"GIVE MORE" philosophy
ชวนมาพบกับร้านใหม่จากแบรนด์ MAGURO ที่มาพร้อมความตั้งใจอยากถ่ายทอดความเชี่ยวชาญแบบญี่ปุ่นในมิติที่ลึกขึ้น สวยงามขึ้น และใกล้ชิดขึ้น ผ่านศิลปะแห่งการปรุงอาหารในสไตล์ Kappou นำเสนอประสบการณ์การทานอาหารอย่างใกล้ชิดและอบอุ่น ผสานปรัชญา “GIVE MORE” ของ MAGURO เข้ากับความละเมียดละไมของเชฟผู้เชี่ยวชาญA modern Japanese aesthetic
ด้วยแนวคิดที่อยากให้ทุกมื้อเป็นมากกว่าการรับประทานอาหาร MAGURO Kappou จึงออกแบบประสบการณ์การกินให้กลายเป็น “ศิลปะของความใส่ใจ” ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบสดใหม่ในแต่ละวัน การปรุงด้วยเทคนิคแบบช่างฝีมือ ไปจนถึงการบริการที่อบอุ่น ในบรรยากาศอบอุ่นเพื่อมอบช่วงเวลาแห่งความสุขที่ทั้งเรียบง่ายและพิเศษ
ในส่วนของบรรยากาศภายในร้าน ออกแบบในมู้ดของ Modern Japanese ที่เรียบหรูแต่ยังคงความอบอุ่น ถ่ายทอดเสน่ห์ของความเป็นญี่ปุ่นร่วมสมัยผ่านเส้นสายมินิมัลและงานศิลป์ที่แฝงอยู่ในทุกดีเทล เสริมด้วยแสงไฟนุ่มนวล เฟอร์นิเจอร์ไม้ และเคาน์เตอร์บาร์ที่เปิดให้ชมฝีมือของเชฟกันอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ทุกจานยังเต็มไปด้วยความประณีต พิถีพิถันด้วยความใส่ใจในดีเทลเล็ก ๆ ตั้งแต่การจัดวางจนถึงการเสิร์ฟ เพราะสำหรับเชฟแล้ว ทุกมื้อคือศิลปะหนึ่งชิ้นที่ตั้งใจมอบให้ผู้มาเยือนได้สัมผัส
เมื่อเข้ามาภายในร้าน จะพบกับผนังตกแต่งด้วยศิลปะญี่ปุ่นแนวร่วมสมัยมาช่วยเพิ่มเสน่ห์และอัตลักษณ์เฉพาะตัว ที่นี่จึงเหมาะกับลูกค้าที่ชอบบรรยากาศเรียบหรูแต่ไม่ทางการจนเกินไป เพิ่มความอบอุ่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่ทั้งผ่อนคลายระหว่างทานอาหารได้เป็นอย่างดี
Japanese uniqueness with artistic style
หนึ่งในไฮไลต์ของร้าน ที่หากมาแล้ว เราแนะนำให้เลือกนั่งคือ โซนบาร์ที่เปรียบเหมือนหัวใจ เพราะสามารถสัมผัสประสบการณ์ “Kappou Style” ที่ทางร้านตั้งใจมอบให้ได้อย่างแท้จริง เพลิดเพลินไปกับการชมเชฟปรุงทุกจานอย่างตั้งใจ พร้อมอธิบายรสชาติและแรงบันดาลใจด้วยตนเอง
และไฮไลต์ต่อมา คือเมนูย่างของที่นี่ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ที่เต็มไปด้วยความละเมียดละไม โดยเหล่า Artisan Grilled Dish หรือเมนูย่างเตาถ่านของที่นี่จะเน้นเทคนิคการควบคุมไฟอย่างแม่นยำ เพื่อให้ได้ความหอมและรสสัมผัสเฉพาะตัวที่ทั้งนุ่ม ชุ่มฉ่ำ และละเมียดละไมในเวลาเดียวกัน
ส่วนของเมนู ที่นี่โดดเด่นด้วยความพรีเมียมของวัตถุดิบ ตั้งแต่จานเรียกน้ำย่อยจากวัตถุดิบตามฤดูกาล, เมนูย่างที่เน้นเทคนิคการปรุงด้วยความแม่นยำ ไปจนถึงเมนูซูชิและดงบุริแบบมินิที่ออกแบบมาให้เลือกอิ่มได้หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีจานพิเศษจากเตาถ่านที่มอบกลิ่นหอมเฉพาะตัวและรสสัมผัสที่ละเมียดกว่าเดิม
หากใครมาแล้ว เราแนะนำให้ลองสั่งจานสลัดมาทานกันก่อน ในเมนู Mini Shirauo Salad (199 บาท) สลัดปลาชิราโอะตัวจิ๋วจากญี่ปุ่นที่ทั้งสดใหม่ เนื้อหวาน เข้ากันเป็นอย่างดีกับผักที่สดกรอบ เสริมรสด้วยซอสเปรี้ยวหวานแบบโฮมเมดและผักสดตามฤดูกาล เป็นเมนูเปิดรสเบา ๆ ที่ให้สัมผัสสดชื่นก่อนเข้าสู่จานต่อไป
ต่อมาที่ All Blue Ocean (890 บาท) เมนูซิกเนเจอร์ของ MAGURO ที่โดดเด่นด้วยความสดใหม่ของเนื้อปลาคุณภาพพรีเมียมหลากหลายชนิด ไล่เรียงมาตั้งแต่ปลาเนื้อขาวไปจนถึงปลาเนื้อแดง และยังมีโฮตาเตะเนื้อหวานฉ่ำ รังสรรค์ด้วยเทคนิค Kappou ที่คงไว้ทั้งรสและเท็กซ์เจอร์ กลมกล่อมแต่แฝงความสดชื่นไว้ในทุกคำ
หรือจะเป็นเมนู UNAGI KABAYAKI SET (395 บาท) ปลาไหลย่างซอสคาบายากิหอมเตะจมูก ย่างด้วยถ่านพิเศษจนหนังกรอบ เนื้อนุ่มละลายในปาก เสิร์ฟพร้อมข้าวญี่ปุ่นร้อน ๆ และซุปใสในชุดสุดพรีเมียม
อีกหนึ่งเมนูแนะนำ ขอยกให้ Mini Nagomi Don (480 บาท) ข้าวหน้าปลาดิบขนาดมินิที่รวมความอร่อยของวัตถุดิบตามฤดูกาลไว้ในถ้วยเดียว เสิร์ฟด้วยความละเมียดละไมในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ เหมาะสำหรับมื้อกลางวันแบบเบา ๆ ไม่หนักท้อง
ปิดท้ายด้วย Edomakase Sushi (590 บาท) เซ็ตซูชิแบบเอโดะมากาเสะที่เสิร์ฟมาพร้อมความประณีตของเชฟในทุกคำ ตั้งแต่การคัดปลาที่สดใหม่ การบ่มเพื่อเพิ่มรสชาติ ไปจนถึงการจัดเสิร์ฟอย่างเรียบง่ายแต่มีศิลปะ พร้อมให้คุณอิ่มอร่อยกันได้ในทุกคำ
แวะมาอิ่มอร่อย พร้อมเอ็นจอยไปกับความคราฟต์ของเมนูที่เต็มไปด้วยความสดใหม่ของวัตถุดิบที่ผ่านการรังสรรค์อย่างใส่ใจจากเชฟมากฝีมือ ผ่านกรรมวิธีที่ละเมียดละไม พร้อมส่งต่อรสชาติสุดประทับใจให้คุณได้ชิมกันได้ทุกวันที่ MAGURO Kappou ชั้น 5 Dusit Central Park








