3 โฮสเทลธีมสุดเก๋ใจกลางเมือง

Published on February 14, 2018

เป็นที่สังเกตได้ว่าระยะหลังมานี้กรุงเทพฯ มีที่พักเปิดใหม่ในธีมเก๋ ๆ มากมายให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เข้าไปเช็คอิน นอนพักผ่อนสบาย ๆ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และสำหรับเดือนธันวาคมนี้ ทาง BKKMENU.com ก็มี 3 โฮสเทลเปิดใหม่ใจกลางเมือง ที่มาพร้อมธีมต่าง ๆ ที่น่าสนใจมาแนะนำ ส่วนจะเป็นที่ไหน ธีมอะไรบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย

1

ISSARA by D Hostel

 

มุมมองจากภายในตัวอาคารของ ISSARA by D Hostel


ประเดิมที่แรกกันด้วยโฮสเทลสไตล์ Industrial Loft สุดเท่อย่าง ISSARA by D Hostel ที่พักแห่งที่ 2 ในย่านพระนครที่อยู่ภายใต้การดูแลของ คุณธันยาภรณ์ เปี่ยมวิริยะกุล และออกแบบโดยทีมงานสถาปนิกของ D Hostel Bangkok ด้วยคอนเซ็ปต์งานดีไซน์ตัวอาคารที่เล่นกับแสงและเงา แม้จะสอดคล้องกับภาพลักษณ์เดิมของแบรนด์ แต่นำเสนอในมุมมองที่กลับกัน เน้นโทนสีขาว-เทา-ดำ เป็นหลัก มาพร้อมรูปสลักลวดลายบนเหล็ก  ด้วยผู้ออกแบบต้องการนำเรื่องของแสงแดดมาเป็นส่วนหนึ่งของงานสถาปัตยกรรม ประกอบกับที่ตัวตึกหันไปทางทิศตะวันตกซึ่งมีแดดปะทะด้านหน้าของตัวอาคารพอดี ดังนั้นตัวอาคารจึงออกแบบให้เป็นลายฉลุที่ช่วยลดความเข้มของแสงที่ส่องผ่านเข้ามาในตัวอาคารช่วงกลางวัน แสงที่ฉายมายังลายฉลุจึงกลายเป็นภาพเงาสลักที่พาดผ่านเข้ามายังโถงด้านหน้า ทำให้ตัวอาคารดูเหมือนมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ส่วนในตอนกลางคืนนั้นจะนำแสงไฟสปอตไลท์มาใช้ส่องไฟเพื่อแสดงภาพลักษณ์ของอาคารออกไปด้านนอก เหมือนตัวอาคารมีชีวิตยามค่ำคืน ในขณะที่อาคารอื่น ๆ กำลังหลับใหล

 

โฮสเทลสอดแทรกความเป็นไทยในทุก ๆ อย่างวิวด้านนอกจากบนดาดฟ้า ที่มองออกไปเป็นวิวพระนคร

ด้านในโฮสเทลมีทั้งหมด 4 ชั้น นอกจากงานดีไซน์ที่เป็นเหล็กแล้ว ยังมีงานปูน งานกระเบื้อง ที่ตกแต่งควบคู่กันไปอีกด้วย อีกทั้งยังมีอีกหลากหลายมุมกราฟิตี้ที่บอกเล่าเรื่องราวไทย ๆ ให้ได้เก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก ในส่วนของห้องพักเป็นแบบ ห้องพักรวม (Dorm) เตียง 2 ชั้น ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ห้องพักแบบ 4 เตียง (จำนวน 8 ห้อง) และ ห้องพักแบบ 8 เตียง (จำนวน 6 ห้อง) รวมทั้งหมด 14 ห้อง 80 เตียง (ราคาเริ่มต้น 500 บาท/คืน) ทุกห้องใช้เตียงมาตรฐานระดับโรงแรม 4 ดาว พร้อมตกแต่งในแบบเรียบง่าย มีห้องน้ำรวมแบบแยกชาย-หญิง และสวัสดิการตู้ล็อกเกอร์ที่พร้อมตอบโจทย์เรื่องความปลอดภัยและให้ความเป็นส่วนตัวอย่างดีทีเดียว

 

บรรยากาศภายในห้องพักรวม (Dorm) และ Alice Cafe

บริเวณด้านล่างของโฮสเทลเปิดคาเฟ่ไว้คอยให้บริการอาหารและเครื่องดื่มแก่ผู้ที่เข้าพักและลูกค้าทั่วไป โดยใช้ชื่อว่า Alice Cafe คาเฟ่แห่งนี้เน้นเสิร์ฟอาหารทานง่ายสไตล์ Comfort Food ที่สามารถทานได้ทุกวัน ได้แก่ เมนูอาหารไทยจานเดียวที่จัดมาแบบเป็นเซ็ต โฮมเมดเบเกอรี และเครื่องดื่มประเภทชา-กาแฟเป็นหลัก เพื่อความสะดวกรวดเร็วและอิ่มท้องได้ในคราวเดียว แต่หากใครต้องการดื่มด่ำบรรยากาศแบบชิลล์ ๆ ทางโฮสเทลมีมุมดาดฟ้าให้นั่งชมวิว 360 องศารอบเกาะรัตนโกสินทร์ ด้วยทำเลที่ตั้งที่สามารถมองเห็นศาสนสถานสำคัญย่านพระนครถึง 3 จุด ได้แก่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และวัดอรุณราชวรรามราชวรมหาวิหาร ไม่ว่าจะขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า หรือพระอาทิตย์ตกในตอนเย็น ภาพเบื้องล่างที่เห็นก็งดงามไม่แพ้กัน


ISSARA by D Hostel
88 ถนนจักรพงษ์ แขวงตลาดยอด เขตพระนคร
โทร. 02-622-3635
www.issarahostel.com
www.facebook.com/issarahostel


2

TALES Khaosan

 

ด้านหน้าโฮสเทลโดดเด่นด้วยงานดีไซน์หัวรถจักรสีเงินและประตูสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์


เป็นโฮสเทลขนาดกะทัดรัดที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยเล็ก ๆ ฝั่งตรงข้ามวัดชนะสงคราม บนถนนข้าวสาร มีชื่อว่า TALES Khaosan มาในธีมของตู้รถไฟให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติตื่นตาตื่นใจ และร้องว้าวไปตาม ๆ กัน โฮสเทลแห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของ คุณวิว-วิวรรณ สิริวเสรี และ คุณแวว-แวววรรณ สิริวเสรี ผู้เป็นเจ้าของ โดยต้องการให้ที่นี่เป็นจุดหมายใหม่ของนักท่องเที่ยวอย่างแท้จริง บริเวณด้านหน้าโฮสเทลโดดเด่นด้วยงานดีไซน์ที่ออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายกับหัวรถจักรสีเงิน ตัดกันกับประตูสีแดงที่เป็นเอกลักษณ์ ก่อนจะตกแต่งด้วยไฟประดับและป้ายไฟร้านที่ดึงดูดความสนใจให้เข้าไปเช็คอิน ส่วนด้านในก็จะดูคล้ายกันกับ Airstream รถบ้านของต่างประเทศ ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเดินทาง ออกแนวแคมป์ปิ้งให้ความรู้สึกอบอุ่นสนุกสนาน เมื่อเดินเข้าไปด้านในอีกหน่อยก็จะเห็นว่าที่นี่นำธีมการตกแต่งแบบรถไฟมาใช้ทั่วทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นป้ายชานชาลา บันไดเหล็ก การใช้เหล็กอะลูมิเนียมเป็นโครงสร้างหลัก เบาะนั่งยาว ๆ กับมุมหน้าต่างร้านที่เหมือนได้นั่งชมวิวอยู่ในตู้รถไฟจริง ๆ

 

ชิลล์เอาท์เหมือนได้นั่งอยู่ในตู้รถไฟจริง ๆ

 

Something TALES แก้วนี้จิบแล้วสดชื่น

สำหรับการบริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม ที่นี่ก็เน้นเสิร์ฟกาแฟคุณภาพดีไม่แพ้ที่ไหน ๆ เพราะใช้เมล็ดจากโรงคั่ว Roast Runner และมี Special Blend ซึ่งเป็นเมล็ดกาแฟเบลนด์เฉพาะจาก 4 ประเทศ ได้แก่ บราซิล โคลัมเบีย สุมาตรา และดอยช้างของไทย มาคั่วในระดับกลางจนได้กาแฟลาเต้รสนุ่ม ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ โดยใช้ชื่อว่า TALES Traveler (110 บาท) เพื่อให้สอดคล้องกับทางโฮสเทล หรือถ้าใครไม่ถนัดดื่มกาแฟ ขอแนะนำเครื่องดื่ม Refreshing อย่าง Something TALES (90 บาท) อิตาเลียนโซดากลิ่นพีซหอมหวานที่ท็อปบนมาด้วยเนื้อพีซและแอปเปิ้ลสด ดื่มแล้วสดชื่นแน่นอน นอกจากนี้ยังมีของว่างให้ทานกันแบบเบา ๆ อีกด้วย 

 

ตกแต่งห้องพักให้ได้บรรยากาศเหมือนตู้นอนรถไฟ

ในส่วนของฝั่งโฮสเทล ห้องพักที่นี่แบ่งออกเป็น ห้องพักรวม (Dorm) 2 ห้อง มีทั้งหมด 20 เตียง และห้องเดี่ยว 1 ห้อง (ราคาเริ่มต้นที่ 400 บาท/คืน) แต่ละห้องก็มีธีมการตกแต่งที่เหมือนกับตู้นอนรถไฟ มีเพื่อนร่วมห้องเป็นนักเดินทางจากหลากหลายประเทศ ทั้งนี้ยังเพิ่มความพิเศษให้ห้องพักรวมด้วยบันไดสโลปที่เดินขึ้นง่ายกว่าบันไดลิงแบบทั่วไป พร้อมอำนวยความสะดวกเรื่องการจ่ายไฟ ด้วยเต้าเสียบที่สามารถเสียบได้ทั้งแบบปลั๊กและแบบ USB เลยทีเดียว และอีกไม่นานบริเวณชั้น 5 ชั้นบนสุดของ TALES Khaosan ก็จะเปิดให้เป็นพื้นที่ของ Co-Working Space ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในละแวกนี้ได้พักผ่อน ใช้เวลาว่างที่นี่อย่างคุ้มค่ามากขึ้น รับรองว่ามาแล้วได้รับประสบการณ์การเข้าพักใหม่ ๆ พร้อมกับมิตรภาพดี ๆ ที่เกิดขึ้นบนโบกี้รถไฟ ณ ชานชาลาข้าวสาร กลับไปแน่นอน


TALES Khaosan
88 ถนนจักรพงษ์ แขวงตลาดยอด เขตพระนคร
โทร. 097-090-6241 
www.facebook.com/taleskhaosan


3

Vann Bangkok Boutique House & Cafe

 

Living Room โซนนั่งชิลล์ในบรรยากาศแสนอบอุ่น


มาถึงหมุดหมายลำดับสุดท้ายกับโฮสเทลธีมบ้านพักแสนอบอุ่นของ Vann Bangkok Boutique House & Cafe ที่ตั้งอยู่บนย่านสาธุประดิษฐ์ ในคอนเซ็ปต์ Boutique House ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน ด้วยโทนสีที่ใช้ในการตกแต่ง ทั้งงานไม้และปูนเปลือยที่รับกับความร่มรื่นของธรรมชาติ โฮสเทลแห่งนี้แบ่งพื้นที่ใช้สอยออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ โดยชั้นล่างสุดเป็นร้านคาเฟ่น่ารัก ๆ ชั้น 2 หรือชั้นลอยเป็นห้อง Living Room โซนนั่งชิลล์ของทั้งผู้ที่เข้าพักและผู้ที่เข้ามาใช้บริการคาเฟ่ ไม่ว่าจะอ่านหนังสือ เล่นเกม Rubik, Jenga ไปจนถึงนั่งเอนหลังฟังเพลงที่ Bean Bag ก็ล้วนเป็นกิจกรรมที่ทางโฮสเทลพร้อมอำนวยความสะดวกให้ทั้งสิ้น

 

ทุกชั้นเชื่อมต่อกันด้วยบันไดเดียวกัน ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านจริง ๆ

ห้องพักของ Vann Bangkok Boutique House มีทั้งหมด 4 แบบ เริ่มจาก ห้อง One Bed Suite (1,300 บาทต่อคืน) ห้อง Private สำหรับเข้าพัก 2 คน มาพร้อมห้องน้ำในตัว โดยถือเป็นห้องไฮไลท์เลยก็ว่าได้เพราะสามารถมองเห็นวิวสวย ๆ ของย่านสาธุประดิษฐ์จากห้องนี้นั่นเอง ตามมาด้วย ห้อง Triple Bed Room (1,100 บาทต่อคืน) สำหรับเข้าพักได้ 3 คน มาพร้อมห้องน้ำในตัวอีกเช่นเดียวกัน ส่วนห้องพักแบบรวม ได้แก่ ห้อง Mix x8 Dorm + Shared Bathroom (1,700 บาทต่อคืน) ห้องดอร์ม D3 หรือห้องพักแบบรวมที่เปิดให้ใช้บริการแบบเหมาทั้งชั้น เพราะทางโฮสเทลเสริมการบริการด้วย Pantry เล็ก ๆ พร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อย่างตู้เย็น ทีวี ไมโครเวฟ ฯลฯ แบบครบครัน รวมถึงห้องน้ำในตัวที่ให้ความเป็นส่วนตัวแก่ผู้เข้าพักที่มากันเป็นกลุ่มอย่างมาก และ ห้อง Mix x8 Dorm + Shared Bathroom (1,900 บาทต่อคืน) ห้องดอร์ม D4 ที่ให้ Pantry ที่ใหญ่กว่า มาพร้อมห้องเก็บของ ซิงค์ล้างจาน และเครื่องอำนวยความสะดวกอื่น ๆ อีกมากมายที่ให้ความเป็นส่วนตัวได้มากขึ้น โดยภายในห้องพักแต่ละแบบนั้นมีความโดดเด่นในเรื่องของการออกแบบและตกแต่งที่เน้นโทนสีอบอุ่นของเนื้อไม้ ซึ่งจับคู่เข้ากันกับชุดเฟอร์นิเจอร์และเครื่องนอนขาว-ดำ สุดคลาสสิกได้เป็นอย่างดี

 

มา Vann Cafe ทั้งทีอย่าลืมชิมบราวนี่ช็อคโกแลตเนื้อหนุบหนับ

บริเวณชั้นล่างสุดของ Vann Bangkok Boutique House เปิดเป็น Vann Cafe โฮมเมดคาเฟ่ที่รวบรวมเครื่องดื่มสูตรเฉพาะและเบเกอรี่อบสดใหม่จากครัวด้านหลังโฮสเทลมาเสิร์ฟความอร่อยให้คุณลูกค้าทุกวัน สำหรับเมนูแนะนำ ได้แก่ Latte Max (50 บาท) ลาเต้ที่ทางร้านคั้นน้ำกาแฟแยกกับนมสด แยกเลเยอร์เพื่อรสชาติที่กลมกล่อมและเป็นการสร้างกิมมิกให้กับกาแฟของทางร้าน ตามมาด้วย Super Coco (50 บาท) โกโก้ปั่นสูตรเข้มข้น ชาไทยเย็น (50 บาท) ชาไทยแบบชงสดรสนุ่มหอมละมุน หากใครที่เป็นสายขนมหวานต้องสั่ง Cupcake Red Velvet (55 บาท) คัพเค้กเนื้อนุ่มรสสตรอว์เบอร์รีที่ผสานรสชาติเข้ากับครีมชีสอย่างดี ท็อปบนด้วยวิปครีมหวานมัน หอมละมุน ตามมาด้วย Brownie (60 บาท) บราวนี่ช็อคโกแลตเนื้อหนุบหนับ แต่ถ้ายังไม่จุใจลอง Chocolate Cake (110 บาท) เค้กช็อคโกแลตหน้านิ่มอีกสักชิ้น หรือจะเป็น Japanese Cheese Cake (120 บาท) ชีสเค้กรสละมุนตามแบบฉบับของญี่ปุ่นก็อร่อยไม่แพ้กัน ก่อนจะปิดท้ายด้วย คุ้กกี้มะพร้าว (80 บาท) คุ้กกี้แผ่นบาง หอม หวาน มัน เป็นของขบเคี้ยวให้ได้ทานเล่นกันแบบเพลิน ๆ เรียกได้ว่ามาที่นี่ที่เดียวกินอิ่ม นอนหลับ ทำทุกอย่างแบบสบาย ๆ เหมือนได้พักผ่อนอยู่บ้านจริง ๆ  บวกกับความเป็นกันเอง และความเอาใจใส่ในการบริการของที่นี่ รับรองว่าใครที่ได้มาพักผ่อนที่ Vann Bangkok Boutique House แห่งนี้จะต้องตกหลุมรักและอยากกลับมาเยือนในครั้งต่อไปอีกแน่นอน 


Vann Bangkok Boutique House & Cafe
418/3 สาธุประดิษฐ์-ยานนาวา
โทร. 02-041-6993
www.vannbangkok.com
www.facebook.com/vannbangkok