Published on October 21, 2016

The Taste of Punjab

ใครที่ชอบอาหารอินเดีย ต้องแวะไปที่ภัตตาคารอินเดียหรู Punjab Grill (ปัญจาบ กริลล์) ที่ได้มาเปิดเป็นสาขาที่ 3 ในกรุงเทพฯ หลังจากประสบความสำเร็จจากร้านที่อาบูดาบีและสิงคโปร์มาแล้ว โดยได้รับรางวัล ‘Best North Indian Restaurant in South Mumbai’ จาก Time Food Awards ในปี 2014
 

เหมาะสำหรับการมาทานดินเนอร์มื้อพิเศษ

 

บรรยากาศหรูหราสไตล์โรงแรม

 

Punjab Grill

Hotel Dining Atmosphere

ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิทซอย 13 บริเวณล็อบบี้ของโรงแรม Radisson Suites Bangkok Sukhumvit เมื่อเข้ามาจะพบกับเตาทันดูร์ขนาดใหญ่ และสามารถมองเห็นเชฟทำอาหารผ่านครัวที่มีลักษณะเป็นกระจกใส ใครอยากทานอาหารพร้อมดูเชฟโชว์ฝีมืออาจจะเลือกที่นั่งบริเวณนี้ หรือจะเลือกนั่งมุมอื่น ๆ ในบรรยากาศหรูหราสไตล์โรงแรมก็เหมาะสำหรับการมาทานดินเนอร์มื้อพิเศษ สำหรับใครที่มาเป็นกลุ่มลองเลือกนั่งที่โต๊ะใหญ่บริเวณพื้นที่ยกระดับ รวมทั้งยังมีที่นั่งบริเวณบาร์สำหรับใครที่อยากลองเครื่องดื่มสไตล์อินเดียอีกด้วย
 

Experienced Indian Chef

อาหารที่ปัญจาบ กริลล์ กรุงเทพฯ สร้างสรรค์โดย เชฟบารัธ ชรินดาร์ บัต ที่เคยร่วมงานกับโรงแรมและรีสอร์ท ระดับ 5 ดาวมาแล้วมากมาย อาทิ โรงแรม Grosvenor House ที่ดูไบ โรงแรมอาร์มานี โรงแรมเดอะ เซนต์รีจิส โรงแรมเลอ เมอริเดียน และอลิลา รีสอร์ท เป็นต้น เชฟบารัธ มีบทบาทสำคัญนอกจากดูแลในการคัดเลือกวัตถุดิบและเครื่องเทศที่มีคุณภาพแล้ว ยังต้องควบคุมคุณภาพและรสชาติอาหารแต่ละจานที่อยู่ในรายการอาหารให้เป็นไปตามมาตรฐานของแบรนด์ปัญจาบ กริลล์
 

เชฟ บารัธ ชรินดาร์ บัต

Let's Begin!

ทางร้านจะเริ่มต้นด้วยการเสิร์ฟแป้งโรตีกรอบ ๆ มาให้ทานเล่นกันก่อน นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีข้าวและขนมปังหลายชนิดให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น Garlic Naan, Butter Naan, Plain Naan หรือ Ulta Tawa Parantha และยังมี Biryanis หรือข้าวหมก ที่ทำอย่างพิถีพิถันด้วยการหมกกับสมุนไพรที่นำเข้ามาจากอินเดียโดยเฉพาะ
 

ขนมปังที่มีให้เลือกทั้ง Kulchas Parantha และ Naan

The Crown Jewel of North Indian

เริ่มต้นกันด้วยเมนูซุปแนะนำของทางร้าน Crab And Lentil Shorba (190 บาท) ซุปใสที่มีเนื้อปูปรุงรสในสไตล์อินเดีย ได้กลิ่นของเครื่องเทศถั่ว Lentils เมนูนี้มีรสชาติไม่จัดมากและทานง่าย ที่นี่ยังเด่นด้วยจานย่างอย่าง Chaamp Taajdar (900 บาท)ใช้ Lamp Chop จากนิวซีแลนด์ที่เชฟนำไปปรุงรสแล้วทำการ Char-grilled ในเตาดินเหนียว เสิร์ฟมาคู่กับผักย่างต่าง ๆ และ Saffron Chutney ซอสเครื่องเคียงสไตล์อินเดีย
 

Crab And Lentil Shorba (190 บาท)

 

Ajwaini Jheenga Tikka, Malai Chicken Tikka และ Champ Taajdar

สำหรับอาหารในภูมิภาคนี้ มีเอกลักษณ์ที่เด่นชัดเห็นได้จากขั้นตอนการเตรียมอาหารที่พิถีพิถัน ตั้งแต่การหั่นเนื้อหรือผักให้มีชิ้นขนาดใหญ่ หมักด้วยเครื่องเทศ และทำให้สุกอย่างช้าๆ ในเตาทันดูร์โดยใช้อุณหภูมิสูง การใช้เครื่องเทศในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อรักษารสชาติและไม่ให้กลบรสชาติของส่วนผสมหลัก เครื่องเทศหลักที่ใช้ในการปรุงอาหาร ได้แก่ พริกเหลืองผง ใบลูกซัด พริกแดงของ Kashmiri ผงเครื่องเทศรวม กระวาน ผงดอกจันทน์เทศ ยี่หร่าและเม็ดอัจวาน ลองเมนูไฮไลท์ Raan-E-Sikandari (1500 บาท) ขาลูกแกะที่นำไปตุ๋นไปเวลานานจนได้เนื้อนุ่ม ๆ ได้กลิ่นหอมของเครื่องเทศ Cinnamon และ Cardamon ที่เชฟนำมาใช้ปรุงอย่างดีก่อนจะนำมาย่างในหม้อจนมีรสชาติเข้มข้น พร้อมได้รสเปรี้ยวนิด ๆ จากโยเกิร์ต สำหรับเมนคอร์สลองสั่งเมนูคลาสสิกของอาหารอินเดียอย่าง Butter Chicken (425 บาท) ไก่หั่นเป็นชิ้นขนาดกำลังดีนำไปตุ๋นในซอสที่ทำจากเนยกับมะเขือเทศสูตรพิเศษของเชฟ รสชาติหอม ๆ มัน ๆ พร้อมกับกลิ่นเครื่องเทศสไตล์อินเดีย หรือ Dal Makhani (320 บาท) แกงที่ใช้ถั่ว Black lentils นำไปต้มเป็นเวลานานในซอสมะเขือเทศและได้ความหอมมันจากครีมและเนย

 

Butter Chicken, Raan Sikandari, Dal Makhani, Chicken Dum Biryani

Contemporary Twist Desserts

นอกจากอาหารแล้วที่นี่ยังมีของหวานที่น่าทาน ทางร้านแนะนำ Paneer Jalebi (220 บาท) ชีสทอดกรอบ ๆ ที่เชฟนำไปชุบในน้ำเชื่อมกลิ่น Saffron ที่เป็นอีกเอกลักษณ์ของวัตถุดิบอินเดีย มาในรูปแบบแท่งจับทานง่ายเสิร์ฟคู่กับ Rabri ซอสนมข้นหวานสไตล์อินเดียที่มีรสชาติหวานมันพร้อมด้วยกลิ่นเครื่องเทศอ่อน ๆ ถ้าใครชอบช็อคโกแล็ตแนะนำให้สั่ง Chocolate Sphere (295 บาท) ช็อคโกแล็ตลูกกลม ๆ ที่มีการเสิร์ฟน่าตื่นเต้นเพราะเมื่อละลายแล้วจะพบกับ Kulfi แล้วราดด้วยซอสช็อคโกแล็ตกลิ่น Cardamon
 

Paneer Jalebi (220 บาท)

 

Chocolate Sphere (295 บาท)

Indian Style Cocktails

สำหรับใครที่อยากลองค็อกเทลในสไตล์อินเดีย แนะนำแก้วสีสวย Gulabi Mojito (295 บาท) ที่มีเบสเป็น White Rum ได้สีแดและความหอมหวานจาก Rose Syrup พร้อมกลิ่นมิ้นท์อ่อน ๆ เพิ่มความสดชื่นด้วยรสเปรี้ยวซ่าด้วยน้ำมะนาวและโซดา หรือแก้วที่มีความแปลกใหม่อย่าง Nikki Te Teekhi (295 บาท) แก้วนี้เป็นว้อดก้าที่ได้รสเผ็ดจากพริก และมีกลิ่นของใบกะเพรา ก็เป็นอีกแก้วซิกเนเจอร์แปลกใหม่ที่น่าลอง
 

Chocolate Sphere (295 บาท)

 

Nikki Te Teekhi (295 บาท)

Info
Hours
Everyday : 6PM - 11:30PM
Price

฿฿฿฿ 501-1,000 บาทต่อคน

Address
ชั้น G โรงแรม Radisson Suites Bangkok Sukhumvit 23/2-3 ซ.สุขุมวิท 3 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
Map
Mass Transit

BTS นานา

Facilities
Suggest an Edit