เปิดตัว Royal Osha ร้านอาหารไทยไฟน์ไดน์นิ่งระดับมิชลินภายใต้การดูแลของเชฟวิชิต มุกุระ

Published on October 01, 2020

เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งกับ Royal Osha ร้านอาหารไทยไฟน์ไดน์นิ่งที่ได้รับการแนะนำจากมิชลินไกด์ถึง 2 ปีซ้อน และในครั้งนี้ยังได้ร่วมกับ เชฟวิชิต มุกุระ เชฟอาหารไทยชื่อดังเจ้าของมิชลินสตาร์ 1 ดาว ที่นำประสบการณ์จากการเดินทางรอบโลกกว่า 40 ปี มารับตำแหน่ง Executive Chef ของที่นี่สำหรับคอนเซ็ปต์ของ Royal Osha นั้น มีที่มาจากเจตนารมณ์ที่ต้องการถ่ายทอดวัฒนธรรมอาหารไทยในรูปแบบไฟน์ไดน์นิ่งไปยังระดับโลก โดยยังมีแพลนจะเปิดสาขาในต่างประเทศอีกด้วย

 

(Photo by Royal Osha)

ทางร้านนำเสนอเมนูอาหารในรูปแบบ a la carte และแบบ Chef's Table โดยเน้นวัตถุดิบชั้นดีสดใหม่และเปลี่ยนไปตามฤดูกาล มีเมนูแนะนำอย่าง หอยเชลล์ทอดกับไข่ตุ๋นน้ำจิ้มซีฟู้ด (ลอนดอน) เมนูที่เชฟวิชิตได้ไอเดียมาจากการไปทำงานที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดดเด่นด้วยการผสานความนุ่มละมุนของเนื้อไข่ตุ๋น เคล้ากับกลิ่นหอมและความสดของหอยเชลล์ เพิ่มความจัดจ้านด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรพิเศษของเชฟ 
 

หอยเชลล์ทอดกับไข่ตุ๋นน้ำจิ้มซีฟู้ด (Photo by Royal Osha)

ถัดมาเป็นเมนูต้มโคล้งที่ฉีกรูปแบบจากต้มโคล้งที่มักเสิร์ฟแบบหม้อไฟ ถูกนำมาดีไซน์เป็น ต้มโคล้งปลากรอบกับทูน่า (ญี่ปุ่น) จานนี้ได้แรงบันดาลใจจากน้ำซุปกระดูกหมูราเมนของญี่ปุ่น โดยนำเครื่องต้มโคล้งมาบดกับเนื้อปลา ปรุงรสแล้วเคี่ยวในน้ำสต็อกปลานานกว่า 6 ชั่วโมง ก่อนจะกรองจนได้น้ำซุปใสรสชาติหอมของเครื่องต้มโคล้ง ทานคู่กับไชเท้าตุ๋น และปลากรอบ เพิ่มมิติของรสชาติให้กลมกล่อมมากขึ้น
 

ต้มโคล้งปลากรอบกับทูน่า (Photo by Royal Osha)

ต่อด้วยเมนูจานหลักอย่าง แกงกะหรี่ล็อบสเตอร์ทอดกับ
ข้าวทอด แหนมเห็ด (สวิตเซอร์แลนด์) เชฟด้แรงบรรดาลใจจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อแกงกะหรี่รสจัดจ้าน เค็ม เปรี้ยว หวาน หอมเครื่องเทศแบบไทย ทานคู่กับ ล็อบสเตอร์ วัตถุดิบล้ำค่าแห่งท้องทะเล เคียงด้วย ข้าวทอด แหนมเห็ด มันเทศ เพิ่มความสนุกในรสสัมผัสด้วย เกี๊ยวกุ้งแกงกะหรี่ และ ข้าวหอมมะลิแดง จาก บุรีรัมย์
 

แกงกะหรี่ล็อบสเตอร์ทอดกับ
ข้าวทอด แหนมเห็ด (Photo by Royal Osha)

และขาดไม่ได้กับเมนูขนมหวาน ดอกจอกใบเตยกับหวานเย็นข้าวหมากกับสาเก เป็นความลงตัวของรสชาติเค็มๆ หวานๆ ของขนมดอกจอก ทานคู่กับหวานเย็นข้าวหมาก ราดด้วย
สาเกยูสุ รองด้วย ฝอยทอง และข้าวหมากที่นำไปแนบบนกระทะจนกรอบ สังขยาน้ำตาลไหม้กับเครื่องเคียง อีกหนึ่งเมนูของหวานที่น่าลิ้มลอง สังขยาเนื้อเนียนหวานกำลังดี เคล้ากลิ่นหอมของน้ำตาลไหม้ 
 

ดอกจอกใบเตยกับหวานเย็นข้าวหมากกับสาเก และสังขยาน้ำตาลไหม้ (Photo by Royal Osha)

Royal Osha
ซอยร่วมฤดี ถนนวิทยุ
เปิดทุกวัน เวลา 11.00-15.00 น. และ 
เวลา 18.00-23.00 น.
โทร. 0-2256-6555 หรือ อีเมล reservations@royalosha.com
www.facebook.com/royaloshabkk

หมายเหตุ : สำหรับบริการ Chef’s Table โดยเชฟวิชิต มุกุระ กรุณาสำรองที่นั่งล่วงหน้า 1 สัปดาห์