Published on April 28, 2021

Garden Cafe in Bangkhuntien

ท่ามกลางความร่มรื่นของสวนลิ้นจี่อายุนับร้อยปีริมคลองบางขุนเทียน ได้กลายเป็นที่ตั้งของคาเฟ่ไม้ไผ่สวยเก๋อย่าง Natura Cafe ที่พร้อมให้คุณมาผ่อนคลาย เอกเขนกไปกับบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ด้วยเดิมทีพื้นที่แห่งนี้เป็นสวนมรดกจากบรรพบุรุษที่สืบทอดมาจนสู่ทายาทรุ่นที่สอง ผู้เป็นเจ้าของจึงอยากรักษาพื้นที่ธรรมชาติแห่งนี้ไว้ให้มากที่สุด รวมถึงอยากส่งต่อความร่มรื่นให้คนเมืองได้ลองมาสัมผัสบรรยากาศเช่นนี้กัน จึงเกิดเป็นคาเฟ่บรรยากาศสบาย ๆ ให้คุณหลบหนีความวุ่นวายมาพักผ่อนกายใจไปกับธรรมชาติได้แบบง่าย ๆ แม้จะอยู่ในเมืองกรุง

 

ความร่มรื่นของสวนลิ้นจี่อายุนับร้อยปี ริมคลองบางขุนเทียน

 

Natura Cafe คาเฟ่บรรยากาศสบาย ๆ ให้คุณหลบหนีความวุ่นวายมาพักผ่อนกายใจไปกับธรรมชาติ

Bamboo Architecture

บรรยากาศของทางร้านชวนให้ผ่อนคลายและกลมกลืนไปกับธรรมชาติด้วยการตกแต่งที่เลือกใช้วัสดุ ‘ไม้ไผ่’ เกือบทั้งหมด สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาชาวบ้านแบบดั้งเดิม อีกทั้งยังมีความแข็งแรง ทนทาน และมีความสวยงามอย่างเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหน สอดรับไปกับบรรยากาศริมคลองบางขุนเทียนได้เป็นอย่างดี โดยมี 2 โซนหลักให้เลือกนั่งชิลล์ได้ตามความชอบ คือ โซนคาเฟ่ ศาลาริมน้ำที่ตั้งอยู่ติดริมคลองบางขุนเทียน ที่คุณจะได้สูดอากาศสดชื่นและดื่มด่ำไปกับวิวคลองได้อย่างเต็มตา ส่วนใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวทางร้านยังมี โซนร้านอาหาร มาพร้อมบรรยากาศเงียบสงบและร่มรื่นของแมกไม้สีเขียว ที่คุณสามารถใช้ช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ได้อย่างเต็มอิ่มตลอดวัน

 

โซนคาเฟ่สุดเก๋

 

ศาลาริมน้ำที่ตั้งอยู่ติดริมคลองบางขุนเทียน

 

บรรยากาศเงียบสงบและร่มรื่นของแมกไม้สีเขียว

 

มุมที่นั่งสุดผ่อนคลายของโซนร้านอาหาร

Local Cuisine and Creative Drinks

นอกจากบรรยากาศที่ชวนดึงดูดใจให้กับใครหลายคนแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือการเน้นย้ำถึงวัฒนธรรมการกินของชาวบางขุนเทียน ด้วยวิธีการแบบภูมิปัญญาชาวสวน ซึ่งก็คือการปลูกวัตถุดิบเพื่อนำมาประกอบอาหาร เพราะฉะนั้นเมนูอาหารของที่นี่จึงโดดเด่นด้วยส่วนผสมของวัตถุดิบที่ปลูกเองภายในสวน เก็บสด ๆ นำมารังสรรค์เป็นหลากหลายเมนูให้ลิ้มลอง

เริ่มกันที่เมนูแรกอย่าง ยำผักกูด (150 บาท) ที่ทางร้านใช้ผักกูดที่ปลูกเองจากสวน นำมาคลุกเคล้าด้วยน้ำยำสูตรเฉพาะของทางร้าน ให้รสชาติจัดจ้านแต่ทว่ากลมกล่อม ทานคู่กับหมูย่าง ช่วยเสริมความอร่อยได้อย่างลงตัว

 

ยำผักกูด (150 บาท)

อีกหนึ่งเมนูไฮไลต์ที่แนะนำว่าต้องลอง คือ มัสมั่น (240 บาท) แกงกะทิรสเข้มข้นหอมมันสูตรคุณแม่ โดดเด่นด้วยพริกแกงที่ทำสดใหม่ทุกวัน เคี่ยวเข้ากับกะทิสดจนได้รสเข้มข้นกลมกล่อม มีทั้งหมูและไก่ สามารถเลือกทานได้ตามความชอบ

 

มัสมั่น (240 บาท)

ตามด้วยเมนูขนมหวาน Signature ของทางร้านอย่าง Talingping Cheese (140 บาท) ที่หลายคนอาจจะมองข้ามความอร่อยของตะลิงปิงไป ทางร้านจึงนำมาเป็นไฮไลต์ด้วยการนำตะลิงปิงไปหมักกับมิริน จนได้กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และเลือกใช้ครีมชีสจากอเมริกา ผสมผสานกันออกมาเป็นรสเปรี้ยวอมหวานแบบพอดี ทานคู่กับ Talingping Sparkling (100 บาท) เครื่องดื่มที่ทางร้านใช้ตะลิงปิงสดนำไปแช่อิ่ม ก่อนจะผสานความซ่าสดชื่นด้วยโซดา เสิร์ฟมาพร้อมตะลิงปิงแช่อิ่มเนื้อนุ่มให้เคี้ยวแบบเพลิน ๆ

 

Talingping Cheese (140 บาท) และ Talingping Sparkling (100 บาท)

ส่วนใครที่อยากสัมผัสความนุ่มละมุน ต้องลอง Red Velvet Cake (130 บาท) โดดเด่นด้วยรสชาติเข้มข้นของส่วนผสมโกโก้ Warm Brown ผสานเข้ากับครีมรสนุ่มละมุน แล้วท็อปด้วยบลูเบอร์รีปิดท้าย ให้รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม ไม่หวานจนเกินไป แนะนำให้ทานคู่กับ Lychee Americano (130 บาท) เมนูที่ครีเอตมาเพื่อต้องการสื่อถึงความเป็นสวนลิ้นจี่ มีส่วนผสมของอเมริกาโนรสเข้มข้นจากเมล็ดกาแฟไทย Single Origin ผสมผสานความหอมหวานด้วยน้ำลิ้นจี่ ที่ดื่มแล้วได้ความสดชื่นไปเต็ม ๆ

 

Red Velvet Cake (130 บาท) และ Lychee Americano (130 บาท)

Info
Hours
Everyday : 10AM - 6PM
Price

฿฿ 101-300 บาทต่อคน
(Cash Only)

Address
ถนนพระราม 2 ซอย 28 แยก 18 (จอมทอง 19) เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร
Map
Mass Transit

BTS วุฒากาศ

Facilities
Suggest an Edit