Where Comfort Meets Good Living
ชวนมาสัมผัสร้านอาหารใหม่สุดชิคใจกลางสุขุมวิทอย่าง CASABON Brasserie ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านที่ดี” ที่ผสาน อาหาร เครื่องดื่ม ดนตรี และคอมมูนิตี้ เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยชื่อร้าน CASABON Brasserie มาจากคำว่า Casa (บ้าน) และ Bon (ดี) กลายมาเป็นแนวคิดของการสร้าง “บ้านที่ดี” ที่เป็นพื้นที่ที่อบอุ่น มีชีวิตชีวา และเต็มไปด้วยรสชาติของทุกคน
A Home for Good Taste
ตัวร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 26 ที่รายล้อมด้วยบรรยากาศมีชีวิตชีวา ในส่วนของการออกแบบในสไตล์ร่วมสมัยผสมกลิ่นอายสตรีทคัลเจอร์ โทนอบอุ่นแต่เท่ มีทั้งโซนอินดอร์ที่โปร่งสบายและมุมระเบียงด้านนอกสำหรับนั่งชิลล์รับลม เหมาะทั้งกับมื้อค่ำแสนอบอุ่นหรือแฮงเอาต์ยามเย็นกับเพื่อน ๆ บรรยากาศภายในร้านให้ความรู้สึกเหมือนมานั่งกินข้าวบ้านเพื่อนที่มีรสนิยมดี มีเสียงเพลงบรรเลงคลอ เสิร์ฟด้วยอาหารที่ทั้งอร่อยและมีสไตล์ โดยเฉพาะในช่วงเย็นที่แสงไฟอบอุ่นสะท้อนบรรยากาศของ “บ้านที่ดี” ได้อย่างสมบูรณ์
Crafted with Care, Served with Character
ในส่วนของเมนู CASABON Brasserie เน้นรังสรรค์อาหารสไตล์ Modern Brasserie ที่คงกลิ่นอายความคลาสสิกแต่เพิ่มความร่วมสมัย ทั้งเมนูพาสต้าโฮมเมด พิซซ่าโรมัน (Pinsa) และจานซิกเนเจอร์อย่างสเต๊กแอนด์ฟรายส์หรือพอร์คช็อปที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน
เริ่มต้นด้วย Champignon Truffle Cup (180 บาท) ซุปเห็ดทรัฟเฟิลหอมกรุ่น เสิร์ฟพร้อมชีสพาเมซานขูดสด เพิ่มสัมผัสครีมมีและกลิ่นทรัฟเฟิลสุดละมุนในคำเดียว แต่สำหรับคนชอบรสสดชื่นต้องลอง Cured Hamachi (280 บาท) ปลากะพงเหลืองหมักในซอส Tiger’s Milk สไตล์เปรู เพิ่มมิติด้วยมะเขือเทศหมักและรสเผ็ดนิด ๆ จากพริก
ต่อด้วย Chicken Liver Parfait (240 บาท) พาร์เฟ่ต์ตับไก่เนียนนุ่ม เสิร์ฟกับขนมปังบริยอชอบร้อนและเจลยูซุรสเปรี้ยวสดชื่นที่ช่วยบาลานซ์รสได้พอดี ด้านเมนูเนื้อมี Khon Kaen Wagyu (240 บาท) เนื้อวากิวจากขอนแก่นที่ย่างจนหอม เสิร์ฟกับชิมิชูริ กระเทียมอบ และอัลมอนด์ ได้ทั้งเท็กซ์เจอร์และรสชาติที่ลงตัว
หรือจะลอง Sea Urchin Tarama (260 บาท) จานที่นำความเข้มข้นของหอยเม่นมาผสมกับครีมทาเรม่า เสิร์ฟพร้อมหอมเจียวและขนมปังนุ่ม ๆ ให้ความกลมกล่อมในคำเดียว
อีกหนึ่งเมนูห้ามพลาดคือ Pici Carbonara (480 บาท) พาสต้าเส้นหนามือสไตล์ทัสคานี เคลือบซอสคาโบนาราไข่เค็มและเบคอนกรุบกรอบ เป็นจาน comfort food ที่ทั้งครีมมีและหนักแน่นในรสชาติ
และสำหรับสายมังสวิรัติ Smoked Eggplant (380 บาท) ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน มะเขือม่วงรมควันรสหอมเคลือบซอสคาชิวพอนสึ เสิร์ฟพร้อมเห็ดเข็มทองทอดและพริกแห้ง เป็นเมนูที่กลมกล่อมและมีบาลานซ์พอดี
นอกจากไวน์และค็อกเทลแล้ว ที่นี่ก็ยังมีเมนู คอมบูฉะโฮมเมด ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อเติมความสดชื่นระหว่างมื้ออย่างมีสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น Golden Hour (280 บาท) ที่นำ Orange Earl Grey Kombucha มาสร้างรสชาติซับซ้อนระหว่างความซิตรัสสดชื่นของส้มกับกลิ่นชาหอมละมุน ดื่มแล้วให้ฟีลเหมือนจิบแสงเย็นยามพระอาทิตย์ตกในบรรยากาศสบาย ๆ
อีกแก้วคือ Isla Rosa (280 บาท) รส Lychee Rose English Breakfast Kombucha ที่ให้กลิ่นหอมหวานละมุนของกุหลาบและลิ้นจี่ ผสมกับชาอังกฤษรสเข้มพอดี เป็นเครื่องดื่มที่ทั้งสดชื่นและให้ความรู้สึกละเมียดละไม เหมาะกับการจิบระหว่างมื้อหรือปิดท้ายค่ำคืนอย่างมีสไตล์








