Published on April 23, 2018

Boutique Hotel in Old Town

จะมีสักกี่ที่ในกรุงเทพฯ ที่หลอมรวมความเป็นไทย มอบความอบอุ่น ความเงียบสงบ และความสบายกาย-ใจจากการพักผ่อนได้ในแห่งเดียว หากใครกำลังมองหาที่พักในอุดมคติแบบนี้อยู่ละก็ บนถนนวิสุทธิ์กษัตริย์ซึ่งมุ่งหน้าขึ้นสะพานพระราม 8 รอยต่อระหว่างย่านเมืองเก่าและเมืองใหม่ ยังมีโรงแรมสไตล์บูทีคชื่อว่า Nanda Heritage Hotel ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีไม่น้อย ด้วยทำเลที่ตั้งติดย่านชุมชนเก่า อายุอานามกว่าร้อยปี  การคงวิถีชีวิตตามแบบเดิม รวมถึงมนต์เสน่ห์ของการออกแบบโรงแรมให้ได้บรรยากาศของบ้านเรือนไทยสมัยก่อนและความร่วมสมัยของงานสถาปัตยกรรมแบบใหม่อย่างไว้ได้เป็นอย่างดี

คำว่า ‘Nanda’ หรือ ‘นันดา’ มาจาก ‘เลขยานนท์’ นามสกุลของผู้เป็นเจ้าของ โดยนำคำว่านนท์มากร่อนเสียงใหม่ให้เข้ากับการอ่านออกเสียงตัวสะกดของพยัญชนะภาษาอังกฤษ จนกลายเป็นคำว่านันดานั่นเอง
 

สัมผัสกลิ่นอายของความเป็นไทยได้ตั้งแต่บริเวณทางเข้าโรงแรม

Historical Meets Contemporary

โรงแรมแห่งนี้ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมาจากบ้านเรือนไทยเก่าของ คุณสานนท์ เลขยานนท์ ผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งแต่เดิมนั้นเคยปลูกไว้แถบย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ หลังจากการรื้อถอนบ้านหลังนั้นไป จึงนำไม้เก่าจากบ้านหลังดังกล่าวมาใช้เป็นโครงสร้างหลัก พร้อมประดับตกแต่งโรงแรมแห่งนี้ไปในตัว

 

อีกหนึ่งมุมพักผ่อนเล็ก ๆ

คอนเซ็ปต์ของทางโรงแรมคือความต้องการที่จะทำให้ทุกการเข้าพักได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน แฝงด้วยกลิ่นอายของบ้านไม้หลังเก่า สอดแทรกความทรงจำเก่า ๆ ของตระกูล ‘เลขยานนท์’ เข้าไปด้วยในการรีโนเวทโรงแรมใหม่ทั้งหมด วัสดุไม้แต่ละชิ้น มีการวัดขนาดไม้ที่บ้านหลังเก่าเพื่อมาใช้เป็นต้นแบบ แล้วออกแบบโครงสร้างโดยใช้การผสมผสานระหว่างไม้กับเหล็ก เป็นการเชื่อมโยงโลกเก่ากับโลกใหม่เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้บริเวณด้านนอกมีลักษณะเป็นตัวอาคารปูนและเหล็กสีดำสไตล์โมเดิร์น แต่บริเวณด้านในโรงแรมกลับได้อีกหนึ่งบรรยากาศ ไม่ว่าจะเป็นความสงบร่มเย็นตามแบบบ้านเรือนไทยโบราณ ผสานเข้ากับความบ้าน ๆ ในแนวเดียวกันกับแบบบ้านของชุมชนละแวกนี้ 

 

บริเวณคอร์ดยาร์ทสุดร่มรื่น

หากลองสำรวจพื้นที่แต่ละโซน จะเห็นได้ว่าทางโรงแรมตกแต่งในแนวไทยประยุกต์ จะเห็นได้จากการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ ตู้ โต๊ะ เก้าอี้โบราณสไตล์วินเทจ การออกแบบโถงกลางหรือคอร์ทยาร์ดสุดร่มรื่นให้เป็นมุมพักผ่อน ระเบียงหรือชานบ้านที่เชื่อมต่อกันเป็นทางเดินรอบตึก ประตูหน้าต่างด้วยไม้ระแนงแบบบ้านสมัยก่อน ตลอดจนการจัดวางพร็อบตามมุมต่าง ๆ ด้วยสิ่งละอันพันละน้อยเพื่อไม่หลุดไปจากคอนเซ็ปต์ที่วางไว้ อาทิ โอ่งน้ำ ต้นกล้วย แผนที่โบราณแสดงสถานที่สำคัญในย่านพระนคร การนำภาพบ้านเก่าขาวดำที่บันทึกเหตุการณ์ในยุคสมัยก่อนมาประดับผนังล็อบบี้ของโรงแรม เป็นต้น จึงไม่แปลกนักที่โรงแรมแห่งนี้จะเคยได้รับรางวัล Boutique Design Hotel อันเป็นการการันตีความสวยงามและความคิดสร้างสรรค์ในด้านของการออกแบบอย่างแท้จริง


นอกจากนี้ในเรื่องของพื้นที่ใช้สอย ทางโรงแรมยังจัดวางมุมสระว่ายน้ำกลางแจ้งบริเวณชั้น 2 ให้ผู้เข้าพักได้พักผ่อนตามอัธยาศัย มีช่วงเวลาผ่อนคลายแบบเป็นส่วนตัวตลอดการเข้าพัก (ที่เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.) อีกด้วย

 

มุมสระว่ายน้ำ...โซนไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด

The Room Types

ห้องพักมีทั้งหมด 6 ประเภท พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ตกแต่งดีไซน์ เลือกใช้เครื่องนอนในลักษณะเดียวกัน ได้แก่ Superior Room (2,200 / 2,700 บาท) ห้องพักประเภทซูพีเรียร์ ความกว้างขนาด 25 ตารางเมตร สามารถเข้าพักได้ 2 คน โดยมีให้เลือกนอนทั้งแบบ Superior Double Room ที่เป็นเตียงเดี่ยว และ Superior Twin Room ที่เป็นเตียงคู่

 

การแมตช์โทนสีระหว่างเครื่องนอนและเฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง Superior Twin

 

ห้อง Superior Twin

Deluxe Room (2,700 / 3,000 บาท) ห้องพักประเภทดีลักซ์ ความกว้างขนาด 35 ตารางเมตร สามารถเข้าพักได้ 2-3 คน โดยมีให้เลือกพักทั้งในลักษณะ Deluxe Double Room ที่มากันเป็นคู่ และ Deluxe Family Room ที่มากันเป็นกลุ่มหรือครอบครัว (เตียงคู่แบบ Double Bed และเตียงเดี่ยวเสริมอีกหนึ่งเตียง) มาพร้อมโซฟา มุมมินิบาร์ภายในห้องอย่างเป็นสัดส่วน

 

ห้อง Deluxe Family

Super Deluxe Family (4,500 บาท) ห้องพักประเภทซูเปอร์ดีลักซ์ ความกว้างขนาด 35 ตารางเมตร สามารถเข้าพักได้ 3 คน มาพร้อม Connecting Room และมุมชมวิวเมืองย่านพระนคร

 

ห้อง Super Deluxe Family

Suite Room (5,000 บาท) ห้องพักประเภทสวีท ความกว้างขนาด 50 ตารางเมตร ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและกว้างที่สุด สามารถเข้าพักได้ 2 คน มาพร้อมห้องนั่งเล่น อ่างอาบน้ำ ภายใต้บรรยากาศสบาย ๆ สุดส่วนตัว (ทั้งนี้ราคาห้องพักทั้งหมดอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามโปรโมชั่น-ช่วงฤดูกาล)

 

ห้อง Suite

Have A Nice Meal

สิ่งที่ห้ามพลาดสำหรับการมาเยือน Nanda Heritage Hotel ก็คือการลิ้มรสความอร่อยหลากหลายเมนูที่ทางห้องอาหารประจำโรงแรมพร้อมเสิร์ฟให้บริการแก่ทั้งผู้เข้าพักและบุคคลทั่วไปแบบ All Day Dining สไตล์ฟิวชั่น ที่เลือกนำเสนอทั้งเมนูอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ (เวลา 07.00-10.00 น.) และอาหารจานเดียว สไตล์ไทยและสไตล์ยุโรป 

 

ห้องอาหารประจำของทางโรงแรม

เมนูแนะนำ จานแรกสำหรับคนรักอาหารไทยโดยเฉพาะกับ ผัดไทยกุ้ง (180 บาท) ที่ทางร้านเลือกเสิร์ฟเส้นจันท์มาแบบห่อไข่โสร่ง ชุ่มซอสสูตรเข้มข้นชนิดที่ไม่ต้องปรุงรสเพิ่มเติม พร้อมกุ้งสดตัวโต และเครื่องเคียงผักสด

 

ผัดไทยกุ้ง (180 บาท)

ส่วนจานที่ 2 ท้าชิงความอร่อยไม่แพ้กันกับเมนูยอดนิยมสไตล์ตะวันตกอย่าง สเต๊กแซลมอนซอสไวน์ขาว (280 บาท) สเต๊กแซลมอนเนื้อนุ่ม ราดซอสไวน์ขาวรสกลมกล่อม เสิร์ฟมาพร้อมกับมะเขือเทศ มันเทศ และผักโขมที่ทานแล้วได้รสชาติเข้ากันที่สุด

 

สเต๊กแซลมอนซอสไวน์ขาว (280 บาท)

และทั้งหมดนี้ก็คือประสบการณ์ดี ๆ ที่ทุกคนจะได้สัมผัสตลอดการเข้าพักที่ Nanda Heritage Hotel สถานที่พักภายใต้บรรยากาศสุดคลาสสิกและทันสมัยที่เชื่อมโลกยุคเก่าและยุคใหม่ได้อย่างลงตัว

Must Read!
  • การให้บริการด้านอื่น ๆ ของทางโรงแรม ได้แก่ จักรยานเช่าฟรี และตุ๊ก ๆ ที่รับ-ส่งฟรี 6 รอบต่อวัน (เส้นทางถนนข้าวสารและวัดพระแก้ว โดยผู้เข้าพักจะต้องทำการจองล่วงหน้าก่อนเท่านั้น)
Info
Hours

24 hr.

Price

฿฿฿฿฿฿ มากกว่า 2,000 บาทต่อคน

Address
632 ถนนวิสุทธิกษัตริย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
Map
Facilities
Suggest an Edit