Ranee's Restaurant 3rd branch in Bangna
ได้เวลาอัพเดทความอร่อยครั้งใหม่ของ Ranee’s Restaurant ร้านอาหารอิตาเลียนโฮมเมดชื่อดังจากย่านตรอกข้าวสาร ที่ขึ้นชื่อในเรื่องพาสต้าเส้นสดและพิซซ่าเตาถ่าน ด้วยสูตรลับความอร่อยแบบดั้งเดิมที่ครองใจเหล่านักชิมสายอาหารอิตาเลียนหลากหลายรุ่นมาอย่างยาวนานกว่า 29 ปี ซึ่งในปี 2568 นี้ ทางร้านได้พร้อมเปิดอีกหนึ่งสาขาใหม่แห่งที่ 3 ในโครงการ The Glass Market Bangna ใจกลางย่านบางนา เพื่อส่งต่อความอร่อยให้ชาวบางนาเนี่ยน ชาวสมุทรปราการ รวมถึงคนรักอาหารอิตาเลียนโฮมเมดที่อยู่นอกเมืองได้ลิ้มลองความอร่อยฟินกันบ้าง
Italian Homemade Style Cuisine
จากร้านลับในตรอกข้าวสาร สู่ย่านราชพฤกษ์ จนมาถึงย่านบางนา Ranee’s Restaurant ยังคงถ่ายทอดความอร่อยในสไตล์อิตาเลียนโฮมเมดแท้ ๆ ได้ดีเสมอมา ซึ่งผู้ที่อยู่เบื้องหลังสูตรลับความอร่อยของแต่ละเมนูอาหาร นั่นก็คือ คุณ Roel Van Roosmalen เชฟชาวฮอลแลนด์ ผู้ได้เรียนรู้การทำอาหารจากเจ้าของสูตรดั้งเดิมแท้ ๆ ที่อิตาลี ตั้งเเต่เมื่อ 29 ปีก่อน เเละ คุณราณี ภรรยาและผู้ช่วยคนสำคัญที่ดูแลและคิดสูตรอาหารทั้งหมดในร้านให้ลงตัวกับอาหารอิตาเลียนโฮมเมดในแบบฉบับที่ถูกปากคนไทย โดยคุณ Roel เลือกตั้งชื่อร้านอาหารอิตาเลียนแห่งนี้ว่า ‘ราณี’ ตามชื่อของภรรยาชาวไทยอันเป็นที่รัก ซึ่งคนทั่วไปต่างรู้จักกันดีในนามร้านอาหารอิตาเลียนโฮมเมดเจ้าอร่อยที่เรียกต่อมาว่า ‘ร้านราณี’ จนถึงทุกวันนี้
แน่นอนว่าซิกเนเจอร์ความอร่อยระดับตำนานของที่นี่ อยู่ที่กรรมวิธีการทำพาสต้าเส้นสดหลากหลายรูปแบบที่ทางร้านเน้นทำสดใหม่แบบวันต่อวัน ไม่ว่าจะเป็น Spaghetti, Tagliatelle Spinach, Ravioli Truffle, Farfalle ฯลฯ รวมถึงพิซซ่าเตาถ่านแบบดั้งเดิมสไตล์อิตาเลียน ซึ่งความเป็นเอกลักษณ์เหล่านี้เองที่ทำให้คนรักอาหารอิตาเลียนตัวจริงล้วนติดใจจนอยากกลับมาทานอีกบ่อย ๆ หรือแวะเวียนกันไปอิ่มอร่อยในทุก ๆ สาขา
Where Homemade Meets Design
สำหรับสาขา The Glass Market Bangna ที่เปิดให้บริการครั้งล่าสุดนี้ มาพร้อมแนวการตกแต่งร้านโฉมใหม่ที่ตั้งใจออกแบบให้เป็นไปตามคอนเซ็ปต์ ‘Italian Homemade Cuisine’ ท่ามกลางบรรยากาศที่เรียบหรู แต่ยังคงสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น การทานอาหารแบบสบาย ๆ และเป็นกันเองได้ในทุกอณู
ความโดดเด่นของงานดีไซน์สถาปัตยกรรมและตกแต่งภายในร้าน ได้แรงบันดาลใจ ไอเดียตั้งต้นมาจาก ‘โบสถ์คริสตจักร’ สมัยโบราณ ซึ่งทางร้านได้มีการนำเสนอเรื่องราว สอดแทรกรายละเอียดที่บ่งบอกถึงความเป็นสถาปัตยกรรมอิตาลีเอาไว้ทุกกระเบียดนิ้ว นับตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าร้านที่มีความโค้งมน การเลือกใช้ม่าน เลือกใช้วัสดุบล็อกแก้วมาจัดเรียงเป็นแนวกำแพงร้านอย่างพิถีพิถัน ดูแปลกตาโออ่าไม่เหมือนที่ไหน อีกทั้งลวดลายฉลุเหล็กดัดสีดำที่ถอดแบบมาจาก Stained Glass หรือโครงสร้างโบสถ์ยุคสมัยนั้น พร้อมจำลองรูปแบบการก่อสร้างท่อส่งน้ำภายในกำแพงวิหาร ตามหลักการออกแบบอาคารสถาปัตยกรรมที่มักพบเห็นในอิตาลีก็ได้ถูกหยิบยกมาไว้ที่ร้านได้อย่างกลมกลืนและอลังการ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งทานอาหารอยู่ในโบสถ์จริง ๆ
เรื่อยไปจนถึงการวาง CI สีประจำร้านในธีมดำ-แดง เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้เกิดภาพจำ อีกทั้งการดีไซน์รูปร่างของ element บนเพดานให้เป็นในลักษณะของเส้นพาสต้า Tagliatelle สีแดง อันเป็นสัญลักษณ์ของร้าน ตามมาด้วยดีเทลเล็ก ๆ อย่างลวดลายของเส้นพาสต้าชนิดต่าง ๆ ที่ฝังอยู่บนพื้นให้ได้ชวนว้าวไปกับความใส่ใจในทุกมุมมอง เคล้าด้วยกลิ่นหอม ๆ ของพิซซ่าอบใหม่ ๆ ที่ยังคอนเซ็ปต์เตาฟืนเอาไว้เช่นเดิม เพิ่มเติมมุมกระจกใส เผยให้เห็นเบื้องหลังบรรยากาศการรังสรรค์ความอร่อยหลังครัวทั้งการอบพิซซ่าและการทำพาสต้าเส้นสดของทีมเชฟอย่างใกล้ชิด
All Recommend Dishes & Special Menus
ไม่เพียงแต่เมนูพาสต้าและพิซซ่าโฮมเมดเท่านั้นที่ทางร้านพร้อมเสิร์ฟความอร่อยแบบจัดเต็ม เพราะสาขานี้ Ranee’s Restaurant ได้เพิ่มความพิเศษที่แตกต่างด้วยหลากหลาย Special Menu ที่ทางร้านเลือกชูวัตถุดิบท้องถิ่นไทย (Local Thai Ingredients) มาใช้ในการสร้างสรรค์เมนูอิตาเลียนโฮมเมดจานพิเศษ ทั้งวัตถุดิบซีฟู้ดสดใหม่ ส่งตรงจากกลุ่มประมงพื้นบ้าน (Local Fisheries) แถบอ่าวน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผสมผสานกับวัตถุดิบนำเข้าสุดพรีเมียม โดยเลือกสรรสารพัดเมนูอิตาเลียนโฮมเมดสไตล์ Home Cook ที่หาทานได้ในอิตาลี แต่ว่าที่ไทยอาจหาทานได้ยากมาเป็นจุดเด่นในการพรีเซนต์ความอร่อยประจำสาขานี้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมความหลากหลายด้วยเมนูพาสต้าที่นำมาทวิสต์รสชาติให้มีความฟิวชัน เข้ากับคนไทยมากขึ้น อีกทั้งแพลนการปรับเปลี่ยนเมนูใหม่ตามช่วง Seasonal ในทุก ๆ 2 เดือน ให้ได้ลองทานกันอย่างจุใจไม่จำเจอีกด้วย
ในส่วนของเมนูแนะนำ ขอประเดิมกันที่หมวดสลัดสุดเฟรช Burrata Salad (320 บาท) สลัดบูราต้า เมนูสลัดที่ขายดีที่สุดของทางร้าน เสิร์ฟความสดชื่นด้วยผักร็อกเก็ตกับมะเขือเทศเชอร์รีสด คลุกเคล้าซอสโฮมเมดจาก Italian Basil ที่นำมาปั่นทำเป็นซอสเพสโต้ พร้อมราดบัลซามิก น้ำมันมะกอกและโรยตามด้วยพริกไทยดำเล็กน้อย ท็อปหน้าด้วยชีสบูราต้าที่มีความครีมมี่ ทานง่าย ไม่เลี่ยนจนเกินไป ตักทานพร้อมกันได้ทั้งความสดชื่นและเรียกน้ำย่อยก่อนเริ่มมื้ออาหารได้ดี
ถัดมาที่ Special Menu ประจำสาขานี้กันบ้างกับจานเรียกน้ำย่อยเอาใจสายเนื้ออย่าง Parma Ham Platter (390 บาท) พาร์ม่าแฮมที่ทางร้าน Dry Aged มานานถึง 18 เดือน จึงได้รสชาติที่เข้มข้นกลมกล่อม เสิร์ฟพร้อมชีสสด (Stracciatella หรือที่เรียกว่าไส้ชีสบูราต้า) ในถ้วยให้ดิปคู่ความอร่อยที่เข้ากันอย่างลงตัว
ส่วนใครที่เป็นสายซีฟู้ด ต้องลอง Scallop Carpaccio (390) หอยเชลล์ที่เสิร์ฟแบบสดใหม่ในลักษณะของซาชิมิที่ให้เนื้อสัมผัสนุ่มหนึบและมีรสหวาน เสิร์ฟราดมากับซอสซีฟู้ดสไตล์อิตาเลียน ทานแล้วเรียกความสดชื่นระหว่างมื้ออาหารได้เป็นอย่างดีทีเดียว
ไปต่อกันที่สารพัดเมนูโฮมเมดโฮมใจสไตล์อิตาเลียน ซึ่งอาจหาทานได้ยากในไทย เพราะส่วนใหญ่จะนิยมเสิร์ฟกันในร้านอาหารที่มีความเป็น Authentic มาก ๆ เมื่อมีโอกาสมาทานอาหารที่นี่แล้ว แนะนำให้ลองสั่ง Ranee’s Roasted Potatoes (190 บาท) อีกหนึ่งเมนูโลคอลคู่ครัว คู่บ้านของชาวอิตาเลียน นิยมทานเรียกน้ำย่อยกันก่อนเริ่มมื้ออาหาร โดยเป็นการนำมันฝรั่งมาฝานสไลด์ นำไปย่าง ปรุงรสชาติเล็กน้อยด้วยการโรยเกลือและท็อปด้วยโรสแมรี่หอม ๆ แล้วเสิร์ฟทาน ได้เท็กซ์เจอร์ของเนื้อมันนุ่มหนึบเคี้ยวเพลิน ๆ
หรือจะเป็น Salmone Alla Toscana (450 บาท) แซลมอนชิ้นโตที่นำไปผัดกับซอสมะเขือเทศสูตรพิเศษสไตล์โฮมเมด ให้เนื้อสัมผัสนุ่มฉ่ำเต็มคำ คลุกเคล้าความอร่อยมาพร้อมกับเห็ดแชมปิญองและมะเขือเทศ เป็นเมนูง่าย ๆ หาทานได้ทั่วไปในอิตาลีที่ทางร้านอยากแนะนำให้ลองทานที่นี่สักครั้งแล้วจะติดใจ !
มาถึง Ranee’s Restaurant ทั้งทีก็ต้องห้ามพลาดหมวดพาสต้าเส้นสด สำหรับสาขานี้ขอแนะนำ Pasta Razor Clams (450 บาท) สปาเก็ตตี้ผัดหอยหลอดสดใหม่ที่ส่งตรงวัตถุดิบโลคอลมาจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผ่านการคัดไซส์ คัดสรรคุณภาพมาเป็นอย่างดี โดยทางร้านต้องการพรีเซนต์ความเป็นเมนูโฮมเมดดั้งเดิมของชาวอิตาเลียนที่หาทานยากในไทย ให้เข้าถึงคนไทยมากขึ้น ด้วยรสชาติแบบทวิสต์ความเป็นไทยลงไปด้วย ผัดแบบแห้ง ๆ ให้สัมผัสหนึบหนับเคี้ยวเพลินของตัวหอยที่เข้ากันเป็นอย่างดีกับสปาเก็ตตี้เส้นสด ปรุงรสเผ็ดนิด ๆ ตัดความเลี่ยนได้แบบกำลังดี
ท้าชิงความอร่อยด้วยหมวดพิซซ่าเตาถ่านที่อบกันแบบสดใหม่กับเมนู Brie Truffle Pizza (ราคา 550 บาท) พิซซ่าหน้าทรัฟเฟิลซอส ซิกเนเจอร์ของทางร้าน พร้อมเพิ่มรสและเนื้อสัมผัสแบบเต็มคำด้วยเห็ดทรัฟเฟิล พาร์มาแฮม และบรีชีสสดชิ้นใหญ่ที่ท็อปหน้าพิซซ่ามาแบบเน้น ๆ
อีกหนึ่งเมนูไฮไลท์ใหม่ที่น่าลองไม่แพ้กันเลยก็คือ Ranee's Homemade Roasted Chicken (390 บาท) ไก่อบโฮมเมดสไตล์ราณี ซึ่งแต่เดิมเป็นเมนูที่คุณราณีชอบทำรับประทานกันเองที่บ้าน ผ่านกรรมวิธีที่นำไก่มา Slow Cooked หมักกับไวน์แดงและซอสสูตรเฉพาะ จนได้เนื้อสัมผัสเปื่อยนุ่มของไก่ที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยซอสแบบเต็มคำ พร้อมรสชาติของความเป็นอาหารอิตาเลียนแบบดั้งเดิม
จัดหนักจัดเต็มกับสารพัดเมนูอาหารคาวกันไปแล้ว ใครที่กำลังมองหาเมนูของหวานไว้ทานล้างปากตามธรรมเนียมแบบฉบับชาวอิตาเลียน ต้องนี่เลย ! Tiramisu (ราคา 190 บาท) เลดี้ฟิงเกอร์คุกกี้ชุ่มกาแฟที่ให้รสสัมผัสหวานละมุนกำลังดีของมาสคาร์โปเนชีสที่โรยหน้าด้วยผงกาแฟแบบเข้ากันอย่างลงตัว ได้ทั้งความหอมและรสชาติของกาแฟแบบไม่หนักจนเกินไป เป็นของหวานที่ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
ตามด้วย Panna Cotta (ราคา 140 บาท) พานาคอตต้าสไตล์โฮมเมดที่ทางร้านทำเองแบบสดใหม่ทุกวัน หอมหวานกำลังดี ให้เนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม ตัดรสด้วยซอสสูตรเฉพาะและผลไม้สดตระกูลเบอร์รี เรียกว่าทั้ง Tiramisu และ Panna Cotta เป็น 2 เมนูของหวานยอดฮิตปิดท้ายมื้ออาหารสไตล์อิตาเลียนโฮมเมดได้สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง








