Jungfood คาเฟ่ฮีลใจในสวนดอกไม้กินได้ ให้คนเมืองใกล้ชิดธรรมชาติอย่างเต็มที่

Published on September 30, 2025

หลีกหนีจากทุกความวุ่นวาย แวะมาผ่อนคลายในบ้านสีขาวหลังน้อย เติมความสดชื่นด้วยดริงก์จากดอกไม้กินได้ ธรรมชาติฮีลใจ บนพื้นที่เล็ก ๆ ที่พร้อมให้คนเมืองได้แวะมารีชาร์จความสุข ความสบายใจกันได้อย่างเต็มที่


ครั้งนี้ Behind The Taste ขอพาทุกคนไปเติมธรรมชาติ บูสต์ความสดชื่นไปกับสารพัดเมนูเครื่องดื่มเฟรช ๆ กันที่ ‘Jungfood’ คาเฟ่โฮมมี่ในย่านจรัญสนิทวงศ์ ของ ‘คุณพัชพิน-ภิญญาพัชญ์ ปรีดาบุญ’ ผู้เป็นทั้งเจ้าของ ‘PaPin-Garden (สวนป้าผิน)’ สวนดอกไม้กินไม้และคาเฟ่แห่งนี้กับความตั้งใจดีที่อยากสร้างสรรค์สเปซฮีลใจสำหรับคนเมือง เป็น Safe Zone ให้ผู้มาเยือนได้ใช้ช่วงเวลาดี ๆ รู้สึกสบายใจไปกับ Vibes แสนผ่อนคลาย โมเมนต์ความสุขเล็ก ๆ ในระหว่างวัน


กว่าจะมาเป็นคาเฟ่ในสวนดอกไม้ที่แวดล้อมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็น ‘ปอดกลางเมือง’ ขนาดย่อม ๆ ได้จนถึงทุกวันนี้ ล้วนต้องอาศัยทั้งแรงกายแรงใจ ประสบการณ์ในการลองผิดลองถูก ความมานะพยายามอย่างยิ่งยวด บนเส้นทางธุรกิจที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เบื้องหลังแรงบันดาลใจ Passion ใดบ้างที่ทำให้คุณพัชตัดสินใจเดินหน้าสร้างสรรค์พื้นที่นี้ต่อไปแบบไม่ท้อถอย อยากชวนให้ลองติดตามแนวคิดดี ๆ ของเธอจากบทสัมภาษณ์นี้กัน

 

Jungfood คาเฟ่ฮีลใจในบ้านหลังน้อยสีขาว

สานฝันทุกความชอบส่วนตัวสู่พื้นที่คาเฟ่และสวนดอกไม้กินได้


ท่ามกลางความวุ่นวายของสังคมเมืองใจกลางย่านจรัญสนิทวงศ์ ใครเลยจะเชื่อว่ายังมีพื้นที่ธรรมชาติแห่งหนึ่งซ่อนตัวอยู่ พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนให้ได้ Slow Down จากทุกความว้าวุ่นใจ ไปค้นพบอีกบรรยากาศที่เสมือนเป็น ‘สเปซฮีลใจ’ หรือ ‘บ้านเพื่อนต่างจังหวัด’ เข้ามาพักผ่อนหย่อนใจ ปล่อยให้ธรรมชาติโอบกอดอย่างอบอุ่นไปกับ ‘Jungfood’ สถานที่ที่เป็นมากกว่าคาเฟ่ เพราะรวมทั้งความฝัน ความหลงใหลในการทำธุรกิจส่วนตัวเข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้การดูแลของ ‘คุณพัชพิน-ภิญญาพัชญ์ ปรีดาบุญ’ ผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งแต่เดิมเธอเคยเป็นช่างภาพฟรีแลนซ์ ก่อนจะผันตัวมาทำธุรกิจหลากหลายด้าน ร่วมกับ ‘คุณเซม-สันติสุข ธิติโรจนกุล’ คนรัก โดยคาเฟ่ Jungfood แห่งนี้ นับเป็นบทพิสูจน์ว่า หากเราได้ให้โอกาสตัวเองได้ลองทำตามฝัน ค่อย ๆ เติบโตอย่างมั่นคง แม้ในพื้นที่ที่เคยรกร้างก็สามารถกลายเป็นสวนดอกไม้ที่ต่อยอดทุกความฝันให้กลายเป็๋นจริงได้ในที่สุด

 

คุณพัชพิน-ภิญญาพัชญ์ ปรีดาบุญ และคุณเซม-สันติสุข ธิติโรจนกุล

“เดิมทีเราเป็นช่างภาพฟรีแลนซ์ ถ่ายงานที่บ้านค่ะ พอถึงช่วงโควิด ลูกค้าที่ทำออนไลน์ก็เริ่มมีจำนวนมาก คุณพ่อเลยแนะนำให้เราลองเข้ามาพัฒนาพื้นที่ตรงนี้ เลยเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้สร้างสตูดิโอสำหรับใช้ถ่ายงานอาหาร ซึ่งที่มาของชื่อ Jungfood ก็มาจากชื่อเดิมของสตูดิโอเรา ซึ่งมาจากคำว่า Jungle ที่แปลว่าป่า ด้วยตัวร้านที่ถูกล้อมรอบด้วยธรรมชาติและสวนดอกไม้ ซึ่งเมื่อก่อนเป็นสวนทุเรียนเก่าที่รกร้าง เป็นพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ เราเลยค่อย ๆ พัฒนาจากสตูดิโอให้กลายเป็นสวนดอกไม้และคาเฟ่ค่ะ”

 

หลากหลายความทรงจำดี ๆ ที่คาเฟ่ Jungfood

 

ความทรงจำดี ๆ มีอยู่รอบตัว

“สำหรับสวนดอกไม้ป้าผิน เกิดขึ้นมาในช่วงที่เราเปิดสตูดิโอแล้ว ตอนนั้นมีการฉลองกินข้าวกันกับทีมงาน ก็คุยกันเล่น ว่าอยากมีสวนเล็ก ไว้ถ่ายโปรดักต์ ถ่ายดอกไม้ของเราเอง คุยไปคุยมาในทีมก็เชียร์ให้ลองปลูกดอกไม้ดู นั่นเลยเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจปลูกดอกไม้กินได้ที่ไม่คิดว่าจะกลายมาเป็นธุรกิจหลักแบบจริงจัง”


และเมื่อได้เริ่มต้นลงมือทำ จากธุรกิจเล็ก ๆ ก็ปรากฏว่าได้ผลตอบรับที่ดีมาก สามารถขยับขยายไปได้เรื่อย จนกลายมาเป็นอาชีพหลัก ปลูกดอกไม้กินได้ (Edible Flowers) ที่ส่งดอกไม้ให้กับเชฟ ร้านอาหาร และคาเฟ่น้อยใหญ่หลากหลายแห่ง สร้างรายได้และต่อยอดเป็นคาเฟ่ในสวนได้จนถึงทุกวันนี้

 

คุณพัชและคุณเซม กับช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนสบาย ๆ ภายในร้าน

ห้องเรียนธรรมชาติและการลองผิดลองถูก


การเรียนรู้เรื่องการปลูกดอกไม้สำหรับคุณพัชคือการได้ลงมือทำจริง เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ลองผิดลองถูกไปเรื่อย ๆ โดยอาศัยความที่ชอบดอกไม้เป็นทุนเดิม ประกอบกับการศึกษาเพิ่มเติมด้านเทคโนโลยีที่นิยมนำมาประยุกต์ใช้กันในปัจจุบัน ทำให้สามารถค้นคว้า งานวิจัยและข้อมูลต่าง ๆ ว่าดอกไม้ชนิดใดบ้างที่สามารถกินได้ ใช้ประกอบอาหารและสร้างสรรค์เป็นวัตถุดิบต่าง ๆ ได้ ซึ่งก่อนนำมาใช้จริง ก็ต้องผ่านการทดสอบด้วยตัวเองว่าดอกไม้แต่ละชนิดให้รสชาติเป็นอย่างไร มีคุณสมบัติพิเศษแบบใดบ้าง

 

คุณพัชพาชมสวนดอกไม้กินได้

สวนดอกไม้ของ PaPin-Garden จึงกลายเป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญที่มีทั้งดอกไม้และสมุนไพรต่าง ๆ รวมลิสต์กว่า 70 รายการ มีความออร์แกนิก สะอาดปลอดภัย ไร้สารเคมี โดยเน้นความหลากหลาย คัดสรรพืชพรรณใหม่ ๆ มาปลูก โดยตัวอย่างดอกไม้กินได้ของทางสวน ไล่เรียงการปลูกมาตั้งแต่ดาวเรือง, ดาวกระจาย, ดอกผีเสื้อ, กุหลาบ, พวงชมพู, อัญชัน ไปจนถึงพืชสมุนไพรอย่างมิ้นต์ สะระแหน่ และโหระพา เป็นต้น สามารถจัดส่งได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้โลเคชันสวนยังตั้งอยู่ในตัวเมืองที่นับเป็นจุดเด่นด้านการจัดส่งที่รวดเร็วและสดใหม่ รวมถึงยังขนส่งดอกไม้ด้วยรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า (EV) ที่ส่งเสริมและสนับสนุนในเรื่องของความยั่งยืนควบคู่กันไปอีกด้วย

 

ธรรมชาติฮีลใจในสวนดอกไม้กินได้ PaPin Garden

 

ดอกกระดุมเงินหรือดอกบานชื่นหนู หนึ่งในดอกไม้กินได้ที่ทาง PaPin Garden มีปลูกไว้ในสวน

คาเฟ่หลังน้อยสีขาวที่พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มสุดสดชื่น 

ท่ามกลางความร่มรื่นของสวนดอกไม้


ถัดจากสวนดอกไม้กินได้ขยับขยายมาสู่การเปิดให้บริการคาเฟ่ Jungfood ซึ่งเป็นอีกพาร์ทธุรกิจในฝันของคุณพัชที่เกิดจากความชอบและความทรงจำในวัยเด็กที่เติบโตมากับเสียงบดกาแฟของคุณพ่อและเพลงแจ๊สยามเช้า เมื่อมีจังหวะและโอกาสจึงเดินตามฝัน เปิดคาเฟ่แนวสโลว์บาร์ขึ้นมา ไม่ว่าในอนาคตผืนที่ดินนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางไหนก็ตาม แต่สำหรับคุณพัชแล้ว เพียงได้มีโอกาสการลงมือทำในตอนนี้ก็นับว่าคุ้มค่ามากแล้ว


“ที่นี่เป็นเหมือนพื้นที่ที่รวบรวมความฝันและให้เราได้ทดลองทำในสิ่งที่ชอบ คอนเซ็ปต์ที่เราคิดไว้คืออยากให้เป็นพื้นที่ที่คนชอบธรรมชาติมาเจอกัน เหมือนมาบ้านเพื่อนต่างจังหวัด มาพักผ่อนหย่อนใจ อยู่กับธรรมชาติ จุดเด่นคือทำเลที่ได้หลีกหนีจากความวุ่นวาย ซึ่งพอเข้ามาในซอยนี้จะเงียบมาก หลายคนที่เข้ามาแล้วจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘ไม่คิดว่าจะมีสถานที่แบบนี้อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ’”

 

บรรยากาศร้าน บริเวณชั้นล่าง

“นอกจากเป็นคาเฟ่แล้ว เรายังเป็นสถานที่ให้เช่า เป็น Workspace สำหรับใครที่อยากจัดกิจกรรม สัมมนา หรือ Workshop ต่าง ๆ ก็สามารถแวะมาพูดคุยกันได้ เราเปิดรับทุกโอกาสเลยค่ะ ที่ผ่านมาเราเคยให้เช่าพื้นที่หลากหลายแบบ เพื่อดูว่าผลลัพธ์เป็นอย่างไร บางทีบ้านหลังนี้ก็เปลี่ยนหน้าตาไปเรื่อย ตามแต่ผู้เช่าจะดีไซน์ ทำให้เราเห็นหลายมุมมอง ที่บ้านหลังนี้จะเป็นได้”

 

บรรยากาศร้าน บริเวณชั้น 2

อีกหนึ่งกิมมิกที่น่ารักของร้านคือการ ‘แจกดอกไม้ฟรีประจำวัน' โดยลูกค้าสามารถเลือกหยิบดอกไม้ที่ทางร้านจัดเตรียมไว้หน้าเคาน์เตอร์บาร์เครื่องดื่ม เพื่อแทนคำขอบคุณ พร้อมเป็นกำลังใจเล็ก ๆ ให้ทุกคนได้พบเจอกับเรื่องราวดี ๆ เติมความสดชื่น สดใสในทุก ๆ วัน

 

'แจกดอกไม้ฟรีประจำวัน' หนึ่งในกิมมิกน่ารัก ๆ ของทางร้าน ด้วยการส่งมอบกำลังใจเล็ก ๆ แทนคำขอบคุณ

“แนวการออกแบบร้านเป็นสไตล์ผสมผสานค่ะ ด้วยความที่พี่เซมชอบของวินเทจ ส่วนพัชชอบความปูนเปลือย ความดิบเท่ เราอยากได้บรรยากาศร้านเหมือนอยู่ในเรือนกระจก เลยค่อย เพิ่มช่องแสงและปรับเปลี่ยนมู้ดไปเรื่อย มีความร่มรื่น เย็นสบาย ด้วยต้นไม้ใบที่เลือกมาประดับไว้ในร้าน เน้นสไตล์ร้านแบบติดดิน แบบบ้าน ๆ ที่อบอุ่น สบาย ๆ และเป็นกันเองค่ะ โดยที่เราวางฟังก์ชันร้านให้ชั้นล่างเป็นคาเฟ่ ส่วนชั้นบนเหมาะสำหรับใครที่อยากนั่งจิบเครื่องดื่ม ทานอาหาร ทานเบเกอรีโฮมเมดสบาย หรือใช้จัดสัมมนา อบรม และ Workshop”



หมายเหตุ : ยามค่ำคืนของวันศุกร์-อาทิตย์ Jungfood จะเปลี่ยนมู้ดบรรยากาศร้านจากคาเฟ่เป็นบาร์ ให้ได้ชิลเอาต์กันแบบสบาย ๆ ได้ทั้งโซนอินดอร์และเอาท์ดอร์ที่มองเห็นวิวสวนดอกไม้ (สำหรับใครที่อยากแวะเข้ามาดริงก์ในช่วงวันธรรมดา แนะนำให้สำรองที่นั่งล่วงหน้าก่อนเดินทางมาที่ร้าน)
 

ไม่ว่าจะเลือกนั่งมุมไหนก็ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองอย่างเต็มที่

จากความชอบสร้างสรรค์ในการจัดดอกไม้  อีกทั้งคาเฟ่ยังตั้งอยู่สวนดอกไม้ คุณพัชจึงนำผลผลิตจากสวนดอกไม้กินได้มาแปรรูปเป็นไซรัป แยม แอลกอฮอล์อินฟิวส์สำหรับเมนูค็อกเทล รวมทั้งชาดอกไม้ พร้อมกับหยิบจับดอกไม้ในสวนมาตกแต่งเครื่องดื่ม (หมวด Coffee, Non-Coffee, Cocktail และ Mocktail) แต่ละแก้วให้มีคาแร็กเตอร์แตกต่างกัน ดูมีสีสัน สวยแปลกตา น่าดื่มมากขึ้น

 

ดอกไม้กินได้หลากหลายชนิดที่เลือกนำมาเป็นส่วนผสมและตกแต่งเครื่องดื่มของคาเฟ่ Jungfood

 

ชาดอกไม้กินได้ หลากหลายสูตร

“เราเป็นคนชอบกินมากและชอบถ่ายรูปด้วย เลยพยายามสั่งสมประสบการณ์จากการไปถ่ายงานต่าง ๆ บวกเข้ากับสวนดอกไม้ที่มี ทำให้เราได้ครีเอตลองวัตถุดิบในครัวของเราเอง สนุกกับการนำดอกไม้มาแปรรูปและตกแต่ง ซึ่งเมนูเครื่องดื่มของเราจะมีทั้งไซรัปดอกไม้ การตกแต่งด้วยดอกไม้อย่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งพัชกับพี่เซมจะช่วยกันชิม รวมถึงช่วยกันตั้งชื่อเมนูเครื่องดื่มที่มีความแปลกใหม่ อย่างเมนู ‘สดใส’ ที่เลือกตั้งชื่อมาจากไซรัปกุหลาบที่ปลูกเอง ให้สีชมพูอ่อน ๆ อย่างเป็นธรรมชาติ ดื่มเข้าไปจะได้กลิ่นกุหลาบหอมฟุ้ง”

 

สำหรับเมนูเครื่องดื่มแนะนำน่าลอง ได้แก่ PO-Taek - โป๊ะแตก กาแฟอเมริกาโน่-โซดา ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรไทยหลายชนิด อย่างสะระแหน่ โหระพา ที่ให้กลิ่นหอมสดชื่น ได้รสเปรี้ยวอมหวานเล็กน้อยที่เข้ากับความเข้มขมของช็อตกาแฟดำได้อย่างลงตัว

 

เมนูเครื่องดื่มแนะนำ : PO-Taek - โป๊ะแตก

Sod Sai - สดใส เมนูม็อกเทลรีเฟรชชิ่งที่นำกลีบกุหลาบมาทำเป็นแยมและไซรัป พร้อมให้เนื้อสัมผัสของกลีบดอกและกลิ่นกุหลาบหอมฟุ้ง

 

เมนูเครื่องดื่มแนะนำ : Sod Sai - สดใส

Summer - ซัมเมอร์ เมนูม็อกเทลแก้วสีเหลืองสดใสสมชื่อซัมเมอร์ โดยเป็นการมิกซ์ความอร่อยด้วยน้ำผลไม้สีเหลืองหลากชนิด พร้อมเพิ่มเท็กซ์เจอร์ชวนเคี้ยวหนุบหนับด้วยแอปเปิ้ลอบแห้งที่ทางร้านแปรรูปเอง ให้รสเปรี้ยวอมหวาน ดื่มแล้วเรียกความสดชื่นได้ดีสุด ๆ


นอกจากนี้ ยังมีเมนูเครื่องดื่มแก้วพิเศษที่ชื่อว่า ‘Leave it up to Patpin’ ที่คุณพัชได้ครีเอตจากการได้พูดคุยกับลูกค้าที่มาสั่งเครื่องดื่มวันนั้น ๆ โดยเลือกสร้างสรรค์จากส่วนผสมที่คนดื่มชอบ เพื่อให้ตอบโจทย์ในเรื่องของรสชาติดริงก์ที่ตรงจริตคนดื่มมากที่สุด

 

เมนูเครื่องดื่มแนะนำ : Summer - ซัมเมอร์

 

ทาร์ตเลมอนเมอแรงก์ ประดับด้วยดอกไม้กินได้ หนึ่งในเมนูเบเกอรีโฮมเมดขายดีที่พร้อมเสิร์ฟคู่กับเครื่องดื่มของทางร้าน

พื้นที่ปลอดภัยใจกลางเมืองสำหรับทุกคน


คาเฟ่ Jungfood คือสถานที่ที่ลูกค้ามักแวะเวียนเข้ามาฮีลใจเสมอ ด้วยความรู้สึกที่อยากขอบคุณ ไม่ว่าจะเป็นมู้ดบรรยากาศร้านร้านที่เหมือนเป็น ‘ปอดกลางเมือง’ ให้พวกเขาได้พักผ่อนหย่อนใจ โดยที่คุณพัชได้ให้ข้อคิดที่น่าสนใจไว้ว่า “จริง ๆ แล้วเราแทบไม่ได้ทำอะไรหวือหวาเลยกับคาเฟ่นี้ เพราะธรรมชาติเป็นคนจัดสรรเองทั้งหมดค่ะ” โดยเบื้องหลังความสวยงามและความสบายใจที่ลูกค้าได้รับนั้น คือพลังการเยียวยาจากธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งร้านนี้เป็นเพียงพื้นที่ที่อนุญาตให้ธรรมชาติได้ทำงานอย่างเต็มที่ มอบการบำบัดที่ลึกซึ้งให้กับทั้งทีมงานและลูกค้าทุกคน การได้อยู่กับธรรมชาติที่ Jungfood นั้น สามารถฮีลใจพวกเขาได้ อีกทั้งสร้างความสบายใจ อินสไปร์ผู้คนให้มองเห็นความสวยงามของธรรมชาติรอบตัว เมื่อเรารู้จักดูแลพื้นที่แห่งนี้ ธรรมชาติก็จะมอบความสุข ความสงบใจให้กับเราเป็นการตอบแทนเช่นเดียวกัน

 

ห้องเรียนธรรมชาติที่คุณพัชพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ น้อมรับการปรับตัวและฮีลใจไปกับสิ่งนี้ในทุก ๆ วัน

“ใครอยากผ่อนคลาย อยากเบรกจากปัญหา แวะมาอยู่กับธรรมชาติ ที่แห่งนี้จะเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน มาพักผ่อนหย่อนใจ ฟังเสียงนกร้อง ให้สายลมโอบกอดคุณที่ Jungfood”  สิ่งนี้คือข้อคิดดี ๆ ที่คุณพัชอยากฝากไว้ เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้คาเฟ่ Jungfood เติบโตและเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน



ก้าวต่อไปบนเส้นทางสายดอกไม้ (กินได้)


แม้ว่าการทำธุรกิจของที่นี่ (ทั้งพาร์ทสวนดอกไม้กินได้และคาเฟ่ Jungfood) จะเต็มไปด้วย Passion แต่ในทุก ๆ วันคุณพัชยังคงต้องพร้อมเผชิญกับปัญหาใหม่ ๆ ที่เข้ามาทักทายอยู่ตลอด โดยเฉพาะการทำสวนดอกไม้ที่ต้องมีการจัดการ บริหารทีมงาน ควบคุมการบัญชี-งบประมาณ และเตรียมรับมือกับภัยธรรมชาติ และศัตรูพืชที่ไม่ซ้ำรูปแบบเดิมเลยสักครั้ง ทั้งหมดทั้งมวลนี้ล้วนเกิดขึ้นควบคู่ไปกับสภาพเศรษฐกิจและการบริหารทีมงานที่ต้องใช้ทักษะรอบด้านอย่างมาก แม้จะมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากมาย ตัวคุณพัชเองกลับรู้สึกโชคดีที่ได้รับกำลังใจที่ดีจากครอบครัว คนรัก และคนรอบข้าง สิ่งหนึ่งที่เธอเลือกนำมาใช้ในแง่ของการใช้ชีวิตและการทำงาน คือแนวคิดจากคุณแม่ที่ว่า “ชีวิตคนเรามีทั้งความสุขและความเศร้า ต้องรับมือกับความทุกข์ที่อาจจะเข้ามาเยอะกว่าด้วยซ้ำ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการหาความสุขของเราให้เจอ ในฐานะเจ้าของธุรกิจที่ต้องสู้ อาจจะต้องลองคุยกับตัวเองเยอะ ว่าอยากจะไปต่อหรือเปล่า ลองสำรวจธุรกิจตัวเองดี และทบทวนถึงจุดประสงค์แรกที่อยากทำ ต้องมองให้ออกว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่คือโอกาสหรือภาระมากกว่ากัน ถ้าสามารถให้คำตอบในจุดนี้ได้ ทุกเส้นทางการเติบโตของธุรกิจนั้น ๆ จะมีหนทางออกเสมอค่ะ”

 

เบื้องหลังการทำงานพาร์ทการจัดการบริหารสวน PaPin Garden

เรียกว่าการมองหาความสุขให้เจอ ในสมการธุรกิจที่แสนท้าทาย คาเฟ่ Jungfood ไม่ได้มีเพียงแค่ความสวยงามของสวนดอกไม้กินได้ แต่เบื้องหลังคือการต่อสู้ดิ้นรนที่เจ้าของธุรกิจอย่างคุณพัชต้องมองให้รอบด้าน และสิ่งที่ทำให้คุณพัชเดินหน้าต่อได้คือการยึดมั่นในความสุขและจุดประสงค์แรกที่ตั้งใจทำธุรกิจเหล่านี้ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นในพาร์ทของการเป็นช่างภาพที่ได้เอ็นจอยไปกับเรื่องราวของเชฟและอาหารการกิน พาร์ทของเจ้าของคาเฟ่ที่ได้พบปะผู้คน เจอมิตรภาพใหม่ ๆ ที่เข้ามาทักทาย ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันในแต่ละวัน ไปจนถึงสวนดอกไม้กินได้ที่ทำให้เธอได้สัมผัสถึงความสบายใจทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ควบคู่ไปกับการเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา

 

รอยยิ้มแห่งความสุขที่พร้อมส่งมอบให้กับผู้ที่ได้มาเยือนร้าน Jungfood

Jungfood แห่งนี้ จึงเป็นเหมือนพื้นที่ที่อนุญาตให้ธรรมชาติได้ส่งมอบพลังงานดี ๆ อย่างเต็มที่ หากใครที่กำลังรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า หรือเผชิญสารพัดปัญหาใด ๆ จากการใช้ชีวิตประจำวันแล้วละก็ ที่นี่พร้อมเป็น Safe Zone ให้ผู้มาเยือนได้หลีกหนีจากทุกความวุ่นวาย ใช้ช่วงเวลาดี ๆ สัมผัสความสงบและผ่อนคลายในอ้อมกอดของธรรมชาติ สมกับที่เป็นสเปซฮีลใจสำหรับคนเมืองอย่างแท้จริง

 

พื้นที่ปลอดภัยแห่งนี้ ยินดีต้อนรับทุกคน

Jungfood

ซอยจรัญสนิทวงศ์ 91 แยก 4 บางพลัด (MRT สถานีบางอ้อ)

เปิด วันอังคาร-พฤหัสบดี (ปิดวันจันทร์) เวลา 10.00-18.00 น. 

และวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-23.00 น.

www.facebook.com/jungfood 

www.instagram.com/jungfood91