ขับเคลื่อนไปสัมผัสไลฟ์สไตล์คนเมืองในมุมมองใหม่กับ Lexus UX

Published on May 22, 2019

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การที่ต้องใช้ชีวิตตามกิจวัตรประจำวัน คงเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับหลาย ๆ คน หลายคนจึงชอบออกไปหาแรงบันดาลใจผ่านการท่องเที่ยวเดินทาง ซึ่งก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่นอกจากจะทำให้ร่างกายได้พักชาร์จแบตก่อนจะกลับไปลุยงานต่อแล้ว ยังเรียกว่าเป็นช่วงเวลาดี ๆ ที่จะพาตัวเองออกไปสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ไม่ได้พบเจอในชีวิตประจำวัน 


วันนี้ BKK. จะชวนคุณบอกลาความซ้ำซาก แล้วพาตัวเองออกไปซึมซับกับความสร้างสรรค์และประสบการณ์สุดสนุก ที่ซ่อนอยู่รอบ ๆ กรุงเทพฯ ออกเดินทางไปพร้อมกับรถยนต์คู่ใจอย่าง Lexus UX250h รถยนต์ครอสโอเวอร์ ไฮบริด ที่ออกแบบมาเพื่อไลฟ์สไตล์คนเมืองโดยเฉพาะ ด้วยนิยามใหม่ตามวิถีของ Lexus L-finesse เกิดเป็นรถยนต์ที่ผสมผสานความปราดเปรียว เร้าใจ แต่ก็ไม่ทิ้งความปลอดภัยเหนือมาตรฐาน แถมยังซ่อนความขี้เล่นอย่างมีชั้นเชิง พร้อมให้เราได้เดินทางไปเจอกับความท้าทายและการใช้ชีวิตใหม่ ๆ ได้ทุกวัน ส่วนครั้งนี้ เราจะพาไปเช็คอินที่จุดไหนในกรุงเทพฯ บ้าง... ออกเดินทางไปค้นพบกับความสนุกพร้อม ๆ กันได้เลย

 

Lexus UX

Start the Day at Lady L

สำหรับร้าน Lady L คาเฟ่ในกลาสเฮ้าส์แห่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของบ้านปาร์คนายเลิศ ตัวร้านปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่ ด้านในออกแบบมาในเพดานสูงโปร่ง ตกแต่งด้วยไม้ประดับเล็ก ๆ ตามมุมต่าง ๆ ของร้าน พร้อมเสิร์ฟอาหารและขนมหวานสไตล์ตะวันตกค่อนไปทางฝรั่งเศสหลากหลายเมนู สำหรับเช้านี้ ทางร้านต้อนรับเราด้วยเมนูโอเพ่นแซนด์วิชและขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศส มากับชาและกาแฟที่พร้อมจะปลุกเราให้สดชื่นพร้อมเดินทางในวันนี้

 

เมนูโอเพ่นแซนด์วิชและขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศส จากร้าน Lady L

อย่างที่บอกว่าทริปนี้เราออกเดินทางไปกับรถยนต์ Lexus UX ที่มีครบทั้งฟังก์ชันล้ำยุคและดีไซน์ที่สวยงาม ด้วยปรัชญา YET Philosophy ที่สร้างความแตกต่างให้สะกดทุกสายตา การออกแบบจึงเรียกได้ว่าเป็นรถยนต์แห่งอนาคตของ Lexus อย่างชัดเจน

ส่วนการดีไซน์ภายในได้ให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่เป็นหลัก โดยออกแบบเบาะที่นั่งให้โอบรับกับสรีระศาสตร์ที่ดี เพื่อความสบายในการขับขี่ จึงให้ความรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย แต่กว้างขวาง มีพื้นที่เพียงพอสำหรับความสะดวกสบายในทุกการเดินทาง

 

คล่องตัวด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 5.2 เมตร

 

ออกแบบเบาะที่นั่งให้โอบรับกับสรีระศาสตร์ที่ดี

Unleash Your Creativity @Warehouse 30

เริ่มออกจากร้าน Lady L มุ่งหน้าสู่ Warehouse 30 เพื่อจอดรถถ่ายรูปเล่น พลางชมกราฟิตี้บนผนัง ถือเป็นสตรีทอาร์ตที่อยู่คู่กับย่านเจริญกรุงมาอย่างยาวนาน ให้เราได้ใช้ช่วงเวลาพักผ่อนในวันหยุดไปกับศิลปะที่ช่วยบำบัดจิตใจ พร้อมค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มเติมไอเดียและเปิดโลกแห่งความคิดสร้างสรรค์ให้กับตัวคุณ ผ่านลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์และลายเส้นของแต่ละศิลปินบนตึกรามบ้านช่องใจกลางเมือง

 

เช็คอินที่จุดแรกเพื่อชมศิลปะบนผนัง

 

แวะถ่ายรูปกับกราฟิตี้บนผนัง

Art Appreciation @River City Bangkok

ขับเคลื่อนจากย่านคลาสสิกไปซึมซับกับงานศิลปะกันต่อที่ River City Bangkok กับนิทรรศการศิลปะอันน่าตื่นตาตื่นใจอย่าง From Monet to Kandinsky ‘Visions Alive’ เปิดประสบการณ์ของการชมนิทรรศการศิลปะรูปแบบใหม่ด้วยผลงานจิตรกรรมกว่า 1,500 ชิ้น จากเหล่าศิลปินยุโรประดับมาสเตอร์ 16 ศิลปิน นำเสนอผ่านจอโปรเจ็กเตอร์ คลอไปกับเสียงดนตรีอันไพเราะตลอดทั้งการแสดง เรียกว่าเป็นครั้งแรกของเอเชียที่ทุกคนจะได้ชมงานศิลป์แบบ 360 องศา ใครที่เป็นสายอาร์ตตัวจริงพลาดไม่ได้

 

นิทรรศการ From Monet to Kandinsky ‘Visions Alive’ ณ River City Bangkok

 

นิทรรศการศิลปะรูปแบบใหม่ที่นำเสนอผ่านจอโปรเจ็กเตอร์

ระหว่างทางก่อนที่เราจะเดินทางไปเช็คอินพักทานอาหารกลางวันกันที่ AKART Bistro & Bar เราได้มีเวลาทำความรู้จักและเพลิดเพลินกับฟังก์ชันต่าง ๆ ของรถที่ลงตัวกับการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของคนเมืองเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชัน Wireless Charger ที่สามารถชาร์จโทรศัพท์มือถือของคุณได้เลยแบบไม่ต้องลำบากพกที่ชาร์จให้รุงรังชีวิต, Touch Pad หรือรีโมตควบคุมแบบสัมผัส ช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนเมนูได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องเอื้อมมือไปกดที่หน้าจอ, สวิตช์เครื่องเสียงบริเวณที่พักฝ่ามือที่สามารถคอนโทรลการฟังเพลงได้ตามฟีลของคุณ หรือรับสายเข้าได้แบบไม่รบกวนการขับขี่ และที่ตอบโจทย์กับสายช้อปที่สุดก็คือประตูท้ายเปิด-ปิดระบบไฟฟ้า เพียงใช้ขาเตะไปใต้ท้องรถประตูท้าย ประตูก็จะเปิดออกอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้มือที่กำลังถือของเยอะ ๆ เปิดประตูท้ายให้เสียเวลา

 

Wireless Charger หรือแท่นชาร์จมือถือแบบไร้สาย

 

สวิตช์เครื่องเสียงบนพวงมาลัย

 

Touch Pad หรือรีโมตควบคุมแบบสัมผัส

 

เพียงใช้เท้ายื่นไปใต้ท้องรถ ประตูท้ายจะทำการเปิด-ปิดระบบไฟฟ้า

Chill & Have Lunch @ AKART Bistro & Bar

เดินทางมาถึงร้าน AKART Bistro & Bar ร้านอาหารสไตล์ไทย - ยุโรป แนว Casual Dining ในโครงการ Yarden Yenakart ซอยเย็นอากาศ ให้ทุกคนมาพักเหนื่อย และรับประทานอาหารกลางวันภายในบ้านไม้เก่า 2 ชั้น ในบรรยากาศสบาย ๆ ได้ฟีลเหมือนไปบ้านเพื่อน

 

บ้านไม้เก่า 2 ชั้น มาในบรรยากาศสบาย ๆ

สำหรับเมนูทานเล่นที่ขึ้นชื่อของทางร้านคือ หอยแมลงภู่อบไวน์ขาว และ พิซซ่าอากาศเฟตตูชินีครีมซอสเห็ด

 

หอยแมลงภู่ไวน์ขาว

 

พิซซ่าอากาศเฟตตูชินีครีมซอสเห็ด

ส่วนเมนูจานหลักที่เราสั่งในวันนี้คือ สเต๊กปลาแซลมอนซอสเนยกระเทียม ปลาแซลมอนกริลล์มาพอสุก เสิร์ฟมากับซอสเนยกระเทียม และผักต่าง ๆ ที่ให้ทานคู่กัน มีความชุ่มฉ่ำของเนื้อปลา เข้ากันกับซอสหอม ๆ ตัดความมันของปลาได้ดี และอีกเมนูคือ สปาเก็ตตี้คาโบนารา+ไข่ลาวา ให้รสสัมผัสที่เข้มข้น มากับไข่ลาวายิ่งทำให้มีความครีมมี่มากขึ้น

 

สปาเก็ตตี้คาโบนารา+ไข่ลาวา

และปิดท้ายมื้อเที่ยงด้วยของหวานคือ บิงซูบัวลอย น้ำแข็งนมบิงซู ทานกับบัวลอยหลากสีที่ได้จากสีธรรมชาติ ช่วยให้อิ่มท้อง พร้อมลุยกิจกรรมถัดไป ณ ร้าน Chata Specialty Coffee

 

บิงซูบัวลอย

Take a Break @Chata Specialty Coffee

หลังจากอิ่มท้องกับอาหารเที่ยงกันไปเรียบร้อยแล้ว เรามาถึงร้าน Chata Specialty Coffee ผ่านการเดินทางและขับขี่ที่สะดวกสบาย บนเบาะนั่งที่ให้ความรู้สึกคล้ายกับการทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่ม ๆ ในห้องนั่งเล่น นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมความพิถีพิถันให้กับบริเวณ Dashboard ด้านหน้าด้วยวัสดุผิวสัมผัสแบบกระดาษ Washi ซึ่งเป็นวิธีการทำกระดาษแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น 

 

บริเวณ Dashboard ด้านหน้า ปูด้วยวัสดุผิวสัมผัสแบบกระดาษ Washi

Chata Specialty Coffee ร้านกาแฟในย่านเยาวราชที่เหมาะกับการพักเบรกช่วงบ่าย ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ที่ปกคลุมตัวเรือนกระจกไม้ให้รู้สึกร้อน และบรรยากาศภายในสุดคลาสสิกที่ออกแบบสไตล์ Loft

 

ร้านกาแฟ Chata Specialty Coffee

สำหรับเมนูที่เหมาะสำหรับช่วงบ่าย ได้แก่ Hot Latte กับ Lemon Tart ความขมของกาแฟ เข้ากันดีกับขนมหวานอย่างทาร์ตเลมอนที่มีรสเปรี้ยวอมหวาน

 

Hot Latte

 

Lemon Tart

หลังจากเติมพลังกันด้วยเครื่องดื่มและเมนูดี ๆ แล้ว มาสนุกกันต่อกับกิจกรรมเวิร์คช็อป Collage Art จากรูปถ่ายในคอนเซ็ปต์ My Disruptive World with Lexus UX โดยการตัดแปะอาร์ตเวิร์คจากกระดาษเหลือใช้จากนิตยสารต่าง ๆ มาประกอบกัน เกิดเป็นภาพคอลลาจที่ดูเก๋ นำไปติดไว้ที่มุมไหนของบ้านก็เพิ่มความอาร์ตได้ไม่ซ้ำใคร 

 

พิมพ์รูปถ่ายได้อัตโนมัติ

 

เวิร์คช็อป Collage Art ในคอนเซ็ปต์ My Disruptive World with Lexus UX

 

ตัดแปะภาพหลาย ๆ ภาพลงบน plate ที่ทางร้านเตรียมไว้ให้

Lovely Dinner @Ma Maison

หลังจากพักดื่มกาแฟและทำเวิร์คช็อป จนจวบจะพลบค่ำเราได้ขับรถกลับไปยังบ้านปาร์คนายเลิศ เพื่อรับประทานอาหารเย็นกันที่ Ma Maison ก่อนจะแยกย้ายกลับบ้าน

 

ร้านอาหาร Ma Maison

ตัวร้านอาหารเป็นกลาสเฮ้าส์เรือนกระจกที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติสีเขียว เป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราได้ผ่อนคลายสบายอารมณ์ไปกับสวนรอบบริเวณบ้านไปจนถึง Nailert Heritage Home

 

ภายในร้านตกแต่งด้วยดอกไม้ประดับ

เจ้าของสูตรอาหารไทยที่เสิร์ฟในร้านอาหารนี้ก็คือ ภรรยาของนายเลิศ คุณหญิงสิน เศรษฐบุตร โดยหยิบเอาเมนูอาหารมาจากสูตรที่คุณหญิงทำรับประทานอยู่บ่อย ๆ ที่บ้าน ทุกเมนูจึงมีรสชาติถึงเครื่อง ถูกปากคนไทย เริ่มรองท้องด้วยเมนู หมูโสร่งและปอเปี๊ยะคุณย่า ตามด้วยเมนู ยำวุ้นเส้นบ้านปาร์ค รสแซ่บสไตล์ไทยแท้ ก่อนจะล้างปากด้วย แกงจืดฟักตุ๋นมะนาวดองเป็ดย่าง ซึ่งทำให้พร้อมที่จะทานจานหลักถัดไปอย่าง น้ำพริกลงเรือ ฉู่ฉี่กุ้งแม้น้ำ และผักหวานผัดไข่ ทานกับข้าวหอมมะลิร้อน ๆ เป็นเมนูที่สร้างสรรค์มาอย่างเข้ากัน ก่อนจะไปต่อด้วยขนมหวานไทย ๆ อย่าง ไอศกรีมน้ำมะพร้าว ให้ความสดชื่นของมะพร้าวน้ำหอมที่ปิดท้ายมื้อนี้ได้อย่างสมบูรณ์

 

หมูโสร่ง ปอเปี๊ยะคุณย่า และยำวุ้นเส้นบ้านปาร์ค

 

แกงจืดฟักตุ๋นมะนาวดองเป็ดย่าง

 

น้ำพริกลงเรือ

 

ผักหวานผัดไข่

 

ฉู่ฉี่กุ้งแม้น้ำ

เรียกได้ว่าจบทริปอย่างสนุกสนานและลงตัว สำหรับการท่องเที่ยวแบบ 1 Day Trip ในกรุงเทพฯ ที่ไม่ต้องเดินทางไปไหนไกล ก็เก็บแรงบันดาลใจและประสบการณ์ดี ๆ ตุนไว้ในเมมโมรีได้อีกเพียบ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือยานพาหนะคู่ใจที่พาเราเดินทางถึงแต่ละที่หมายอย่างปลอดภัย กับ Lexus UX  รถยนต์ครอสโอเวอร์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยและระบบความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม ทำให้มั่นใจทุกการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นระบบ Lexus Safety System Plus ป้องกันก่อนการชน ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะ ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน ระบบเตือนมุมอับสายตา และระบบแสดงผลรอบทิศทาง (สำหรับรุ่น F Sport) นอกจากนั้น ยังมีถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS รอบทิศทาง 10 ลูก ทั้งที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยจนถึงขีดสุดทุกการเดินทาง


สำหรับรถยนต์ Lexus UX มีให้เลือกจับจองทั้งหมด 13 สี โดยเพิ่มสีใหม่เข้ามา ได้แก่ สีส้ม Blazing Carnelian Contrast Layering, สีเขียว Terrane Khaki Mica Metalic และ สีฟ้า Celestial Blue Glass Flake ราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 2.49 ล้านบาท สามารถเข้าไปติดต่อขอทดลองขับหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/2Im3RVp และ www.facebook.com/LexusThailandOfficial ถ้าใครได้จับจองเป็นเจ้าของแล้วก็อย่าลืมแพลนทริปดี ๆ ชวนกันออกไปสัมผัสกับช่วงเวลาสุดพิเศษที่ยังมีอีกหลากหลาย Destination รอให้คุณออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้วยตัวคุณเอง!

 

ด้านท้ายติดตั้งไฟท้าย LED ที่ลากยาวเชื่อมต่อกันทั้งสองข้าง