บ้านขนมปังขิง

Published on February 04, 2019

Welcome to Ginger Bread House

หากใครที่ได้ผ่านมาแถวเสาชิงช้า อย่าลืมแวะทานขนมอร่อย ๆ กันที่ บ้านขนมปังขิง บ้านไม้เก่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2456 ในซอยหลังโบสถ์พราหมณ์ พร้อมสัมผัสกับเสน่ห์บนลวดลายและวัสดุที่หาชมยากสไตล์ Ginger Bread House จนคราวหลังถูกเรียกว่าเป็นเรือนไทย สไตล์ฝรั่ง และได้บูรณะจากบ้านไม้เก่าสู่ร้านกาแฟกึ่งพิพิธภัณฑ์ที่มีอายุกว่าร้อยปี

 

ความเก่าของตัวบ้านที่คงไว้ตั้งแต่ประตูทางเข้า

Traditional Thai & European Style

บ้านขนมปังขิงหลังนี้มีอายุประมาณ 106 ปี เริ่มจาก อำแดงหน่าย (สกุลเดิม คือ สกุลพราหมณ์) ซึ่งเป็นภรรยาของ รองอำมาตย์โท “ขุนประเสริฐทะเบียน (ขัน)” ได้ซื้อที่ดินเปล่าขนาด 47 ตารางวา จากหลวงบุรีพิทักษ์ หลังจากนั้น ขุนประเสริฐทะเบียนก็ได้เป็นผู้สร้างเรือนขนมปังขิง และเป็นผู้ออกแบบสัญลักษณ์ประจำตัว และแกะสลักลายไม้วงกลมเขียนว่า ”ขัน” เหนือช่องลมประตูและหน้าต่างของตัวบ้าน

 

ที่นั่งริมหน้าต่างบนชั้น 2 ที่ยกฝ้าเพดานขึ้นเพื่อให้อากาศปลอดโปร่ง

 

มุมคลาสสิกที่เหมาะแก่การถ่ายรูป

บ้านขนมปังขิง สืบทอดความเป็นเจ้าของเรื่อยมาจนถึงลูกหลาน ผ่านการบูรณะซ่อมแซมรุ่นสู่รุ่น ก่อนจะมาเป็นของ คุณธนัชพร คุณารัตนอังกูร (ลูกสาวท่านผู้หญิงเพ็ชรา เตชะกัมพุช ลูกสาวของขุนประเสริฐทะเบียน) จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการรีโนเวทบ้านครั้งใหญ่เพื่อรักษาสภาพของบ้านเอาไว้ให้มากที่สุด ตั้งแต่เนื้อไม้ บานประตูหน้าต่าง บานพับ และบานกระทุ้ง ล้วนแต่เป็นของเดิมตั้งแต่อดีตทั้งหมด รวมถึงผนัง ช่องลม ลายฉลุ ก็ไม่มีการเคลือบสีและขัดสีใด ๆ เพียงแต่ยกฝ้าเพดานให้สูงขึ้น เพื่อให้บรรยากาศปลอดโปร่ง นอกจากนี้ อีกความตั้งใจหนึ่งของเจ้าของบ้านคือ ต้องการเปิดโอกาสให้ผู้ที่ชื่นชอบบ้านไทยที่มีอายุมากกว่าร้อยปีได้เข้ามาชมความงามทั้งภายนอกและภายในของบ้านขนมปังขิง เรือนไทยสไตล์ฝรั่งแห่งนี้

เอกลักษณ์ของบ้านขนมปังขิง คือลวดลายฉลุที่สวยงามละเอียดอ่อนบนตัวบ้าน มีความคล้ายคลึงกับ “ขนมปังขิง” หรือคุกกี้ที่ชาวยุโรปนิยมทานในเทศกาลคริสต์มาส และได้รับอิทธิพลมาจากชาวตะวันตกในช่วงรัชกาลที่ 4 นิยมสร้างในหมู่คหบดี ขุนนาง และชนชั้นกลาง ซึ่งหาชมได้ยากในปัจจุบัน เพราะนอกจากวังหรือที่พักอาศัยของชนชั้นสูงแล้ว สถาปัตยกรรมแบบนี้มักจะถูกขายหรือรื้อทิ้งไปตามกาลเวลา

 

ลวดลายฉลุ คือเอกลักษณ์ของบ้านขนมปังขิง

Sweets & Drinks

เมนูของทางร้านเสิร์ฟทั้งขนมไทย ขนมเค้ก และเครื่องดื่มเติมความสดชื่น ใครที่มากันเป็นกลุ่มทางร้านแนะนำ ชุดบัวทอง (599 บาท) ประกอบไปด้วยขนมไทย 8 ชิ้น ไอศกรีม เค้ก 2 ชิ้น และชาร้อน 1 กา หรือจะสั่งเป็นเซ็ต ไอศกรีมใบเตย + บัวลอย (120 บาท) เสิร์ฟมาพร้อมน้ำกะทิอบควันเทียนให้ราดก่อนทาน

 

ชุดบัวทอง (599 บาท)

ใครที่ชอบลอดช่อง ไม่ควรพลาดเมนู ไอศกรีมกะทิ + ลอดช่อง (120 บาท) เสิร์ฟกับน้ำตาลมะพร้าว ทานแล้วหอม ชื่นใจ

 

ไอศกรีมกะทิ + ลอดช่อง (120 บาท)

ส่วนเครื่องดื่มมีหลากหลายเมนูสุดครีเอทให้เลือก เมนูซิกเนเจอร์ที่ทางร้านแนะนำ ได้แก่ Iced Signature Coffee (95 บาท) กาแฟเย็น พร้อมไซรัปกาแฟที่ก้นแก้ว หรือจะลองเป็น Iced Mint Macchiato (95 บาท) กาแฟมินต์มัคคิอาโต เพิ่มความเย็นและสดชื่นขึ้นไปอีกขั้น

 

Iced Signature Coffee (95 บาท)

 

Iced Mint Macchiato (95 บาท)

นอกจากนี้ยังมีเมนูอิตาเลียนโซดา เหมาะสำหรับคนที่ไม่ดื่มกาแฟ ลองสั่ง Mint Lime Soda (95 บาท) มินต์ มะนาว โซดา มีชั้นสีสวย ให้กลิ่นหอม ๆ ของผลไม้

 

Mint Lime Soda (95 บาท)

Info
Hours
Open : 11AM - 8PM
Thu : 11AM - 8PM
Fri : 11AM - 8PM
Sat : 11AM - 8PM
Sun : 11AM - 8PM
Mon : Closed
Tue : 11AM - 8PM
Wed : 11AM - 8PM
Price

฿฿ 101-300 บาทต่อคน
(Cash Only)

Address
47 ซอยหลังโบสถ์พราหมณ์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
Map
Suggest an Edit