เอนจอยความอร่อยกับมื้ออาหารสุดพรีเมียมที่ 4 ร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นนำ คัดสรรโดย KTC MASTERCARD

Published on June 24, 2022

เอาใจเหล่าฟู้ดดี้ที่รักอาหารญี่ปุ่นให้ได้ลองมาเปิดประสบการณ์ทานอาหารไฟน์ไดน์นิ่งและคอร์สโอมากาเสะที่ร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นนำในกรุงเทพฯ ซึ่งผ่านการคัดสรรจากหนังสือ KTC Culinary Collective in Bangkok พร้อมเสิร์ฟความอร่อยด้วยหลากหลายเมนูสุดพิเศษ ครีเอตจากวัตถุดิบพรีเมียมโดยเหล่าเชฟมากฝีมือ ให้ได้ลิ้มรสความสดใหม่ รวมถึงดื่มด่ำบรรยากาศการทานอาหารญี่ปุ่นแบบเอ็กซ์คลูซีฟได้ง่าย ๆ โดยที่ไม่ต้องบินไกลไปถึงถิ่นก็เอนจอยมื้อพิเศษสุดฟินนี้ได้อย่างเต็มที่

แน่นอนว่าร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นนำแต่ละแห่งที่เลือกนำเสนอในครั้งนี้ มีโปรโมชันสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC MASTERCARD ทุกประเภท ให้ได้เลือกไปอิ่มอร่อยอย่างคุ้มค่าอีกด้วย ส่วนจะเป็นที่ไหน และมอบสิทธิประโยชน์ดี ๆ พร้อมรับคะแนน KTC FOREVER สุดสูง x10* ตอบโจทย์การทานอาหารญี่ปุ่นมื้อพิเศษยังไงบ้างนั้น ตามไปเช็กลิสต์ทั้ง 4 ร้านนี้ พร้อม ๆ กันเลย

1. KAPPO KAZUNOBU


สัมผัสประสบการณ์ทานอาหารญี่ปุ่นท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นกันที่ KAPPO KAZUNOBU หนึ่งในร้านโอมากาเสะในกรุงเทพฯ ที่รังสรรค์ความอร่อยในสไตล์คัปโปะ ซึ่งมีกรรมวิธีการปรุงท่ีหลากหลาย ทั้งทอด นึ่ง ต้ม ย่าง เพื่อให้ทุกคนได้รับประทานร่วมกัน

อาหารเลิศรสทุกเมนูครีเอตโดยเชฟโออิชิ คัสสึโนบุ เชฟชาวญี่ปุ่นผู้ฝากผลงานการสร้างสรรค์อาหารญี่ปุ่นทั้งในและต่างประเทศมายาวนานกว่า 26 ปี พร้อมปรุงและเสิร์ฟแบบจานต่อจาน บริเวณหน้าเคาน์เตอร์บาร์ที่รองรับได้ 8 ที่นั่ง อีกทั้งยังมีห้องทานอาหารแบบไพรเวทไว้คอยให้บริการอีกด้วย

 

KAPPO KAZUNOBU (Photo by KTC Culinary Collective)

แต่ละเมนูเสิร์ฟ ทางร้านได้เลือกใช้วัตถุดิบระดับพรีเมียม ซึ่งเน้นเนื้อสัตว์ตามฤดูกาล นำเข้าโดยตรงจากแหล่งที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงรสชาติที่ดีที่สุด เหมือนได้ไปนั่งทานอาหารที่ญี่ปุ่นจริง ๆ สำหรับเมนูแนะนำที่เป็นซิกเนเจอร์ประจำฤดูกาล ได้แก่ ‘Taraba Donabe Gohan (ข้าวอบปูทาราบะ)’ ปูทาราบะจากจังหวัดฮอกไกโด ซึ่งมีสภาพอากาศหนาวจัด และมีชื่อเสียงเรื่องปูขนาดใหญ่ที่มีรสชาติหวานอร่อย นำมาหุงกับข้าวโดยใช้น้ำซุปที่ได้จากการเคี่ยวปลามากุโระ สาหร่ายคอมบุและเห็ดรวม จนได้ข้าวอบรสชาติกลมกล่อม

ตามมาด้วยสองเมนูยอดนิยมที่ใครชิมเป็นต้องติดใจอย่าง ‘Yaki Koma Tofu (เต้าหูงาขาวย่าง)’ จุดเด่นอยู่ที่เต้าหู้ซึ่งมีเนื้อสัมผัสนุ่มหนึบ ทำจากงาขาวและแป้งคูสึ ราดด้วยโชยุปรุงรส ท็อปด้วยกระเจี๊ยบ โกจิเบอร์รี วาซาบิสด และบาฟุนอูนิจากฮอกไกโด และ ‘Uni Inaniwa Udon’ ตัวเส้นอุด้งนำเข้าจากเมืองอาคิตะ เสิร์ฟในน้ำซุปอูนิสูตรพิเศษของทางร้าน ท็อปด้วยกระเจี๊ยบ โกจิเบอร์รี วาซาบิสด และอูนิจากฮอกไกโด ซึ่งเมนูนี้จะเสิร์ฟแบบเย็น ทานแล้วเรียกความสดชื่นได้ดีในระหว่างวัน

 

Yaki Koma Tofu เต้าหูงาขาวย่าง หนึ่งในเมนูยอดนิยมของทางร้าน ที่ใครได้ชิมเป็นต้องติดใจ (Photo by KTC Culinary Collective)

สิทธิพิเศษบัตรเครดิต KTC MASTERCARD
รับฟรี Yuzu Mocktail 1 ที่ / คอร์ส / ท่าน
มูลค่า 300 บาท (กรุณาแสดงบัตรฯ เพื่อรับสิทธิ์)

พร้อมรับคะแนน KTC สุดสูง x10*
สำหรับบัตรเครดิต KTC X WORLD REWARDS MASTERCARD
และ KTC WORLD MASTERCARD

16 ก.ค. 65 - 31 ธ.ค. 65


KAPPO KAZUNOBU

โครงการนิฮอนมาชิ ซอยสุขุมวิท 26 กรุงเทพฯ
เปิด วันพุธ-จันทร์ มี 3 รอบ เวลา 12.00 น., 17.30 น. และ 20.00 น.
โทร. 097 872 4444
www.kappokazunobu.com
www.facebook.com/kappo.kazunobu
www.instagram.com/kappo.kazunobu


2. SUSHI ICHIZU


สัมผัสบรรยากาศและรสชาติโอมากาเสะ แบบฉบับต้นตำรับจากญี่ปุ่น แนะนำให้แวะไปเช็กอินความอร่อยกันที่ SUSHI ICHIZUสุดยอดร้านอาหารญี่ปุ่นที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘วิถีแห่งซูชิ’ โดยเชฟของที่นี่ได้สืบทอดวัฒนธรรมในการปั้นซูชิแบบเอโดะมาเอะ (Edomae) ตามแบบฉบับดั้งเดิม ซึ่งเป็นการสร้างมาตรฐานร้านซูชิระดับพรีเมียมที่มีความใกล้เคียงกับญี่ปุ่นในทุกกระเบียดนิ้ว

โอมากาเสะซูชิของทางร้านจะเน้นรสชาติของวัตถุดิบเป็นหลัก จึงคัดสรรเฉพาะวัตถุดิบชั้นเยี่ยมเกรดนำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งหมด ยิ่งเมื่อบวกกับเอกลักษณ์การปรุงอาหารของเชฟซึ่งเลือกใช้เฉพาะกรรมวิธีเฉพาะอย่างการเอจจิ้ง (การบ่ม) และการหมักดอง ก็ยิ่งทำให้วัตถุดิบต่าง ๆ ของทางร้านนั้นมีความพิเศษมากขึ้น ทั้งเนื้อสัมผัสและรสชาติที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์

 

SUSHI ICHIZU (Photo by KTC Culinary Collective)

แม้ว่าเมนูโอมากาเสะของทางร้านจะปรับเปลี่ยนวัตถุดิบไปตามฤดูกาล แต่ก็มีหลากหลายเมนูซิกเนเจอร์ที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เช่น ‘Ankimo’ ตับปลาอังโกะ โดยจุดเด่นอยู่ที่ตับปลาซึ่งนำไปดับกลิ่นคาวและต้มกับซอสสูตรลับเฉพาะจนได้ตับปลารสชาติกลมกล่อม เนื้อเนียนนุ่มละมุนละลายในปาก, ‘Soba Roll’ เนื้อปลาซาบะหมักเกลือและดองน้ำส้มที่ผ่านการหมักบ่มจนซึมเข้าทุกอณูของเนื้อปลา เสิร์ฟม้วนเป็นโรลแบบไม่มีข้าว ด้านในโรลประกอบด้วยขิงดอง ใบโอบะ หอมญี่ปุ่น เสิร์ฟคู่กับยากิโนริ สาหร่ายเกรดที่ดีที่สุด ผ่านการย่าง ให้เนื้อสัมผัสกรอบและมีกลิ่นหอมมาก ทานคู่กับวาซาบิสดนำเข้าจากเมืองชิซูโอกะ และโชยุสูตรเฉพาะของทางร้าน

ก่อนจะฟินกันต่อกับ ‘Fukahire Chawanmushi’ หรือไข่ตุ๋นหูฉลามเนื้อเนียนนุ่ม รสกลมกล่อม หรือจะเป็น ‘Awabi’ ที่ทางร้านเจาะจงเลือกใช้หอยเป๋าฮื้อไซส์พิเศษ ที่ดีที่สุดและแพงที่สุด ส่วนเมนูซูชิต้องยกให้กับ ‘Otoro Aburi’ ซึ่งใช้เนื้อปลาทูน่าในส่วนโอโทโร่ที่มีไขมันแทรกอยู่มากที่สุดและให้รสหวานนุ่มมากที่สุด โดยเคล็ดลับจะอยู่ที่การบ่มเนื้อปลาและนำเนื้อปลามาลนไฟเพื่อให้ไขมันในเนื้อปลาแตกตัว ช่วยเพิ่มความหอมอร่อยให้กับซูชิอีกเท่าตัว

ส่งท้ายความประทับใจด้วยเมนูของหวาน ‘Warabi Mochi’ ที่ทานคู่กับดอกซากุระหมักเกลือและน้ำตาลอ้อยจากเมืองโอกินาวา มีกลิ่นหอม รสขมติดปลายลิ้นเล็กน้อย โรยหน้าด้วยผงถั่วคินาโกะที่ให้รสหอมมัน เสิร์ฟพร้อมชาโฮจิฉะ ชาคั่วที่ให้รสชาติเข้ากันได้ดีกับขนมหวานถ้วยนี้อย่างลงตัว

 

ร้านซูชิระดับพรีเมียมที่เสิร์ฟความอร่อยอย่างพิถีพิถัน คัดสรรเฉพาะวัตถุดิบชั้นเยี่ยมเกรดนำเข้าจากญี่ปุ่น (Photo by KTC Culinary Collective)

สิทธิพิเศษบัตรเครดิต KTC MASTERCARD
รับฟรีเครื่องดื่มเซ็ตพิเศษ 1 ที่ มูลค่า 1,000 บาท++ / เซลส์สลิป
(สำรองที่นั่งล่วงหน้า 3 วัน และแจ้งพนักงานเพื่อรับสิทธิ์, สำหรับดื่มภายในร้าน ณ วันที่ทำการจองเท่านั้น ไม่สามารถ Takeaway หรือเปลี่ยนแปลงวันที่ต้องการดื่ม)


พร้อมรับคะแนน KTC สุดสูง x10*
สำหรับบัตรเครดิต KTC X WORLD REWARDS MASTERCARD
และ KTC WORLD MASTERCARD

16 ก.ค. 65 - 31 ธ.ค. 65


SUSHI ICHIZU
ซอยสุขุมวิท 39 กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน เวลา 17.30-21.00 น. (สำรองที่นั่งล่วงหน้าเท่านั้น)
โทร. 065 738 9999
www.facebook.com/sushiichizu
www.instagram.com/ichizubangkok

3. KEI IZAKAYA


เปิดประสบการณ์ทานอาหารในร้านอิซากายะแบบฉบับที่แตกต่างไปจากที่คุ้นเคยกันที่ KEI IZAKAYAด้วยบรรยากาศการตกแต่งร้านสไตล์โมเดิร์นที่ดูเรียบหรูในโทนสีขาวดำ พร้อมเพิ่มบรรยากาศอบอุ่นในสไตล์ญี่ปุ่นด้วยสีธรรมชาติของไม้และไฟโทนสีส้ม มีโซฟานุ่มนั่งสบาย บวกการจัดวางที่ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว เหมือนอยู่ในล็อบบี้โรงแรมหรูมากกว่าร้านอิซากายะแบบเดิม ๆ ด้วยความตั้งใจของ ‘เชฟแวน-อายุษกร อารยางกูร’ ที่อยากทำร้านอิซากายะในสไตล์โมเดิร์น-คอนเทมโพรารี ซึ่งฉีกแนวไปจากร้านทั่วไป โดยเน้นการเลือกใช้วัตถุดิบพรีเมียมในราคาที่เป็นมิตร แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ในเรื่องความหลากหลายของเมนูเครื่องดื่มและกับแกล้มแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม สามารถแวะมานั่งชิลล์ กินดื่มในบรรยากาศของร้านอิซากายะได้เช่นเดิม โดยที่นี่ให้ความใส่ใจในรสชาติ คุณภาพของอาหาร และบรรยากาศ เพิ่มเติมด้วยความพรีเมียมและหรูหรา ในราคาแบบร้านอิซากายะ

 

KEI IZAKAYA (Photo by KEI IZAKAYA)

ในส่วนของเมนูกับแกล้มซึ่งเป็นเสน่ห์ของร้านอิซากายะ ที่นี่มีให้เลือกครบครัน ตั้งแต่อาหารเสียบไม้ย่าง ซึ่งยังคงใช้วิธีการย่างด้วยเตาถ่าน ปิ้งย่างแบบไม้ต่อไม้ตามออร์เดอร์บริเวณครัวเปิดที่มาพร้อมเคาน์เตอร์บาร์ให้นั่งชิลล์ ชมลีลาการปรุงอาหารของเชฟ รวมถึงเมนูกับแกล้มง่าย ๆ อย่างผักดอง ปลาข้าวสาร ไก่ทอดคาราอาเกะ ปลาหมึกดอง ยำสาหร่าย ผักสดจิ้มกับมิโซะซอส

ส่วนใครที่อยากทานอาหารมื้อหลัก ที่นี่ยังมีครัวร้อนพร้อมปรุงอาหารจานหลัก ซึ่งเน้นเสิร์ฟในปริมาณจานใหญ่ สามารถแบ่งปันความอร่อยกันได้อย่างเต็มที่ เริ่มต้นแนะนำด้วยเมนู ‘ข้าวหน้าเนื้อ’ ที่ทางร้านเลือกใช้เนื้อริบอายชิ้นใหญ่เต็มคำ นำเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์ เสิร์ฟพร้อมข้าวญี่ปุ่นนุ่ม ๆ รสกลมกล่อมตามสไตล์ดั้งเดิม ตามด้วย ‘ซูชิจานรวม’ และ ‘ซาชิมิจานรวม’ ที่เน้นความสดใหม่ของวัตถุดิบและมีให้เลือกอิ่มอร่อยหลากหลาย อีกจานที่พลาดไม่ได้คือ ‘เทมปุระรวม’ ที่มีความอร่อยเด็ดอยู่ที่ไข่แดงเทมปุระ ซึ่งได้ทั้งความกรุบกรอบและความชุ่มฉ่ำนุ่มละมุนลิ้นของไข่แดงสุกคล้ายไข่ออนเซ็น

ปิดท้ายด้วยเมนูของหวานอย่าง ‘ทีรามิสุชาเขียว’ เสิร์ฟพร้อมคุกกี้โรยด้วยงาคั่ว เวลาทานให้ใช้ช้อนเคาะแผ่นคุกกี้ให้แตกก่อน แล้วทานคู่กับทีรามิสุ เป็นการผสมผสานทั้งความกรอบของคุกกี้ที่เข้ากับความหอมของงา ช่วยเพิ่มเนื้อสัมผัสอร่อยล้ำ แถมยังช่วยตัดรสหวานได้ดีอีกด้วย

 

‘ข้าวหน้าเนื้อ’ เมนูจานหลักแนะนำของทางร้าน เสิร์ฟพร้อมข้าวญี่ปุ่นนุ่ม ๆ รสกลมกล่อมสไตล์ดั้งเดิม (Photo by KTC Culinary Collective)

สิทธิพิเศษบัตรเครดิต KTC MASTERCARD
รับส่วนลด 10% เฉพาะค่าอาหาร


พร้อมรับคะแนน KTC สุดสูง x10*
สำหรับบัตรเครดิต KTC X WORLD REWARDS MASTERCARD
และ KTC WORLD MASTERCARD

16 ก.ค. 65 - 31 ธ.ค. 65


KEI IZAKAYA

Siamese Exclusive ซอยสุขุมวิท 42 กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.
โทร. 097 217 9028
www.facebook.com/keiizakaya.42
www.instagram.com/kei_izakaya42

4. SHIKI Bangkok


ชวนสัมผัสความอร่อยของอาหารญี่ปุ่นสุดพรีเมียมแบบผสมผสานเอกลักษณ์การทานอาหารสุดพิถีพิถันตามแบบโอมากาเสะ (Omakase) เข้ากับสารพัดกรรมวิธีการปรุงที่เชฟเลือกนำมาใช้กับแต่ละวัตถุดิบในรูปแบบที่เรียกกันว่าคัปโปะ (Kappou) กันที่ SHIKI Bangkok ร้านคัปโปะโอมากาเสะที่ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งรสชาติญี่ปุ่น ผ่านวัตถุดิบคุณภาพ ควบคู่กับการปรุงที่หลากหลายตามแบบต้นตำรับ ผ่านรสมือของ Executive Japanese Chef อย่าง ‘เชฟริคุ โทดะ (Riku Toda)’ ลูกศิษย์ของ Hachiro Mizutani เจ้าของร้าน ซูชิมิชลิน 3 ดาว Sushi Mizutani เชฟหนุ่มผู้มากด้วยประสบการณ์ทำอาหารมากว่า 7 ปี การันตีฝีมือในฐานะ Sous Chef หลากหลายร้านซูชิชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น


บรรยากาศของร้าน ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นบ้านสักหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ส่วนการตกแต่งภายในจะเน้นเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนสลับกับปูนเปลือยสีขาว มีเคาน์เตอร์บาร์สำหรับนั่งทานอาหาร โดยออกแบบให้เป็นรูปตัวแอลล้อมครัวเปิดที่อยู่ถัดไปบริเวณด้านใน

 

SHIKI Bangkok (Photo by KTC Culinary Collective)

การทานอาหารที่นี่จะได้ลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นชั้นเลิศ ซึ่งแต่ละเมนูอัดแน่นไปด้วยความพิเศษมากมาย เริ่มต้นคอร์สด้วย ‘Ankimo Ice’ ไอศกรีมจากตับปลาอากิโมะที่จะเปิดทุกการรับรสในปาก เสิร์ฟมาในรูปแบบไส้ของขนมปังโมนะกะ คู่กับนาระสึเกะ (แตงโมดอง) เพิ่มรสเค็มอ่อน ๆ ช่วยสร้างสมดุลของความครีมมี่ เพิ่มความหอมสดชื่นด้วยส้มยูซุออนท็อป ตามด้วยเนื้อสัมผัสกรุบกรอบของเมนู ‘Shirako Tempura’ หนึ่งในอาหารแปลกใหม่ที่มีรสชาติเด็ดที่ต้องห้ามพลาด!

ส่วนเมนูซิกเนเจอร์ที่ภูมิใจนำเสนอก็คือ ‘Awabi Soba’ เส้นโซบะเหนียวนุ่มกำลังดี ท็อปด้านบนด้วยซอสตับเป๋าฮื้อ (Awabi Kimo) สูตรเข้มข้น กับเนื้อเป๋าฮื้อนุ่มเด้ง มีซอสโซบะเย็นช่วยชูรสชาติให้กลมกล่อม ส่วนจานสลัดของที่นี่ ‘Seasonal Salad’ นั้นเสิร์ฟมาแบบสลัดแห้งไร้น้ำราด เพราะเชฟต้องการให้สัมผัสรสชาติเอกลักษณ์ของผักแต่ละชนิด

ปิดท้ายคอร์สด้วย ‘Beef Rice Set with Uni Ikura’ ข้าวอบหม้อดินขนาดใหญ่ ที่เชฟจะนำข้าวอบร้อน ๆ มาเปิดให้ชมตรงหน้าก่อนเสิร์ฟ แล้วท็อปปิ้งด้วยเนื้อวัวที่อบสุกมาแบบพอดี คู่กับไข่ปลาแซลมอน (Ikura) อูนิ (Uni) และทรัฟเฟิลสไลซ์สด ๆ ตามด้วยของหวานล้างปากเป็นมาการองหลากหลายรสชาติ และชีสเค้กที่ทำจากมิโสะ เป็นการจบคอร์สอาหารสุดพิเศษได้อย่างน่าประทับใจ

 

‘Beef Rice Set with Uni Ikura’ ข้าวอบหม้อดิน เมนูไฮไลต์ของทางร้านที่จัดเต็มด้วยหลากหลายท็อปปิ้งวัตถุดิบพรีเมียม (Photo by KTC Culinary Collective)

สิทธิพิเศษบัตรเครดิต KTC MASTERCARD
รับฟรี Sake Set 1 ที่ มูลค่า 700 บาท++
เมื่อรับประทานครบ 4,800 บาทขึ้นไป / เซลส์สลิป

พร้อมรับคะแนน KTC สุดสูง x10*
สำหรับบัตรเครดิต KTC X WORLD REWARDS MASTERCARD
และ KTC WORLD MASTERCARD

16 ก.ค. 65 - 31 ธ.ค. 65


SHIKI Bangkok

ซอยสาทร 7 กรุงเทพฯ
เปิด วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 14.00-23.00 น.
โทร. 088 979 4454
www.facebook.com/ShikiBKK
www.instagram.com/shikibkk


หากใครอยากลองเปิดประสบการณ์ทานอาหารญี่ปุ่นสไตล์ไฟน์ไดน์นิ่งหรือคอร์สโอมากาเสะสุดพิเศษที่ 4 ร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นนำในกรุงเทพฯ ดูสักครั้ง สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  https://ktc.promo/culinary-collective-bkk-menu หรือดาวน์โหลดอ่านไกด์บุ๊กเพื่อเลือกลิสต์ร้านอาหารต่าง ๆ ได้ทาง https://ktc.promo/guidebook-culinary-collective-bkk-menu หากยังไม่มีบัตรเครดิต KTC MASTERCARD คลิกสมัครเลย https://ktc.promo/apply-mastercard