สัมผัสเสน่ห์ของเมือง "พัทยา" ในมุมที่สงบและสบายตากว่าที่เคย

Published on July 16, 2018

หากพูดถึง “พัทยา” 1 ในเขตปกครองพิเศษของประเทศไทยที่ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักเมืองท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยเมืองนี้  วันนี้ BKK อยากจะชวนไปเปิดเส้นทางใหม่ ลองไปสัมผัสความสงบในเมืองพัทยา แวะไปนั่งทานอาหาร จิบกาแฟ ดื่มด่ำบรรยากาศดี ๆ พร้อมนอนพักผ่อนกันชิลล์ ๆ กับอีกมุมหนึ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้จัก 

 

DESTINATION

1

A’ LA CAMPAGNE

 

A’ LA CAMPAGNE

โครงการ A’ LA CAMPAGNE แหล่งท่องเที่ยวสุดเก๋ในคอนเซ็ปต์ดี ๆ ที่จะต้องถูกใจเหล่าฮิปสเตอร์และคนรักธรรมชาติอย่างแน่นอน ซึ่งคำว่า อะลาคอมปาณย์ ในภาษาฝรั่งเศสนั้นแปลว่า ชนบท ที่เลือกใช้ชื่อนี้เพราะโครงการนี้ได้เนรมิตรบรรยากาศในฝันของหมู่บ้านชนบทในฝรั่งเศสให้เกิดขึ้นจริงที่นี่ 

โดยภายในเป็นการจำลองหมู่บ้านขนาดเล็กที่แสดงให้เห็นถึงความสวยงามของสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป แฝงกลิ่นอายของความเรียบง่ายและเป็นมิตร ภายในโครงการใช้พื้นที่สำหรับรองรับกิจกรรมต่าง ๆ ไปแล้วกว่า 15 ไร่จาก 45 ไร่ 

 

Tea Factory

ภายในโครงการถูกแบ่งออกเป็นหลากหลายโซน ทั้งในส่วนของร้านขายสินค้าที่เน้นจำหน่ายสินค้าเกษตรกรรม หัตถกรรมของชาวบ้านเป็นหลัก รวมไปถึงผลผลิตอื่น ๆ ให้ชาวบ้านได้นำมาวางขายเพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ให้อีกทางหนึ่ง , โซนกิจกรรม ทางโครงการได้จัดกิจกรรมเวิร์คช็อปดี ๆ ปลูกฝังหัวใจรักธรรมชาติให้กับเด็ก ๆ และผู้ที่สนใจ สวมบทเป็นเกษตรกรตัวน้อยลงมือเก็บไข่ ปลูกผักในฟาร์มผักเกษตรอินทรีย์ และใกล้ชิดกับสัตว์ในฟาร์มต่าง ๆ ทั้งไก่ แพะ และม้า , โซนฟาร์มผักและผลไม้ พื้นที่เกษตรกรรมที่ทำในรูปแบบของเกษตรอินทรีย์ ใส่ใจและดูแลผลผลิตทุกชนิดให้ออกมาในแบบออร์แกนิกตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น 

 

ส่วนของฟาร์มสัตว์ขนาดย่อม ที่ A’ LA CAMPAGNE

ซึ่งผลผลิตจากฟาร์มและแปลงเกษตรส่วนใหญ่นั้นถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบสร้างสรรค์เมนูอาหารดี ๆ ในร้าน ส้มตำวิลล่า และ ร้าน Tea Factory ร้านอาหารภายในโครงการนั่นเอง ดังนั้นทุกเมนูของทั้งสองร้านจึงมีความสดอยู่เสมอ เพราะส่งตรงจากฟาร์มของโครงการเอง

 

ส่วนของร้านขายสินค้าของชาวบ้าน

A’La Campagne
ตรงข้ามอัยการพัทยา
เปิดทุกวันจันทร์ - พฤหัสบดี 10.00 - 22.00 น. ศุกร์ - อาทิตย์ 10.00 - 22.00 น.
โทร. 061-441-5181
www.facebook.com/A-La-Campagne-Pattaya 

2

PATTAYA BEACH

 

Pattaya Beach

ชายหาดพัทยา หาดที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยกับการเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย แบ่งออกเป็น 4 ส่วนได้แก่ พัทยาเหนือ พัทยากลาง พัทยาใต้ และหาดจอมเทียน ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การมาพักผ่อนในวันหยุด เพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพอีกทั้งยังเดินทางสะดวกอีกด้วย 

แต่ก่อนที่จะกลายมาเป็นเมืองตากอากาศยอดฮิต ในสมัยปี พ.ศ. 2504 ระหว่างที่เกิดสงครามเวียดนาม ทหารอเมริกันนั้นได้เข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศไทย และได้ขอเช่าบ้านพักที่หาดพัทยา และเหล่าทหารก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเป็นประจำ จนกลายเป็นการบอกเล่าและเป็นจุดเริ่มต้นของสถานพักตากอากาศชายทะเลที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของไทย 

 

Pattaya Beach

ชายหาดของพัทยานั้นจะมีถนนเลียบชายหาดกั้นระหว่างสิ่งปลูกสร้างและชายหาด ซึ่งตลอดทางริมหาดของที่นี่นั้นมีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และสถานบันเทิงมากมายให้นักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนหย่อนใจได้เลือกไปตามแบบที่ตนต้องการ รวมไปถึงฝั่งริมชายหาดที่มีเก้าอี้ผ้าใบ ให้ได้นั่งพักผ่อนรับลมริมทะเลหรือใครที่เป็นสายเอ็กซ์ตรีมก็สามารถเลือกเล่นกิจกรรมทางน้ำได้เช่นกันทั้งกระดานโต้คลื่น สกู๊ตเตอร์ สกายไดฟ์วิ่ง และอีกมากมายให้ได้ลอง 

CAFES

3

Skoop Beach Café

 

Skoop Beach Café

Skoop Beach Café  ร้านขนมหวานริมชายหาดส่วนตัว ร้านขนมชายทะเลเก๋ ๆ ที่เป็นเครือเดียวกันและตั้งอยู่ติดกันกับ Veranda Resort Pattaya ที่นี่เป็นคาเฟ่ขนาดกะทัดรัดที่ตกแต่งด้วยไม้ในสไตล์เท่ ๆ ทำให้รู้สึกเรียบง่ายแต่ดูดี และเน้นบริการตัวเองแบบ Self-Service ให้สั่งขนมแล้วยกไปจับจองที่นั่งเองได้เลย ซึ่งตัวร้านแบ่งออกเป็น 2 ชั้น สามารถจับจองที่นั่งได้ในห้องแอร์ หรือจะใครอยากรับลมทะเลเย็น ๆ ก็เลือกนั่งที่ระเบียงชั้นสองได้เช่นกัน  

 

Skoop Beach Café

 

Skoop Beach Café

เริ่มต้นกันที่เมนูเย็น ๆ ชื่นใจ แนะนำให้ลอง Strawberry & Cream Shake (125 บาท) ไอศกรีมสตรอเบอร์รีและครีมปั่น ตกแต่งด้วยเรนโบว์และวิปครีม ให้รสหวานเย็นชื่นใจ หรือจะเป็น Peach Iced Tea (125 บาท) ชาพีชกลิ่นหอม ๆ รสชาติเข้มข้น มาพร้อมกับไอศกรีมเย็น ๆ ช่วยดับกระหายได้เป็นอย่างดี

 

Strawberry & Cream Shake (125 บาท) และ

สำหรับไอศกรีมของที่นี่สามารถเลือกสั่งตามจำนวนและสไตล์ที่ตัวเองชอบ แต่สำหรับสาว ๆ คนไหนที่อยากได้ทั้งความสวยงามและความอร่อยไปพร้อม ๆ กัน แนะนำให้สั่ง Skoop’s Fancy Cone (40 บาท) โคนแฟนซีโฮมเมดที่ทาง Skoop Beach ออกแบบเองให้ดูน่ารักน่าทาน และอย่าลืมเลือกไอศกรีมที่ชื่นชอบได้ในราคา 1 Scoop (80 บาท) 2 Scoops (135 บาท) และ 3 Scoops (195 บาท) 

 

Skoop’s Fancy Cone (40 บาท)

ปิดท้ายด้วยสองเมนูที่หนักขึ้นมาหน่อยอย่าง Brittany Berry Waffle (195 บาท) บัตเตอร์มิลค์วาฟเฟิลร้อน ๆ ที่มาพร้อมกับสตรอเบอร์รีสด ไอศกรีมวานิลลา ราดด้วยเมเปิ้ลไซรัปช่วยเติมความหอมหวานได้เป็นอย่างดี หรือ St.Tropez Thai Tea Waffle (185 บาท) อีกหนึ่งจานที่เลือกใช้บัตเตอร์มิลค์วาฟเฟิลมาหั่นครึ่งเป็นแซนด์วิช สอดไส้ตรงกลางด้วยไอศกรีมชาไทย ครัมเบิ้ล ราดด้วยซอสชาไทยที่ให้รสชาติเข้มข้นของชาไทยแท้ ๆ 

 

Brittany Berry Waffle (195 บาท) และ St.Tropez Thai Tea Waffle (185 บาท)

SKOOP BEACH
ซอยนาจอมเทียน 4
เปิดทุกวัน จันทร์ - ศุกร์ เวลา 11.00 - 21.00 น. เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 10.00 - 21.00 น.
โทร. 091-725-4569
www.facebook.com/skoopbeachcafe

4

TEA FACTORY

 

Tea Factory

Tea Factory ตั้งอยู่ในโครงการ  A La Campagne (อะลาคอมปาณย์) ซึ่งชื่อโครงการเป็นคำที่มาจากภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่าชนบท ซึ่งภายในโครงการจำลองบรรยากาศของหมู่บ้านขนาดเล็กและนำเสนอความสวยงามของสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป มีการจำลองอาคารต่าง ๆ ภายในหมู่บ้านชนบทฝรั่งเศษและดัดแปลงเป็น ทั้งบ้าน โบสถ์ ฟาร์มสัตว์ แปลงผัก และโรงงานน้ำชา

 

Tea Factory

สำหรับ Tea Factory ได้จำลองในส่วนของโรงงานน้ำชาของหมู่บ้าน เสิร์ฟเมนูอาหารคาวหวาน รวมทั้งเครื่องดื่มที่มีชาดี ๆ หลากหลายชนิดเป็นซิกเนเจอร์ เริ่มต้นกันที่ Smoked Salmon With Green Rocket and Strawberry Balsamic Dressing (250 บาท+) แซลมอนรมควันชิ้นโตเสิร์ฟกับสลัด และซอสสตรอเบอร์รีบัลซามิกสูตรพิเศษของทางร้าน ที่นำสตรอเบอร์รีไปเคี่ยวจนได้รสชาติ เคียงด้วยผักผลไม้สด ๆ จากไร่ของทางร้านทั้งมัลเบอร์รี สตรอเบอร์รี องุ่น ส้มและมะเขือเทศ หรือจะลอง Grilled Norwegian Salmon With Rocket Salad And Balsamic Dressing (320 บาท+) แซลมอนนอร์เวย์กริลล์ ในร็อกเกตสลัดราดซอสสตรอเบอร์รีบัลซามิก เพิ่มรสชาติมากขึ้นด้วยเนื้อสตรอเบอร์รีหั่นชิ้นเล็กและส้ม

 

Smoke Salmon With Green Rocket and Strawberry Balsamic Dressing (250 บาท+) และ Grilled Norwegian Salmon With Rocket Salad And Balsamic Dressing (320 บาท+)

และใครที่ต้องการลิ้มลองรสชาติที่แปลกใหม่ทางร้านยังมีเมนูสุดพิเศษอย่าง Spaghetti Tea Leaf With Fresh Chilli (285 บาท+) เส้นสปาเก็ตตี้เหนียวนุ่มคลุกเคล้ากับซอสใบชาที่นำเข้าใบชาคุณภาพจากประเทศพม่า นำไปหมักจนได้รสชาติ จากนั้นปรุงรสเล็กน้อยให้รสออกเปรี้ยวและเค็มเป็นหลัก ท็อปด้านบนด้วยเบค่อนกรอบ ส่วนอีกหนึ่งเมนูแนะนำที่พลาดไม่ได้ Risotto Duck Confot (490 บาท+) อาหารอิตาลียอดนิยมยอดนิยมที่ทางร้านดัดแปลงเป็นสูตรของร้านเอง เสิร์ฟคู่กับซอสสตรอเบอร์รีผสมกับซอสเดมิกลาสนำไปเคี่ยวจนได้รสชาติที่พอดีและเป็นเอกลักษณ์ ท็อปด้วยเป็ดอบกรอบ

 

Smoke Salmon With Green Rocket and Strawberry Balsamic Dressing (250 บาท+) และ Grilled Norwegian Salmon With Rocket Salad And Balsamic Dressing (320 บาท+)

สำหรับเครื่องดื่มทางร้านแนะนำให้ลอง La Vie En Rose (100 บาท+) ชาโคลด์บรูว์ที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน ชื่อมาจากภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่าชีวิตโรยด้วยกลีบกุหลาบ เป็นการนำชาดำมาเบลนด์กับดอกกุหลาบ จึงให้รสชาติของชาที่เข้มข้นและได้กลิ่นหอมกุหลาบนำออกมา ซึ่งชาที่นี่จะแตกต่างจากร้านทั่วไปเพราะที่นี่มีการเก็บรักษาด้วยการแช่น้ำเย็นอุณหภูมิปกติถึง 8 ชั่วโมง ดังนั้นรสชาติและคุณประโยชน์ของชาจะยังอยู่ครบถ้วน สามารถสั่งคู่กับ Thai Tea Fudge  (145 บาท) เค้กชาไทยเนื้อนิ่ม ให้รสชาติหวานเล็กน้อย กลมกล่อมแบบชาไทยแท้ ๆ หรือจะลอง Red Bean Green Tea (145 บาท) เค้กชาเขียวเนื้อนุ่มที่เลือกใช้ชาเขียว จากไร่ของทางร้านเอง สลับชั้นกับถั่วแดงนำเข้าจากญี่ปุ่น 

 

La Vie En Rose (100 บาท+) และ Thai Tea Fadge (145 บาท)

Tea Factory
โครงการ A La Campagne
เปิดทุกวัน จันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 10.00 - 21.00 น. และวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 10.00 - 22.00 น.
โทร. 091-780-1254
www.facebook.com/alacampagnepattaya

5

ORDINARY COFFEE

 

Ordinary Coffee

Ordinary Coffee ร้านกาแฟที่เกิดจากความผูกพันของสถาปนิกกับเพื่อนสนิทที่ทำโรงคั่วกาแฟ และชอบนำเมล็ดกาแฟมาให้ลองอยู่เสมอ จนกลายเป็นความชอบและงานอดิเรก จึงเริ่มศึกษาการทำกาแฟอย่างจริงจัง สุดท้ายทั้งคู่เลยตัดสินใจเปิดร้านกาแฟแห่งนี้ขึ้นมา โดยตั้งใจให้เป็นร้านที่เรียบง่าย เน้นความโปร่งสบายให้ลูกค้าสามารถแวะมาจิบกาแฟและนั่งพักผ่อนได้อย่างเป็นสุข ภายในคอนเซ็ปต์ ห้องสมุดที่สามารถหาความรู้และความสงบได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งภายในร้านมีหนังสือดีไซน์มากมายให้ผู้ที่สนใจได้ลองศึกษา อีกทั้งสามารถเข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้หรือพูดคุยเรื่องต่าง ๆ ของกาแฟ รวมไปถึงการสอนพื้นฐานการทำกาแฟสำหรับผู้ที่สนใจในอาชีพบาริสต้าหรืออยากเปิดร้านด้วยเช่นกัน

 

บรรยากาศภายในร้าน Ordinary Coffee

สำหรับเมนูต่าง ๆ ของที่นี่ทางร้านใส่ใจตั้งแต่การคัดสรรอุปกรณ์และเมล็ดกาแฟที่ได้มาตราฐาน รวมไปถึงบาริสต้าที่มีความรู้และเข้าใจในศาสตร์ของการทำกาแฟ เมล็ดส่วนใหญ่ของที่นี่มีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตามแต่ละช่วง ซึ่งทางร้านก็มี House Blend ของตัวเองให้เลือกถึง 2 แบบอีกด้วย ความพิเศษของที่นี่คือทุก ๆ 3-4 เดือนจะมีการนำเมล็ดกาแฟแบบ Special Blend ผลัดกันมาให้ได้ลิ้มลอง โดยทางร้านเน้นเสิร์ฟเมนูเบสิค ดื่มง่ายเป็นส่วนใหญ่ โดยลูกค้าสามารถมีส่วนร่วมในการเลือกเมล็ดกาแฟในแบบของตัวเองว่าต้องการดื่มแบบไหน หรืออยากดื่มแบบสโลว์บาร์ สำหรับเมนูแรกขอเริ่มต้นกันที่สโลว์บาร์ กาแฟไซฟ่อนที่ใช้เมล็ดกาแฟไทย (120 บาท) มาทำ

 

กาแฟไซฟ่อนที่ใช้เมล็ดกาแฟไทย (120 บาท)

หรือใครที่ต้องการนั่งจิบเครื่องดื่มร้อน ๆ ตากแอร์เย็น ๆ ในขณะที่ใช้ความคิดไปกับเรื่องต่าง ๆ ทางร้านก็มีเมนูแนะนำมากมายทั้งสำหรับคอกาแฟและผู้ที่ไม่ดื่มกาแฟ ทั้ง Piccolo Latte (55 บาท) House Blend เมล็ดกาแฟไทย กาแฟแก้วเล็กที่มีส่วนผสมของนมสดแต่ให้รสชาติเข้มข้นมากกว่าลาเต้ หรือใครชอบความเข้มข้นขึ้นมาหน่อยลองสั่ง Cappucino (65 บาท) แต่สำหรับคนที่ไม่ถนัดดื่มกาแฟ ทางร้านยังมี Hot Cocao (60 บาท) โกโก้ร้อนชงเข้มข้นจากผงโกโก้คุณภาพดี หรือ ชานมร้อน (60 บาท) ชานมแบบไทย ๆ ชงร้อนก็ให้ความอร่อยไปอีกแบบ

 

ง Piccolo Latte (55 บาท) Cappucino (65 บาท) Hot Cocao (60 บาท) และชานมร้อน (60 บาท)

ปิดท้ายด้วยเบเกอรีน่าลิ้มลองอย่าง Rum Raisin Cheese Cake (95 บาท) รัมเรซิ่นชีสเค้กเนื้อเนียน ท็อปด้วยอัลมอนด์และลูกเกด รองฐานล่างสุดด้วยโอริโอ้ เสิร์ฟพร้อมกับวิปครีมและกีวี่

 

Ordinary Coffee
ถนนห้วยใหญ่
เปิดทุกวัน 07.30 - 18.00 น.
โทร. 063-769-9035
www.facebook.com/Ordinary-Coffee

6

Blue Tang Cafe & Bar

 

Blue Tang Cafe & Bar

Blue Tang Cafe & Bar ร้านที่เกิดจากความชอบของครอบครัวที่ชอบดื่มกาแฟ พัฒนาจนกลายมาเป็นคาเฟ่น่ารัก ๆ ของคุณแม่ และลูกสาวทั้งสอง ที่ต้องการนำเสนอกาแฟคุณภาพดีในรสชาติที่ถูกปากและถูกใจผู้ดื่ม  ตัวร้านถูกออกแบบในคอนเซ็ปต์ Unique Ordinary หรือความคุ้นเคยที่แตกต่าง ให้ความรู้สึกเรียบง่าย เน้นการใช้สีขาวและดำเป็นหลักกับเฟอร์นิเจอร์เก่า อีกทั้งยังแอบแซมสีน้ำเงินอันเป็นสีโปรดของเจ้าร้านมาเพิ่มความสดใสให้กับตัวร้านอีกด้วย 

 

บรรยากาศภายในร้าน Blue Tang Cafe & Bar

สำหรับกาแฟของที่นี่ทางร้านเลือกใช้เมล็ดเบลนด์ Companion เฉพาะของทางร้าน ที่คัดสรรเมล็ดกาแฟจากเกาะสุมาตราและเมล็ดกาแฟออร์แกนิกจากเชียงราย 3 แหล่ง ดอยช้าง แม่จันใต้ และดอยขุนลาว ซึ่งกาแฟเบลนด์ตัวนี้จะให้รสชาติออกฟรุ้ตตี้เล็กน้อยและให้ความหวาน แต่บางสัปดาห์ก็มีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนเมล็ดกาแฟตัวอื่น ๆ มาให้ได้ลิ้มลอง สำหรับใครที่ท้องยังว่างแนะนำให้ลอง Toast Egg & Spinach โทสต์ผักโขมและไข่ บนขนมปังนุ่ม ๆ เสิร์ฟคู่กับผักกรีนโอ๊ค สามารถสั่งคู่กับ Hot Latte (75 บาท) กาแฟลาเต้เบลนด์คอมพาเนียนในสไตล์ของทางร้าน 

 

Toast Egg & Spinach กับ Hot Latte (75 บาท)

สำหรับคอกาแฟอยากลิ้มลองกาแฟแบบแปลกใหม่ลองสั่ง Nitro Coldbrew (115 บาท) กาแฟโคลด์บรูว์ผสมน้ำเชื่อมกลิ่นเลมอนโฮมเมด หรือใครไม่ถนัดกาแฟจะลองเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านอย่าง Iced BT Coffee (115 บาท) กาแฟโคลด์บรูว์สีสวยที่ถูกจับมาแยกชั้นกับไซรัปกลิ่นส้มและโทนิกวอเตอร์ 

 

Iced BT Coffee (115 บาท)

ปิดท้ายกันด้วยสองเมนูยอดฮิตน่าลองอย่าง Matcha Latte (85 บาท) ชาเขียวเข้มข้น เหมาะสำหรับคนไม่ดื่มหวานจนเกินไป จับคู่กับ Cherry Cheese Cake (95 บาท) โฮมเมดชีสเค้กเนื้อนุ่ม ราดด้วยซอสเชอร์รี ให้รสหวานนุ่มละมุน และ Bob Affogato (135 บาท) BOB ที่ย่อมาจาก Black On Black หมายถึงส่วนผสมของแก้วนี้ที่ใช้กาแฟโคลด์บรูว์สกัดเย็นที่ให้รสชาติออกฟรุ้ตตี้ ช่วยทำให้รู้สึกสดชื่น ท็อปด้วยไอศกรีมชาร์โคล ที่ให้รสชาติเข้ากันเป็นอย่างดี

 

Matcha Latte (85 บาท) และ Cherry Cheese Cake (95 บาท)

Blue Tang Cafe & Bar
ติดกับโรงแรม Prima Villa Hotel
ร้านเปิดทุกวัน 08.00 - 21.00 น.
www.facebook.com/bluetangcafeandbar

7

LAMUNNE LIN

 

LAMUNNE LIN

สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านนั่งชิลล์ ๆ ที่สามารถนั่งพูดคุย แฮงก์เอาท์กับเพื่อนฝูงได้ตลอดกลางวันจนถึงยามค่ำคืนลองแวะมาที่ ละมุนลิ้น ร้านขนมสีชมพูสุดน่ารักที่มาในรูปแบบของคาเฟ่ที่เป็นมากกว่าคาเฟ่ เน้นให้สายขนมหวานได้มานั่งทานขนม พร้อมจิบเครื่องดื่มสุดครีเอทได้อย่างไม่มีเบื่อ ตัวร้านออกแบบโดยหยิบยกคาแรคเตอร์ของเด็กผู้หญิงน่ารัก ๆ มาเป็นธีม เน้นการใช้สีชมพูเป็นหลัก และเพิ่มสีสันด้วยสีเขียวของต้นไม้ ซึ่งที่นี่เน้นเสิร์ฟเมนูขนมหวานและเครื่องดื่มเป็นส่วนใหญ่ สร้างสรรค์ความน่ารักทั้งหมดนี้โดยฝีมือของคุณยูกิ มโนรัตน์ ศุภรสหัสรังสี และเชฟแอน พัณณ์ชิตา กมลโต (Thaigella) 

 

LAMUNNE LIN

เริ่มต้นกันที่เมนูแรกขนมปังโทสต์ ขนมปังโฮมเมดสูตรของทางร้าน ที่มีให้เลือกถึง 10 หน้าด้วยกัน โดยมีทั้งแบบคาวและหวาน แนะนำ Garlic Butter and Cheese (50 บาท) โทสต์เนยกระเทียมและมอสซาเรลล่าชีส หรือจะลอง Banana and Chocolate (50 บาท) โทสต์หน้ากล้วยและช็อกโกแลตเข้มข้น ต่อกันที่แซนด์วิชไอศกรีมสองรสชาติแนะนำ Peanut Butter Choc Chip (85 บาท) และ Strawberry Short Cake (85 บาท) ไอศกรีมแซนด์วิชที่ใช้บิสกิตสูตรของทางร้านประกบกับไอศกรีมเนื้อแน่น พร้อมตกแต่งด้วยท็อปปิ้งได้ตามใจชอบ

 

Peanut Butter Choc Chip (85 บาท) และ Strawberry Short Cake (85 บาท)

หรือจะลอง Ice-Cream Waffle (135 บาท) เมนูที่สามารถครีเอทวาฟเฟิลในรูปแบบของตัวเองได้ เริ่มจากการเลือกรสชาติของวาฟเฟิล ได้แก่ เพลน มอคค่า ช็อกโกแลต หรือพีนัทบัตเตอร์ เลือกซอสโฮมเมดที่มีให้เลือกถึง 6 ชนิด ไอศกรีม และท็อปปิ้งที่ถูกใจ หรือใครที่เลือกไม่ถูกจะสั่งเป็นเซ็ตที่ทางร้านครีเอทมาให้เรียบร้อยแล้วก็ได้

 

Ice-Cream Waffle (135 บาท)

ปิดท้ายกันด้วยเมนูน่าลอง Pink Milk Lava (90 บาท) ปังเย็นในเวอร์ชั่นที่ทานง่ายขึ้น ด้วยการปั่นนมเย็นเทลงในแก้ว บีบวิปครีมและท็อปด้วยขนมปังกรอบไว้ด้านบน

 

Pink Milk Lava (90 บาท)

Lamunne Lin
นาเกลือ 16
เปิดทุกวัน (ปิดจันทร์) อังคาร - พฤหัสบดี เวลา 12.00 - 23.00 น. ศุกร์ - อาทิตย์ 12.00 - 00.00น.
โทร.038-225-322
www.facebook.com/lamunnelin/

8

Fatbelly

 

FATBELLY

Fatbelly ร้านอาหารกึ่งฟิวชั่นเปิดใหม่ในพัทยา โดยฝีมือของคุณเบนซ์ มโนโชติ และคุณแบงค์ ภรพิสิฐ ศุภรสหัสรังสี สองพี่น้องที่ชอบทานอาหารฝรั่งแบบ Athentic เป็นทุนเดิม จึงอยากนำเสนอเมนูดี ๆ ในแบบที่ตนชื่นชอบ โดยแฝงความเป็นฟิวชั่นแบบไทย ๆ ไว้เล็กน้อยเพื่อให้ถูกปากทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยภายในร้านตกแต่งในบรรยากาศสบาย ๆ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นสีบ้าน ทั้งสีสันที่ทางร้านเลือกใช้ และกระจกบานใหญ่ที่ช่วยให้รู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย ไม่รู้สึกอึดอัดเมื่อเข้ามา 

 

FATBELLY

สำหรับมื้อนี้เริ่มต้นกันด้วยเมนูเบา ๆ อย่าง Nachos (220 บาท) ของว่างทานเล่นที่เหมาะสำหรับทานคู่กับเบียร์ หรือลองจานที่หนักขึ้นมาหน่อยอย่าง Olio Marinara (280 บาท) สปาเก็ตตี้เส้นดำผัดน้ำมันมะกอก และซีฟู้ดแบบจัดเต็ม 

 

Nachos (220 บาท) และ Olio Marinara (280 บาท)

หรือจะลองเมนูเด็ดอันเป็นซิกเนเจอร์ของร้านอย่าง หมูกรอบ (180 บาท) ที่สามารถเลือกทำได้ทั้งทอดกรอบแบบไทย ๆ หรืออบกรอบแบบฝรั่ง สำหรับในวันนี้เลือกเป็นข้าวสวยร้อน ๆ เสิร์ฟคู่กับหมูกรอบแบบไทย ๆ ที่ทั้งกรอบและพอดีคำ ทานคู่กับไข่ดาวหรือสลัดก็ให้รสชาติดีไม่แพ้กัน และอีกหนึ่งจานที่ไม่ควรพลาดเมนูน้ำตกแกะ (550 บาท) ที่เลือกใช้เนื้อแกะสไตล์ฝรั่ง มาทำให้กรรมวิธีเฉพาะตัวของร้านที่ให้ได้กลิ่นคาวน้อยที่สุด คลุกเคล้าเครื่องน้ำตกรสแซ่บแบบไทย ๆ ให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่ไปอีกแบบหนึ่ง 

 

หมูกรอบ (180 บาท) และ น้ำตกแกะ (550 บาท)

ปิดท้ายกันด้วยโทสต์น่าทานหลากหลายหน้าทั้ง Smoked Salmon Avocado (120 บาท) โทสต์หน้าอะโวคาโดบดและแซลมอนรมควัน เหมาะสำหรับสายสุขภาพ Mushroom On Scrambled Egg (120 บาท) โทสต์หน้าเห็ด ไข่และเบค่อนกรอบ หรือจะลองแบบหวาน ๆ อย่าง Strawberry Peanut Butter (120 บาท) เนยถั่วและสตรอเบอร์รีที่จะช่วยตบท้ายมื้อนี้ได้เป็นอย่างดี

 

Smoke Salmon Avocado (120 บาท) Mushroom On Scrambled Egg (120 บาท) และ Strawberry Peanut Butter (120 บาท)

FATBELLY
ซอยนาเกลือ 16
เปิดทุกวัน (ปิดวันจันทร์) เวลา 08.00 - 00.00 น.
โทร. 038-225-322
www.facebook.com/fatbellypattaya                                                                                                                                  

9

Dripoly

 

Dripoly

Dripoly คาเฟ่คูล ๆ ที่ตั้งอยู่ในโครงการ The Common Pattaya ออกแบบมาในคอนเซ็ปต์ Polygon ที่นำเสนอความเรียบง่าย ดูดี แต่โดดเด่นด้วยการเล่นกับดีไซน์ โดยเน้นสีขาวดำเป็นหลัก แซมความสดใสด้วยสีเขียวสดของใบไม้ ซึ่งที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นร้านอาหารและร้านกาแฟเท่านั้น ในยามค่ำคืนก็สามารถปรับเปลี่ยนตัวเองเป็นร้านนั่งชิลล์ มีดนตรีสดให้ฟังเพลิน ๆ อยู่เสมอ เดิมทีเจ้าของร้านใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศและมีโอกาสได้ลิ้มลองอาหารและกาแฟใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา จึงคิดอยากกลับมาพัฒนาคาเฟ่ในเมืองไทยให้มีลูกเล่นที่แปลกใหม่มากขึ้น โดยภายในร้านเน้นเสิร์ฟทั้งอาหารคาวหวาน และกาแฟซิกเนเจอร์ที่ทางร้านได้คิดสูตรใหม่ ๆ ให้ลูกค้าได้ลิ้มลองอยู่เสมอ 

 

Dripoly

สำหรับเมนูแรกที่ทางร้านแนะนำ Grilled Sea bass in Lime Sauce (340 บาท) สเต็กปลากระพงที่นำเนื้อปลาไปทอดกรอบ เสิร์ฟคู่กับมันบดคลุกเบคอนและชีส ปิดท้ายด้วยหนังปลากระพงกรุบกรอบเพิ่มความอร่อยราดด้วยซอสเปรี้ยวสูตรของทางร้าน

 

Grilled Sea bass in Lime Sauce (340 บาท)

นอกจากนี้ทางร้านยังเสิร์ฟเมนูหาทานยากอย่าง Clam Chowder Soup (130 บาท) ซุปหอยลายข้นร้อน ๆ ปรุงในรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของ Dripoly เองเหมาะสำหรับมื้อเช้า หรือใครอยากลองเมนูที่หนักขึ้นมาหน่อยลองสั่ง Fried Green Curry Rice With Fried Gourami (150 บาท) ข้าวผัดแกงเขียวหวานที่ให้รสชาติถึงเครื่องแกงแบบไทย ๆ เสิร์ฟกับปลาสลิดทอดช่วยเพิ่มรสชาติให้กับมื้อนี้ได้เป็นอย่างดี 

 

Clam Chowder Soup (130 บาท) และ Fried Green Curry Rice With Fried Gourami (150 บาท)

มาต่อกันที่เครื่องดื่มสุดพิเศษ Herby (90 บาท) เมนูหอม ๆ ที่นำชาโคลด์บรูว์ 4 ชนิดผสมกับเอสเพรสโซ่และน้ำผึ้ง เมื่อได้ลองดื่มจะได้กลิ่นหอม ๆ ของชามาเป็นอันดับแรก ตามด้วยความหวานจากน้ำผึ้ง หรือจะลอง Citrus Summer (80 บาท) เครื่องดื่มที่ได้จากการนำชาไปหมักจนเกิดรสเปรี้ยวและเติมรสชาติของเลมอนเข้าไปเพื่อให้กลมกล่อมยิ่งขึ้น ช่วยเติมความสดชื่นได้ดีทีเดียว ปิดท้ายด้วย Coffee Chocolate Tart (95 บาท) เมนูสุดครีเอทที่ให้ความรู้สึกเหมือนทานขนมมากกว่าดื่มกาแฟ แนะนำให้ตักจากด้านล่างขึ้นมาเพื่อที่ให้ได้ครบทุก ๆ เลเยอร์ในหนึ่งคำตั้งแต่แครกเกอร์ คาราเมล อัลมอนด์ วิปครีมและกาแฟผสมช็อกโกแลต

 

Herby (90 บาท)

Dripoly
The Common Pattaya
เปิดทุกวัน เวลา 09.00 - 02.00 น.
www.facebook.com/dripoly

HOTELS

10

Veranda Resort Pattaya MGallery By Sofitel

FULL REVIEW
 

Ocean Front

ท่ามกลางอุณหภูมิที่ร้อนจัดของกรุงเทพมหานคร หลังจาก BKK ชวนทุกคนไปนั่งจิบกาแฟ ทานอาหารและเดินเล่นเพลิน ๆ กันแล้ว ถึงคราวที่จะมองหาสถานที่พักผ่อนชิลล์ ๆ ติดริมทะเล หลังจากเหนื่อยกันมาตลอดวัน ให้ได้นอนพักซึมซับบรรยากาศและปล่อยใจไปกับลมทะเลที่ Veranda Resort Pattaya MGallery By Sofitel โรงแรมในเครือของ Veranda Group ตั้งอยู่ริมทะเลนาจอมเทียนเงียบสงบและได้ความเป็นส่วนตัว ซึ่งโรงแรมแห่งนี้มาในคอนเซ็ปต์ของ Life Stlye By The Sea พื้นที่ที่มีความโมเดิร์น สงบและเรียบง่าย 

FULL REVIEW
 

Veranda Resort Pattaya MGallery By Sofitel

 

Veranda Resort Pattaya MGallery By Sofitel

ภายในโรงแรมมีสิ่งอำนวยความสะดวกและมุมสงบมากมาย ทั้งในส่วนของชายหาด สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ห้องอาหาร The Deck และปิดท้ายด้วย I Sea Sky - The Jetty Roof Top Bar ในยามค่ำคืนบนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมให้ได้สัมผัสความสวยงามของท้องฟ้าสีครามและทะเลในยามพระอาทิตย์ตกและดื่มด่ำกับอาหารเครื่องดื่มที่ทางโรงแรมเตรียมไว้พร้อมเสิร์ฟ 

 

I Sea Sky - The Jetty Roof Top Bar

สำหรับห้องพักของที่นี่มีรองรับถึง 6 รูปแบบตั้งแต่ Seascape (เลือกได้ 2 แบบระหว่าง King หรือ Double Queen) , Sea Breeze , Ocean Front ห้องพักที่มีหน้าต่างบานใหญ่มองเห็นวิวชายทะเล พิเศษสุดกับอ่างอาบน้ำที่ผู้เข้าพักสามารถนอนแช่น้ำพร้อมชมวิวทะเลได้แบบเพลิน ๆ รวมไปถึงใครที่มากันแบบเป็นครอบครัวและต้องการความเป็นส่วนตัวสามารถเลือกพักห้อง Family Pool Suite และ Sky Pool Villa ได้เช่นกันซึ่งในทุก ๆ รูปแบบมีซิกเนเจอร์น่ารัก ๆ คือตุ๊กตาปลาหมึกตัวใหญ่ที่คอยต้อนรับแขกทุกท่านอยู่ภายในห้อง อีกทั้งแต่ละห้องก็มีการตกแต่งที่แตกต่างกันออกไป 

 

Family Pool Suite

 

Ocean Front

Veranda Resort Pattaya MGallery By Sofitel
นาจอมเทียน ซอย 4
โทร. 038-111-899
www.verandapattaya.com
www.facebook.com/verandaresortpattaya

11

Mytt Beach Hotel

 

Mytt Beach Hotel

หากใครที่มองหาที่พักดูดีมีระดับใจกลางพัทยา ที่อยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่ต่าง ๆ ริมชายหาดพัทยา แนะนำให้ลองแวะมาที่ Mytt Beach Hotel โรงแรมหรูระดับ 5 ดาวเปิดใหม่ใจกลางเมืองพัทยา อีกหนึ่งจุดพักผ่อนที่น่าสนใจไม่แพ้ที่อื่นเลยทีเดียว เพราะโรงแรมแห่งนี้พร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ให้ผู้เข้าพักได้ใช้วันเวลาพักผ่อนดี ๆ ไ้ด้ง่าย ๆ ในที่เดียว 

 

ห้องอาหารนานาชาติ The Kitch

ตัวโรงแรมตั้งอยู่ช่วงถนนพัทยาเหนือ ไม่ไกลจากหาดพัทยาเท่าไหร่นัก และถึงแม้ใจอยู่ในย่านครึกครื้นของพัทยาแต่ที่นี่ก็สร้างความสงบและผ่อนคลายให้กับผู้เข้าพักได้เป็นอย่างดี ด้วยการสร้างสรรค์สิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่สามารถใช้เวลาอยู่กับที่นี่ได้ตั้งแต่เช้ากันค่ำ เริ่มตั้งแต่ห้องอาหาร The Kitch ห้องอาหารแบบ All Day Food สามารถอิ่มอร่อยกับเมนูดี ๆ และบุพเฟ่ต์นานาชาติได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ Moon Spa สปาสุดหรูที่จะช่วยผ่อนคลายยิ่งขึ้น , สระว่ายน้ำ ที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสวยงาม ฟิสเนต ซาวน่า Mood Bar บาร์ชิลล์ ๆ ที่ชั้น 1 และปิดท้ายยามค่ำคืนกันที่ The Living คลับเลาจน์บนชั้น 15 ที่สามารถนั่งจิบ High Tea ดี ๆ พร้อมชมวิวทะเลไปด้วยได้อย่างสบายใจ

 

Mytt Beach Hotel

ในส่วนของห้องพักที่นี่เป็นห้องในสไตล์โมเดิร์น ดูหรูหราและมีสไตล์มีให้เลือกถึง 6 รูปแบบ ตั้งแต่ Deluxe Urban Room , Deluxe Ocean Room , Urban Junior Suite , Premier Ocean Room , Ocean Junior Room และ Marina Suite ห้องพักสุดหรูที่ดีที่สุดของโรงแรม ที่มีการแบ่งห้องนั่งเล่นและห้องนอนอย่างเป็นสัดเป็นส่วน พร้อมทั้งความพิเศษที่อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสวย ๆ ของพัทยา

 

Premier Ocean Room

 

ห้องอาบน้ำภายในห้องพัก

Mytt Beach Hotel
พัทยาเหนือ
โทร. 038-259-510
www.mytthotel.com