Published on January 30, 2025

Bringing Milan’s Aperitivo Spirit to Bangkok

ชวนสัมผัส Vibe ของการกิน-ดื่ม สไตล์อิตาเลียนรูปแบบใหม่ที่Capricciร้านอาหารและบาร์อิตาโล-ดิสโก้ แห่งแรกในไทย พร้อมเสิร์ฟความอร่อยแบบฉบับชาวมิลานให้ได้ลิ้มลอง ในบรรยากาศสุดสนุก !


สำหรับสายสายแฮงเอาต์คนไหนที่อยากเอ็นจอยมื้ออาหารเคล้าความสนุก ร้านอาหารและบาร์สไตล์อิตาเลียนในซอยเย็นอากาศแห่งนี้ ได้นำ Vibes กลิ่นอายวัฒนธรรมการกิน-ดื่มของชาวมิลาน มาเสิร์ฟความอร่อยภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Apericena’ หรือการจับคู่อาหารกับเครื่องดื่ม ในบรรยากาศแคชชวลสบาย เต็มไปด้วยสีสัน ความครึกครื้น และเสียงดนตรีแนวอิตาโล-ดิสโก้ ที่เสริมมู้ดการสังสรรค์ให้มีชีวิตชีวา

 

สีสันบรรยากาศภายในร้าน Capricci

The Italo Disco vibes

บรรยากาศโดยรวมภายในร้าน ตกแต่งด้วยสีสันฉูดฉาด ให้กลิ่นอายของความวินเทจด้วยมุมห้องสมุดไวนิล รถเข็นไอศกรีมสไตล์วินเทจ ท่ามกลางเพลย์ลิสต์แนวดิสโก้ที่ได้ฟีลเหมือนย้อนกลับไปในยุค 80’s 

 

หลากหลายโซนนั่งสังสรรค์ภายในร้าน

 

มุมห้องสมุดไวนิล ซึ่งในบางวันจะมี Live Music และ DJ มาร่วมมอบเสียงเพลง สร้างความสนุกให้กับการสังสรรค์มื้ออาหาร

หลากหลายโซนนั่งรับประทานอาหารได้รับการออกแบบมาให้รู้สึกถึงความผ่อนคลาย เชื่อมโยงถึงกัน ทั้งที่นั่งโซน Indoor 48 ที่นั่ง หรือจะเป็นโซน Outdoor บริเวณระเบียงร้าน เน้นความสบาย เป็นกันเอง แต่ไม่ว่าจะเลือกนั่งแฮงเอาต์โซนไหนก็ได้ฟีลปาร์ตี้เล็ก ด้วย Ambient ที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ บทสนทนาของผู้คน เสียง Cheers ของเหล่านักดื่ม และไฟดิสโก้ประดับ มาเสริมอรรถรสให้กับมื้ออาหารเพื่อความสมบูรณ์แบบกว่าที่เคย

 

โซน Outdoor

 

โซน Indoor อีกหนึ่งมู้ดบรรยากาศที่ให้ความเป็นส่วนตัว

อีกทั้งยังมีโซนเคาน์เตอร์บาร์เครื่องดื่ม พร้อมเสิร์ฟไวน์อิตาลีที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี ตามด้วยค็อกเทลคลาสสิกที่นำเสนอใหม่ในแบบโมเดิร์นให้ได้เลือกดริงก์

 

โซนเคาน์เตอร์บาร์เครื่องดื่มสำหรับครีเอตเมนูดริงก์ต่าง ๆ

Authentic Italian flavours with a playful

Capricci การันตีความอร่อยของอาหารอิตาเลียนด้วยฝีมือการรังสรรค์ของเชฟ Simone Scarparo ภายใต้การดูแลและก่อตั้งโดยเชฟ Christian Martena จาก CLARA และเชฟ Arnaud Dunand จาก Maison Dunand ระดับมิชลินสตาร์


เมนูต่าง ของร้าน ส่วนใหญ่เลือกนำเสนออาหารอิตาลีตอนใต้ในรูปแบบที่ทันสมัย ​​ให้รสชาติอิตาเลียนแท้ แบบดั้งเดิม เข้าถึงง่าย มีสีสัน โดยแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ ทั้งอาหารจานเล็กสำหรับทานเล่น, จานสลัด, พาสต้า, เมนูย่าง, เมนูซีฟู้ด และเมนูของหวานสไตล์อิตาเลียน ให้ได้ลิ้มลองอย่างเต็มอิ่ม 

 

เคาน์เตอร์ Pasta Bar ที่ใช้รังสรรค์สารพัดเมนูพาสต้าเส้นสด

ก่อนเอ็นจอยมื้ออาหาร ตามธรรมเนียมของทางร้านหรือวัฒนธรรมการกิน-ดื่มของชาวอิตาลี จะเสิร์ฟดริงก์ที่เรียกว่า ‘BOGO Aperol Spritz’ ซึ่งเป็นค็อกเทลสีส้มแดงสัญชาติอิตาเลียนทำจากเหล้าผสมเครื่องเทศและผลไม้ และน้ำโซดา มักเสิร์ฟคู่กับ Cichetti หรืออาหารเรียกน้ำย่อย เพื่อเพิ่มความอร่อยให้มื้ออาหาร ทำให้การสังสรรค์มีความสนุกสนานและจิบเครื่องดื่มได้อย่างมีระดับ 
 

BOGO Aperol Spritz ค็อกเทลสัญชาติอิตาเลียนที่เสิร์ฟคู่กับเมนูเรียกน้ำย่อย

ประเดิมความอร่อยด้วยสารพัดเมนูเรียกน้ำย่อยในหมวด Cicchetti หรืออาหารทานเล่นอย่าง Akami Tuna & Saffron Rice (90 บาท) ข้าวทอดที่มีกลิ่นอโรมาของหญ้าฝรั่น ท็อปด้วย Tartare ของปลาทูน่าส่วนอากามิและราดตามด้วยซอส Spicy Mayo รสเผ็ดนิด ช่วยตัดเลี่ยน

 

Akami Tuna & Saffron Rice (90 บาท)

หรือจะเป็น Truffle Melting Toast (130 บาท) ขนมปังโทสต์ชิ้นพอดีคำที่ท็อปด้วยครีมเห็ดทรัฟเฟิลและทรัฟเฟิลสไลซ์หอม รสละมุน เนื้อเนียนนุ่มละลายในปาก

 

Truffle Melting Toast (130 บาท)

ถัดมาที่หมวด Small Plates ที่เหมาะกับการแชร์ริ่งความอร่อย ได้แก่ Veal / Tonnato Sauce / Capers / Coffee (240 บาท) เมนูสลัดเนื้อลูกวัวสุดคลาสสิกสไตล์อิตาเลียน เสิร์ฟคู่มากับลูกเคเปอร์ดองสไลซ์ ซอสทอนนาโต้ที่มีความครีมมี่ รสชาติเข้มข้นกลมกล่อม หอมกลิ่นกาแฟอ่อน ทักรับประทานพร้อม กัน ได้รสชาติหลากมิติที่ลงตัว

 

Veal / Tonnato Sauce / Capers / Coffee (240 บาท)

จากนั้นเอาใจคนเลิฟพิซซ่ากันต่อด้วยหนึ่งในเมนูไฮไลต์ของหมวด Pizzette หรือพิซซ่าไซส์มินิคือ Pulled Pork / Nduja / Friarielli (210 บาท) พิซซ่าหน้าเอ็นดูย่าหรือเนื้อบดหยาบสไตล์อิตาเลียนกับหมูฉีกเนื้อนุ่ม และผักราพินี ให้รสเผ็ดร้อนที่เข้ากับความครีมมี่ของชีสได้เป็นอย่างดี

 

Pulled Pork / Nduja / Friarielli (210 บาท)

ต่อเนื่องความอร่อยกันที่หลากหลายเมนูพาสต้าของทางร้านที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในหมวดไฮไลต์ เพราะทำกันแบบสดใหม่ เป็นเส้นพาสต้าแบบโฮมเมด ที่มี Pasta Bar โซนครัวเปิดเผยให้เห็นเบื้องหลังการทำพาสต้าเส้นสดอย่างใกล้ชิด

 

เบื้องหลังการรังสรรค์เมนูพาสต้าเส้นสด

ส่วนเมนูแนะนำที่ต้องลองนั้นก็คือ Gnocchi / Lamb Ragu (380 บาท) พาสต้าเส้นญ็อกกี้ที่หาทานยาก รังสรรค์ความอร่อยออกมาในสไตล์อิตาเลียนแท้คลุกเคล้ามากับซอสรากุเนื้อแกะสูตรดั้งเดิม รสเข้มข้นกลมกล่อมที่เสิร์ฟมาพร้อมกับผงชีสให้โรยหน้าพาสต้าตามความชอบ

 

Gnocchi / Lamb Ragu (380 บาท)

ท้าชิงความอร่อยเด็ดไม่แพ้กันด้วยเมนู Tonnarelli BBQ / Pecorino / Black Pepper (380 บาท) พาสต้าเส้นทอนนาเรลลี่ เอกลักษณ์เฉพาะจากอิตาเลียนตอนใต้ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเส้นสปาเก็ตตี้ คลุกเคล้ามากับซอสเพโคริโนชีสหรือชีสนมแกะ พร้อมตัดเลี่ยนด้วยพริกไทยดำที่ผสานความอร่อยเข้ากันได้อย่างลงตัว

 

Tonnarelli BBQ / Pecorino / Black Pepper (380 บาท)

จัดเต็มความอิ่มท้องส่งท้ายมื้อนี้กันที่อาหารจานหลักกับเมนู Wagyu Hanger Steak (300 g) (990 บาท) สเต๊กเนื้อวากิวส่วนสันลอย เสิร์ฟแบบมีเดียมแรร์เนื้อสัมผัสนุ่มชุ่มฉ่ำ คู่ความอร่อยมากับสลัดผักสดให้ได้แกล้มมื้ออาหารนี้อย่างสมบูรณ์

 

Wagyu Hanger Steak (300 g) (990 บาท)

Info
Hours
Everyday : 12PM - 12AM
Price

฿฿฿ 301-500 บาทต่อคน

Address
26/3 ซอยเย็นอากาศ 1 ถนนเย็นอากาศ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร
Map
Mass Transit

MRT ลุมพินี ทางออก 2

Facilities
Suggest an Edit