อัญชัน คาเฟ่

Published on February 14, 2018

Traditional Thai Cuisine

จากร้านอีสานรสแซ่บอย่าง แสนแซ่บ ที่เคยสร้างความประทับใจไว้ให้ใครหลายคน ล่าสุดทาง คุณกิ๊ฟ-วัชราภรณ์ ลิมป์วิชรคม เจ้าของร้านได้ต่อยอดความอร่อยครั้งใหม่ให้คนกรุงเทพฯ ได้ลิ้มรสอาหารไทยสูตรโบราณผ่านคาเฟ่-ร้านอาหารไทยเปิดใหม่ย่านวิภาวดี ที่มีชื่อว่า อัญชัน คาเฟ่ (Anchan Cafe) ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนทุกกลุ่มให้ได้มาละเลียดความสุขจากการทานอาหาร และใช้ช่วงเวลาดี ๆ ไปพร้อมกัน

 

Homey & Variety Space

ในส่วนของไอเดียการตั้งชื่อร้าน เนื่องจากคุณกิ๊ฟและครอบครัวมีความผูกพันกับดอกอัญชัน ดอกไม้ไทยหรือสมุนไพรที่หลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับการนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในการทำขนม หรือเสริมความงามตามฉบับภูมิปัญญาไทย 

 

ตัวร้านตกแต่งด้วยโทนสีน้ำเงิน-เขียว บวกกับการนำดอกอัญชันมาใช้เป็นธีมในการตกแต่งร้าน ไม่ว่าจะเลือกนั่งโซนไหนก็สร้างความผ่อนคลาย สบายตาได้ไม่แพ้กัน

 

ภายในร้านจะค่อนข้างกว้างขวาง เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นหลัก มีกระจกใสคล้ายโครงสร้างของกลาสเฮ้าส์ล้อมรอบทุกทิศทาง พร้อมตกแต่งด้วยต้นไม้นานาชนิดที่ช่วยเพิ่มความร่มรื่นให้กับตัวร้านได้เป็นอย่างดี

 

นอกจากนี้ ภายในพื้นที่หนึ่งไร่ของที่ตั้งร้าน ยังจัดสรรปันส่วนรองรับการให้บริการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Playground สำหรับเด็ก ๆ ที่มาทานอาหารกับครอบครัว, Co-Working Space สำหรับกลุ่มคนทำงาน ไปจนถึงธุรกิจด้านอื่น ๆ อย่างร้าน 2 Little Pigs คาเฟ่เบเกอรี่สีขาวแสนอบอุ่น,

 

DYB-Zumba Dace Studio และ Fitness Center ที่เปิดให้ทุกคนได้เข้ามาออกกำลังกายแบบครบวงจรอีกด้วย

 

Family's Recipe

อาหารส่วนใหญ่ของร้านอัญชันนั้นเป็นอาหารไทยโบราณ หรืออาหารไทยพื้นบ้านที่หาทานได้ยากในปัจจุบัน ครบถ้วนทั้งสี่ภาค โดยแต่ละเมนูล้วนได้รับสูตรมาจากทางครอบครัว และผ่านการคัดสรรวัตถุดิบชั้นดี เริ่มด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยด้วยจานเด็ดอย่าง โตกอีสาน (220 บาท) เซ็ตอาหารอีสานที่ประกอบด้วย ส้มตำ (ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะทานส้มตำไทย ส้มตำปู หรือส้มตำปูปลาร้า) ไก่ย่าง ข้าวเหนียวดอกอัญชัน (20 บาท) และต้มแซ่บ เรียกได้ว่าสั่งเซ็ตนี้เซ็ตเดียว อิ่มคุ้มแน่นอน

 

โตกอีสาน (220 บาท)

ตามมาด้วย ออร์เดิร์ฟเมือง (220 บาท) อาหารเหนือแบบเป็นเซ็ตขันโตก ที่ประกอบด้วย ไส้อั่ว แคบหมู ไข่ต้มยางมะตูม น้ำพริกหนุ่ม และผักเคียง ต่าง ๆ ที่ให้รสชาติดั้งเดิมแบบของกิ๋นเมืองเหนือแต้ ๆ

 

ออร์เดิร์ฟเมือง (220 บาท)

หากใครชอบทานอาหารปักษ์ใต้ต้องห้ามพลาด แกงปูใบชะพลู (320 บาท) แกงใต้ที่ส่งตรงเครื่องแกงมาจากใต้โดยเฉพาะ ใส่เนื้อปูก้อนใหญ่แบบเน้น ๆ ผสมกับน้ำแกงที่ปรุงรสเข้มข้น และใบชะพลูที่ช่วยเพิ่มความหอมมัน จะตักทานกับข้าวสวยร้อน ๆ หรือเส้นหมี่ก็ดีไม่แพ้กัน

 

แกงปูใบชะพลู (320 บาท)

 หรือจะเป็น ใบเหลียงผัดไข่ (95 บาท) ผักพื้นบ้านของทางใต้ที่นำมาผัดน้ำมันแห้ง ๆ ใส่ไข่ให้ได้รสเค็ม ๆ มัน ๆ  กลมกล่อม

 

ใบเหลียงผัดไข่ (95 บาท)

ถัดมาที่อาหารไทยภาคกลางกันบ้างกับ 3 เมนูที่ทางร้านแนะนำ ได้แก่ ไข่พะโล้แก้มหมู (170 บาท) ที่ทางร้านใช้ส่วนของแก้มหมู ให้เท็กซ์เจอร์ที่กรุบกรอบ ส่วนเนื้อหมูนั้นก็เปื่อยกำลังดี มาพร้อมเต้าหู้ชิ้นใหญ่และไข่ไก่ฟองโต รสชาติเข้มข้น

 

ไข่พะโล้แก้มหมู (170 บาท)

ต่อด้วย แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย (250 บาท) ที่ทางร้านลงมือตำพริกขี้หนูสำหรับทำเป็นแกงแบบสด ๆ จึงให้ความหอมเป็นพิเศษ และลูกชิ้นปลากรายแท้ ๆ ที่ใส่มาแบบจัดเต็ม

 

แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย (250 บาท)

แล้วจบด้วยจานไฮไลท์ที่มาแล้วต้องสั่งอย่าง หมูกรอบคั่วน้ำปลา (180 บาท) เมนูซิกเนเจอร์ของที่ทางร้าน เลือกใช้หมูสามชั้นอย่างดี คัดเฉพาะส่วนที่มีไขมันน้อยแบบชิ้นต่อชิ้น โดยมีวิธีการทำคือ นำหมูสามชั้นมาคั่วจนแห้ง แล้วนำมาปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ให้ได้รสกลมกล่อม

 

หมูกรอบคั่วน้ำปลา (180 บาท)

และเพื่อให้สอดคล้องกับชื่อของร้าน ทางร้านจึงได้ครีเอทเมนูที่มีส่วนผสมของดอกอัญชันมาให้ได้ทานกัน ลองสั่ง ยำเส้นแก้วอัญชัน (150 บาท) ยำเส้นแก้วที่มีลักษณะคล้ายกับวุ้นเส้นเพียงแต่เส้นใหญ่กว่า และให้ความกรุบกรอบกว่ามาก คลุกเคล้ากับวัตถุดิบอาหารทะเล อาทิ กุ้ง ปลาหมึก ฯลฯ ผักสมุนไพรไทย ก่อนจะปรุงน้ำยำให้ได้รสเปรี้ยวอมหวานกำลังดี เข้มข้น แต่ไม่จัดจ้านจนเกินไป แล้วโรยหน้าด้วยดอกอัญชันสด

 

ยำเส้นแก้วดอกอัญชัน (150 บาท)

A La Carte Thai Menu

ไม่เพียงแต่เสิร์ฟอาหารจานหลักแบบไทย ๆ เท่านั้น ที่นี่ยังมีจานเดียวไว้คอยให้บริการสำหรับใครที่มาทานคนเดียวให้เลือกอิ่มอร่อยกับเมนูทานง่าย ซึ่งจัดเป็นเซ็ตรวมเครื่องดื่ม และผลไม้เอาไว้ด้วย ส่วนเมนูที่ทางร้านแนะนำเป็นพิเศษคือ ข้าวไข่ข้นต้มยำกุ้ง (120 บาท) เมนูไข่ข้นเยิ้ม ๆ ทอดแบบกรอบนอกนุ่มในที่โปะมาบนข้าวสวยร้อน ๆ แล้วราดด้วยต้มยำกุ้งน้ำข้น

 

ข้าวไข่ข้นต้มยำกุ้ง (120 บาท)

Refreshing Dessert

ทานของคาวกันไปแล้ว ต้องปิดท้ายระหว่างมื้อตามธรรมเนียมด้วยของหวานดับร้อนสไตล์ไทย ๆ อย่าง มะม่วงเบาลอยแก้ว (55 บาท) มะม่วงสายพันธุ์พื้นเมืองทางภาคใต้ที่ให้รสเปรี้ยวอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวนำมาใส่ในน้ำเชื่อม ผสมผสานตัดรสชาติกันอย่างลงตัว เสิร์ฟพร้อมเกล็ดน้ำแข็งเย็น ๆ ทานแล้วชื่นใจ

 

มะม่วงเบาลอยแก้ว (55 บาท)

Anchan Drinks

สำหรับเครื่องดื่ม ทางร้านก็ยังคงคอนเซ็ปต์ความเป็นอัญชันเช่นเดิม โดยการนำดอกอัญชันมาใช้เป็นส่วนผสมหลักของเครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อัญชันกาแล็คซี่ (85 บาท) น้ำอัญชันที่ทางร้านต้มเองแบบวันต่อวัน ผสมกับน้ำมะนาว แล้วเพิ่มความพิเศษด้วยการใส่กลิตเตอร์ (เกล็ดน้ำตาลกลูโคสที่ส่วนใหญ่นิยมโรยบนหน้าเค้ก) ลงไปด้วย ทำให้น้ำมีสีสวยและมีประกายวิบวับเหมือนกับกาแล็คซี่ อัญชันลาเต้ (80 บาท) น้ำอัญชันใส่นมสด รสหวานน้อย ชาเย็นอัญชัน (80 บาท) ชาเย็นผสมน้ำอัญชัน รสกลมกล่อม หวานมันกำลังดี และ โอเลี้ยงอัญชัน (75 บาท) โอเลี้ยงรสเข้ม ที่นำมาผสมกับน้ำอัญชันจนได้รสชาติที่แปลกใหม่ ทุกแก้วนอกจากจะมีสีสันสวยงามแล้ว ดื่มเย็น ๆ ดับกระหายได้เป็นอย่างดีทีเดียว

 

อัญชันลาเต้ (80 บาท), โอเลี้ยงอัญชัน (75 บาท), อัญชันกาแล็คซี่ (85 บาท), ชาเย็นอัญชัน (80 บาท)

Info
Hours
-
Price

฿฿฿ 301-500 บาทต่อคน

Address
24 ซอยวิภาวดี 18 (บริเวณปากซอย อยู่ติดกับถนนใหญ่ ก่อนถึงซอยโชคชัยร่วมมิตร) ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
Map
Facilities
Suggest an Edit