Come Back วงการ Hopping อีกครั้งกับ 6 คาเฟ่น้องใหม่ที่ให้คุณแวะไปเช็กอินก่อนใครหลังคลายล็อกดาวน์

Published on September 06, 2021

แค่พริบตาเดียวก็เข้าสู่เดือนกันยายน เดือนที่ 9 ของปีกันแล้ว หลังจากที่หลาย ๆ คนเริ่มหมด Passion จากการอยู่บ้านต่อเนื่องเป็นเวลานานหลายเดือน ตอนนี้ทางกรุงเทพฯ ก็ได้มีการคลายมาตรการล็อกดาวน์เป็นที่เรียบร้อย โอกาสดี ๆ แบบนี้ BKK. เลยอยากชวนคุณออกไปเติมเต็มพลังดี ๆ ให้ร่างกายและหัวใจได้กลับมาแฮปปี้อีกครั้งด้วยการเช็กอิน 6 คาเฟ่น้องใหม่ที่พร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนูให้คุณได้อิ่มอร่อยแบบ Keep Social Distacing อย่างปลอดภัยและสบายใจ! สำหรับ Cafe Hopper คนไหนที่พร้อมออกไปรันวงการ Hopping ให้หายคิดถึงกันแล้วในช่วงนี้ อย่าลืมดูแลสุขภาพและป้องกันตัวเองตามมาตรการฯ อย่างเคร่งครัดกันด้วยนะ

หมายเหตุ : จากประกาศกรุงเทพมหานคร ร้านต่าง ๆ กลับมาเปิดให้บริการตามปกติ โดยสามารถตรวจสอบวันเวลาเปิด-ปิด เพิ่มเติมได้จากทางร้านโดยตรง ผู้ใช้บริการอย่าลืมให้ความสำคัญกับการสวมหน้ากากอนามัยและการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อลดการแพร่ระบาดของ Covid-19


1

Omi Tteok


 

Omi Tteok (Photo by Hidekoririn)

ชวนสายเกาฯ มาสัมผัสความนุ่มนิ่มหนึบหนับไปกับหลากหลายเมนูแสนอร่อยสไตล์เกาหลีกันที่ที่ Omi Tteok ร้านต๊อกบกกีในเครือเดียวกันกับ Woolloomooloo Cafe & Bar ซึ่งโลเคชันนั้นตั้งอยู่ไม่ไกลกันนัก โดดเด่นด้วยตัวร้านในรูปแบบอาคาร 1 ชั้น สีครีมสดใส ที่พร้อมต้อนรับทุกคนให้เข้ามาลิ้มลองความอร่อยกับสารพัดเมนู Tteokbokki (100 บาท) เค้กข้าวเกาหลีในซอสโคชูจังรสเข้มข้น หรือจะลองเป็น So-tteok So-tteok (80 บาท) ต๊อกบกกีเสียบไม้สลับชั้นกับไส้กรอกทอดทาซอส นอกจากนี้ยังมี Injeolmi (140 บาท) เค้กข้าวเหนียวครีมถั่วแดงบดหรือมันหวานให้คุณได้เลือกอิ่มอร่อยไปพร้อมกับเสพบรรยากาศและรสชาติของความเป็นเกาหลีให้หายคิดถึง 

 

Tteokbokki (100 บาท) (Photo by Hidekoririn)

Omi Tteok

รัชดาภิเษก 19 (วิภาวดีรังสิต 16) 

เปิด วันพุธ-จันทร์ (ปิดวันอังคาร) เวลา 12.00-18.00 น.

www.facebook.com/omitteok



สามารถเลือกใช้บริการรูปแบบ Take Away ได้ที่หน้าร้าน
 

Brooke BKK (Photo by Brooke BKK)

ถัดมาเป็น Brooke BKK คาเฟ่น้องใหม่ที่ออกแบบมาในคอนเซ็ปต์ New Normal Cafe ซึ่งเข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยตัวร้านนั้นเป็นอาคารชั้นเดียว ทาสีขาวสลับน้ำเงิน พร้อมแยกโซนพื้นที่ระหว่างพนักงานและจุดให้บริการลูกค้าอย่างเป็นสัดส่วน สำหรับบริเวณที่นั่งให้บริการในรูปแบบของ Outdoor ซึ่งให้อากาศถ่ายเท รับลมสบาย ๆ ราวกับได้นั่งเล่นแบบชิลล์ ๆ กับเพื่อน ๆ บริเวณหลังบ้าน



ในส่วนของเมนูแนะนำ ทางร้านเลือกเสิร์ฟเมนูเครื่องดื่มและขนมหลากหลายประเภท เพื่อรองรับความชอบที่แตกต่างกันของลูกค้า ด้านเครื่องดื่มให้บริการทั้งเมนู Coffee และ Non-Coffee รวมถึงเมนูประจำ Season ที่หมุนเวียนมาเสิร์ฟความอร่อยในแต่ละช่วง ด้านขนมเบเกอรีที่ทำสดใหม่ในทุก ๆ วัน ทางร้านก็เลือกนำเสนอเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Brooke Custard Croissant ให้ได้ลิ้มลองหรือจะเป็น Lemon Cube Cake, Uji Matcha Nutella Cube Cake และ Cube Cake
 ก็น่าทานไม่แพ้กัน

 

Brooke Custard Croissant (Photo by Brooke BKK)

Brooke BKK

ลาดพร้าว 26 แยก 4 

เปิด วันพุธ-จันทร์ (ปิดวันอังคาร) เวลา 08.30-17.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 น.

โทร. 06-2196-4264

www.facebook.com/brooke.bkk



สามารถเลือกใช้บริการรูปแบบ Take Away ได้ที่หน้าร้าน
3

Haru Coffee House by Nana Coffee Roasters



 

Haru Coffee House by Nana Coffee Roasters

 (Photo by Hidekoririn)

Haru Coffee House คาเฟ่น้องใหม่ (ลูกสาวคนเล็ก) ในเครือของร้านกาแฟชื่อดังอย่าง Nana Coffee Roasters ที่ตั้งใจเปิดให้บริการในคอนเซ็ปต์ 'Artisan Japanese Coffeehouse' โดยเน้นเสิร์ฟหลากหลายเมนูเครื่องดื่มแบบ Specialty Coffee เป็นพิเศษ สำหรับสาขานี้มาพร้อมบรรยากาศที่อบอุ่นเหมือนบ้านหลังน้อยสไตล์ญี่ปุ่นซึ่งภายในอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟแก้วพิเศษที่การันตีความอร่อยด้วยการชงจากเหล่าบาริสต้ามากฝีมือระดับรางวัล

 

Dirty Coffee (Photo by Hidekoririn)

Haru Coffee House By Nana Coffee Roasters


สุขุมวิท 71 (ชั้น 1, แมคโคร สาขาสุขุมวิท 71)

เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.30 น.

โทร. 09-5353-6542 และ 08-2626-6235

www.facebook.com/haru.coffeehouse



สามารถเลือกใช้บริการรูปแบบ Take Away ได้ที่หน้าร้าน หรือสั่งเดลิเวอรีผ่านทางแอปพลิเคชัน LINE MAN และ Robinhood

4

Pilay House

 

Pilay House (Photo by Hidekoririn)

Pilay House บ้านน้อยหลังใหม่สไตล์เกาหลีแห่งย่านพระโขนง ที่ตั้งใจเนรมิตบ้านหลังเก่าขนาดกะทัดรัด อายุมากกว่า 40 ปี ที่แอบซ่อนอยู่ในซอยสุขุมวิท 71 ให้ดูทันมากขึ้น ด้วยแนวการตกแต่งร้านในโทนสีขาวสะอาดตา พร้อมเติมความสนุกด้วยสีสันของประตูหน้าต่างและเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์สุดเก๋สไตล์นอร์ดิก ให้คุณได้ดื่มด่ำบรรยากาศชิลล์ ๆ ควบคู่ไปกับการจิบเครื่องดื่มแก้วโปรดและอิ่มอร่อยกับขนมเบเกอรีแสนอร่อย!


 

Pilay House (Photo by Hidekoririn)

Pilay House

สุขุมวิท 71 (ซอยปรีดีพนมยงค์ 42 แยก 2)

เปิด วันพุธ-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 10.00-18.00 น.

www.facebook.com/Pilay.house



สามารถเลือกใช้บริการรูปแบบ Take Away ได้ที่หน้าร้าน หรือสั่งเดลิเวอรีผ่านทางแอปพลิเคชัน LINE MAN และ Robinhood 
(นอกจากนี้ ยังสามารถสั่งผ่านทาง Kerry Sameday ได้ก่อนเวลาเที่ยงตรง เพื่อรับสินค้าได้ในช่วงเย็น เฉพาะพื้นที่ กทม. นนทบุรีและสมุทรปราการ
 โดยพร้อมจัดส่งทั่วประเทศในรูปแบบ Cold Truck SCG Express
)
5



Labordish

 

Labordish (Photo by Hidekoririn)



Labordish คาเฟ่ขนาดกะทัดรัดที่ตั้งอยู่บนดาดฟ้าในย่านเจริญกรุง มาพร้อมกับการตกแต่งสไตล์มินิมัล โดยการใช้สีน้ำเงินตัดกับสีขาว ทำให้คาเฟ่นั้นดูมีสีสันและมีสไตล์ ก่อนจะเติมกิมมิกตามมุมต่าง ๆ ของร้านเข้าไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์สวย ได้ฟีลออฟฟิศนิด ๆ ผสมผสานเข้ากับความมินิมัลหน่อย ๆ

ทางร้านพร้อมเปิดให้บริการโซน Indoor หรือหากอยากออกไปรับลมชมวิวแบบ Social Distacing ไม่สุงสิงกับใคร สามารถเลือกใช้โซน Outdoor บริเวณระเบียงด้านนอก
ก็ชิลล์ดีไม่แพ้กัน

ในส่วนของเมนูแนะนำ ทางร้านเลือกเสิร์ฟเครื่องดื่ม Specialty Coffee ที่รังสรรค์จากเมล็ดกาแฟคั่วพิเศษจาก Roots ถูกใจคอกาแฟตัวจริงแน่นอน! สำหรับใครที่ไม่ถนัดดื่มกาแฟทางร้านยังมีเมนูเครื่องดื่ม Non-Coffee อย่าง Iced Chocolate (120 บาท) ช็อกโกแลตเย็นรสเข้ม ดื่มได้เพลิน ๆ 
ให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกด้วย

 

Iced Chocolate (120 บาท) (Photo by Hidekoririn)

Labordish  

เจริญกรุง 46 (ชั้น 3 ของร้าน Fat and Angry)

เปิดทุกวัน เวลา 10.30-18.30 น.

โทร. 06-4138-7804

www.facebook.com/labordish




ร้าน Labordish จะกลับมาเปิดให้บริการในวันที่ 10 กันยายนนี้ และจำกัดเวลาการนั่งโต๊ะ ครั้งละไม่เกิน 45 นาที 
หากไม่สะดวกนั่งทานที่ร้าน สามารถเลือกใช้บริการรูปแบบ Take Away ได้ที่หน้าร้าน
 

Slowblues Cafe (Photo by Hidekoririn)

เพราะคาเฟ่ดีไม่ได้มีแค่ในเมือง ขอชวนเหล่า Cafe Hoppers ลองแวะมาชิลล์กันที่ Slowblues Cafe คาเฟ่สไตล์โฮมมี่ที่ซ่อนตัวอยู่ในย่านงามวงศ์วาน โดยทางร้านได้เปลี่ยนบ้านหลังน้อยให้กลายเป็นพื้นที่แห่งความสุขของกลุ่มคนที่อยากแวะมานั่งชิลล์ คาเฟ่แห่งนี้โดดเด่นด้วยการนำเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์สวย แนวเรียบง่าย ได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้านมาใช้ในการตกแต่งมุมต่าง ๆ ของทางร้าน พร้อมด้วยของสะสมต่าง ๆ ที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว

ในส่วนของเมนูแนะนำ ทางร้านเลือกนำเสนอเมนูกาแฟที่ชงด้วยเมล็ดกาแฟคุณภาพ ผ่านการคัดสรรจากทั่วประเทศไทย ควบคู่กับความอร่อยของเบเกอรีโฮมเมดที่อบสดใหม่ทุกวัน มาพร้อมการครีเอตหน้าตาขนมที่ทั้งน่ารักและน่าทานมาก ๆ 

 

Slowblues Cafe (Photo by Hidekoririn)

Slowblues Cafe

งามวงศ์วาน 12

ร้านเปิด วันอังคาร-ศุกร์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 10.00-17.00 น. 
และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น.

โทร. 09-7350-6665 

www.facebook.com/slowblues.cafe

สามารถเลือกใช้บริการรูปแบบ Take Away ได้ที่หน้าร้าน