The Hidden Kitchen
ในซอยสุขุมวิท 39 นอกจากจะมีร้านอาหารสไตล์ต่าง ๆ มากมายหลายร้านแล้วก็ยังเป็นที่ตั้งของร้าน Adhoc ร้านอาหารแบบไพรเวทไดนิ่งที่พร้อมเปิดรับเฉพาะแขกที่จองล่วงหน้าเท่านั้น โดยตัวร้านซ่อนตัวอยู่ในซอยเล็ก ๆ เมื่อเดินเข้ามาหลังประตูบานใหญ่สีดำก็จะพบกับห้องทานอาหารที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามพร้อมต้อนรับแขกคนพิเศษให้มาเปิดประสบการณ์สัมผัสกับคอร์สเมนูที่ออกแบบมาโดยเฉพาะดังชื่อร้าน Adhoc ที่มีความหมายว่า 'เฉพาะเจาะจง'
Private Dining Rooms for You
ด้วยคอนเซ็ปต์ร้านแบบไพรเวทไดนิ่ง โซนที่นั่งของร้านจึงแบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก ๆ สำหรับใครที่มาเป็นกลุ่มและอยากมองเห็นบรรยากาศในครัวพร้อมพูดคุยกับเชฟ สามารถเลือกนั่งโซนชั้นล่างที่เป็นโต๊ะไม้ยาว ล้อมรอบด้วยพื้นและผนังหินแกรนิตสีขาวและโคมไฟคริสตัลเพิ่มความหรูหรา หรือถ้าใครมาแบบคู่ ต้องการความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นก็สามารถนั่งได้ที่โซนด้านบน ซึ่งโซนด้านบนยังสามารถดัดแปลงเป็นพื้นที่สำหรับไพรเวทปาร์ตี้ได้อีกด้วย สำหรับการตกแต่งบริเวณชั้นบน ทางร้านเน้นใช้พื้นไม้สีเข้มและเฟอร์นิเจอร์สร้างลุคขรึม และตัดด้วยองค์ประกอบสีสันต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพรมผ้าทอลายสีสันสดใสที่นำมาแขวนบนผนังและโซฟาสีครีม เพื่อเพิ่มบรรยากาศให้ดูสดใสขึ้นThai Inspired Cuisine
จุดเด่นของ Adhoc คงหนีไม่พ้นรสชาติอาหารจัดจ้านสไตล์ไทยแท้โดยฝีมือของ เชฟแท็ป - ศุภสิทธิ์ ก๊กผล ที่เป็นทั้งเชฟใหญ่และพาร์เนอร์เจ้าของร้าน หลังจากจบการศึกษาจาก Le Cordon Bleu Dusit เชฟแท็ปก็ได้ไปอยู่ต่างประเทศ รวมถึงเคยเปิดร้านอาหารที่ประเทศออสเตรเลียอีกด้วย
สำหรับอาหารของที่นี่จะเป็นสไตล์ Thai Inspired Cuisine ผสมผสานกับเทคนิคสมัยใหม่ เลือกใช้วัตถุดิบชั้นดีจากทั้งในและต่างประเทศ
คอร์สเมนูของทางร้านจะมีการปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล
Let the Flavour Reminds You
คอนเซ็ปต์หลักของเมนูที่นี่ คือการนำเมนูอาหารที่หลายคนคุ้นเคยมาทวิสต์รูปแบบเล่าเรื่องราวใหม่ผ่านแต่ละองค์ประกอบในแต่ละเมนู แต่ยังคงไว้ซึ่งรสชาติจัดจ้านแบบไทย ๆ
เริ่มจาก Amuse Bouche คำแรกเป็นแผ่นข้าวเกรียบทำจากข้าวไรซ์เบอร์รีท็อปหน้าด้วยผงปลาเค็ม ตัดรสด้วยซอสมะนาว และอีกคำทำขึ้นคล้ายขนมเบื้องรสเค็ม แป้งบางกรอบสอดไส้ครีมที่ผ่านการหมักให้ได้รสออกเปรี้ยว ท็อปด้วยไข่ปลาแซลมอนและไส้มะพร้าวขูดที่เพิ่มรสชาติด้วยน้ำมันจากกุ้ง
ต่อด้วยเมนูของทานเล่นอย่าง Tuna ทูน่าทาร์ทาร์สไตล์ไทยที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเมนูลาบเมือง ทางเชฟเลือกใช้ Bluefin Tuna คลุกเคล้าเข้ากับเครื่องเทศจากภาคเหนือและสมุนไพรอื่น ๆ ทำให้ได้รสชาติเผ็ดร้อนจัดจ้านถึงใจ
ปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวาน Pumpkin ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากขนมฟักทองแกงบวด โดยเชฟนำฟักทองญี่ปุ่นทั้งลูกมานึ่งจนเนื้อนุ่ม คว้านเมล็ดออกและใส่เนื้อเค้กสปันจ์ ไอศกรีมจากกะทิ เพิ่มรสชาติด้วยลำไยและตะไคร้ เป็นจานขนมหวานที่ควรค่าแก่การลอง
Must Read!
- ใครที่อยากมาทานอาหารที่นี้ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป
- สามารถจอดรถที่ปั้มน้ำมันบางจากฝั่งตรงข้าม