พูดคุยกับ ‘เชฟอังกฤษ – อังศ์กฤษฏิ์ เชื้ออ่ำ’ แห่งร้าน ANG KEE และ MasterChef Thailand Season 5
ชวนเปิดครัวพูดคุยกับ ‘เชฟอังกฤษ – อังศ์กฤษฏิ์ เชื้ออ่ำ’ แห่งร้าน ANG KEE และ MasterChef Thailand Season 5 ชายหนุ่มที่ถ่ายทอดความทรงจำผ่านอาหารเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยรายละเอียด
จากครัวเล็ก ๆ ในบ้าน สู่เส้นทางเชฟที่เต็มไปด้วยการเรียนรู้ ทั้งจากประสบการณ์จริงและแรงบันดาลใจรอบตัว วันนี้เชฟอังกฤษยังคงยึดมั่นในแนวคิด “อาหารคือความสุขที่แบ่งปันได้” และอยากให้ทุกคนที่ได้ชิมจานของเขา ละเลียดความสุขเล็ก ๆ แบบเดียวกับที่เขาเคยรู้สึกในตอนเด็ก
เพราะ ‘อาหารไม่ใช่แค่สิ่งที่กิน แต่เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าหากัน’ ดังนั้นในทุกครั้งที่ลงมือปรุง เขาจึงตั้งใจถ่ายทอดอารมณ์ ความทรงจำ และความอบอุ่นแบบบ้าน ๆ ออกมาในรสชาติที่เรียบง่ายแต่จริงใจ ซึ่ง #BEHINDTHETASTE ครั้งนี้ จะขอชวนทุกคนไปทำความรู้จักเชฟคนนี้ให้ลึกยิ่งขึ้น ผ่านบทสัมภาษณ์พิเศษที่จะพาไปค้นหาความหมายของ “รสชาติแห่งความทรงจำ” !
จุดเริ่มต้นจากความคิดถึงบ้าน
“ผมเริ่มทำอาหารเพราะคิดถึงรสมือแม่” เชฟอังกฤษเล่าด้วยรอยยิ้มถึงช่วงเวลาที่อยู่ลอนดอน เมื่อความคิดถึงบ้านกลายเป็นแรงผลักดันให้เขาโทรกลับมาหาคุณแม่ ขอสูตรน้ำพริกประจำบ้าน แล้วลงมือทำเองในครัวเล็ก ๆ ที่ต่างแดน จนกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางที่ต่อมาจะกลายเป็นชีวิตในครัวจนถึงทุกวันนี้
โตมากับกลิ่นกระทะและเสียงในครัว
“ผมโตมากับสวนอาหาร เพราะที่บ้านทำธุรกิจร้านอาหาร ทำให้ความทรงจำของผมคือการวิ่งเล่นในครัวตั้งแต่เด็ก ใช้กระทะจริง เครื่องปรุงจริง” เชฟอังกฤษจำได้ดีถึงวัยเด็กที่ได้สัมผัสทุกอย่างในครัวอย่างเป็นธรรมชาติ จนการทำอาหารกลายเป็นสิ่งที่คุ้นชิน เหมือนส่วนหนึ่งของชีวิตที่ไม่เคยหายไป
ช่วงเวลาที่โควิดทำให้กลับมารักการทำอาหารอีกครั้ง
หลังจากไปใช้ชีวิตอยู่ที่ลอนดอนได้หลายปี ทั้งโลกก็เข้าสู่ช่วงโควิด แน่นอนว่าในลอนดอนก็เช่นกัน แต่กลับกัน ในช่วงเวลานั้นคือช่วงที่เขาใช้ชีวิตเรียบง่ายที่สุด
“ผมกับแฟนแพลนมื้ออาหารทุกวัน ปลูกผักเอง ทำขนมปังเอง ชีวิตเหมือนรีไทร์เลย” ช่วงเวลาเหล่านั้นจึงทำให้เขารู้ว่า ความสุขแท้จริงอยู่แค่ในครัว กับวัตถุดิบง่าย ๆ ที่ปลูกและปรุงเองด้วยมือ ทดลองซ้ำ ๆ จนกลายมาเป็นรสชาติแบบที่ตัวเองอยากกิน
จากมาสเตอร์เชฟ สู่การค้นพบตัวตนใหม่
หลังจากใช้ชีวิตอยู่ที่ลอนดอนมาพักใหญ่ ผ่านประสบการณ์ในร้านอาหารที่หลากหลาย กลายมาเป็นช่วงเวลาที่เชฟอังกฤษได้ทบทวนตัวเองในเรื่องของการกลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศไทย
ช่วงนั้นผมเริ่มทำคลิปวิดีโอในชีวิตประจำวันครับ จนมีเพื่อนแนะนำให้ลองส่งไปออดิชันในรายการ MasterChef Thailand Season 5 “ตอนนั้นไม่ได้คิดจะชนะเลย แค่คิดว่าอยากสนุกกับมันให้เต็มที่” ซึ่งหลังจากถูกรับเลือกให้เข้าร่วมรายการนี้ ทำให้นี่กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เขาได้กลับมาเมืองไทยอีกครั้ง
เชฟที่ไม่มีกรอบ แต่เต็มไปด้วยความรู้สึก
“ผมไม่ใช่เชฟที่เรียนมาจากโรงเรียน ผมเลยทำอาหารตามใจตัวเอง” เชฟอังกฤษยังเล่าให้เราฟังในพาร์ทของประสบการณ์ทำงานในร้านอาหารต่างประเทศ ที่ผ่านมาหลากหลายรูปแบบจนทำให้เขาเข้าใจระบบครัวและทีมเวิร์กอย่างลึกซึ้ง พร้อมกับความเชื่อในรสชาติที่มาจากใจมากกว่าสูตรใด ๆ “อาหารที่ดีสำหรับผม คืออาหารที่พาคนกินกลับไปหาความทรงจำดี ๆ ได้ครับ”
จุดเริ่มต้นของ ‘อังกี่’
หลังจบการแข่งขัน เชฟอังกฤษ – อังศ์กฤษฏิ์ ร่วมกับผู้มีความชอบคล้ายกันอย่าง คุณดิฐ แจ้งศิริเจริญ ผู้ก่อตั้ง 2 คาเฟ่ชื่อดังแห่งย่านฝั่งธนอย่าง Walden Home Cafe และ Ballad Coffee Bar มาช่วยกันสร้างร้าน ‘อังกี่ (Angkee)’ ขึ้น
โดยแรงบันดาลใจของที่นี่มาจากช่วงเวลาที่เขาใช้ชีวิตในฮ่องกงเป็นเวลานาน จนได้ลองไปทานเมนูหมูทอดสไตล์ฮ่องกงที่เสิร์ฟมาแบบง่าย ๆ อย่างข้าวพอร์คชอปโปะไข่ ที่ทั้งอิ่ม อร่อย และ Comfort จนกลายมาเป็นความตั้งใจของร้าน “เราอยากให้ ‘อังกี่’ เป็นร้านที่คนกินแล้วรู้สึกเหมือนได้กินข้าวบ้านเพื่อน”
ความพิเศษในจานที่เรียบง่าย
ที่ร้านนี้เชฟอังกฤษทำการผสมผสานเครื่องปรุงไทยกับรสแบบจีน เพื่อสร้างรสชาติที่เป็นตัวเอง “เราไม่ได้อยากทำหมูทอดแบบไทย หรือหมูซีอิ๊วแบบฮ่องกง แต่เป็นรสที่เราอยากกินจริง ๆ” จนกลายมาเป็นเมนูซิกเนเจอร์อย่าง พอร์คชอปโปะไข่ และ ข้าวสามสหาย สองจานที่เกิดจากความเรียบง่ายและความคิดถึง กลายมาเป็นเมนูที่กินแล้วอุ่นใจเหมือนอยู่บ้าน
อาหารที่อยากให้คนกิน ‘ได้คิดถึงบ้าน’
“ผมอยากให้ทุกคนที่มาทานรู้สึกถึงความทรงจำของตัวเอง เหมือนที่เคยมีคนฮ่องกงแวะมากินอาหารที่ร้านแล้วบอกว่าคิดถึงบ้าน ตอนนั้นผมรู้เลยว่าเราทำสำเร็จแล้ว”
สำหรับเชฟอังกฤษ อาหารของเขาไม่ใช่แค่เรื่องรสชาติ แต่คือเรื่องราว ความทรงจำ และความรู้สึกที่อยากส่งต่อให้คนกินได้ยิ้มจากใจ
รสชาติอบอุ่นในความทรงจำ
สุดท้ายแล้วสำหรับเชฟอังกฤษ “อาหาร” ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่อยู่บนจาน แต่คือเรื่องราว ความทรงจำ และความรู้สึกที่อยากแบ่งปันให้ผู้คนได้สัมผัสผ่านรสชาติเดียวกัน เหมือนกันกับรสชาติของความอบอุ่นแบบบ้าน ๆ ที่ซ่อนอยู่ในทุกคำที่ได้ชิม
หากคุณอยากสัมผัสความทรงจำเหล่านั้นด้วยตัวเอง แนะนำให้ลองแวะมาที่ ‘อังกี่’ (Angkee) แล้วมาลิ้มลอง “รสชาติของความทรงจำ” ที่อาจพาคุณย้อนกลับไปสู่ความสุขเรียบง่ายในวันเก่า ๆ อีกครั้ง
⌂ : Ang Kee คลองสาน (ใกล้กันกับ Walden Home Cafe)
T : เปิดวันอังคาร - ศุกร์ เวลา 08.00 - 16.00 น.
และ วันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 10.00 - 18.00 น. (หยุดวันจันทร์)
✆ : 065 456 6824



