ได้มากกว่าการพักผ่อนที่ 3 โรงแรมบูทีคเอกลักษณ์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร

Published on February 14, 2018

ตอบสนองไลฟ์สไตล์ชาว Bangkokian ให้มากขึ้นอีกขั้น ด้วยเทรนด์การเข้าพักในบูทีคโฮเทลที่โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์และการตกแต่งดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงการให้บริการด้านต่าง ๆ อย่างครบครัน เสมือนเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่อำนวยความสะดวกได้มากกว่าการเข้าพักทั่วไป ซึ่งสำหรับใครที่กำลังมองหาโรงแรมในลักษณะดังกล่าวอยู่ BKKMENU.com ก็มี 3 ที่พักย่านท่องเที่ยวดังอย่างย่านอารีย์และย่านธนบุรีมาแนะนำ ส่วนจะเป็นที่ไหนบ้างนั้น ไปเช็คอินพร้อม ๆ กันเลย



1

AMDAENG Bangkok Riverside Hotel

FULL REVIEW
 

โซนล็อบบี้ของโรงแรมสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น

FULL REVIEW

สัมผัสมนต์เสน่ห์วันวานในย่านธนบุรีที่ AMDAENG Bangkok Riverside Hotel บูทีคโฮเทลอีกหนึ่งแห่งที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเขตคลองสาน โดยอาจเรียกได้ว่าเป็น Hidden Place ของกรุงเทพฯ ที่ควรค่าแก่การเข้าพักอย่างยิ่ง สร้างความประทับใจแรกเห็นด้วยความโดดเด่นของตัวอาคารสีแดงชาดทั้งหลัง สถาปัตยกรรมแบบย้อนยุคสมัยรัชกาลที่ 5 ที่มีการตกแต่งดีไซน์ภายในสไตล์ไทยประยุกต์ ผสมผสานความเป็นไทย จีน และตะวันตกเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้เป็นที่น่าจดจำ สอดคล้องกับเรื่องราวเบื้องหลัง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อโรงแรมแห่งนี้

 

บรรยากาศภายในห้องพัก Riversuite และ ห้องพัก Deluxe Riverview

แต่เดิมพื้นที่แห่งนี้เป็นของอำแดงคลี่ หรือนางแดงคลี่ โดยคำว่า ‘อำแดง’ นั้นเป็นคำนำหน้าชื่อที่ใช้เรียกผู้หญิงในยุคสมัยก่อน ต่อมา คุณเล็ก-พรรษพล ลิมปิศิริสันต์ และ คุณหมิ่น-วิบูลย์ ลีภักดิ์ปรีดา คู่หูครีเอทีฟ Copy Writer และ Art Director แห่งวงการโฆษณา (บริษัท Monday) เขาทั้งคู่เกิดความสนใจและต้องการทำให้พื้นที่แห่งนี้เป็นที่พักติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีคอนเซ็ปต์หรือสโลแกนบอกเล่าถึงบรรยากาศของตัวโรงแรมได้เป็นอย่างดีว่าเป็น The Most Romantic Hotel in Bangkok เหมาะแก่คู่รักนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศให้ได้เข้ามาฮันนีมูน ดื่มด่ำช่วงเวลาดี ๆ ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก ที่นี่ค่อนข้างเน้นความเป็นส่วนตัว จึงมีจำนวนห้องพักเพียง 10 ห้องเท่านั้น แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ห้อง River Suite (ราคา 9,286 บาท ต่อคืน รวมอาหารเช้า) จำนวน 2 ห้อง ตามมาด้วย Riverside Grand Deluxe (ราคา 7,857 บาท ต่อคืน รวมอาหารเช้า) จำนวน 4 ห้อง และ ห้อง Deluxe Riverview (ราคา 6,429 บาท ต่อคืน รวมอาหารเช้า) จำนวน 4 ห้อง เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องทั้งหมดเป็นของใหม่ที่ทำเลียนแบบของเก่า เพื่อคงความคลาสสิกในยุคสมัยนั้นไว้ อีกทั้งยังเพิ่มกิมมิกด้วยภาพวาดหญิงสาวชาวไทย จีน และตะวันตกยุคโบราณ รวมถึงบริเวณกำแพงก็มีการสเก็ตช์ภาพถนนเจริญกรุงสมัยรัชกาลที่ 5 และภาพสำเภาจีน ซึ่งเป็นการสอดแทรกเรื่องราววิถีชีวิตของยุคนั้นเข้าไปด้วย

 

บรรยากาศภายในร้านนาย (NYE Caferestaurant)

นอกจากห้องพักชั้นบนสุดของโรงแรมยังมีดาดฟ้าที่ออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายอัฒจันทร์เล่นระดับเพื่อให้แขกผู้เข้าพักขึ้นมาชมวิวแม่น้ำด้านบน รวมถึงยังมี Cafestaurant คาเฟ่-ร้านอาหารชื่อว่า NYE หรือ ‘นาย’ คำนำหน้าชื่อของผู้ชาย เพื่อให้คอนเซ็ปต์ไปในแนวเดียวกันกับตัวโรงแรม พร้อมเสิร์ฟให้บริการเครื่องดื่มและอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่นให้ได้ลิ้มลอง AMDAENG จึงกลายเป็นส่วนผสมของแรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นจากความรักใน 3 สิ่งของผู้เป็นเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา ศิลปะ และวัฒนธรรมไทย-จีน ที่ล้วนถ่ายทอดมายังผู้เข้าพัก หากจะเปรียบเทียบที่แห่งนี้กับบุคลิกของใครสักคน ก็คงเป็นหญิงสาวใส่ชุดแดงที่มีเสน่ห์อย่างมาก ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่าใครที่มีโอกาสได้เข้าพัก จะต้องหลงรักในความคลาสสิก ความโรแมนติกของที่นี่อย่างแน่นอน


AMDAENG Bangkok Riverside Hotel
12/1 ซอยเชียงใหม่ 1 ถนนเชียงใหม่ 1 เขตคลองสาน
โทร. 02-162-0138
www.amdaeng.com
www.facebook.com/AMDAENGBangkokriversidehotel

 

หนึ่งในมุมไฮไลท์ของโรงแรม

FULL REVIEW

มาถึงย่านคาเฟ่ Hopping อย่างอารีย์กันบ้าง ท่ามกลางกระแสร้านคาเฟ่เก๋ ๆ ที่เปิดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ใจกลางย่านนี้ยังมีโรงแรมเปิดใหม่ไว้รองรับนักท่องเที่ยวแนวฮิปสเตอร์ แบ็คแพ็คเกอร์อีกด้วย หนึ่งในนั้นคือ Josh Hotel บูทีคโฮเทลคอนเซ็ปต์ Modern Vintage ที่โดดเด่นด้วยการออกแบบตัวอาคารและการเลือกใช้โทนสีโทนสีเทา เขียว ฟ้า ในแนววินเทจ ราวกับหลุดออกมาจากพรีเซ็ทของแอปพลิเคชั่น VSCO ใส่ใจในรายละเอียดเรื่องมู้ดแอนด์โทนนับตั้งแต่โซนล็อบบี้ที่สร้างกิมมิกด้วยตู้แขวนกุญแจแบบโบราณ ช็อปสินค้าให้ผู้เข้าพักได้เลือกช้อป ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าผ้า Tote Bag, แผ่นเสียงสุดคลาสสิก, แบรนด์เสื้อผ้า Sunbath and Pool Only, แบรนด์สบู่แพ็กเกจจิ้งสุดน่ารัก และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งเร็ว ๆ นี้ทางโรงแรมจะเพิ่มเติมในส่วนของ Mini Theatre Room และ Mini Workshop Space เข้าไปให้เกิดการปฏิสัมพันธ์อันดีและกิจกรรมสุดสร้างสรรค์ให้ผู้เข้าพักและคนทั่วไปได้มี Activities ร่วมกัน

 

ายในห้องพักเลือกตกแต่งในวอร์มโทนและยังคงความเป็นวินเทจไว้เช่นเดิม ดีไซน์มุมพักผ่อนได้ทั้งเท่และชิลล์

โรงแรมแห่งนี้มีทั้งหมด 71 ห้อง แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ซึ่งในแต่ละชั้นจะมีห้องพักแต่ละประเภทคละ ๆ กันไปทุกห้องมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน ได้แก่ ห้อง Superior Room (ราคา 1,750 บาท ต่อคืน รวมอาหารเช้า) จำนวน 17 ห้องใช้เตียงแบบ Twin ที่สามารแยกเตียงได้, ห้อง Deluxe Room (ราคา 2,100 บาท ต่อคืน รวมอาหารเช้า) จำนวน 36 เตียงใช้เตียง Double King Size เตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ขึ้น, ห้อง Family Room (ราคา 2,500 บาท ต่อคืน รวมอาหารเช้า) จำนวน 17 ห้อง เตียง Double King Size และเพิ่มความพิเศษด้วยเตียง 2 ชั้น เหมาะสำหรับมาพักกันแบบครอบครัวหรือกลุ่มใหญ่ และ ห้อง JOSH Room (ราคา 3,150 บาท ต่อคืน รวมอาหารเช้า) จำนวน 1 ห้อง เป็นห้องเดี่ยวดีไซน์สไตล์จีนที่มีขนาดกว้างที่สุดของโรงแรม มาพร้อมมุมห้องนั่งเล่น และอ่างอาบน้ำส่วนตัว ภายในห้องพักทุกห้องและตลอดทางเดินเพิ่มกิมมิกด้วยภาพวาดบนผนัง คาแร็คเตอร์ตัวการ์ตูนที่เป็นนักเดินทาง มีสาขาอาชีพและเชื้อชาติแตกต่างกัน เพื่อสื่อถึงสโลแกนของคำว่า JOSH ซึ่งย่อมาจาก Journey of someone Hotel นั่นเอง อีกทั้งยังมีมุมไฮไลท์สระว่ายน้ำสีเขียวโทนวินเทจที่สอดคล้องกับตัวโรงแรมอย่างมาก

 

บริเวณโซนล็อบบี้มีจำหน่ายแผ่นเสียง กระเป๋าผ้าลายเก๋ ๆ และผลิตภัณฑ์เครื่องใช้แพ็กเกจจิ้งสุดน่ารักให้เลือกช้อปด้วย

นอกจากนี้บริเวณชั้นล่างยังมีโซนห้องอาหารเช้าในลักษณะของไลน์บุฟเฟ่ต์ที่เสิร์ฟแบบ American Breakfast พร้อมชา กาแฟ นม ขนมปัง และเมนูสลัด (ราคา 350 บาท) ส่วนใครที่อยากทานอาหารจานเดียวก็สามารถสั่งเมนู A La Carte มาทานได้ด้วย ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ทางโรงแรมก็เตรียมพร้อมเปิดให้บริการร้านอาหาร 2 แบบ 2 สไตล์ ได้แก่ ร้าน Marigold อาหารใต้พื้นเมืองจากเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และร้าน Fishes 101 ร้านอาหารญี่ปุ่น รวมถึงช็อปไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ Hello Summer ที่ถือเป็นการรองรับเหล่านักชิมที่มากิน เที่ยว ช้อปแถวย่านอารีย์ไปในตัวโดดเด่นทั้งงานดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงอยู่ในทำเลที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนเมือง เรียกได้ว่าเป็น Hidden Place อีกแห่งในซอยอารีย์ที่ Vintage Lovers ทั้งหลายไม่ควรพลาดไปเช็คอิน


Josh Hotel
19/2 ถนนพหลโยธิน ซอยอารีย์ 4 (เหนือ) แขวงสามเสนใน เขตพญาไท 
โทร. 02-102-4999
www.joshhotel.com
www.facebook.com/joshhotel2017

 

บรรยากาศแสนอบอุ่นของห้องพัก Gardener

FULL REVIEW

‘Make Everyday A Vacation’ สโลแกนน่ารัก ๆ ของที่พักแห่งใหม่บนเส้นถนนเจริญรัถ เขตคลองสานย่านธนบุรี ที่เกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มของผู้ที่มี Passion ในสิ่งเดียวกัน กลายมาเป็นคอนเซ็ปต์ที่พักรูปแบบใหม่ที่ชื่อว่า Vacation Bangkok บูทีคเฮ้าส์ที่จะมาปรับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองใหม่ให้มองเรื่องการพักผ่อนเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น สามารถทำทุก ๆ วันให้เป็นวันหยุด วันพักผ่อนสบาย ๆ ให้ผู้เข้าพักได้เลือกทำในสิ่งที่ชอบได้ตามความต้องการอย่างมีความสุข

 

ห้องพัก Photographer

 

ห้องพัก Ilustrator

ความน่าสนใจของพื้นที่แห่งนี้คือการเป็น Multi-Fuction Space ที่ทีมผู้ด่อตั้ง คุณเอ๋-ณัฏฐิกา บุญวิภาส, คุณโอ๋-จุฑามาศ ภูประภัสสร, คุณเค-อานนท์ ฮุนตระกูล และ คุณนิว-กุลภัค ดาวแก้ว ต้องการให้ที่นี่เป็นมากกว่าการเป็นที่พัก โดยแบ่งพื้นที่ทั้งหมดออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ คือ Boutique House ซึ่งมีทำเลที่ตั้งอยู่ในจุดที่เรียกว่าเป็น Local Place ของเขตคลองสาน ค่อนข้างเป็นส่วนตัว พร้อมดีไซน์บรรยากาศห้องพักทุกห้องให้ดูเหมือนบ้าน ภายในห้องพักมีมุมห้องนั่งเล่น มุมโต๊ะทำงาน มุม Pantry ไมโครเวฟ ตู้เย็น พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่สอดรับกับคอนเซ็ปต์บ้านจริง ๆ เพราะฉะนั้นจึงมีห้องพักที่เปิดให้บริการเพียง 4 ห้องเท่านั้น ซึ่งแต่ละห้องนั้นมีธีมห้องที่แตกต่างกันออกไป โดยทุกห้องพักมีขนาดกว้างขวาง 32-35 ตารางเมตร สามารถพักได้ถึง 3 คน ได้แก่ ห้อง Photographer (3,900 บาท ต่อคืน) ธีมห้องของช่างภาพ ภายในห้องพักตกแต่งด้วยภาพถ่ายขาวดำ ห้อง Illustrator (3,900 บาท ต่อคืน) ธีมห้องของคนที่ชอบงานอาร์ตหรืองานกราฟฟิกดีไซน์ ห้อง Leathersmith (3,900 บาท ต่อคืน) เนื่องด้วยย่านถนนเจริญรัถผู้คนประกอบอาชีพทำกระเป๋าและเครื่องหนังขาย จึงดึงเอาบรรยากาศละแวกนี้มาถ่ายทอดประสบการณ์ผ่านการตกแต่งห้องพักให้เต็มไปด้วย Installation อุปกรณ์ทำเครื่องหนังต่าง ๆ และ ห้อง Gardener (4,500 บาท ต่อคืน) ธีมห้องของนักจัดสวน ที่ตกแต่งในแนวเอิร์ธโทน พร้อมเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ผู้เข้าพักได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ

 

อย่าลืมแวะจิบกาแฟถ้วยโปรดและอิ่มอร่อยกับโฮมเมดบรั้นช์ได้ที่โซนคาเฟ่บริเวณชั้นล่างสุดของ Vaction Bangkok

อีก 2 ส่วนที่เหลือนั้นอยู่บริเวณชั้นล่างสุดคือโซน Coffee Bar ที่เสิร์ฟเมนูกาแฟเป็นหลัก ผ่านการคัดเลือกเมล็ดพันธุ์กาแฟและกรรมวิธีการชงในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้ได้กาแฟคาแร็กเตอร์ที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ยังให้บริการเมนูเบเกอรี่ และเมนูบรันช์ทานง่าย อิ่มท้องเบา ๆ แบบ Light Meal ได้แก่ เมนูซุป สลัด เบอร์เกอร์ เป็นต้น ทำออกมาในสไตล์โฮมเมดที่ส่วนใหญ่ทางร้านเป็นคนทำวัตถุดิบและคิดค้นสูตรเองทั้งสิ้น โดยในอนาคตก็อาจมีการเพิ่มเติมในส่วนของร้านอาหารสไตล์ Casual Dining เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้พื้นที่แห่งมากขึ้น รวมถึงการเปิด Co-operation Space ให้เป็นโซน Workshop หรือจัด Art Gallery เสมือนเป็นการแชร์ไอเดีย ส่งต่อแรงบันดาลใจ Passion ดี ๆ หรือสิ่งที่เป็นตัวตนของ Vaction Bangkok ไปยังกลุ่มคนที่อาจจะชื่นชอบหรือสนใจในสิ่งเดียวกัน เกิดเป็น Community เล็ก ๆ ที่มาเติมเต็มความสุขให้ทุก ๆ วันเป็น Vacation Time ของทุก ๆ คน


Vacation Bangkok
762, 764 ถนนเจริญรัถ
โทร. 02-162-0166
www.facebook.com/vacationbangkok