หลบร้อนที่คาเฟ่-ชมวิวกว้างของเกาะ Jeju ในวันแดดจัดผ่านภาพฟิล์ม

Published on August 04, 2018

จากที่ไม่เคยมีคำว่า “ประเทศเกาหลี” เป็น destination ของการท่องเที่ยวในชีวิต แต่ปีนี้เรากลับจ้องจอรอคอยที่จะกดจองตั๋วราคาดีเพื่อบินไปประเทศเกาหลี ซึ่งมีจุดหมายปลายทางเป็น “เกาะเจจู” 

ที่มาที่ไปของทริปนี้ คือการเผลอกดไปชมรายการเรียลลิตี้ + ท่องเที่ยวใน Netflix ที่ชื่อว่า Hyori’s Bed & Breakfast รายการที่ทำให้เราหลงรักธรรมชาติและจังหวะชีวิตของเมืองนี้จนอยากไปสัมผัสและทำความรู้จักด้วยตัวเอง 

 

บรรยากาศยามเช้าที่เงียบสงบ

เกาะเจจู หรือเกาะเชจู (Jeju) นับเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด แต่เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดของเกาหลีใต้ ดินแดนแห่งนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อหลายล้านปีก่อน ทำให้เป็นเกาะที่มีความสวยงามและอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ จนได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติภายใต้ชื่อ “เกาะภูเขาไฟเชจูและอุโมงค์ลาวา” เมื่อปี พ.ศ. 2550

 

วิวเมืองเจจูที่มองเห็นจากมุมหนึ่งของ Seongsan Ilchulbong

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ ที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวให้คุณมาสัมผัสและสำรวจอย่างครบครัน ทั้งทะเล ถ้ำ น้ำตก หน้าผา ทุ่งดอกไม้ หรือจะไปออกแรงปีนภูเขาไฟฮัลลาซานกับหลากหลายเส้นทางให้เลือกเทรลก็ได้ เจจูเป็นเกาะที่มีอากาศเย็นสบายโดยเฉลี่ย จึงเที่ยวได้ตลอดปี การเลือกไปในฤดูกาลที่ต่างกัน น่าจะทำให้ได้สัมผัสกับคาแรกเตอร์ของเจจูที่แตกต่างกันไป

 

ยามเช้าในมุมหนึ่งของเกาะเจจู

ครั้งนี้ BKK จะพาคุณออกไปสัมผัสเมืองเจจูในช่วงซัมเมอร์ ที่มีอุณหภูมิสูงไม่แพ้เมืองไทย จะต่างออกไปก็ตรงเป็นความร้อนแบบแห้ง ๆ เราจึงขอหลบแสงแดดยามกลางวันไปพึ่งความเย็นในคาเฟ่ แล้วชวนกันไปสัมผัสธรรมชาติของเกาะเจจูในมุมกว้างสบายตาของช่วงเวลาเย็น โดยเราเลือกบอกเล่าเรื่องราวของทริปนี้ผ่านกล้องและภาพฟิล์ม ที่แสงแดดจัด ๆ ของเมืองนี้ มีผลให้ภาพที่ล้างออกมา คมชัดและชัดเจนดีในความทรงจำ 


CAFES

1

Terarosa Coffee

 

Terarosa Coffee

Terarosa Coffee คาเฟ่ที่อยู่ทางใต้ของเกาะเจจู เสิร์ฟกาแฟในสไตล์ Specialty Coffee ที่ผู้ที่ขาดคาเฟอีนไม่ได้ในแต่ละวันน่าจะชื่นชอบ เพราะนอกจากจะมีกาแฟให้เลือกดื่มหลากหลายทั้งเมนูจากเครื่อง Espresso Machine แล้วยังสามารถทดลองดื่มดำกับกาแฟดริปที่มีเมล็ดกาแฟให้เลือกหลากหลายรสชาติตามความชอบ

 

ชิมกาแฟดริปจากเมล็ดกาแฟหลากหลายรสชาติได้ตามความชอบ


ตัวร้านตกแต่งด้วยไม้และอิฐเป็นหลัก รอบ ๆ เป็นกระจก ทำรู้สึกโปร่ง สบายตา มองเห็นสีเขียวจากสวนส้มที่อยู่รอบ ๆ พอจะทำให้รู้สึกเย็นใจขึ้นมาได้ในวันแดดจัด ด้านนอกมีที่นั่งเล่นให้ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ถ้าได้มานั่งรับลมในวันที่อุณหภูมิด้านนอกลดจำนวนดีกรีลงมาหน่อย คงจะชิลล์ไม่น้อย


นอกจากเมนูกาแฟคุณภาพ ขนมเบเกอรีอบสดใหม่ ก่อนกลับยังสามารถเลือกซื้อเมล็ด หรืออุปกรณ์ชงกาแฟติดไม้ติดมือกลับไปชงดื่มเองที่บ้านได้

 

ขนมอบสดใหม่

Terarosa Coffee
เปิดทุกวัน 9.00 - 21.00 น.
27-16 Chilsimni-ro658beon-gil, Hahyo-dong, Seogwipo, Jeju-do, South Korea



2

Kiasma Coffee

 

ด้านหน้า Kiasma Coffee

Kiasma Cafe 1  ใน Hidden Cafe ของเกาะเจจู ที่ซ่อนตัวอยู่รอบนอกของเมือง ด้านหน้าคาเฟ่ดูเรียบง่าย ให้อารมณ์ดิบ เท่ แต่เมื่อก้าวเท้าเข้าไป จะสัมผัสได้ถึงส่วนผสมของความชิคและเก๋ในสไตล์วินเทจ ในโครงสร้างของตึกเปลือย ที่ถูกประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งสไตล์วินเทจ 

 

บาริสต้าแห่ง Kiasma Coffee

เป็นคาเฟ่ที่หนุ่ม-สาวชาวเจจู ต่างควงกันมาเดท ทานอาหาร จิบกาแฟและเบเกอรี่ ในช่วงฤดูร้อน 

 

สไตล์การตกแต่งที่ผสมผสานระหว่างความดิบเท่และเฟอร์นิเจอร์วินเทจ

Kiasma Coffee
เปิดทุกวัน (ปิดวันอังคารและพุธ) 11.00 - 18.00 น.
939-1, Wimi-ri, Namwon-eup, Seogwipo-si, Jeju



3

Baromwat

 

สุดสายตาคือวิวภูเขา

Baromwat คาเฟ่ที่วางตัวอยู่ในพื้นที่ของสวนกว้างบนเกาะเจจู มองออกไปจะเห็นทิวเขาเรียงตัวสลับซับซ้อนอยู่ปลายสายตา ในช่วงฤดูร้อนของปีถ้ามาถูกจังหวะและโชคดีจะได้เห็นทุ่งลาเวนเดอร์และดอกไฮเดรนเยีย เบิกบานเป็นแบ็กกราวด์ให้ถ่ายภาพสวย ๆ


 

สวนบริเวณรอบ Baromwat Cafe


ส่วนของคาเฟ่เสิร์ฟทั้งกาแฟ เครื่องดื่ม และขนมหลากหลายเมนู เหมาะสำหรับการมานั่งชิลล์ เดินเล่นถ่ายรูป รวมทั้งที่นี่ยังเป็นสถานที่สำหรับจัดอีเวนต์ คอนเสิร์ตและงานต่าง ๆ

 

แสงแดดยามเย็นที่ Baromwat Cafe

Baromwat

เปิดทุกวัน 9.30 - 18.00 น.

2350-104 Beonyeong-ro, Pyoseon-myeon, Seogwipo-si

Mountains

4

Seongsan Ilchulbong

 

ส่วนหนึ่งของยอดปากปล่อง Seongsan Ilchulbong

ทุก ๆ การระเบิดจะเกิดสิ่งใหม่เสมอ...การระเบิดของภูเขาใต้น้ำเมื่อ 1 แสนปีก่อนก็ได้ทำให้เกิดเป็น “ยอดเขาซองซาล อิลชุบง (Seongsan Ilchulbong)” ที่ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของเกาะเจจูแห่งนี้ก็ด้วยเช่นกัน ถ้ามองจากมุมท็อป ภาพจำของ Seongsan Ilchulbong คือภาพปากปล่องที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 600 เมตร ลึก 90 เมตร รอบ ๆ ปากปล่องจะมีลักษณะของขอบหินแหลม 99 หยัก ที่ดูคล้ายกับรูปร่างของมงกุฎ

 

มองเห็น Seongsan Ilchulbong จากชายหาดรอบ ๆ

 

ภาพที่เห็นเมื่อมองลงมาจากด้านบนของ Seongsan Ilchulbong

Seongsan Ilchulbong นับเป็น 1 ในสถานที่ท่องเที่ยวของเกาะเจจู ที่เราจะพบเห็นนักท่องเที่ยว หรือแม้แต่ชาวเกาหลีเอง ต่างมาเดินชมความงามของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นวิวทิวทัศน์รอบ ๆ ภูเขา หรือจะเดินขึ้นไปชมวิวกว้างจากมุมสูงที่จุดชมวิวในระยะเดินได้ไปกลับประมาณ 50 นาที ก็จะได้สัมผัสกับ Magic Hour ที่ธรรมชาติสร้างในช่วงพระอาทิตย์ตก ก่อนหมดวันอย่างสวยงาม


 

เก็บภาพวิวสวย ๆ ที่ Seongsan Ilchulbong

 

วิวพระอาทิตย์ตกจาก Seongsan Ilchulbong

Seongsan Ilchulbong
ฤดูร้อน เปิด 7.10-19.00 น.
ฤดูหนาว เปิด 7.30-18.00 น.
ค่าเข้า 2,000 วอนเกาหลี/คน (ประมาณ 60 บาท)
284-12, Ilchul-ro, Seongsan-eup, Seogwipo-si, Jeju-do

5

Mt. Songak

 

รอบ ๆ Mt. Songak จะมองเห็นวิวของทะเล และเกาะน้อยใหญ่

วันสุดท้ายของทริป เราได้แวะมาเก็บเกี่ยวความทรงจำดี ๆ ที่ “ภูเขา Songak” หรือที่ถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “99 บง” ที่มาที่ไปก็เพราะประกอบด้วยยอดเขาเล็ก ๆ มากมายถึง 99 ยอด บริเวณใกล้เคียงกับ “ภูเขา Songaksan” เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำซีรีส์ชื่อดังอย่าง "แดจังกึม"

 

Mt. Songak ในช่วงเย็นของวัน

 

ถึงแม้ภูเขาแห่งนี้จะไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่ายอดเขาฮัลลาซาน แต่ด้วยบรรยากาศ และธรรมชาติโดยรอบของที่นี่ ทำให้ทุก ๆ ก้าวที่เราเดินขึ้นไป ได้ค่อย ๆ ซึมซับขององค์ประกอบแห่งความเรียบง่าย ที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่น่าจะเป็นเพราะลมเย็น ๆ วิวกว้างที่มองเห็นเกาะน้อยใหญ่ และแสงแดดอ่อน ๆ ที่เหมาะสมกับการเก็บภาพสวย ๆ ทำให้เรายกที่นี่เป็น The Best ในใจของทริปนี้

 

ก่อนพระอาทิตย์ตกที่ Mt. Songak

Mt. Songak 
ไม่เสียค่าเข้า
Songakgwangwang-ro, Daejeong-eup, Seogwipo-si, Jeju-do