Published on October 07, 2019

Authentic Dining Experience in a Relaxing Atmosphere

ชวนไปสัมผัสประสบการณ์การทานอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารสไตล์ฝรั่งเศสสุดคลาสสิกหรืออาหารไทยจานโปรด ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ ใจกลางกรุงที่ The Brasserie หนึ่งในห้องอาหารสุดหรูของโรงแรม Waldorf Astoria Bangkok แบรนด์ระดับเวิลด์คลาสจากเครือฮิลตัน ที่พร้อมมอบช่วงเวลาแห่งความสุขให้คุณได้ดื่มด่ำไปกับหลากหลายเมนูอาหารสุดพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากฝรั่งเศส โดดเด่นด้วยการเลือกใช้ส่วนผสมจากท้องถิ่นพร้อมเทคนิคอันแสนคลาสสิกที่รังสรรค์ออกมาเป็นเมนูอาหารสุดพิเศษ อีกทั้งยังมีเมนูอาหารไทยจานเด่นให้คุณได้เลือกรับประทานได้อย่างเพลิดเพลินตลอดวัน

 

มุมโต๊ะส่วนตัวริมกระจกที่สามารถชมวิวได้อย่างเพลิดเพลิน

Timeless Design with Magnificent Views in Ratchadamri

ห้องอาหาร The Brasserie พร้อมเปิดต้อนรับทุกคนด้วยบรรยากาศผ่อนคลาย โดยห้องอาหารได้ถูกออกแบบตกแต่งอย่างงดงามและมีเอกลักษณ์ โดย มร. อังเดร ฟู สถาปนิกชื่อดังชาวฮ่องกง ที่นำแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากความทรงจำในครั้งที่ได้เดินทางไปเยือน Waldorf Astoria New York เมื่อครั้งเยาว์วัย คือบริเวณทางเดินที่ประดับตกแต่งด้วยหินอ่อนทรงโค้งภายในห้องอาหาร สัมผัสแรกเมื่อเดินเข้ามาภายในห้องอาหารแห่งนี้จะรู้สึกถึงความลักชัวรีที่มีกลิ่นอายของความเป็น Art Deco ซ่อนอยู่ อันเต็มไปด้วยโลหะสีทองเหลืองที่สอดแทรกรายละเอียดของศิลปะไว้ได้อย่างลงตัว ที่เชื่อว่าจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้มาเยือน โดยบริเวณนี้เป็นบริเวณหน้าเคาน์เตอร์บาร์ที่แขกผู้มาเยือนสามารถสั่งเครื่องดื่มแก้วโปรด นั่งดื่มอย่างผ่อนคลายก่อนมื้อรับประทานอาหารมื้ออร่อย

 

ทางเดินภายในห้องอาหารที่มีหลังคาเป็นทรงโค้ง

 

การตกแต่งโดดเด่นด้วยโลหะสีทองเหลืองที่สอดแทรกรายละเอียดของศิลปะไว้ได้อย่างลงตัว

ภายในบริเวณห้องอาหารที่มีพื้นที่คล้ายรูปทรงเกือกม้าถูกออกแบบตกแต่งด้วยโทนสีเขียว น้ำตาล พร้อมกระจกบานใหญ่รับแสงธรรมชาติโดยรอบ ให้ความรู้สึกสะดวกสบาย เพิ่มความผ่อนคลายด้วยวิวทิวทัศน์ที่มีให้เลือกทั้งวิวเมือง หรือชมวิวสีเขียวสบายตาจากราชกรีฑาสโมสรที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียง โดยโซนที่นั่งถูกจัดอยู่บริเวณพร้อมครัวแบบเปิดที่มีดีไซน์ทันสมัยที่มีถึง 3 ครัวด้วยกัน ได้แก่ ครัวอาหารตะวันตก ครัวอาหารเอเชีย และครัวขนมอบและเบเกอรี ให้แขกที่นั่งรับประทานอาหารได้เพลิดเพลินไปกับการชมเชฟครีเอทอาหารแต่ละจานได้อย่างใกล้ชิด

 

ครัวแบบเปิด ทำให้เพลิดเพลินไปกับการมองดูเชฟครีเอทเมนูอาหารได้อย่างใกล้ชิด

 

มุมเคาน์เตอร์บาร์ พร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนูเครื่องดื่มท่ามกลางวิวสวย

Taste of The Brasserie

สำหรับเมนูอาหารจากทาง The Brasserie จะเน้นเสิร์ฟอาหารและขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสเป็นส่วนใหญ่ โดยนอกเหนือจากนี้ยังมีเมนูอาหารไทยให้เลือกอิ่มอร่อยไปพร้อม ๆ กัน อาหารแต่ละจานผ่านการรังสรรค์ออกมาอย่างพิถีพิถันพร้อมทั้งใส่ใจในทุกรายละเอียดโดยทีมเชฟที่มีประสบการณ์ สร้างความประทับใจที่ดีที่สุดให้กับผู้ที่มาเยือน

สำหรับเมนูขึ้นชื่อของห้องอาหาร แนะนำ Grand Plateau (2,600 บาท) ที่จัดเต็มมาด้วยบรรดาอาหารซีฟู้ดระดับพรีเมียมพร้อมให้สัมผัสความอร่อยกันแบบสดใหม่ อาทิ กุ้งล็อบสเตอร์ ก้ามปูอลาสก้าเนื้อแน่น หอยเชลล์ฮอกไกโด หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยนางรมสด ปลาหมึก และแซลมอนทาร์ทาร์ ที่เสิร์ฟมาพร้อมซอส 3 รสชาติ ได้แก่ ซอสครีมกุ้งล็อบสเตอร์ ซอสไวน์แดง และซอสซีฟู้ด ที่ช่วยเสริมรสชาติความอร่อยได้เป็นอย่างดี

 

เชฟบรรจงจัดอาหารซีฟู้ด เพื่อพร้อมให้บริการ

 

Grand Plateau (2,600 บาท)

ตามมาด้วยอีกหนึ่งเมนูขึ้นชื่อของทางฝรั่งเศสอย่าง Seared Foie Gras Brioche (800 บาท) ฟัวกราส์ย่างที่เสิร์ฟมาพร้อมกับขนมปังแบบกรุบกรอบ ทานคู่กับแอปเปิ้ลและลูกฟิกย่าง พร้อมตัดรสเลี่ยนด้วยซอสน้ำส้มสายชูที่ทำจากองุ่นอย่าง Balsamic Reduction ให้รสชาติกลมกล่อม หอมมัน พร้อมรสสัมผัสของฟัวกราส์แบบนุ่มละมุน

 

Seared Foie Gras Brioche (800 บาท)

ต่อกันที่เมนู Pan-Seared Hokkaido Scallops (800 บาท) หอยเชลล์ฮอกไกโดที่ส่งตรงมาจากญี่ปุ่นโดยเฉพาะ คลุกเคล้ารสชาติกลมกล่อมด้วยซอสครีมข้าวโพดและไส้กรอก Chorizo โดยจะสัมผัสได้ถึงความนุ่มละมุนของหอยเชลล์แบบเต็มคำพร้อมกับกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของการย่าง ที่ผสมผสานรสชาติความหอมหวานจากครีมข้าวโพดที่เข้ากันได้อย่างพอดิบพอดี

 

Pan-Seared Hokkaido Scallops (800 บาท)

เอาใจคนรักสุขภาพด้วยเมนู Roasted Beetroot (350 บาท) บีทรูทย่างที่สอดไส้ด้วยชีส Herbed Ricotta พร้อมเสริมรสชาติความอร่อยด้วยถั่ววอลนัทและซอสส้ม จากนั้นท็อปด้วยแผ่นบีทรูทอบกรอบปิดท้าย โดยให้เนื้อสัมผัสของบีทรูทแบบกรอบนอกนุ่มใน ที่ผสมผสานรสชาติแบบหวานฉ่ำไปพร้อมกับความหอมมันจากชีสและถั่ววอลนัท

 

Roasted Beetroot (350 บาท)

Thai Dishes and Local Ingredients

จากนั้นเปลี่ยนบรรยากาศไปเพลิดเพลินกันที่ครัวฝั่งเอเชียกับหลากหลายเมนูอาหารไทย พลาดไม่ได้กับ Phad Thai Goong (510 บาท) ผัดไทยกุ้ง อาหารจานเด่นของประเทศไทย โดยมีความพิเศษอยู่ที่เส้นแบบเหนียวนุ่มกำลังดีที่ผัดปรุงรสมาแบบกลมกล่อม พร้อมเสริมความอร่อยด้วยกุ้งย่างแบบเนื้อแน่น ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับถั่วลิสงและถั่วงอกเป็นเครื่องเคียง ให้รสชาติเข้มข้นพร้อมกับกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

 

Phad Thai Goong (510 บาท)

อีกหนึ่งเมนูพิเศษที่แสนประทับใจ ต้องลอง Chu Chee Goong (780 บาท) ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ ที่มีสูตรการทำแบบต้นตำรับอาหารไทยดั้งเดิม อันโดดเด่นด้วยกุ้งแม่น้ำที่นำมาย่างจนสุกได้ที่ แล้วราดด้วยน้ำซอสแบบขลุกขลิกรสชาติเข้มข้น โดยจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมของพริกแกงแบบเต็มคำ พร้อมทั้งผสมผสานความเหนียวนุ่มของเนื้อกุ้งที่เข้ากันได้อย่างลงตัว

 

Chu Chee Goong (780 บาท)

ปิดท้ายมื้อสุดพิเศษด้วยเมนู Pla Kapong Neung Manao (650 บาท) ปลากะพงนึ่งมะนาว ที่โดดเด่นด้วยรสชาติความอร่อยแบบจัดจ้านตามแบบฉบับของอาหารไทย อันเต็มไปด้วยส่วนผสมจากปลากะพงเนื้อฉ่ำแบบนุ่มละมุน ราดด้วยน้ำปรุงรสสูตรเข้มข้น ที่เติมเต็มรสชาติจัดจ้านด้วยมะนาว กระเทียม และพริก โดยให้รสชาติเปรี้ยวและเผ็ดนิด ๆ พร้อมแฝงกลิ่นหอมของส่วนผสมจากผักสมุนไพรได้แบบชัดเจน

 

Pla Kapong Neung Manao (650 บาท)

Info
Hours
Everyday : 6:30AM - 11AM
12PM - 10PM
Price

฿฿฿฿฿฿ มากกว่า 2,000 บาทต่อคน

Address
Waldorf Astoria Bangkok ชั้น Upper Lobby เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
Map
Mass Transit

BTS ชิดลม

BTS ราชดำริ

Facilities
Suggest an Edit