Fran’s branch in Sukhumvit 49
Fran’s Brunch & Green ร้านบรันช์พรีเมียมแห่งย่านสาทร ขยายความอร่อยสาขาใหม่ เอาใจชาวสุขุมวิทด้วยการเปิดให้บริการกลาสเฮ้าส์หลังใหญ่ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยสไตล์บรันช์ ครบครันทั้งเมนูซิกเนเจอร์ เบเกอรีโฮมเมด และกาแฟสโลว์บาร์ โดยยังคงคอนเซ็ปต์ร้านอาหารที่จัดเต็มด้วยสารพัดเมนูอาหารเช้าและเมนูบรันช์คุณภาพที่มีให้เลือกหลากหลาย ตามแนวอาหารนิยามของชื่อร้านที่ว่า ‘Brunch & Green’ คือเสิร์ฟความอร่อยด้วยวัตถุดิบที่ทำจากเนื้อสัตว์และผักสลัดควบคู่กันไป ผ่านการคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดจากแหล่งผลิตคุณภาพ ทั้งแบบนำเข้าและจากท้องถิ่นในไทย ให้ได้อิ่มอร่อยและเสริมความเฮลท์ตี้ไปพร้อม ๆ กัน
Dining in the cozy glasshouse
ด้วยดีไซน์คอนเซ็ปต์หลักของทางร้าน เน้นบรรยากาศของการทานข้าวบ้านเพื่อน สบาย ๆ เป็นกันเอง เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อร้าน ‘Fran’s’ ซึ่งเป็นการเล่นคำมาจาก Friend ที่แปลว่า ‘เพื่อน’
สำหรับสาขานี้ทางร้านยังคงความเป็นกลาสเฮ้าส์ แต่ขยับขยายพื้นที่นั่งชิลเอาต์และนั่งทานอาหารที่กว้างขึ้นกว่าเดิม เพิ่มเติมมุมแสงสวย โซนสวนให้ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ในบรรยากาศอบอุ่น โปร่งโล่งสบาย
ภายในร้านตกแต่งให้ได้กลิ่นอายสไตล์ยุโรปเช่นเดิม มีโซนครัวเปิดที่เผยให้เห็นเบื้องหลังการรังสรรค์ความอร่อยของทีมเชฟ และอีกหลากหลายมุมนั่งรับประทานอาหารที่มีให้เลือกสรรอย่างเป็นสัดส่วนด้วยฟีลแบบสบาย ๆ
Brunch / Bread / Brasseries
Fran’s สาขานี้มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ ‘Brunch / Bread / Brasseries’ ที่เสิร์ฟความอร่อยแบบจบครบทั้งเมนูอาหาร เบเกอรีโฮมเมด และกาแฟสโลว์บาร์ในแห่งเดียว ภายใต้บรรยากาศสวนสวยสุดร่มรื่น ซึ่งมีหลากหลายโซนนั่ง Indoor และ Outdoor (ที่เป็น Pet-Friendly) ให้เลือกสังสรรค์ระหว่างวันสบาย ๆ เหมือนได้มาแฮงเอาต์ เอ็นจอยมื้ออร่อยที่บ้านเพื่อนตามแบบฉบับ Fran’s
ความพิเศษของสาขาสุขุมวิท 49 อย่างที่เกริ่นมาแล้วว่า ไม่เพียงแต่หลากหลายเมนูบรันช์พรีเมียม ซิกเนเจอร์จานเด็ดประจำร้านที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยเท่านั้น เพราะที่นี่ยังเปิดโซนเคาน์เตอร์เบเกอรี จำหน่ายขนมปังซาวร์โดว์คุณภาพ (อาทิ Open-Faced Sandwich, Original Sourdough, English Muffin, Brioche และ Bagel) ที่อบแบบสดใหม่ทุกวัน ให้ได้เลือกสั่งมาลิ้มลอง
ตามด้วยโซนกาแฟสโลว์บาร์ที่เน้นเลือกใช้เมล็ดกาแฟ Seasonal Blend นำเข้าจากประเทศเอธิโอเปีย ให้คาแร็กเตอร์หรือ Taste Note ของ Rum Raisin ที่สามารถครีเอตเมนูเครื่องดื่มได้ทั้งกาแฟดำและกาแฟนม ให้กลิ่นหอม ความกลมกล่อมที่ลงตัวอย่างมีเสน่ห์ในแบบที่ไม่เหมือนใคร
ในส่วนของมื้อนี้เรียกน้ำย่อยกันด้วยจานสลัดสุดเฟรชอย่าง Burrata & Tomato (580 บาท) หนึ่งในเมนูสลัดจานโปรดสดชื่น ๆ ของใครหลายคน โดยเฉพาะสายเฮลท์ตี้ที่ต้องการเริ่มต้นมื้อสายด้วยความเฟรช โดยเมนูนี้ทางร้านได้เลือกใช้มะเขือเทศสดใหม่ นำมาดองใหม่แบบวันต่อวัน ราดด้วยน้ำสลัดบัลซามิกและน้ำมันมะกอกธรรมชาติ 100% ให้รสหวานอมเปรี้ยว ทานแล้วสดชื่น เป็นเมนูเปิดต่อมรับรสก่อนเอ็นจอยจานต่อไปได้ดี
ถัดมาที่การครีเอตเมนูพิเศษ Pizza Bread (160 บาท) ในหมวด ‘พิซซ่าโฮมเมด’ ซึ่งเป็น flatbread รังสรรค์จากแป้งซาวร์โดว์ เสิร์ฟคู่ความอร่อยมากับดิปชีสมาสคาร์โปเนโรยพาร์มาแฮม ให้ได้ลิ้มลองเฉพาะสาขานี้เท่านั้น !
เอาใจเหล่านักชิมที่ต้องการความอิ่มท้องเบา ๆ ด้วยเมนูทานเล่นอย่าง Fish & Chips (850 บาท) ความพิเศษของเมนูนี้อยู่ที่การเลือกใช้แซลมอนส่วนท้อง เพื่อให้ได้เท็กซ์เจอร์เนื้อปลาที่มีความกรอบนอกนุ่มใน (แต่หากใครที่ไม่ทานเนื้อปลาแซลมอน สามารถสั่งเป็นปลาค็อดแทนได้) เสิร์ฟคู่มากับ Sweet Potato Fries หรือเฟรนช์ฟรายส์โฮมเมดที่ทำมาจากมันหวาน ได้รสเค็ม ๆ หวาน ๆ และความหอมที่เข้ากันกับรสชาติของเนื้อปลาแซลมอนทอดอย่างลงตัว
ส่วนใครที่เป็นสายพาสต้า แนะนำให้ลองสั่ง Salmon Pesto (530 บาท) เมนูพาสต้าขายดีอันดับต้น ๆ ของร้าน Fran’s ที่เลือกใช้เส้นเฟตตูชินี ผัดคลุกเคล้าเข้ากับซอสเพสโต้สูตรเฉพาะ เสิร์ฟพร้อมเนื้อแซลมอนชิ้นใหญ่ที่ผ่านการซูวีก่อนจะนำไปเบิร์นด้านนอกอีกครั้งจนได้เนื้อสัมผัส Juicy ที่มีความนุ่มชุ่มฉ่ำกำลังดี
หรือจะเป็น Super AOP (Aglio Olio Peperoncino) (480 บาท) อีกหนึ่งเมนูพาสต้าที่มีเสิร์ฟเฉพาะสาขานี้เท่านั้น ! (โดยปกติที่ร้านจะเสิร์ฟความอร่อย 4 แบบ ได้แก่ AOP Lobster, AOP Sausage, AOP Bacon และ AOP Mushroom) แต่สำหรับสาขานี้เป็นการรังสรรค์ความอร่อยสูตรพิเศษโดยเชฟชาลี กาเดอร์ ที่เพิ่มดีกรีความเผ็ดร้อนแบบถึงเครื่อง ซึ่งมีการใส่กระเทียมและพริกแห้งมากกว่า AOP จานธรรมดา ผัดด้วยน้ำมันมะกอกธรรมชาติ 100% ผ่านการคัดสรรทุกวัตถุดิบมาเป็นอย่างดี สายเผ็ชคนไหนสั่งมาลองทานรับรองไม่ผิดหวังแน่นอน !
หลังจากอิ่มท้องกับเมนูบรันช์จานอร่อยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ห้ามพลาดสั่งหมวดของหวานมาทานกัน โดยเฉพาะเมนูเค้กที่ทางร้าน Fran’s ได้นำเอาความเป็นซิกเนเจอร์ของขนมเบเกอรีของแบรนด์ Iberry มาไว้ที่นี่ด้วย แนะนำเมนู Lemon Cake (160 บาท) เค้กเลมอนที่ทำแบบสดใหม่ ให้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุนเหมือนกับการทานชีสเค้ก ตามด้วยซอสเลมอนที่ทำสดใหม่เช่นเดียวกัน ท็อปด้วยแยมเลมอนหอม ๆ ที่ทำจากเลมอนสด ตักทานพร้อม ๆ กันในคำเดียวจะได้รสหวานอมเปรี้ยวที่เข้ากันแบบลงตัว
ปิดท้ายมื้อกันด้วยหมวดเครื่องดื่มกาแฟที่เน้นรังสรรค์ด้วยเมล็ดกาแฟ Seasonal Blend นำเข้าจากประเทศเอธิโอเปีย ความพิเศษคือเป็นเมล็ดกาแฟคั่วอ่อน ให้คาแร็กเตอร์หรือ Taste Note ของ Rum Raisin ซึ่งหากสั่งเมนู Iced Americano (125 บาท / Seasonal Blend เพิ่มอีก 30 บาท) จะให้รสชาติที่ไม่เปรี้ยวจนเกินไป แต่ให้กลิ่นหอมของผลไม้แนวฟรุ๊ตตี้ ส่วนในรูปแบบของกาแฟนมอย่าง Hot Caffe Latte (140 บาท) รสชาติของกาแฟลาเต้ที่ได้นั้น จะมีคาแร็กเตอร์หรือ Taste Note ที่มีความหอมละมุนเหมือนขนมคาราเมลบิสกิต เรียกว่าเป็นความกลมกล่อมลงตัวที่เติมเต็มมื้อสายของวันได้อย่างสมบูรณ์
Must Read!
- สามารถจอดรถที่ร้านได้ประมาณ 12 คัน ในกรณีที่จอดรถเต็มทางร้านพร้อมให้บริการ Valet Parking
- โซน Pet-Friendly ทางร้านสงวนสิทธิ์เปิดให้บริการเฉพาะโซนรับประทานอาหารด้านนอกร้าน (Outdoor) เท่านั้น !