป็นพื้นที่ที่สะท้อนถึงรสนิยมความหรูหราและให้ความเป็นส่วนตัว มีชั้นวางแบบเปิดทำให้การจัดวางเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวดูมีระเบียบและเรียบหรู การติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่ยังช่วยให้พื้นที่ดูโปร่งและกว้างขึ้นโดยไม่ต้องใช้พื้นที่เพิ่ม ตู้เสื้อผ้าแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งคั่นกลางด้วยโต๊ะเครื่องแป้งที่ทำจากหินอ่อน ตรงกลางมีสตูลทรงเตี้ยสำหรับนั่งสวมรองเท้าหรือแต่งตัว เป็นจุดเด่นที่เสริมความหรูหราและสะท้อนภาพของคนที่มีรสนิยมและยังทำให้สามารถแบ่งพื้นที่การใช้งานระหว่างคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงได้สะดวกยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีห้องนอนอื่น ๆ แบบ En Suite ที่มีห้องน้ำในตัว ซึ่งภายในห้องถูกจัดวางฟังก์ชันไว้ลงตัวอีกเช่นกัน แต่ละห้องได้รับความเป็นส่วนตัว มีพื้นที่รอบเตียงกว้างขวางให้เดินไปมาได้แบบสบาย ๆ และสามารถชมวิวสวย ๆ ได้ตั้งแต่ตอนตื่นนอน ส่วนปลายเตียงจัดวางโต๊ะแบบลอยตัวเอาไว้สำหรับนั่งทำงานหรืออ่านหนังสือ หรือหากอยากทำเป็นพื้นที่สำหรับติดตั้งทีวีก็ได้เช่นกัน ส่วนด้านข้างบริเวณประตูทางเข้าเป็นพื้นที่สำหรับแต่งตัวด้วยตู้เสื้อผ้าสูงจากพื้นจรดเพดาน
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าสนใจของโครงการ คือการนำเสนอไอเดียในการปรับฟังก์ชันของห้องต่าง ๆ ภายบ้านของโครงการฯ แบบห้องอเนกประสงค์ เช่น ปรับฟังก์ชันจากห้องนอนให้เป็นห้องทำงานและ Entertainment Room สำหรับนั่งดูหนังฟังเพลง กินดื่มสังสรรค์กันเบา ๆ ในบรรยากาศสบาย ๆ และส่วนตัว โดยจะเห็นได้ว่าทุกห้องล้วนเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถออกแบบได้ตามต้องการ ภายใต้หลักการออกแบบ Open Plan ที่มีความยืดหยุ่นในการใช้พื้นที่และสอดรับกับความต้องการของผู้อยู่อาศัยในบ้านไปพร้อม ๆ กัน
หลังจากสำรวจพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านตัวอย่างกันไปแล้วก็ถึงคิวของการส่องหลากหลายพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการฯ กันบ้าง โดย Clubhouse ของโครงการณริณสิริ กรุงเทพกรีฑา ถือเป็นหัวใจสำคัญที่สะท้อนถึงความพิถีพิถันในการออกแบบและความใส่ใจในรายละเอียด ด้วยแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมสไตล์ Georgian Revival โดยไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่ส่วนกลางเท่านั้น แต่ยังเป็นเสมือนประตูสู่โลกแห่งความหรูหราและความคลาสสิกที่ยังคงร่วมสมัย เติมเต็มคุณภาพชีวิตให้กับผู้อยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ภาพรวมของ Clubhouse เป็นงานออกแบบในสไตล์โมเดิร์นที่เน้นความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ด้านหน้า Clubhouse จะเป็นสวนขนาดใหญ่ ปลูกต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ เพื่อให้เกิดร่มเงาและร่มรื่น ปลูกเอาไว้จนเต็มพื้นที่ ได้ฟีลเหมือนอยู่เมืองนอกด้วยการนำเอาศิลปะจากธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงานสถาปัตยกรรม พื้นที่ส่วนกลางของโครงการมีขนาดใหญ่กว่า 2 ไร่ เน้นให้น้ำหนักกับพื้นที่สีเขียว มีสนามหญ้าที่กว้างขวาง รองรับทุกการทำกิจกรรมนันทนาการภายในครอบครัว
ภายใน Clubhouse รู้สึกราวกับได้ย้อนเวลากลับไปสู่ยุคทองของสถาปัตยกรรมอังกฤษซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสถาปัตยกรรมสไตล์จอร์เจียนช่วงรัชสมัยพระเจ้าจอร์จ โดยทางเข้าอาคาร Clubhouse โดดเด่นด้วยเสาโรมันและซุ้มโค้งทรงที่ประดับตกแต่งอย่างวิจิตร ไม่เพียงแต่เพิ่มความหรูหราสวยงามให้กับตัวอาคารแต่ยังช่วยเปิดรับแสงจากธรรมชาติได้อย่างดี ส่วนหลังคาทรงปั้นหยาที่มีหน้าต่างบานเล็กประดับอยู่ด้านบนทำให้อาคารดูมีความคลาสสิกมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ Clubhouse กลายเป็นจุดศูนย์รวมของคอมมูนิตี้ของผู้คนที่มีรสนิยม เป็นการมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือระดับให้กับทุกครอบครัว
ทางโครงการฯ ออกแบบอาคารให้มีความโอ่โถง หรูหรา และสง่างาม ความสมมาตรของอาคารที่เป็นเอกลักษณ์ของ Georgian Revival ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน เรื่อยไปจนถึงรายละเอียดของการตกแต่งภายใน พื้นที่โถง Living แบบ Double Volume ที่สร้างความรู้สึกโอ่อ่า แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นเสมือนนั่งพักผ่อนอยู่ในบ้าน ตกแต่งภายในผสมผสานความคลาสสิก เรียบหรูเข้ากับความร่วมสมัย ด้วยการเลือกใช้สีโทนอบอุ่น โถงกลางประดับโคมไฟ Chandelier ขนาดใหญ่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้า มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ฟรีฟอร์มที่เลือกสรรมาอย่างพิถีพิถัน และให้ความเป็นส่วนตัว ท่ามกลางรายละเอียดการตกแต่งที่ประณีตและคลาสสิก
บริเวณชั้นบนมีพื้นที่ให้นั่งพักผ่อนและพบปะสังสรรค์ ภายในห้องมาพร้อมกับ Bar ที่ออกแบบให้มีกลิ่นอายของคลับในยุโรป สำหรับนั่งดื่มเบา ๆ ในบรรยากาศสบาย ๆ กับคนในครอบครัว หรือจัดเลี้ยงในวันพิเศษ
อีกฝั่งของชั้นบนยังมี Pilates Room ส่วนตัวเพื่อคนรักสุขภาพ ติดกันเป็น Gym ซึ่งมีอุปกรณ์ออกกำลังกายจัดเตรียมไว้อย่างครบครันทั้ง Weight Training และ Cardio มีทั้ง Treadmill, Elliptical และ Spin Bike ส่วนใครที่ไม่อยากออกกำลังกายในฟิตเนส อยากเปลี่ยนบรรยากาศ พาตัวเองออกมาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ก็สามารถมาใช้พื้นที่สวนโดยรอบได้ เพราะที่นี่มีทั้งสนามเด็กเล่น Educational Playground ที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก และพื้นที่เดิน-วิ่งออกกำลังกายให้ได้พักผ่อนหย่อนใจอย่างเต็มที่
นอกจากพื้นที่พักผ่อนในอาคารแล้ว Clubhouse ยังมาพร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนกลางระบบเกลือขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยกำแพงต้นไม้เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้งาน เต็มไปด้วยความร่มรื่นและผ่อนคลาย ราวกับได้ว่ายน้ำอยู่กลางสวนสไตล์ยุโรป ส่วนรอบ ๆ สระว่ายน้ำออกแบบพื้นที่อเนกประสงค์แบบ Semi-outdoor จัดวาง Day Bed ที่นั่งสำหรับพักผ่อนริมสระ เหมาะมานอนอ่านหนังสือหรือ อาบแดด นอนฟังเสียงน้ำให้สบายใจ
เรียกได้ว่าโครงการ ‘ณริณสิริ กรุงเทพกรีฑา - NARINSIRI Krungthep Kreetha’ คือหนึ่งในโครงการบ้านเดี่ยวของแสนสิริที่มาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ผ่านการออกแบบที่ใส่ใจอย่างลึกล้ำแบบไม่มีใครเหมือน บนทำเลศักยภาพของย่านกรุงเทพกรีฑา คอมมูนิตี้แห่งการอยู่อาศัยในสังคมระดับลักซ์ชัวรีและนานาชาติ ที่ให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสความเป็น Private Luxury Living ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในทุกมิติ ไม่ใช่เพียงแค่บ้าน แต่เป็นพื้นที่แห่งความงดงาม ความเป็นอยู่ที่ดี และความยั่งยืน ถ่ายทอดความหมายของคำว่า ‘ความสงบที่สง่างามเหนือกาลเวลา’ ให้ทุกวันเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ และการใช้ชีวิตคุณภาพอย่างแท้จริง
เป็นเจ้าของบ้านเดี่ยว The Private Luxury ดีไซน์สไตล์ Georgian Revival บนทำเลศักยภาพ ย่านกรุงเทพกรีฑา ได้แล้ววันนี้ ในราคาเริ่มต้น 45-100 ล้าน*
สามารถลงทะเบียนเพื่อนัดชมโครงการฯ พร้อมสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.sansiri.com/singlehouse/narinsiri-krungthep-kreetha



