Welcome to the 'Maison Dunand'
สำหรับใครที่ชื่นชอบการทานอาหารไฟน์ไดน์นิ่งสัญชาติฝรั่งเศสคงคุ้นเคยชื่อเชฟ Arnaud Dunand อดีตหัวหน้าเชฟร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ดาว 2 ดวง Le Normandie เป็นอย่างดี โดยหลังจากที่ได้ออกมาเปิดร้านป็อปอัพในย่านสุขุมวิทสักพักหนึ่ง ก็ได้เวลามาเปิดร้านของตัวเองอย่างจริงจังในชื่อว่า Maison Dunand & Alpea restaurant ซึ่งแบ่งออกเป็นโซนร้านอาหารไฟน์ไดน์นิ่งสัญชาติฝรั่งเศส Maison Dunand ที่เพิ่งคว้าดาวมิชลิน The MICHELIN Guide Thailand 2023 1 ดวง มาอย่างสด ๆ ร้อน ๆ การันตีได้ถึงความอร่อย และโซน Alpea restaurant ร้านอาหารสไตล์ Bistro และ Deli Shop ที่พร้อมเปิดรับลูกค้าให้วอล์กอินเข้ามาทานมื้อสบาย ๆ กันได้ตลอดวันHomey & Warm Mood
ด้านการตกแต่งของ Maison Dunand ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสกีรีสอร์ตท่ามกลางเทือกเขาแอลป์ ซึ่งเป็นหนึ่งในความทรงจำของสถานที่ ๆ ที่เชฟได้ใช้ชีวิตอยู่ในวัยเด็ก โดยชั้นล่างเน้นใช้โครงไม้และไฟสีส้ม เพิ่มมู้ดอบอุ่น มีโซน Open Kitchen เปิดให้เห็นบรรดาเชฟกำลังปรุงอาหารอย่างขะมักเขม้น ตกแต่งด้วยหมอนอิงลายทางสีขาวแดงเพิ่มความสะดุดตา จัดวางโต๊ะให้เหมาะกับมากันเป็นคู่
เมื่อเดินขึ้นมาด้านบน จะได้บรรยากาศที่ต่างจากด้านล่าง ตรงผนังตกแต่งด้วยพื้นผิวที่ถูกจำลองคล้ายเทือกเขาแอลป์ เน้นใช้เฟอร์นิเจอร์โทนสีอบอุ่นเพื่อเพิ่มมู้ดให้ดูหรูหรายิ่งขึ้น เหมาะสำหรับใครที่มากันหลายคน หรืออยากได้บรรยากาศที่ไพรเวทขึ้นมาหน่อย
Racines et Voyages
คอร์สอาหารของที่นี่นั้นครีเอตโดยได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวในความทรงจำวัยเด็กของเชฟที่ได้ใช้เวลา ณ แคว้นโปรดในประเทศฝรั่งเศสอย่าง Savoie แคว้นที่เต็มไปด้วยภูเขาสูง และแคว้น Brittany ที่ล้อมรอบด้วยทะเลสวย ๆ เชฟได้นำความทรงจำในช่วงเวลาเหล่านั้น ตลอดจนวัตถุดิบชั้นดีจากสองแคว้นนี้ ถ่ายทอดออกมาเป็นคอร์สเมนูในชื่อว่า 'Racines et Voyages' หรือที่แปลว่า จุดเริ่มต้นและการเดินทาง (ราคาเริ่มต้น 4,800++ บาท และ 6,900++ บาท สำหรับเพิ่มวัตถุดิบพิเศษ)
เริ่มต้นด้วย ขนมปังและเนยโฮมเมดหลากชนิด อย่าง Sourdough, Brioche, Seaweed Butter เป็นต้น ที่เชฟทำขึ้นเองและยังวางขายในโซน Deli Shop ของ Alpea restaurant อีกด้วย ก่อนจะเริ่มมื้ออย่างจริงจังด้วย Canape เรียกน้ำย่อย 3 เมนู เริ่มจาก Eel แครกเกอร์จากฝรั่งเศส ท็อปด้วย Smoked Eel และ Calamansi Gel รสเปรี้ยวสดชื่น , Quail Egg คาเนเป้ไข่นกระทา ท็อปด้วย Apple Sphere และ Mushrooms คาเนเป้เห็ดรวม ท็อปด้วย Truffle Foam
ตามด้วย Wild Trout, Lovage, Cream เนื้อปลาเทราท์รมควัน ทานคู่กับครีมรสออกเค็มเล็กน้อย เพิ่มกลิ่นหอมด้วย Lovage สมุนไพรชนิดหนึ่งคล้าย Celery เป็นจานที่มีรสเบา ๆ ทานแล้วไม่หนักจนเกินไป เพิ่มรสสัมผัสด้วยแป้งพองอบกรอบ
มาถึงเมนูซิกเนเจอร์ของเชฟอย่าง Caviar Kristal, Uni, Potato มูสครีมมันฝรั่งบดเนื้อเนียน ด้านล่างเป็น Uni ก่อนจะท็อปด้วยไข่ปลาคาเวียร์พรีเมียม เพิ่มความครีมมีด้วย Champage Sauce เสริมให้รสนุ่มนวลละมุนเข้ากันกับรสชาติของวัตถุดิบชั้นเลิศแห่งท้องทะเล สมเป็นจานซิกเนเจอร์ของเชฟ
จานต่อมาที่ใช้วัตถุดิบจากแคว้น Brittany กับ Brittany Langoustine, Roots, Citrus กุ้งลังกู้สตีนหรือกุ้งสแกมปี้ มีเนื้อหวานขาวใส เป็นที่นิยมในยุโรป เชฟนำมาคลุกเคล้ากับข้าวพอง ก่อนนำไปทอดจนกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อมผักเคียงและซอสรสกลมกล่อม
อีกหนึ่งจานปลา Wild Caught Monkfish, Beans, Yellow Wine สเต๊กปลามังค์ฟิชที่นำไป Pan Fried จนได้เนื้อนุ่มสุกกำลังดี ความมันของเนื้อปลาเข้ากับซอสครีมรสกลมกล่อมที่มีส่วนผสมของไวน์ ทานคู่กับถั่วหลากชนิด
มาถึงจานหลักที่มีให้เลือกระหว่าง Mountain Pig, Utah Beach Oyster, Seaweed สเต๊กเนื้อหมูภูเขาชิ้นพอดีคำ สุกกำลังดี ท็อปด้วยหอยนางรม ราดด้วยซอสสาหร่าย ทานคู่กับเห็ดหูหนูดำ
หรือจะเป็น Bresse Pigeon, Celtuce, Black Olive เนื้อนกกระทาอบให้สุกพอดี ยัดไส้มะกอกดำและแองโชวี ทานคู่กับ Celtuce ราดด้วยซอสทำจาก Pigeon Jus และ Smoked Whisky
ก่อนจะไปต่อกันที่คอร์สขนมหวาน ทางร้านขอเอาใจคนรักชีสแบบจัดเต็มด้วยรถเข็นชีส Alp's Cheeses ที่นำชีสคัดสรรพิเศษหลากหลายชนิดจากทั้งในประเทศและต่างประเทศมาให้เลือกลองทาน เสิร์ฟคู่กับขนมปังและแยมผลไม้ ใครที่ชอบชีสต้องถูกใจ! เพราะมีทั้ง Soft Cheese, Hard Cheese, Blue Cheese, Goat Cheese และ Crisp Cheese ใครชอบรสชาติแบบไหน สามารถสอบถามพนักงานได้เลย
มาถึงคอร์สสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดกับขนมหวาน Blueberry, Cassis, Nougat ไอศกรีม Nougat เนื้อเนียน ทานคู่กับซอส Blueberry และ Cassis
ปิดท้ายจริง ๆ แบบเต็มอิ่มด้วย Petit Four เบเกอรีโฮมเมดอย่าง Lemon Tart ทาร์ตเลมอนรสเปรี้ยวอมหวาน ท็อปด้วยเมอแรงก์, Madeleine เนื้อนุ่ม ๆ หวานฉ่ำ และ Pink Praline แป้งทาร์ตกรอบไส้เนื้อครีมรสหวาน เหมาะกับทานคู่กับชาร้อน ๆ ปิดท้ายมื้อนี้อย่างสมบูรณ์
Must Read!
- จองล่วงหน้าเท่านั้น