Cuisine De Garden นำเสนอคอร์สเมนูสุดพิเศษผ่าน "เรื่องเล่าฤดูหนาว" ไม่ซ้ำใคร

Published on March 14, 2018

Cuisine de Garden ร้านอาหารจากเชียงใหม่กึ่ง Casual กับ Fine Dining ที่ได้แนวคิดและแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ ทั้งการตกแต่งที่ถึงแม้จะขยายสาขามาใจกลางเมืองอย่างซอยเอกมัย 2 แต่ก็ยังคงไม่ละทิ้งความเป็น Cuisine de Garden ที่สามารถสร้างบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติออกมาได้อย่างดีเยี่ยม หลังจากฤดูฝนผ่านไป จนเดินทางเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวจึงได้มีการตกแต่งร้านและเมนูใหม่ต้อนรับอากาศเย็น ๆ ด้วยฝูงนกอพยพสีแดงมากมาย ที่หลีกหนีลมหนาวจากต่างแดนมาพึ่งไออุ่นของบ้านเรา โดยสีแดงของนกเป็นการแทนสีเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาล 

 

(Photo By Cuisine De Garden)

 

(Photo By Cuisine De Garden)

รวมไปถึงการครีเอทอาหาร ที่ Cuisine De Garden เลือกผสมผสานวัตถุดิบพื้นบ้านของไทยเข้ากับเทคนิคการทำอาหารแบบตะวันตก ในรูปแบบของ Full Course Diner (1,590 บาท) ประกอบไปด้วยเมนูอาหารทั้งหมด 6 จาน แบ่งเป็น 4 chapters ร้อยเรียงเรื่องราวของอาหารตั้งแต่จานเบา ๆ เพื่อทานเล่นไปจนถึงจานที่ให้ความอิ่มได้แบบเต็มมื้อ ซึ่งสามารถเลือกได้หมวดละ 1 จาน โดยในเดือนธันวาคมนี้ ขอนำเสนอเมนูเซ็ตใหม่ ให้ได้มาเลือกทานต้อนรับบรรยากาศดี ๆ ในช่วงหน้าหนาวกัน 
 

(Fish In The River - ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว)

เริ่มคอร์สด้วย Fish In The River หรือชื่อไทยว่า “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” นำเสนอความอุดมสมบูรณ์ของประเทศไทยในฤดูเก็บเกี่ยว ด้วยผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญอย่าง "ข้าว" เมนูเรียกน้ำย่อย คำแรกคือกุ้งแม่น้ำพร้อมซอสกุ้งแม่น้ำคลุกข้าวคั่วกรุบกรอบ เสิร์ฟในหัวกุ้งแม่น้ำ ถัดมาที่คำที่สองข้าวเกรียบหอมมะลิ เสิร์ฟคู่กับสโมคคอร์นฟูเร่ ซอสข้าวโพดรมควัน และล้างปากก่อนเข้าสู่ Chapter 01 ด้วย สเฟียร์น้ำข้าวหอมมะลิ 
 

(Chapter 01 - SOIL)

เข้าสู่ Chapter 01 ด้วยเมนู SOIL ที่หยิบยกเรื่องราวของความอุดมสมบูรณ์ของดินอันเป็นจุดกำเนิดของพืชพันธุ์นานาชนิด ซึ่งสำหรับจานนี้ก็คือ Beef Tartar โรยด้วย Herbs Powder กลบด้วยชาโคลไอศกรีมลักษณะคล้ายดิน ให้ความรู้สึกเย็นเหมือนดินในหน้าหนาว ปักด้วยบีทรูททอดกรอบ และผักคะแยง ผักทางอีสานที่มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์และเมื่อทานคู่กับเนื้อแล้วจะยิ่งเสริมรสชาติให้ดียิ่งขึ้น โดยจานนี้เป็นภาคต่อจาก Rain Forest เมนู Beef Tartar ในคอร์สของฤดูฝน 
 

(Chapter 02 - ROOTS)

ดินที่อุดมสมบูรณ์ใน Chapter 01 ได้ให้กำเนิดพืชพันธุ์ที่ดีออกมาเป็น Chapter 02 - Roots ซึ่งสำหรับจานนี้เป็นการผสมผสานกันของพืชหัวสามชนิดได้แก่ มันฝรั่ง แครอท และแก่นตะวัน โดยนำเนื้อปู Blue Crap Croquet มาสอดไส้ในมันฝรั่งที่ถูกทำให้เหมือนกับรูปทรงแครอท จากนั้นนำมาเคลือบด้วยผงแครอท โรยด้วยแก่นตะวัน เสิร์ฟคู่กับซอสปูและธัญพืช ทานพร้อมกันจะให้รสชาติที่ดีเยี่ยม 
 

(Chapter 03 - KLUAY)


และใน Chapter 03 - KLUAY เป็นเมนูที่นำเสนอประโยชน์ของกล้วย ที่สามารถนำมาใช้ได้ทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นการนำกล้วยดิบนำมาทำกล้วยบด ทานคู่กับหยวกกล้วยทอดกรอบก็เข้ากัน นำใบตองมาห่อปลาฮาลิบัทหมักมิโสะแล้วนำไปย่างให้กลิ่นหอม ๆ เสิร์ฟพร้อมซอสใบตองย่าง ตกแต่งด้วยดอกกล้วยก็เก๋ไปอีกแบบ

 

(Chapter 04 - Strawberry Field)


และใน Chapter 04 นำเสนอความสวยงามของผลไม้หน้าหนาว Strawberry Field โยเกิร์ตมาชเมลโล่มากับสตรอเบอร์รีสดพันธุ์ 80 ตกแต่งด้านบนด้วยสตรอเบอร์รีแผ่นบางกรอบให้คนได้เห็นถึงความสวยงามภายในของผลไม้ เสิร์ฟพร้อมช็อกโกแล็ตโฟรเซ่นที่เต็มไปด้วยไอเย็นเหมือนหมอกในฤดูหนาว 

 

(STONE)

ปิดท้ายด้วยเมนูเท่ ๆ อย่าง STONE ที่นำช็อกโกแลตมาทำรูปร่างให้มีลักษณะเหมือนหิน โดยสีดำด้านนอกมาจากสีผงถ่านที่ได้จากการเผาฟาง ด้านในสอดไส้น้ำมะขามหรือกระเจี๊ยบ ถือเป็นการจบคอร์สวันนี้ได้อย่างดีเยี่ยม 



Cuisine de Garden

เปิดวันจันทร์ - เสาร์ 18.00 - 23.00 น.
โทร. 061-626-2816
www.facebook.com/cuisinedegardenbkk
www.cuisinedegarden.com