แฮงก์เอาต์แบบมีสไตล์ ที่ 7 บาร์คอนเซ็ปต์คูล

Published on May 22, 2019

ชวนคุณออกมาแฮงก์เอาต์ยามค่ำคืนกับ 7 บาร์คอนเซ็ปต์คูล ๆ ที่ BKK. คัดสรรมาแล้วว่าโดดเด่นตั้งแต่แรงบันดาลใจ เรื่องราวน่าค้นหา ไปจนถึงสไตล์การตกแต่งที่มีกิมมิกมากมายซึ่งหลายคนอาจคาดไม่ถึง ให้เหล่านักท่องราตรีได้ตื่นเต้น และดื่มด่ำไปกับค็อกเทลแก้วโปรดที่แต่ละร้านได้ทีมบาร์เทนเดอร์มืออาชีพมาร่วมโชว์ลีลาและฝีมือการชงเครื่องดื่มสูตรพิเศษ ส่วนจะเป็นที่ไหนบ้างนั้น ตามไปเช็คลิสต์พร้อม ๆ กันได้เลย

1

Find The Photo Booth

FULL REVIEW
 

Find The Photo Booth

ถ้าให้พูดถึง Conceptual Bar ที่มีคอนเซ็ปต์ชัดเจนและน่าสนใจ Find The Photo Booth บาร์ค็อกเทลในซอยสุขุมวิท 4 ต้องเป็นหนึ่งใน Top List อย่างแน่นอน ด้วยลูกเล่นที่ให้คุณตามหาบาร์ตั้งแต่ทางเข้า รวมทั้งห้องล้างรูปและตู้ถ่ายรูปในยุค 1925 ก็เรียกความสนใจให้อยากเข้าไปชิลล์และสัมผัสปประสบการณ์ที่บาร์แห่งนี้ดูสักครั้ง

FULL REVIEW
 

ตู้ถ่ายรูปด้านหน้าบาร์

คอนเซ็ปต์ของร้านได้รับแรงบันดาลใจมาจากยุคหลังสมัยใหม่ (Postmodern Era) ที่ผู้คนแอบเปิดบาร์ลับประจวบกับยุคที่ตู้ถ่ายรูปกำลังได้รับความนิยม จึงเกิดเป็นไอเดียบาร์ลับซ่อนอยู่หลังตู้ถ่ายรูป โดยสามารถแวะถ่ายรูปสติ๊กเกอร์เพื่อเก็บเป็นที่ระลึก ก่อนเข้าไปในบาร์ที่ตกแต่งอย่างหรูหราคล้ายกับบาร์ในยุคเก่า โดดเด่นด้วยเหล้าหลากหลายชนิดที่วางเรียงรายให้ขาดริงก์ได้เลือกดื่มกัน โดยแบ็คดรอปหลังบาร์ออกแบบให้เหมือนกับซุ้มของตู้ถ่ายรูป พร้อมใช้สีทองแดงเป็นหลัก เพื่อให้เข้ากับเก้าอี้หนังและโซฟากำมะหยี่สีน้ำตาลเข้มสุดเท่

 

Bond Loved Jasmine (390 บาท)

นอกจากคลาสสิกค็อกเทล ทางร้านยังเน้นค็อกเทลที่ Twist ร่วมกับวัตถุดิบ Thai Local เพื่อชูรสชาติความเป็นไทยออกมา อย่างเมนูแรก Bond Loved Jasmine (390 บาท) แก้วนี้มีส่วนผสมของ Ketel One Vodka และ Don Blanco พร้อมดอกมะลิที่นำไปซูวีกับ Vermouth ตบท้ายด้วย Chrysanthemum Bitters

 

Sorry Only BTS this Century (390 บาท)

ต่อด้วย Sorry Only BTS this Century (390 บาท) แก้วนี้ค่อนข้างดื่มลื่น โดยนำน้ำมะพร้าวไป Infused กับ Botanist Foraged Gin แล้วใส่ White Sesame Vermouth Hazelnut Liqueur และน้ำเลมอน ตกแต่งขอบแก้วด้วยมะพร้าวแก้วขูดเพื่อเพิ่มรสสัมผัสเวลาดื่ม


Find The Photo Booth
หลัง Score Bar ซอยสุขุมวิท 11
เปิดทุกวัน เวลา 19.00 - 02.00 น.
โทร. 0-2117-2636
www.facebook.com/FindThePhotoBooth

2

Honest Mistake Bar

 

Honest Mistake Bar

ใครที่ชอบความตื่นเต้นแนะนำให้มาที่ Honest Mistake Bar บาร์ลับแห่งใหม่ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ของโครงการ Aqua อารีย์ เต็มไปด้วยบรรยากาศน่าค้นหาและเรื่องราวของความผิดพลาด ที่กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของความสนุกในทุกค่ำคืน จากเรื่องเล่าของโรงรับจำนำที่เปิดขึ้นเป็นฉากหน้าเพื่ออำพรางเบื้องหลังของนักพนันเสี่ยงโชคในยุคสมัยช่วงปี 1930 - 1940 ที่นับเป็นยุคมืดของจีนที่กำลังตกอยู่ในภาวะสงครามโลกครั้งที่สอง ส่งผลให้คนส่วนใหญ่เลือกประกอบอาชีพทุจริตเพื่อความอยู่รอด และกลายมาเป็น 'การกระทำผิดแบบใสซื่อบริสุทธิ์' หรือ Honest Mistake นั่นเอง

 

ห้องโถงที่ได้ไอเดียจากบ่อนรวมนักพนัน พร้อมเสิร์ฟค็อกเทลชั้นเลิศที่บาร์ไฟสลัว

การตกแต่งของร้าน แบ่งคอนเซ็ปต์ในแต่ละชั้นตามเรื่องราวที่ชวนติดตามค้นหา 
ตั้งแต่ทางเข้าที่เป็นโรงรับจำนำ ต้องแลกเงินเพื่อรับกุญแจไปไขเพื่อเข้าร้าน ไปถึงชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องควบคุมและตรวจสอบความเรียบร้อยจากวงจรปิดมุมต่างๆ จนไปถึงห้องโถงหลักที่สะท้อนไอเดียของบ่อนแหล่งรวมนักพนัน ที่มีบาร์เครื่องดื่มค็อกเทลชั้นดีไว้บริการ 
ปิดท้ายด้วยห้องเจ้าพ่อที่ตกแต่งอย่างมีสไตล์ ซึ่งแต่ละจุดจะมี Mistakeให้เราจับผิดกันเล่น ๆ เป็นกิมมิกที่ตั้งใจให้เข้ากับชื่อร้านนั่นเอง

 

Meilee (340 บาท)

เมนูค็อกเทลของทางร้าน ดึงเอาเรื่องของกลโกงการพนันมาเป็นกิมมิกในการครีเอทออกเป็นค็อกเทล 3 สไตล์ คือ Complex, Sweet & Sour และ Flavoured Gin & Tonic ขอแนะนำเมนูซิกเนเจอร์แก้วแรกอย่าง Meilee (340 บาท) ค็อกเทลที่สื่อถึงสาวสวยสุดแสบที่ครบรสทั้งความเปรี้ยวเผ็ดสวยแกร่งตามสไตล์ลูกสาวเจ้าพ่อด้วยความเผ็ดร้อนของ Vodka ที่นำไปแช่กับพริกสด เติมความความเปรี้ยวหวานและรสชาติ Sweet & Sour ด้วย Homemade Sherbet Syrup และ Cacao Liqueur ให้ดื่มด่ำรสชาติแบบชิลล์ ๆ ได้ตลอดทั้งคืน

 

China Town (360 บาท)

ตามด้วย China Town (360 บาท) ที่หากพูดถึงเยาวราช วัตถุดิบที่เป็นซิกเนเจอร์คงต้องยกให้เกาลัด ทางร้านจึงเลือกนำมาทำเป็นเกาลัดคาราเมลไซรัปคู่กับ Vodka รสเข้ม, Yellow Chartreuse, ไข่ขาว และ Lemon Bitters เสิร์ฟคู่กับเม็ดเกาลัดลูกสวยเป็นเครื่องเคียงให้ทานคู่กันเพื่อความกลมกล่อม หวานหอมลงตัว

Honest Mistake Bar

โครงการ Aqua แยกสะพานควาย

เปิด วันจันทร์ - เสาร์ เวลา 19.00 - 02.00 น. (ปิดทุกวันอาทิตย์)
โทร. 06-2490-5126

www.facebook.com/HonestMistakeBar

 

บาร์ที่ต้องกดรหัสลับในตู้โทรศัพท์ก่อนเพื่อผ่านเข้าไปยังด้านใน

ใครที่ชอบบาร์ที่มีกิมมิกลูกเล่นเก๋ไก๋ ลองแวะมาที่ Havana Social บาร์ที่มีดีกรีควาามลึกลับไม่แพ้ใคร ถึงขนาดที่ต้องกดรหัสลับในตู้โทรศัพท์เพื่อผ่านเข้าไปเลยทีเดียว ใครที่อยากผ่านประตูเข้ามา ต้องโทรไปถามรหัสลับได้ที่เบอร์ 08-7066-7711 และกดรหัสลับลงบนแป้นโทรศัพท์ จากนั้นประตูถึงจะเปิดออก นำเราเข้าไปสู่บาร์วินเทจที่จำลองบรรยากาศของคิวบาในยุค 40s ออกมาได้อย่างน่าประทับใจ

FULL REVIEW
 

บาร์ไม้ขนาดใหญ่และเก้าอี้สตูลหวายให้ลุคขรึม ๆ ปนกับความหรูหราเล็กน้อย

ภายใต้แสงสลัว ๆ นี้ เราจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่แปลกตา บาร์ไม้ขนาดใหญ่และเก้าอี้สตูลหวายให้ลุคขรึม ๆ ปนกับความหรูหราเล็กน้อย ผนังของร้านถูกทำให้ดูเก่าด้วยสีทึม ๆ และพื้นที่มี Texture แตกต่างกันทั้ง พื้นไม้และกระเบื้องลวดลายสวยงาม ส่วนเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งอื่น ๆ เช่น กรอบรูป โคมไฟ ก็จะเป็นของวินเทจที่ช่วยทำให้บรรยากาศโดยรวมของร้านดูน่าสนใจเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในยุค 40s จริง ๆ

 

Between the Sheets (320 บาท)

สำหรับขาดริงก์ต้องอย่าพลาดที่จะมาลองค็อกเทลสูตรของ Joseph Boriski มาครีเอทคลาสสิกค็อกเทลลไตล์คิวบาแนะนำ Between the Sheets (320 บาท) ที่จะเสิร์ฟดริงก์มาคู่กัน 2 แก้ว แก้วแรกจะมี Bacardi Black และ Hennessy ส่วนแก้วที่ 2 มี Grand Marnier นำ้มะนาว และน้ำเชื่อมกลิ่นทับทิม

 

Hemmingway Daiquiri (280 บาท)

อีกแก้วที่ขาดไม่ได้เลยคือ Hemmingway Daiquiri (280 บาท) มีส่วนผสมของ Flor de Cana, Luxardo Maraschino, น้ำเชื่อมกลิ่นเกรปฟรุต น้ำมะนาว และไข่ขาว ได้รสชาตินุ่มนวล สดชื่น เหมาะสำหรับสาว ๆ 


Havana Social
สุขุมวิท 11
เปิดทุกวัน เวลา 18.00 - 02.00 น.
โทร. 08-7066-7711
www.facebook.com/havanasocialbkk

 

Liberation

Liberation บาร์คราฟต์ค็อกเทลสุดลึกลับที่ซ่อนตัวอยู่บนชั้น 4 ภายในโครงการพิมาน 49 มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจ เพราะภายในบาร์นี้มีอะไรมากมายให้นักดื่มทั้งหลายได้ค้นหา เริ่มตั้งแต่ทางลับที่นำเข้าสู่บาร์  และแรงบันดาลของค็อกเทลแต่ละตัวจาก Propaganda หรือโฆษณาชวนเชื่อของแต่ละประเทศในช่วงสงครามโลก จนถึงสงครามเย็นที่แฝงไปด้วยประเด็นการเมืองในยุคอดีต โดยได้ทีมงานจาก Rabbit Hole มาช่วยครีเอทเมนูที่รับรองว่ายังไม่เคยมีใครได้ลองดื่มที่ไหนมาก่อนแน่นอน

FULL REVIEW
 

รูปปั้นที่เป็นเอกลักษณ์ของบาร์

จากแรงบันดาลใจของการโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง ถูกถ่ายทอดผ่านสไตล์การตกแต่งแบบ Post Modern โดดเด่นด้วยโทนสีเข้มของวัสดุไม้และเฟอร์นิเจอร์กำมะหยี่เรียบหรู ท่ามกลางแสงไฟสลัว ๆ และใกล้ชิดกับบาร์เทนเดอร์ได้ที่บริเวณโซนบาร์กลมแบบ 360 องศา อีกหนึ่งมุมไฮไลต์ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนเคาน์เตอร์บาร์และตู้โชว์ คือรูปปั้นที่กำลังแสดงท่าทางนิ้วชี้จรดที่ริมฝีปาก สื่อถึงการส่งสัญญาณเตือนให้เงียบคล้ายกับภาพ Propaganda Silence Means Security ระหว่างปี 1941-1945 ที่เป็นภาพทหารสาว G.I. ยกนิ้วชี้ขึ้นแนบริมฝีปากเชื้อเชิญว่า ‘สงบสิถึงจะปลอดภัย’ 

 

Chocolate Factory (390 บาท)

15 Signature Drinks ทั้งหมดของทางบาร์ ล้วนถูกตีความมาจากโฆษณาชวนเชื่อทางการเมืองทั้งสิ้น เริ่มที่เมนูแรก Chocolate Factory (390 บาท) ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก Women of Britain Come Into the Factories ในปี 1939-1945 ยุคที่ส่งเสริมให้ผู้หญิงเข้าไปทำงานในโรงงาน จึงต่อยอดตีความออกมาในรูปแบบความสุขของการทำงานใน Chocolate Factory โดยเลือกใช้ Pisco, Gin และ Cacao Butter มาแต่งกลิ่นค็อกเทลให้เป็นแบบ Fat Wash ก่อนจะท็อปบนด้วย Chocolate Garnish ที่มาเพิ่มรสสัมผัสให้กับเครื่องดื่มแก้วนี้

 

Gin Lane & Beer Street (390 บาท)

ต่อด้วย Gin Lane & Beer Street (390 บาท) ค็อกเทลที่หยิบยกเรื่องราวของภาพโฆษณา การโจมตีกันระหว่าง Beer และ Gin ในปี 1751 มาต่อยอดด้วยการรวมรสชาติระหว่าง 2 วัตถุดิบ London Dry Gin และเบียร์ Stout Wort ที่ทางร้านลงมือต้มมอลต์เอง และเพิ่มกิมมิกเล็ก ๆ ด้วยข้าวคั่ว ช่วยชูรสของเครื่องดื่มให้ไปในทิศทางเดียวกัน จนได้รสสัมผัสที่คุ้นเคยของส่วนผสมบางอย่างที่คนดื่มอาจคาดไม่ถึง 


Liberation
โครงการพิมาน 49 ช้ัน 4 
เปิดทุกวัน เวลา 17.00 - 02.00 น.
โทร. 09-3654-2500
www.facebook.com/liberationbkk

5

Backstage Cocktail Bar

FULL REVIEW
 

Backstage Cocktail Bar

หลังม่านสีเข้มบริเวณ Lobby ของ โรงแรม Playhaus เป็นโลกของ Backstage Cocktail Bar ค็อกเทลบาร์เล็ก ๆ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วย Signature Cocktail และ Custom Cocktail คุณภาพด้วยทีมบาร์เทนเดอร์ชั้นนำของเมืองไทย และคอนเซ็ปต์สุดเก๋ที่ออกแบบให้เหมือนห้องแต่งตัวของนักแสดงที่อยู่ด้านหลังม่าน 

FULL REVIEW
 

รอยลิปสติกสีแดงที่เขียนชื่อเมนูต่าง ๆ บนกระจก ช่วยสร้างบรรยากาศหลังเวทีการแสดง

เมื่อเปิดม่านเข้ามาจะพบเคาน์เตอร์บาร์ยาวที่เปิดโอกาสให้เราได้พูดคุยกับบาร์เทนเดอร์ได้อย่างอิสระ ไฟติดกระจกที่ประดับอยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์ ดูคล้ายโต๊ะเครื่องแป้งของนักแสดง รวมทั้งรอยลิปสติกสีแดงที่เขียนชื่อเมนูต่าง ๆ บนกระจกช่วยสร้างบรรยากาศหลังเวทีการแสดงมากขึ้นไปอีก ส่วนใครที่มาเป็นกลุ่มอาจจะเลือกนั่งที่โซฟา สามารถรูดม่านปิดเพื่อกั้นสเปซระหว่างโต๊ะเพิ่มความไพรเวทได้

 

Gin’s Perial (340 บาท)

Signature Cocktails น่าสนใจทั้ง Presentation และฝีมือของทีมบาร์เทนเดอร์ที่เคยไปคว้ารางวัลระดับโลกกันมาแล้ว เริ่มที่แก้วแรก Gin’s Perial (340 บาท) Gin Tonic ที่พิเศษด้วยการใช้ Backstage House Made Gin Pimm’s แทนการใช้ Gin ทั่ว ๆ ไป เสริมรสด้วยมะนาว และ East Imperial’s Burma Tonic ตกแต่งด้วยเมล็ดทับทิมและกลิ่นหอมจากเปลือกส้ม

 

55th Avenue (340 บาท)

ใครชอบค็อกเทลที่มีกลิ่นสไปซ์นิด ๆ น่าจะติดใจ 55th Avenue (340 บาท) ดัดแปลงมาจากคลาสสิคค็อกเทลชื่อ New York Sour ด้วยการใช้ Mulled Wine แบบโฮมเมด น้ำเชื่อมกลิ่นวานิลลา ผสมกับ Bour Bon รสเปรี้ยวจากน้ำมะนาว เพิ่มกลิ่นด้วยซินนามอนเผาและโป๊ยกั๊ก


Backstage Cocktail Bar
โรงแรม PlayHaus ซอยสุขุมวิท 55
เปิดทุกวัน เวลา 18.00 - 01.30 น.
โทร. 06-1519-5891
www.facebook.com/backstagecocktailbarbkk

 

Feeling Bar

ปล่อยใจไปตามอารมณ์และเสียงเพลง กับ Feeling Bar บาร์นีออนสีแสบสันย่านอารีย์ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ ‘How are you feeling tonight?’ ให้เอ็นจอยไปกับทุกความรู้สึก ไม่ว่าจะสุขล้นอยากแฮงเอาต์ หรือมาโหมดเศร้าให้เหล้าปลอบใจ ที่นี่ก็ตอบโจทย์ให้คุณอินและปลดปล่อยไปกับทุกอารมณ์ได้ทุกค่ำคืน ไฟนีออนโทนสีชมพูที่โดดเด่นเห็นแต่ไกลมาจากริมถนน ดื่มด่ำกับเครื่องดื่มหน้าบาร์ หรือจะมาสนุกกันเป็นแก๊งก็มีโต๊ะยาวให้จอยกันได้ครบยกแก๊ง

FULL REVIEW
 

มุมยอดฮิตที่มีป้ายไฟนีออนเป็นฉากหลัง

ความพิเศษในแต่ละคืน ทางร้านจะมีดนตรีสดเล่นเพลงเพราะ ๆ ในคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น วันอังคาร – Feeling Relaxed เน้นเพลงสบาย ๆ สไตล์ Acoustic, วันพุธ – Feeling Missed มาในเพลงยุค 90s Pop – Rock จังหวะดี ๆ ให้โยกกันเบา ๆ, วันพฤหัสบดี – Feeling Blues อินกับเพลงเศร้าเคล้าอารมณ์ ผสม R&B, วันศุกร์ – Feeling Happy Friday จัดเต็มกับทั้งเพลงใหม่ และเพลงเก่าสุดฮิต แล้วสุดท้ายวันเสาร์ – Feeling Excited ให้เต้นกันแบบมันส์ ๆ กับเพลงฮิตติดชาร์ตตลอดทั้งคืน

 

ซ่อนเสน่ห์ (240 บาท)

เติมเต็มค่ำคืนของทุกคนด้วยเครื่องดื่มดี ๆ ที่ห้ามพลาด โดยเมนูค็อกเทลของร้านยังครีเอทมาได้น่าสนใจทั้งชื่อและรสชาติ โดยใช้ Sangsom (Gold Rum) เป็นเบสหลัก และทำไซรัปต่าง ๆ เองเกือบทั้งหมด อย่างเมนูแรก ซ่อนเสน่ห์ (240 บาท) ไซรัปมิ้นต์ผสมกับน้ำลิ้นจี่ที่มีความเปรี้ยว หวาน และความหอมผสมเข้ากันแบบกำลังดี ท็อปด้วยลิ้นจี่เสียบไม้

 

เศร้าแล้วไง (240 บาท)

ต่อด้วยเมนู เศร้าแล้วไง (240 บาท) ให้ดื่มแบบโนแคร์โนสนด้วยส่วนผสมจาก Disaronno เหล้าอิตาลีกับไซรัปน้ำใบบัวบก และน้ำมะนาว ให้รสชาติอมเปรี้ยวนิด ๆ ก่อนท็อปด้วยแห้วเสียบไม้ให้เคี้ยวเล่นเพลิน ๆ แต่ถึงแม้จะผิดหวังมาแค่ไหน ก็ยังมีน้ำใบบัวบกช่วยแก้ช้ำในได้เป็นอย่างดี 


Feeling Bar
อารีย์ซอย 4
เปิด วันอังคาร - เสาร์ เวลา 06.00 - 01.00 น.
โทร. 08-2425-1515
www.facebook.com/feelingbarAri
7

The Key Room No.72

FULL REVIEW
 

The Key Room No.72

The Key Room No.72 บาร์ลับที่ตั้งอยู่ในห้องหมายเลข 72 ของ Josh Hotel ใจกลางย่านอารีย์ พร้อมเสิร์ฟเมนูค็อกเทลรสสัมผัสใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาเรื่องราว (สมมติ) จากการเดินทางทั่วโลกของ Mr.Josh ตัวละครหลักของทางโรงแรม โดยเพิ่มกิมมิกผ่านการไขประตูสู่ห้องแห่งความลับนี้ด้วย Key Card พิเศษ เหมือนเป็นการเช็คอินเข้าสู่ห้องพักที่ถูกเพิ่มเติมมาจากจำนวนห้องทั้งหมดของโรงแรม 

FULL REVIEW
 

อีกหนึ่งมุมดริงก์ ธีมห้องสมุดกลิ่นอายย้อนยุคกับการเลือกใช้เฟอร์นเจอร์สไตล์วินเทจ

บรรยากาศภายในบาร์เต็มไปด้วยกลิ่นอายความคลาสสิกของยุค 60’s และ 70’s ตกแต่งด้วยกุญแจดอกใหญ่ที่แขวนเรียงรายอยู่ตามผนัง เข้ากับเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจเป็นอย่างดี มุมหนังสือเล็ก ๆ ประกอบกับการจัดไฟที่มาช่วยเสริมบรรยากาศให้เหมือนบาร์สมัยก่อนมากขึ้น ท่ามกลางเสียงเพลงบรรเลงย้อนยุคนิด ๆ ไม่ว่าจะเป็น Jazz, Funky เป็นต้น ให้นักดื่มทั้งหลายสามารถแฮงเอาต์แบบชิลล์ ๆ ราวได้ร่วมสังสรรค์ไปกับ Mr.Josh เลยทีเดียว

 

Sweet As Josephine (380 บาท)

ทุกเมนูสร้างสรรค์มาจากเรื่องราวการเดินทางท่องเที่ยวประเทศต่าง ๆ โดยเลือกใช้วัตถุดิบหรือส่วนผสมที่ดึงเอากลิ่นอายวัฒนธรรม เอกลักษณ์เฉพาะมาถ่ายทอดลงไป เริ่มต้นที่ Sweet As Josephine (380 บาท) ที่ได้เเรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวความรักที่ไม่สมหวังระหว่างจักรพรรดิ์นโปเลียนห่งประเทศฝรั่งเศสกับพระนางโจเซฟีน ออกมาเป็นรสชาติหวานปนขม ด้วยส่วนผสมของน้ำมันจากเห็ดทรัฟเฟิล น้ำมะนาว และราสพ์เบอร์รีไซรัป ก่อนจะตกแต่งด้านบนด้วยกลีบกุหลาบ

 

A Drop of Tokyo (350 บาท)

ส่วนใครที่อยากลิ้มรสความแปลกใหม่ต้องห้ามพลาด A Drop of Tokyo (350 บาท) ค็อกเทลที่เสิร์ฟมาในรูปแบบของคนโทเล็ก ๆ ขวดนี้จึงถูกครีเอทขึ้นโดยการเบสรสชาติด้วยวอดก้าสาเก ที่ผสมผสานเข้ากับน้ำมะนาว และกลิ่นหอม ๆ รสฉุนขึ้นจมูกนิด ๆ ของวาซาบิไซรัป จนได้รสหวานอมเปรี้ยว พร้อมความซ่านิด ๆ ของวาซาบิที่ใครได้ลองต้องเซอร์ไพรส์แน่นอน

The Key Room No.72

Josh Hotel ซอยอารีย์ 4

เปิดทุกวัน เวลา 18.00 - 02.00 น.

โทร. 0-2102-4999

www.facebook.com/thekey.joshhotel