Le Root (KU Avenue)

Published on June 19, 2018

Healthy Lifestyle Cafe For Clean Food and Organic Lovers

ท่ามกลางความเร่งรีบตามแบบวิถีคนเมือง คงจะดีไม่น้อยถ้าพอจะมีบางพื้นที่ให้เราได้ละเลียดความสุขช้า ๆ จากการทานอาหารอร่อย ๆ และดีต่อสุขภาพ ซึ่งสำหรับใครที่กำลังมองหาคาเฟ่หรือเมนูดี ๆ ให้ทานรองท้องในแต่ละมื้อระหว่างวันอยู่ละก็ Le Root คาเฟ่ออร์แกนิกน่ารัก ๆ ที่ตั้งอยู่ภายใน KU Avenue มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาพร้อมความอร่อยของหลากหลายเมนูสุดเฮลธ์ตี้แห่งนี้ อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว

 

ยินดีต้อนรับสู่ Le Root คลับของคนรักสุขภาพ

Organic-Clean-Healthy

สำหรับสายคลีนหรือสายสุขภาพอาจจะพอคุ้นหน้าคร่าตา Le Root กันมาบ้างกับการเป็นแบรนด์ขนมปังและอาหารออร์แกนิกสไตล์ Grab & Go ที่เปิดให้บริการสาขาแรกมาแล้วที่คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนจะขยายพื้นที่ความอร่อยมายังสาขา KU Avenue โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์ของการเป็นศูนย์รวมอาหาร เบเกอรี่ เครื่องดื่มต่าง ๆ ที่ทุกคนแวะมาฝากท้องได้ทุกมื้อ เป็นส่วนหนึ่งที่จะมาสร้างไลฟ์สไตล์คนเมืองใหม่ผ่านการเลือกทานอาหารคลีน อาหารแนวเฮลธ์ตี้ และอาหารออร์แกนิกที่ครีเอทหน้าตาน่าทาน มีรสชาติอาหารที่ทานได้ง่ายขึ้น โดยไม่เพียงแต่เสิร์ฟความอร่อยให้เฉพาะกลุ่มคนที่ทานคลีนเท่านั้น แต่ยังเชิญชวนให้ทุกคนหันมาดูแลตัวเอง เพื่อสุขภาพดีที่ยั่งยืน

 

มุมผลิตภัณฑ์เบเกอรี่และขนมปังประเภทต่าง ๆ

Le Root เป็นหนึ่งแบรนด์ในเครือของบริษัท เฮอริเทจ แล็ป แอนด์ ไลฟ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ที่ทำจากถั่วพรีเมียมและผลไม้อบแห้ง ซึ่งทางร้านได้มีการนำวัตถุดิบต่าง ๆ มาเป็นส่วนผสมหรือครีเอทเป็นเมนูเบเกอรี่ อาหารต่าง ๆ โดยมีที่มาที่ไปแบบตรงตัวว่าเป็นแบรนด์ที่มีรากฐานจากบริษัทแม่ที่มั่นคง ขณะเดียวกันทุกวัตถุดิบจากธรรมชาติที่เลือกใช้ถูกคัดสรรด้วยความใส่ใจตั้งแต่รากในดินจนถึงปลายทางที่เป็นสินค้าส่งถึงมือผู้บริโภค เหมือนเป็นการต่อยอดสิ่งที่มีอยู่ให้กลายเป็นสินค้าอาหารสุขภาพที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน


แนวคิดหลักของแบรนด์ คุณปุ้ม-กนิษฐา เหลืองอรุณเลิศ ผู้จัดการบริษัท เฮอริเทจ แล็ป แอนด์ ไลฟ์  เผยว่าจะเลือกนำเสนอเมนูอาหาร เบเกอรี่ และเครื่องดื่มที่ปราศจากการใช้สารปรุงแต่งหรือสารเคมีใด ๆ ทุกเมนูล้วนทานง่าย ด้วยรสหวานจากธรรมชาติแท้ ๆ 

 

Thai Tea Custard Bun หรือโฮลวีทคัสตาร์ดชาไทย

Comfy Space

บรรยากาศภายในร้านมาในมู้ดแอนด์โทนสีขาว-เขียวเย็น ๆ ดูสบายตา โดยสีขาวนั้นสื่อถึงความโมเดิร์น สนุกสนาน บริสุทธิ์ คลีน ปราศจากการปนเปื้อน ผสานเข้ากับสีเขียวที่สื่อถึงความเป็นธรรมชาติ นอกจากมุมเคาน์เตอร์และเชลฟ์ผลิตภัณฑ์เป็นหลักแล้วยังมีมุมให้ได้นั่งทานอาหาร จิบเครื่องดื่มสบาย ๆ ถ่ายภาพได้ ทั้งมุมเก้าอี้บาร์และโต๊ะนั่งแบบเป็นส่วนตัวสำหรับใครที่มากันเป็นกลุ่ม

 

บริเวณหน้าเคาน์เตอร์สำหรับสั่งอาหารและเครื่องดื่ม

Enjoy Your Healthy Meals

อาหารสุขภาพของ Le Root แตกต่างจากที่อื่น ๆ เพราะมีการแบ่งหมวดหมู่สินค้าอย่างชัดเจน ออกเป็น 6 ประเภทหลัก ๆ คือ All Organic สินค้าที่ผลิตจากวัตถุดิบออร์แกนิกแท้ 100% ผ่านการรับรองมาตรฐานจากองค์กรระดับนานาชาติ, Seriously Raw อาหารที่ผ่านความร้อนน้อย ไม่มีการอบเลย ใช้อุณหภูมิไม่เกิน 40-49 องศาเซลเซียสในกรรมวิธีการผลิต เพื่อคงคุณค่าของสารอาหารไว้อย่างครบถ้วน, Vegan Hardcore หมวดที่เหมาะสำหรับคนทานมังสวิรัติแบบจริงจัง ไม่ใช้วัตถุดิบจากสัตว์เลยแม้กระทั่งน้ำผึ้ง, Low Cal เบเกอรี่-อาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ เอาใจคนที่อยากลดน้ำหนักโดยเฉพาะ ซึ่ง Product ทุกตัวในหมวดนี้จะมีการกำกับตัวเลขแคลอรี่ไว้ให้ด้วย, Healthy หมวดอาหารที่ไม่มีส่วนผสมของนมหรือ Non-Dairy นั่นเอง ต่างจากประเภทมังสวิรัติตรงที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้งและไข่ หาทานได้มากที่สุดในร้าน และ Dairy & Meat เมนูต่าง ๆ ที่มีส่วนผสมของนมและเนื้อสัตว์ในปริมาณที่เหมาะสม สำหรับคนที่ชอบออกกำลังกาย ต้องการสร้างกล้ามเนื้อเป็นพิเศษ มาในรูปแบบของแซนด์วิชที่สอดไส้ด้วยเนื้อสัตว์หรือวัตถุดิบต่าง ๆ 

 

เชลฟ์ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทั้งน้ำแร่ แซนด์วิช น้ำพริก สลัดผัก และอื่น ๆ อีกมากมายที่ล้วนแล้วแต่เป็นสินค้าออร์แกนิกทั้งสิ้น

สินค้าทุกตัวภายในร้านมั่นใจได้เลยว่าไม่มีสารปรุงแต่ง ผ่านการแปรรูปน้อยที่สุดเพื่อคงคุณค่าสารอาหาร ไม่มีสารกันเสีย ไม่เติมแต่งอะไรที่ไม่ใช่ธรรมชาติลงไป ที่สำคัญคือปราศจากน้ำตาล ซึ่งทางร้านจะใช้ความหวานจากสารสกัดธรรมชาติอย่างอินทผาลัมมาทดแทน คอยคิดสูตรอาหารที่มีคุณภาพที่ให้รสอร่อยด้วย เพื่อให้ถูกปากคนไทยมากที่สุด รวมถึงความพิถีพิถันที่ผ่านการรับรองอาหารและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกจากกระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ (USDA Organic) ส่วนสินค้าหน้าร้านก็มั่นใจได้เลยว่าสดใหม่ทุกวัน ไม่มีการนำของเก่ากลับมาวางขายบนเชลฟ์แน่นอน 


เมนูแนะนำที่ไม่ควรพลาด รองท้องแบบเบา ๆ กันด้วย Superfood Ball (ชิ้นละ 35 บาท) ขนมทานเล่นระหว่างวันแต่ให้คุณประโยชน์ที่สูงมาก จัดอยู่ในประเภทของ Seriously Raw ได้โปรตีนและคาร์โบไฮเดรต ไขมันดี วิตามิน และแร่ธาตุครบถ้วน ภายในเซ็ตประกอบไปด้วย Ferrero Ball ขนมทรงกลมที่ทำมาจากถั่วฮาเซลนัท ด้านในมีส่วนผสมของน้ำผึ้ง ส่วนด้านนอกโรยด้วยอัลมอนด์และผงโกโก้แบบเน้น ๆ เหมือนได้ทานขนม Ferrero Rocher จริง ๆ แบบไม่ต้องรู้สึกผิด, Coconut Bliss Ball ที่มีส่วนผสมของอัลมอนด์ ได้ความหอมหวานของมะพร้าว และ Cranberry Cacao Ball ที่สอดไส้ด้วยแครนเบอร์รีอบแห้ง ให้รสเปรี้ยวอมหวานของแครนเบอร์รีเต็มคำ

 

Superfood Ball (ชิ้นละ 35 บาท)

หรือจะเป็นเบเกอรี่เมนูเค้กแสนอร่อยที่มีให้เลือกหลายรสชาติ อาทิ Banana Oatmeal & Caramel Frosting (89 บาท) เค้กกล้วยหอมข้าวโอ๊ตไร้แป้งราดคาราเมล ที่ใช้กล้วยหอมทั้งลูกและข้าวโอ๊ตมาเป็นส่วนผสมหลัก, Flourless Orange Cake (94 บาท) เค้กส้มไร้แป้ง ที่ทำมาจากอัลมอนด์บดผสมส้มทั้งลูก ทานแล้วได้วิตามินซีแบบเน้น ๆ แน่นอน และ Flourless Lemon Syrup Cake (94 บาท) เค้กเลมอนไร้แป้ง ที่ใช้เลมอนทั้งเนื้อและเปลือกผสมกับอัลมอนด์บด ให้รสเปรี้ยวอมหวานทานแล้วสดชื่นเช่นกัน

 

Banana Oatmeal & Caramel Frosting (89 บาท), Flourless Orange Cake (94 บาท) และ Flourless Lemon Syrup Cake (94 บาท)

ส่วนใครที่ชอบทานสลัด ต้องลองสั่ง Soul Bowl (95 บาท) สลัดหนึ่งถ้วยที่รวมคุณค่าทางอาหารของธัญพืชและผักออร์แกนิก ทั้งควินัว บีทรูท อะโวคาโด แครนเบอร์รี มะเขือเทศ ธัญพืช และอินทผาลัมไว้ในหนึ่งเดียว คลุกเคล้าด้วยน้ำสลัดงาคั่วน้ำมันมะกอกออร์แกนิกเห็ดทรัฟเฟิล และครีมจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์สูตรเด็ดของร้าน เรียกความสดชื่นได้เป็นอย่างดี

 

Soul Bowl (95 บาท)

ก่อนจะเพิ่มความอิ่มท้องให้มากขึ้นกับเมนูแซนด์วิช Chicken Pesto Macadamia (83 บาท) แซนด์วิชแมคคาเดเมียเพสโต้อกไก่ที่เลือกใช้ขนมปังไม่มีส่วนผสมของแป้งขัดขาว ทำมาจากข้าวโอ๊ต โฮลวีท และธัญพืชนานาชนิด ราดซอสเพสโต้ที่มีส่วนผสมของถั่วแมคคาเดเมียบด ให้รสชาติที่เข้มข้นยิ่งขึ้น ส่วนใครที่อยากทานปลาอาจสั่งเป็นเมนู Classic Smoked Salmon (83 บาท) แซนด์วิชสอดไส้แซลมอนรมควันและผักสลัดออร์แกนิกก็อร่อยไม่แพ้กัน

 

Chicken Pesto Macadamia (83 บาท)

Specialty Drinks

ในส่วนของเมนูเครื่องดื่ม มีให้เลือกดื่ม 2 ประเภทหลัก ๆ คือเมนูกาแฟและเมนูนมอัลมอนด์ ความพิเศษก็คือทุกเมนูที่ทางร้านเสิร์ฟ Le Root นับเป็นร้านแรกและร้านเดียวในประเทศไทย ณ ตอนนี้ที่เบสเครื่องดื่มนมที่ไม่มีส่วนผสมของนมวัวเลย สำหรับนมอัลมอนด์ทางร้านจะคั้นสดแบบเข้มข้น ไม่ผสมน้ำตาล จึงได้รสชาติของอัลมอนด์แท้ ๆ ส่วนกาแฟ ช็อตกาแฟที่ได้จาก Specialty Coffee มีให้เลือก 2 ชนิดของร้าน Le Root Blend และ Bolivia Organic โดย Le Root Blend จะเป็นการคั่วแบบปานกลาง มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของฮาเซลนัทกับพีนัทบัตเตอร์ ซึ่งแต่ละช็อตที่ได้จะมีความครีมมี่ เป็นพิเศษ ด้าน Bolivia Organic จะเป็นกาแฟออร์แกนิกนำเข้าจากโบลิเวีย หนึ่งในประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องแหล่งปลูกกาแฟที่ดีที่สุดของโลกเป็นการคั่วปานกลางให้กลิ่นและรสที่สะอาด หอมนุ่มละมุน เหมาะสำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟดำหรือเอสเพรสโซช็อต จะได้รสชาติของกาแฟอย่างเต็มที่ 

 

ช็อตกาแฟที่ได้จากการเบลนด์เมล็ดกาแฟ 2 รูปแบบ Le Root Blend และ Bolivia Organic

นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูอื่น ๆ อย่างชาสมุนไพรจากไร่ชาออร์แกนิกของบริษัทซึ่งอยู่ที่จังหวัดระนองมาจำหน่ายที่ร้านด้วย มีทั้งหมด 4 ชนิด ด้วยกัน ได้แก่ ใบเตย สะระแหน่ กระเจี๊ยบแดง และใบมะม่วงหิมพานต์ ทั้ง 4 ชนิดล้วนมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์และกรดฟีโนลิกที่สูง ช่วยป้องกันมะเร็งและคืนความอ่อนเยาว์ ตามมาด้วยเครื่องดื่มน้ำผักผลไม้สกัดเย็น (เริ่มต้นที่ราคา 95 บาท) และเครื่องดื่ม Refreshing ที่เบสด้วยน้ำแร่น้ำเข้าจากประเทศอิตาลีมาเป็นส่วนผสมของน้ำสมุนไพร-น้ำผลไม้ออร์แกนิกเพื่อสุขภาพที่ดีกว่า
 

ชาออร์แกนิก ใบมะม่วงหิมพานต์

 

โซนเครื่องดื่มผักผลไม้สกัดเย็นเพื่อสุขภาพ

เริ่มจากประเภทกาแฟ แนะนำให้ลองดื่ม Iced Matcha Espresso (150 บาท) มัทฉะเอสเพรสโซ่เย็น เมนูซิกเนเจอร์ที่แยกออกเป็น 3 เลเยอร์ มีส่วนผสมของมัทฉะแท้จากญี่ปุ่น นมอัลมอนด์ แล้วท็อปบนด้วยเอสเพรสโซช็อต ให้รสชาติกลมกล่อมหอมกลิ่นมัทฉะและกาแฟที่เข้ากันได้อย่างลงตัว หากใครไม่ดื่มกาแฟนม อาจจะสั่งเป็น Iced Black Specialty Coffee (140 บาท) กาแฟดำสูตรพิเศษที่เบลนด์รสชาติจากเมล็ด Bolivia Organic หอมเข้มได้รสกาแฟแท้ 

 

Iced Matcha Espresso (150 บาท) และ Iced Black Specialty Coffee (140 บาท)

ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มที่เรียกคืนความสดชื่นได้เป็นอย่างดีกับ Organic Sparkling Pomegranate (105 บาท) น้ำทับทิม (USDA Organic) Sparkling ที่ใช้น้ำแร่ตรา Mangiatorella จากประเทศอิตาลีมาเป็นส่วนผสมหลักแทนโซดาทั่วไป ให้ทั้งความซ่า ความสดชื่น ผสานกับความหอมและรสเปรี้ยวอมหวานของน้ำทับทิมออร์แกนิกแท้ 100%

 

Organic Sparkling Pomegranate (105 บาท)

Info
Hours
Open : 9:30AM - 8:30PM
Thu : 9:30AM - 8:30PM
Fri : 9:30AM - 8:30PM
Sat : 9:30AM - 8:30PM
Sun : 11:30AM - 8:30PM
Mon : 9:30AM - 8:30PM
Tue : 9:30AM - 8:30PM
Wed : 9:30AM - 8:30PM
Price

฿฿ 101-300 บาทต่อคน
(Cash Only)

Address
KU Avenue มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (ประตูทางเข้าที่ 3 ฝั่งถนนงามวงศ์วาน) 50 ซอยจักรพันธุ์ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
Map
Facilities
Suggest an Edit