ทั้งอ่อนโยนกับผิวและดีต่อใจด้วย 8 แบรนด์ออร์แกนิกที่ช่วยดูแลคุณตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า

Published on July 06, 2020

เพราะการดูแลผิวพรรณและการรักษาสุขภาพในยุคปัจจุบันนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อเกิดปัญหาสภาวะแวดล้อม ภัยธรรมชาติ และโรคระบาดที่ล้วนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของผู้คน ทำให้ต้องหันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้น การเสาะหาผลิตภัณฑ์คุณภาพ คัดสรรวัตถุดิบจากธรรมชาติ ที่ปลอดภัยจากสารเคมีจึงจำเป็นอย่างมากสำหรับกลุ่มคนที่ต้องการการปรนนิบัติผิวแบบอ่อนโยนที่สุด เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเห็นผลทั้งในระยะยาวและครอบคลุมทุกส่วน สำหรับใครที่กำลังมองหาแบรนด์ออร์แกนิกคุณภาพดีของไทยที่อ่อนโยนกับผิวและดีต่อใจอยู่ละก็ BKK. ได้ลองคัดสรรหลากหลายผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกน่าใช้มาให้สายบิวตี้ที่รักสุขภาพได้ทำความรู้จักกัน ส่วนจะเป็นแบรนด์ไหนบ้างไปติดตามพร้อม ๆ กันเลย

1

Common Ground

 

(Photo by Common Ground)

สัมผัสความอ่อนโยนแรกเริ่มกับ Common Ground แบรนด์ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก สำหรับใช้ทำความสะอาดร่างกายและบำรุงผิวที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในทุก ๆ ขั้นตอน โดยแบรนด์นี้เกิดขึ้นจากการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามมาตรฐานของออสเตรเลีย ประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์รวมสินค้าออร์แกนิกที่มีขนาดใหญ่และน่าเชื่อถือ ก่อนจะนำมาปรับและนำเสนอให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนไทย เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกคุณภาพของไทยในราคาที่ทุกคนเอื้อมถึง 

 

(Photo by Common Ground)

ความโดดเด่นของแบรนด์ Common Ground อยู่ที่การเลือกใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ซึ่งนำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย ใส่ในบรรจุภัณฑ์ซึ่งผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล 100% ส่วนผลิตภัณฑ์ยอดฮิตของทางแบรนด์ที่แนะนำให้เหล่า Organic Lover ได้ลองใช้ ได้แก่ Shampoo / Conditioner (250 ml. 160 บาท / 500 ml. 260 บาท) แชมพูและครีมนวดผมที่อุดมไปด้วยสารสกัดจากน้ำมันอะโวคาโด ให้ความชุ่มชื้นกับผิว หนังศีรษะ เเละเส้นผม เป็นหนึ่งในคุณค่าจากธรรมชาติที่ทางแบรนด์เลือกใช้ เพราะมีวิตามิน B, C, E สารต้านอนุมูลอิสระ เเละกรดไขมันดี ๆ ที่ทำให้ผิวเเละเส้นผมดูเปล่งประกายเงางาม สวยสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ

 

(Photo by Common Ground)

ตามมาด้วย Liquid Hand Wash (250 ml. 140 บาท / 500 ml. 230 บาท) สบู่เหลว สำหรับล้างมือ, Face Wash (250 ml. 140 บาท / 500 ml. 230 บาท) สบู่เหลวสำหรับล้างหน้า และ Hand & Body Lotion (250 ml. 140 บาท / 500 ml. 230 บาท) โลชั่นบำรุงผิวมือและผิวกาย ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนี้มาพร้อมส่วนผสม Plant-Based ที่ผ่านการรับรอง ทำความสะอาดผิวและดูแลผิวทุกประเภทอย่างอ่อนโยน ใครที่อยากเริ่มต้นหันมาดูแลสุขภาพผิวแต่ละส่วนด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติบ้างแล้วละก็ อย่าลืมคลิกเข้าไปติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้ทาง www.facebook.com/commonground.home

Common Ground
www.organicsbuddy.com/commonground
www.facebook.com/commonground.home

2

Erb

 

(Photo by BKKMENU.com)

ตามมาติด ๆ กับอีกหนึ่งแบรนด์น้ำหอมและสกินแคร์ชื่อดังของไทยอย่าง Erb ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ที่ยึดมั่นในพลังความงามจากธรรมชาติ ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ 100% รังสรรค์ออกมาเป็นหลากหลายผลิตภัณฑ์เครื่องหอมและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวคอลเลกชันต่าง ๆ อย่างคอลเลกชัน Seven Pollen ซึ่งเหมาะกับสภาพผิวของคนไทยมากที่สุด โดยเน้นช่วยในเรื่องของความกระจ่างใส เสริมปราการให้ผิวนั้นแข็งแรงดูสุขภาพดี 


ความหมายของ Erb มาจากคำว่า ‘อิ่มเอิบ’ ชวนให้นึกถึงเวลาที่เรามีความสุข จะรู้สึกอิ่มเอิบใจ พ้องเสียงกับอีกหนึ่งความหมายที่มาจากคำว่า ‘Herb’ ในภาษาอังกฤษที่หมายถึงสมุนไพร ส่วนอีกความหมายนั้นมาจากคำว่า ‘ยายเอิบ’ ซึ่งเป็นชื่อของสาวไทยโบราณที่รอบรู้เรื่องของศาสตร์ไทยโบราณ มีเคล็ดลับความงามมากมาย กลายเป็น 3 ความหมายที่รวมกันเป็นชื่อของแบรนด์ Erb นั่นเอง
 

(Photo by Erb)

Erb Seven Pollen เป็นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากพืชพรรณธรรมชาติ คิดค้นสูตรโดยสกัดส่วนผสมหลักจากเกสรดอกไม้ไทยโบราณ 7 ชนิด ได้แก่ พิกุล, บุนนาค, สารภี, บัวหลวง, มะลิ, จำปา และกระดังงา ทั้งหมดมาพร้อมคุณสมบัติสำคัญในการบำรุงผิวให้อิ่มเอิบ หรือเรียกได้ว่าเป็นตำรับตำราความงามจากชาววังที่ช่วยบำรุงผิวอย่างล้ำลึก คงความอ่อนเยาว์สดใส จากภายในสู่ภายนอกอย่างแท้จริง ภายในเซ็ตประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ดูแลผิวพรรณแต่ละส่วนอย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็น Cleansing Oil (120 ml. 1,950 บาท), Cleasing Water (120 ml. 1,600 บาท), Face Detox Mask (2,450 บาท), Balancing Essence (120 ml. 2,200 บาท), Face Serum (30 ml. 3,350 บาท) และ Face Cream (50 g. 2,950 บาท) ใครที่สนใจอยากลองใช้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ Erb ดูบ้าง สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.erbasia.com


Erb
www.erbasia.com
www.facebook.com/Erbthailand

3

FYNE

 

(Photo by FYNE)

ถัดมากันที่ FYNE ออร์แกนิกสกินแคร์แบรนด์สัญชาติไทยที่ขึ้นชื่อในเรื่องความอ่อนโยน และปราศจากสารที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ออกแบบโดยใส่ใจถึงผู้ที่มีผิวบอบบางโดยเฉพาะ ทุกผลิตภัณฑ์จะเน้นถึงความอ่อนโยนต่อผิวด้วยส่วนผสมที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี และเลือกใช้สารสกัดที่มีประโยชน์ เพื่อบำรุงผิวให้แข็งแรงตามคอนเซ็ปต์ ‘More Gentle More Care’ 

 

(Photo by FYNE)

ในส่วนของตัวผลิตภัณฑ์ที่แนะนำให้ลองใช้คือ FYNE Skin Barrier+ (Prebiotic Serum in Cream) (50 g. 1,390 บาท) เซรั่มสูตรอ่อนโยน เหมาะกับทุกสภาพผิว รวมทั้งผิวเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย โดยตัวผลิตภัณฑ์จะช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันและปลอบประโลมผิว ลดอาการระคายเคือง การอักเสบของผิว ที่เกิดจากการกระตุ้นด้วยมลภาวะ สารก่อการระคายเคือง สารก่ออาการแพ้ ด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์จากธรรมชาติ สารสกัดใบบัวบก สารสกัดคาโมมายล์ ว่านหางจระเข้ และอัลลันโทอิน 

 

(Photo by FYNE)

เพื่อให้ผิวหน้าแข็งแรงสมบูรณ์ครบทั้ง 3 องค์ประกอบ ได้แก่ Skin’s Lipid Barrier ด้วยเซราไมด์ คอเลสเตอรอล โอเมก้า-3, Skin’s Moisture Barrier ด้วย HYA 4 ขนาดโมเลกุล NMFs กรดอะมิโน 11 ชนิด และ Skin’s Microbiological Barrier จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์อย่างพรีไบโอดิก ช่วยรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ดีและจุลินทรีย์ที่ก่อปัญหาผิว ทำให้ผิวสุขภาพแข็งแรง ดูเรียบเนียน กระจ่างใส และอ่อนเยาว์มากขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.facebook.com/fyneskinofficial


FYNE
www.fyneskin.com
www.facebook.com/fyneskinofficial

4

Herbpiness

 

(Photo by Herbpiness)

จากนั้นไปสูดกลิ่นหอมพร้อมสัมผัสความสุขกันต่อกับแบรนด์ Herbpiness แบรนด์เครื่องหอมและยาดมสมุนไพรที่ทางผู้ก่อตั้งได้แรงบันดาลใจมาจากการปลูกสมุนไพรของคุณแม่ผู้เป็นนักชีววิทยาและนักพฤกษศาสตร์ โดยนำสมุนไพรใกล้ตัวในรั้วบ้านมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีทั้งสรรพคุณและให้กลิ่นหอมตามคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ที่เกิดจากการนำ 2 คำ คือ ‘Herb’ และ ‘Happiness’ มารวมกัน เพื่อให้ผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ได้รับกลิ่นหอมจากสมุนไพรไปพร้อมกับความสุขทางกายและใจควบคู่กัน ผ่านภาพลักษณ์ใหม่สุดสร้างสรรค์ เปลี่ยนจากสมุนไพรเชย ๆ ให้ดูน่าใช้ด้วยกลิ่นหอมและแพ็กเกจจิ้งที่ดูร่วมสมัย ซึ่งไม่ว่าคนรุ่นไหนก็หยิบขึ้นมาใช้ในชีวิตประจำวันได้

 

(Photo by Herbpiness)

ส่วนผลิตภัณฑ์แนะนำที่น่าใช้ ไล่เรียงกันไปนับตั้งแต่ Thai Herbal Inhaler ยาดมสมุนไพรขนาดพกพา, Herbal Liquid Balm บาล์มสมุนไพรขนาดพกพา, Aroma Botanic Roller น้ำหมักสมุนไพรและดอกไม้ ผสมผสานกับน้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติ, Herbal Cooling Spray สเปรย์สมุนไพรเย็น ให้กลิ่นหอมสดชื่น ไว้สำหรับคลายร้อน เป็นต้น ทุกผลิตภัณฑ์มีให้เลือกใช้หลากหลายกลิ่นตามชอบ มาพร้อมสรรพคุณมากมายที่ช่วยผ่อนคลาย เติมเต็มความรื่นรมย์ให้ความรู้สึกแฮปปี้ทุกครั้งที่เปิดใช้ ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มได้ทาง www.facebook.com/herbpiness


Herbpiness
www.herbpiness.com
www.facebook.com/herbpiness

5

Nuay Nard Handcraft

 

(Photo by Nuay Nard Handcraft)

ต่อเนื่องกันที่ Nuay Nard Handcraft แบรนด์สกินแคร์ออร์แกนิกกลิ่นอายอีสาน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในแวดวงคนรักสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นสกินแคร์ที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ ไร้สารปรุงแต่ง 100% ไม่ว่าใครก็สามารถใช้ได้แม้จะมีสภาพผิวแบบใดก็ตาม


 

(Photo by Nuay Nard Handcraft)

โดยชื่อแบรนด์ ‘Nuay Nard Handcraft’ หรือ ‘นวยนาด’ นั้น มาจากลักษณะนิสัยที่เนิบช้าไม่เร่งรีบ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีของการสร้างสรรค์ตัวผลิตภัณฑ์ สำหรับผลิตภัณฑ์เด่น ๆ ของแบรนด์ เริ่มต้นจากสบู่คราม สบู่ใบย่านาง สบู่ไวน์หมากเม่า โดยเน้นวิธีการผลิตแบบเรียบง่าย ซึ่งเป็นการนำเอาวัตถุดิบท้องถิ่นภาคอีสานเข้ามาผสมผสานอย่างมีเอกลักษณ์ อาทิ น้ำฝนและน้ำซับจากหมู่บ้านซับศรีจันทร์ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา

 

(Photo by Nuay Nard Handcraft)

จนปัจจุบันได้มีการคิดค้นสกินแคร์หลากหลายรูปแบบมากขึ้น ทั้งผลิตภัณฑ์บำรุงผิว คลีนซิ่งออยล์ สบู่เหลว ไปจนถึงลิปบาล์ม นอกจากนี้ ยังมีน้ำอบ เทียนหอม และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งมีการดีไซน์แพ็กเกจจิ้งที่นำเสนอความเป็นอีสานสอดแทรกเข้าไปด้วย อย่างหินทรายจากดินด่านเกวียน หรืองานจักสานกระติ๊บข้าวเหนียวขนาดกะทัดรัดที่ดึงดูดความสนใจจากลูกค้าได้ไม่น้อยเลยทีเดียว สามารถติดตามรายละเอียดแต่ละผลิตภัณฑ์ของแบรนด์เพิ่มเติมได้ทาง www.facebook.com/nuaynardhandcraft 


Nuay Nard Handcraft
www.facebook.com/nuaynardhandcraft

6

PAÑPURI

 

(Photo by PAÑPURI)

มาถึงอีกหนึ่งไลฟ์สไตล์แบรนด์สุดหรูสัญชาติไทยที่นำกลิ่นหอมและความเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติออกไปสู่สายตาคนทั่วโลกอย่าง PAÑPURI ที่โดดเด่นด้วยความเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก 100% ที่มีกลิ่นหอมน่าใช้ แต่ไม่มีสารเคมีใด ๆ เจือปน พร้อมสอดแทรกส่วนผสม เรื่องราวทางวัฒนธรรมลงไปด้วย เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับตัวแบรนด์

 

(Photo by PAÑPURI)

สำหรับผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่ทางแบรนด์ขอแนะนำให้ลองใช้คือ ArunaYouth™ Bakuchiol Oil (30 ml. 3,200 บาท) ผลิตภัณฑ์ออยล์บำรุงผิวหน้าที่ช่วยซ่อมแซมผิวในเวลากลางคืน เข้มข้นด้วย Bakuchiol 1.0% เรตินอลธรรมชาติ สกัดจากพืชตะกูลถั่ว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวกระชับ เต่งตึง แต่อ่อนโยน ปลอดภัย และไม่ทำให้ผิวระคายเคือง ใช้ได้แม้ผิวแพ้ง่าย ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของทางแบรนด์เพิ่มเติมได้ทาง www.panpuri.com


PAÑPURI
www.panpuri.com
www.facebook.com/panpuriofficial

7

Rawganic

 

(Photo by Rawganic)

เอาใจคนรักสบู่ก้อนกันอีกสักแบรนด์กับ Rawganic สกินแคร์สัญชาติไทยที่ก่อตั้งแบรนด์ขึ้นจากแนวคิดที่ต้องการให้ชีวิตของทุกคนใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น โดยจุดเริ่มต้นของแบรนด์เป็นการสร้างผลิตภัณฑ์ที่จะเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คนได้อย่างกลมกลืน และเมื่อค้นพบว่า ‘การล้างหน้า’ คือสิ่งที่ทุกคนต้องทำอยู่แล้วในทุกวัน สบู่ล้างหน้าออร์แกนิกจึงเป็นไอเท็มแรกของแบรนด์ Rawganic มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ที่บ่งบอกถึงความหมายแท้จริงของการล้างหน้า นั่นก็คือการทำให้หน้าสะอาด ไม่ให้มีสิ่งสกปรกหรือมีสารเคมีใด ๆ หลงเหลืออยู่บนใบหน้า เพื่อให้ผิวหน้าได้ทำความสะอาดอย่างหมดจดไปพร้อมกับความผ่อนคลาย


 

(Photo by Rawganic)

ในส่วนของผลิตภัณฑ์ยอดนิยม แน่นอนว่าต้องเป็น Rawganic Soap (390 บาท) สบู่ล้างหน้าก้อนเดียวที่ใช้ได้นานถึง 2 เดือน ซึ่งความโดดเด่นอยู่ที่การผลิตสบู่ตามวิถีธรรมชาติดั้งเดิม ใช้เวลาในการผลิตและบ่มสบู่ไว้นานกว่า 4 สัปดาห์ เพื่อให้ได้สบู่ที่เนื้อแน่นแต่นุ่มนวล ทำความสะอาดอย่างล้ำลึกและอ่อนโยนต่อผิว สำหรับสายออร์แกนิกคนไหนที่สนใจ ติตตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.rawganicsoap.com


Rawganic
www.rawganicsoap.com
www.facebook.com/rawganicsoap

8

คุณยายปลั่ง

 

(Photo by คุณยายปลั่ง)

ปิดท้ายกันที่แบรนด์เครื่องหอมไทย ซึ่งเป็นการยกระดับสมุนไพรไทยให้เป็นที่แพร่หลายและน่าจำจำมากขึ้น ผ่านชื่อเรียกแบบไทย ๆ อย่าง คุณยายปลั่ง โดยเป็นแบรนด์ที่โดดเด่นในเรื่องของการนำเอาสมุนไพรที่หาได้ในบ้านมารังสรรค์เป็นหลากหลายผลิตภัณฑ์ทั้งสบู่ แชมพู ครีมหมักผม ยาสีฟัน ครีมบำรุงผิว ครบถ้วนทุกอย่าง น่าใช้ทุกกลิ่น ก่อนจะเสริมกิมมิกด้วยเรื่องของ ‘ธาตุเจ้าเรือน’ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้ลูกค้าแต่ละคนได้นำไปปรับใช้ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง และยังคงผลักดันให้สมุนไพรไทยพื้นบ้านที่หลายคนคุ้นเคยกันดีอย่างขิง ข่า ตะไคร้ มะกรูด กลายเป็นกลิ่นหอมที่ยอมรับทั่วโลกตามมาตรฐานสากล

การออกแบบกลิ่นหอมของแบรนด์คุณยายปลั่งนั้นเกี่ยวข้องกับธรรมชาติ การผสมน้ำมันหอมระเหยจึงถูกออกแบบตาม ‘ธาตุเจ้าเรือน’ ของผู้ใช้ด้วย นั่นก็คือธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งแตกต่างกันไปตามเดือนเกิด โดยธาตุเจ้าเรือนจะเป็นตัวกำหนดบุคลิกและลักษณะนิสัยของคน ๆ นั้นนั่นเอง หากเลือกกลิ่นที่เหมาะสมกับธาตุเจ้าเรือนของผู้ใช้ ก็จะยิ่งได้ผลดี ก่อเกิดประโยชน์ต่อร่างกายอย่างแท้จริง

 

(Photo by คุณยายปลั่ง)

สำหรับสินค้ายอดนิยมที่แนะนำให้ลองใช้ ได้แก่ Pillow Mist หรือสเปรย์หมอนที่ช่วยให้นอนหลับสบาย รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น, Body Oil น้ำมันหอมระเหยสำหรับทาผิวกาย, Face Soap สบู่ล้างหน้าที่มีส่วนผสมของสมุนไพรไทย เป็นต้น หากสนใจสินค้าอื่น ๆ ของทางแบรนด์ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.facebook.com/kunyaiplang


คุณยายปลั่ง
www.facebook.com/kunyaiplang