Step Into a Friend’s Living Room at Timo, Sathorn
Timo คาเฟ่น้องใหม่ในย่านสาทร ที่ชวนคุณมาพักใจในบรรยากาศสบาย ๆ แสนอบอุ่น ราวกับนั่งอยู่ในบ้านหลังเล็กของเพื่อนคนสนิท พร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนู All Day Breakfast ให้คุณได้ลิ้มลองตลอดวัน
A Homely Escape Inspired by the Heart of Thyme
Timo มาจากคำว่า Thyme ในภาษาอิตาเลียน ซึ่งเป็นสมุนไพรที่นิยมปลูกไว้ในบ้าน สะท้อนถึงความเรียบง่าย อบอุ่น และใส่ใจในรายละเอียด ซึ่งกลายมาเป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบภายในร้าน บรรยากาศภายในตกแต่งด้วยโทนสีขาวสะอาดตา ตัดกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน เสริมด้วยซุ้มประตูและหน้าต่างบานโค้งที่เป็นเอกลักษณ์ เพิ่มความละมุนด้วยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์โทนขาว ดำ และไม้ ที่ช่วยเติมบรรยากาศให้อบอุ่นอย่างเป็นธรรมชาติ ก่อนจะตกแต่งด้วยภาพวาดและเครื่องปั้นดินเผาชิ้นโปรดของเจ้าของร้าน ทั้งหมดนี้ทำให้ Timo กลายเป็นคาเฟ่ที่เหมาะกับการแวะมานั่งพักใจ จิบกาแฟเบา ๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่ชวนให้รู้สึกเหมือนอยู่บ้านของใครสักคนที่เราสนิทใจ
Comfort on a Plate
สำหรับเมนูของทางร้าน เน้นเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดีตามฤดูกาล พร้อมพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการปรุง ด้วยความตั้งใจที่จะเสิร์ฟจานอร่อยในสไตล์ Comfort Food ที่ทั้งอบอุ่นและน่าประทับใจ เริ่มต้นกันที่เมนู Grilled Norwegian Salmon (580 บาท) แซลมอนชิ้นโตจากนอร์เวย์ย่างจนได้เนื้อที่นุ่มฉ่ำและหนังกรอบ เสิร์ฟเคียงมากับอโวคาโดกัวคาโมเล่เนื้อเนียน มิกซ์สลัดสดกรอบที่คลุกเคล้ากับน้ำสลัดสไตล์เกาหลีรสเปรี้ยว หวาน เค็มอย่างกลมกล่อม ก่อนจะปิดท้ายด้วยรสชาติเข้มข้นลึกซึ้งของซอสโกชูจังไวน์แดงสูตรพิเศษ ที่ช่วยยกระดับทุกองค์ประกอบให้ลงตัวอย่างมีมิติ
ต่อกันด้วย Honey Glazed Thick Cut Bacon (420 บาท) เมนูเบคอนชิ้นหนาเคลือบน้ำผึ้งสูตรพิเศษ ย่างจนได้กลิ่นหอมและเนื้อสัมผัสที่กรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟบนไข่คนเนื้อเนียนนุ่มละมุน วางคู่กับขนมปังซาวโดว์ย่างหอมกรุ่น เพิ่มความสดชื่นด้วยสลัดผักเคียง เหมาะจะเป็นจานเริ่มต้นของวันดี ๆ หรือมื้อบ่ายที่ต้องการความสบายใจแบบง่าย ๆ นั่นเอง
ส่วนใครเป็นสายเนื้อ ลองสั่ง Wagyu Short Rib Brioche Roll (450 บาท) วากิวชอร์ตริบตุ๋นจนเปื่อยนุ่มแบบละลายในปาก เคล้ากับเกรวี่โฮมเมดที่กลมกล่อม หอมกลิ่นเครื่องเทศนิด ๆ แล้วบรรจงเสิร์ฟในขนมปังบริยอชย่างบนกระทะจนได้ผิวกรอบนอกนุ่มใน ทุกคำคือความเข้มข้นที่ลงตัว เหมาะสำหรับคนที่มองหาเมนูที่ทั้งอิ่มและอร่อยแบบพรีเมียมในจานเดียว
มีอาหารจานโปรดกันแล้ว ทางร้านยังมีเมนูเครื่องดื่มหลากหลายรูปแบบให้ได้สั่งคู่กัน ทั้ง Coffee, Non- Coffee และ Clod Pressed ทางร้านแนะนำให้ลอง Cold Pressed Mangosteen (180 บาท) น้ำมังคุดสกัดเย็น 100% ที่อัดแน่นด้วยความหวานธรรมชาติและกลิ่นหอมเฉพาะตัวของราชินีผลไม้อย่างมังคุด ดื่มแล้วให้ความรู้สึกสดชื่นเบาสบาย ช่วยรีเฟรชร่างกายและผิวพรรณได้อย่างดีเยี่ยม
หรือใครที่เป็นสายกาแฟ ลองเป็น Iced Pistachio Latte (160 บาท) ลาเต้เย็นแก้วนี้ผสานความหอมละมุนของกาแฟเอสเปรสโซ่กับนมสดเย็นเจี๊ยบ เพิ่มความพิเศษด้วยไซรัปถั่วพิสตาชิโอที่ให้กลิ่นหอมอ่อน ๆ และรสชาติถั่วนวล ๆ กลมกล่อม ดื่มแล้วได้ทั้งความสดชื่นและความหรูหราเบา ๆ ในแก้วเดียว เหมาะสำหรับคนที่ชอบลาเต้แต่กำลังมองหาความแปลกใหม่ที่ไม่หวานจนเกินไป และยังคงกลิ่นกาแฟชัดเจน ลองสั่งคู่กับขนมอบเบา ๆ สักชิ้น รับรองว่าฟินทั้งบ่ายแน่นอน
นอกจากนี้ทางร้านยังมีของหวานน่าลองอย่าง Panna Cotta with Red Bean (195 บาท) พันนาคอตต้าโฮมเมดเนื้อเนียนนุ่ม เสิร์ฟมาพร้อมกันกับถั่วแดงญี่ปุ่น คินาโกะครัมเบิ้ล ก่อนจะท็อปด้วยไอศกรีมมัทฉะรสเข้ม
หรือจะลองเป็น Homemade Tiramisu (175 บาท) ของหวานสุดคลาสสิกที่หลายคนหลงรัก กับทีรามิสุโฮมเมดสูตรเฉพาะของร้านที่รังสรรค์อย่างพิถีพิถันในทุกชั้นสัมผัส เริ่มจากเลเยอร์ของเลดี้ฟิงเกอร์ชุ่มฉ่ำด้วยเอสเปรสโซ่เข้มข้น ผสานกับมาสคาโปนชีสเนื้อเนียนละมุน และปิดท้ายด้วยผงโกโก้โรยหน้าเพิ่มความขมเบา ๆ ให้สมดุลกับความหวานอย่างลงตัว ให้รสสัมผัสนุ่มละลายในปาก เหมาะกับการจับคู่กับกาแฟหรือชาร้อนสักแก้ว เป็นของหวานที่ทำให้มื้ออาหารจบลงได้อย่างสมบูรณ์แบบ








