Published on September 15, 2020

New Favorite Place for Beef Lover

CUT Raw & Grilled ร้านอาหาร Fine Dining น้องใหม่แห่งย่านอารีย์  ที่มีพื้นที่ร้านขนาดกะทัดรัดแต่เต็มไปด้วยคุณภาพ ตัวร้านตั้งอยู่ภายในโครงการ Jebi House โดดเด่นในเรื่องของการคัดสรรวัตถุดิบเกรดพรีเมียมจากทั่วโลก ก่อนจะนำเสนอด้วยเทคนิคการ Dry-Aged แบบเฉพาะตัว ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมวิธีทำอาหารที่ช่วยชูรสชาติของวัตถุดิบ พร้อมรังสรรค์ใหม่จนกลายเป็นเมนูเลิศรส การันตีด้วยกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มคนรักเนื้อและปลาดิบ ราวกับเป็นของขวัญตอบแทนการตั้งใจคัดสรรสิ่งดี ๆ มาให้เหล่านักชิมได้ลิ้มลอง

 

CUT Raw & Grilled

 

สัมผัสบรรยากาศสุดพิเศษภายในร้าน

ถึงแม้ว่าทางร้านจะเลือกนำเสนอในรูปแบบของ Fine Dining แต่ทางร้านก็พร้อมเติมเต็มความสุขและความสนุกไปพร้อม ๆ กัน เพื่อให้ทุกคนที่ก้าวเข้ามาภายในร้านไม่รู้สึกเกร็งจนเกินไป  ตัวร้านโดดเด่นด้วยโทนสีขาวสะอาดตา มาพร้อมกับกระจกใสบานใหญ่ไว้เปิดรับแสงจากธรรมชาติเพื่อเติมเต็มความอบอุ่นภายในร้าน เมื่อบวกกับการต้อนรับอันแสนอบอุ่นจากพนักงานด้วยแล้วยิ่งช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

ในส่วนของครัวเปิด เผยให้เห็นการปรุงอาหารของเชฟอย่างเป็นกันเอง ราวกับได้เข้ามานั่งอยู่ในครัวบ้านเพื่อน ตรงกับความต้องการของ คุณต้น-วิวัศ และคุณเจแปน - นภธร เติมกลิ่นจันทน์ ผู้เป็นเจ้าของร้าน ที่อยากให้ที่นี่เปรียบเสมือน Gathering เล็ก ๆ สำหรับชาวแก๊ง ครอบครัว และคู่รัก  โดยทั้งหมดนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบ้านแสนอบอุ่นที่ประเทศอังกฤษของคุณต้นนั่นเอง

 

บรรยากาศการตกแต่งร้านที่ดูสวยสะดุดตาและแฝงไว้ด้วยความอบอุ่น โดยตัวร้านจะตั้งอยู่ภายในโครงการ Jebi House

 

โซน Outdoor กับบรรยากาศสุดชิลล์ของทางร้าน

 

คุณต้น-วิวัศ เติมกลิ่นจันทน์ - เจ้าของร้าน CUT Raw & Grilled

Selected Premium Meat Products

เมื่อก้าวเข้ามาภายในร้านจะพบกับตู้ Dry-Aged เนื้อขนาดใหญ่ สำหรับเอาไว้เก็บเนื้อพรีเมียมและปลาดิบชิ้นส่วนสำคัญต่าง ๆ โดยระยะเวลาในการ Dry-Aged นั้นจะต่างกันออกไป และด้วยความที่ครอบครัวของคุณต้นทำธุรกิจส่งออกเนื้อไก่ปลอดสารรายแรกและรายเดียวของประเทศไทย จึงทำให้มีความคุ้นเคยกับฟาร์มสัตว์และผู้ผลิตจากทั้งในและต่างประเทศมากมาย สามารถคัดสรรวัตถุดิบพรีเมียมได้ตามมาตรฐานและความต้องการของลูกค้า ทั้งเนื้อวัว ปลาดิบ และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่สามารถให้คุณมาเอ็นจอยกับวัตถุดิบโปรดกันได้ในแห่งเดียว

 

ตู้ Dry-Aged เนื้อชั้นดีจากหลากหลายประเทศ

เริ่มต้นกันที่เมนูรองท้องอย่าง Caesar Salad (180 บาท) เมนูสลัดสุดคลาสสิกที่ไม่ธรรมดา โดยทางร้านเลือกใช้ผักสลัดสดที่ให้รสเค็มจากแองโชวีและชีสนำเข้าจากต่างประเทศ ผสานกับรสเปรี้ยวนิด ๆ ของน้ำมะนาวสดได้อย่างลงตัว

หรือใครที่อยากได้เมนูหนักท้องขึ้นมาหน่อย ต้องลองเป็น Scallop Ravioli (260 บาท) ราวิโอลีปั้นสด สอดไส้ชีสกับผักโขม ท็อปด้านบนด้วยหอยเชลล์ฮอกไกโดตัวใหญ่ที่นำไปเซียร์ให้ด้านนอกเกรียมเล็กน้อยและด้านในมีรสสัมผัสนุ่ม จานนี้เสิร์ฟคลุกเคล้ามากับซอสครีมฝรั่งเศสที่ขึ้นตัวซอสเห็ดหอม เครื่องเทศ และครีม ให้รสชาติแนวครีมมี่และหน้าตาอาหารน่าลิ้มลอง

 

Scallop Ravioli (260 บาท)

นอกจากนี้ ทางร้านยังมีเมนู Donburi หรือเมนูข้าวญี่ปุ่นหลากหลายหน้าพิเศษ ที่รังสรรค์ขึ้นจากความพิถีพิถันในการคัดสรรวัตถุดิบ ตลอดจนการหมักน้ำส้มข้าวเอง เพื่อให้ได้รสชาติตรงตามมาตรฐานความอร่อยของร้าน เป็นเมนูที่ไว้รองรับคนที่เข้ามาทานในช่วงพักกลางวัน

ส่วนใครที่เป็นสาย Beef Lover ลองสั่งเป็น Dry-Aged Australian Wagyu Steak and Foie Gras (550 บาท) ข้าวหน้าฟัวกราส์หรือตับห่าน ที่ให้รสกลมกล่อมกว่าตับเป็ด โดยเป็นตับห่านซึ่งได้จากห่านป่าที่เกิดการ Fatty Liver ตามธรรมชาติ ทานเข้ากันดีกับเนื้อวากิวสุดพรีเมียม เป็นหนึ่งในเมนูข้าวที่พิเศษมากขึ้นด้วยวัตถุดิบชั้นดี สามารถสั่งเป็นมื้อกลางวันแบบทานที่ร้านหรือแบบเดลิเวอรีก็อร่อยไม่แพ้กัน

แต่สำหรับใครที่ไม่ทานเนื้อ ทางร้านยังมี Grilled Gindara (Snowfish) Miso (380 บาท) ข้าวดงบุริหน้าปลาหิมะหรือปลาเนื้อขาวจากแหล่งน้ำลึกในประเทศชิลี ที่ทางร้านนำมาย่างไฟจนหอม เนื้อนุ่ม ได้ความฉ่ำและรสหวานของเนื้อปลาอย่างลงตัว 

 

Dry-Aged Australian Wagyu Steak and Foie Gras (550 บาท)

 

Grilled Gindara (Snowfish) Miso (380 บาท)

มาถึงเมนูใหม่ล่าสุดที่ต้องถูกปากถูกใจคนรักปลาดิบอย่างแน่นนอนกับ Mixed Sashimi (1,280 บาท) ซาซิมิรวมสำหรับ 2 ท่าน โดดเด่นด้วยกรรมวิธี Dry-Aged ที่ถูกนำมาใช้กับเนื้อปลา จนได้เนื้อปลาที่แห้ง และสามารถคงความสดได้นานโดยไม่ต้องเสิร์ฟพร้อมน้ำแข็ง ซึ่งวิธีการทำแบบนี้จะช่วยชูรสชาติของเนื้อปลาดิบให้อร่อยยิ่งขึ้น ภายในเซ็ตประกอบด้วยแซลมอน, ฮามาจิ, ฮอนมากุโระ, โอโทโร, ชูโทโร, อาคาเมะ และโฮตาเตะ

 

Mixed Sashimi (1,280 บาท)

มาถึงไฮไลต์เอาใจคนรักเนื้อกันบ้างอย่างจาน Lamb Rack (400 g. / 1,100 บาท) ซี่โครงแกะ Dry-Aged เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน โดดเด่นด้วยความนุ่มละมุนของเนื้อแกะที่ถูกหมักด้วยสมุนไพรและผ่านกรรมวิธีเฉพาะของทางร้าน ทำให้สามารถทานได้แบบไร้กลิ่นคาว เสิร์ฟคู่กับซอสสูตรพิเศษ หรือหากจะโรยเกลือหรือพริกไทยก็ช่วยเพิ่มรสสัมผัสของเนื้อได้ดีไม่แพ้กัน 

 

Lamb Rack (400 g. / 1,100 บาท)

จากนั้นไปฟินกับความนุ่มละมุนลิ้นของ Sirloin Japanese Wagyu A5 (200 - 400 g. / 1,700 - 3,400 บาท) เนื้อวากิวชั้นดีจากญี่ปุ่น มีส่วนไขมันแทรกบาง ๆ เมื่อนำมาย่างบนเตาถ่านจะได้ความนุ่มและความหอมเป็นพิเศษ แนะนำให้ทานคู่กับโชยุยูซุสูตรพิเศษของทางร้าน จะช่วยชูรสชาติของเนื้อได้มากยิ่งขึ้น

 

Sirloin Japanese Wagyu A5 (200 - 400 g. / 1,700 - 3,400 บาท)

ปิดท้ายกันที่ความยิ่งใหญ่ของ Tomahawk Dry-Aged Australian Wagyu (1,000 - 2,000 g. / 3,300 - 6,600 บาท) เนื้อวากิวออสเตรเลียส่วน Tomahawk ที่ทางร้านนำไปย่างกับเตาถ่านจนได้กลิ่นหอม ระดับความสุกแบบมีเดียมแรร์ ซึ่งเชฟตั้งใจตัดแต่งออกมาเสิร์ฟอย่างสวยงาม ได้รับความประทับใจทั้งเรื่องของรสชาติและหน้าตาอาหารเลยทีเดียว

 

Tomahawk

 

Tomahawk Dry-Aged Australian Wagyu (1,000 - 2,000 g. / 3,300 - 6,600 บาท)

Info
Hours
Everyday : 10AM - 8PM
Price

฿฿฿ 301-500 บาทต่อคน

Address
โครงการ Jebi House เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
Map
Mass Transit

BTS อารีย์

Facilities
Suggest an Edit