Thai Flavors Tell Their Story
ใครเป็นแฟนเชฟแพม - พิชญา อุทารธรรม คงตั้งตารอคอยโปรเจ็กต์ใหม่ ๆ ที่เชฟจะหยิบจับวัตถุดิบไทยพร้อมเปลี่ยนความธรรมดากลับมาให้พิเศษของเชฟแพมกันอยู่แล้ว ครั้งนี้เชฟแพมมาพร้อมร้านใหม่อย่าง ‘ข้าวสารเสก’ ในย่านทรงวาด ที่เชฟแพมหยิบ “ข้าว” วัตถุดิบคู่ครัวไทย มาร่วมกับคำว่า “เสก” กลายเป็นชื่อร้านที่ทั้งเรียบง่ายและเปี่ยมความหมาย
The Charm of Yesterday
โดยแนวคิดของร้านเกิดจากการตั้งต้นด้วยวัตถุดิบพื้นฐานของครัวไทย 5 อย่าง ได้แก่ ข้าว น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ พริก และมะพร้าว ซึ่งแต่ละชนิดถูกคัดสรรอย่างพิถีพิถันเพื่อถ่ายทอดรสชาติไทยในแบบที่ทั้งเข้มข้นและร่วมสมัย ที่อยากให้คนกินรู้สึกถึงความคุ้นเคย ในบรรยากาศใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนั่นเองตัวร้านตั้งอยู่ในตึกเก่าอายุกว่า 60 ปี ที่ผ่านการรีโนเวตใหม่โดยยังคงกลิ่นอายความดิบของโครงสร้างเดิมไว้ครบถ้วน ภายในอบอวลไปด้วยความคลาสสิกของกาลเวลา ตกแต่งด้วยของสะสมแบบไทย ๆ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและความทรงจำ
พื้นที่ในร้านแบ่งออกเป็น 5 ชั้น ชั้นล่างเป็นโซนครัว ส่วนชั้น 2–5 เปิดเป็นพื้นที่นั่งรับประทานอาหาร โดยแต่ละชั้นมีกลิ่นอายและบรรยากาศต่างกันเล็กน้อยให้เลือกสัมผัส พร้อมวิวสวย ๆ ของย่านเมืองเก่าที่มองเห็นได้จากมุมต่าง ๆ ของร้าน
Crafted with Local Soul
มาถึงเรื่องอาหารกันบ้าง ที่ข้าวสารเสกมาพร้อมความตั้งใจทำอาหารไทยให้แตกต่างโดยไม่ต้องแปลก โดยเชฟแพมและเชฟเกรซเน้นรสมือแบบไทยแท้ คัดสรรพริกจากทั่วประเทศเพื่อปรุงรสตรงไปตรงมาแต่จัดจ้านถึงใจ จนกลายมาเป็นอาหารที่รสชาติมันคุ้นเคย เหมือนกินข้าวฝีมือแม่ แต่เสิร์ฟในบรรยากาศใหม่ที่มีศิลปะมากขึ้นนั่นเอง
มาเริ่มต้นกันที่เมนู ซุปมะเขือ บ้านเชฟแพม (120 บาท) ที่ถือเป็นถ้วยซุปที่พาเราย้อนกลับบ้าน เพราะเต็มไปด้วยความอบอุ่นด้วยกลิ่นมะเขือและน้ำแกงรสกลมกล่อมตามสูตรครอบครัว เสิร์ฟมาเป็นรูปแบบใหม่ให้สัมผัสทุกรสชาติได้ผ่านคำเดียว
ต่อมาที่เมนู ดอกหอมสะดุ้งเคยกากหมูกรอบ (195 บาท) เมนูเปิดที่ทั้งหอม เค็ม มัน ครบรส เคยแท้กลิ่นเข้มข้นจับคู่กับดอกหอมทอดกรอบ เคี้ยวเพลินแถมยังชวนให้เติมข้าวเพิ่ม
อีกเมนูที่ชูความเป็นอาหารของที่บ้านได้เป็รนอย่างดีคงต้องยกให้ ปลาดุกย่างตาลเผา ยำยอดกระถิน (290 บาท) จานที่แสดงรสชาติแบบไทยแท้ ทั้งกลิ่นไหม้หอมของตาลเผาและความขมปลายลิ้นของยอดกระถิน ผสานกันอย่างมีเสน่ห์
เพิ่มความเผ็ดร้อนขึ้นมาอีกนิดในจานของ ปลาจะระเม็ดย่างราดพริก (420 บาท) ที่ทางร้านเลือกใช้ปลาจะระเม็ดสดใหม่เนื้อหวาน ย่างจนหอมกรุ่น ก่อนจะราดด้วยซอสพริกตำสดรสเข้มแบบบ้าน ๆ แต่เสิร์ฟในจานที่เรียบหรู จนกลายเป็นความคุ้นเคยที่มีชั้นเชิง
ตัดรสความเผ็ดด้วยเมนูเอาใจเด็ก ๆ อย่าง หมูแดดเดียวอีสานต้มกะทิ (280 บาท) หมูแดดเดียวที่มาพร้อมมีกลิ่นหอมของกะทิและความเผ็ดมันกลมกล่อม ชวนให้คิดถึงรสมือแม่
ก่อนจะปิดท้ายด้วยเมนูของหวานอย่าง เมอแรงก์ พริกเกลือ สับปะรดย่าง ซอร์เบต์มะม่วงเปรี้ยว (230 บาท) ของหวานที่เล่นสนุกกับความเปรี้ยว หวาน และเผ็ดได้อย่างลงตัว เมอแรงกรอบเบา ๆ ตัดกับพริกเกลือและผลไม้รสสดชื่น เป็นการปิดท้ายมื้อนี้ได้อย่างครบรส น่าประทับใจ







