L’Oliva Ristorante Italiano & Wine Bar

Published on August 11, 2020

Traditional Italian Recipes

ชวนคุณมาลิ้มรสอาหารอิตาเลียนแท้ ฝีมือคุณยายในสไตล์ Aburzzo กันที่ร้าน L’Oliva Ristorante Italiano & Wine Bar ร้านอาหารอิตาเลียนที่ทาง คุณแนน และ คุณนีน่า เจ้าของร้านอาหารบัว ที่มีชื่อเสียงมายาวนานกว่า 30 ปี และคุณ Nicolino Pauquini ได้ร่วมกันนำเสน่ห์ของอาหารอิตาเลียนกลิ่นอายสไตล์ Abruzzo ในหลากหลายแง่มุม ทั้งบรรยากาศ เมนูอาหาร เครื่องดื่ม และไวน์ชั้นดีที่คัดสรรมาโดยเฉพาะ มานำเสนอให้คนไทยได้ลิ้มลองให้สมกับกิตติศัพท์ของเขตผลิตไวน์ชื่อดังซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากกรุงโรม

 

มุมสบาย ๆ ให้คุณได้นั่งชิลล์ พร้อมอิ่มอร่อยกับหลากหลายเมนูอาหารอิตาเลียน

 

บรรยากาศหน้าบาร์ของทางร้าน

The Touch of Abruzzo

ตัวร้านตั้งอยู่ในซอยนภาศัพท์ 2 โดยดัดแปลงมาจากบ้านหลังเก่า 2 ชั้นขนาดใหญ่ ที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้และหน้าต่างบานใหญ่ ได้ความโปร่งโล่งและบรรยากาศร่มรื่น ซึ่งทางร้านยังคงโครงสร้างเดิมเอาไว้ แล้วเพิ่มการตกแต่ง เสริมกิมมิกน่ารัก ๆ ด้วยงานศิลปะที่เน้นการใช้สีสันเรียบง่าย ดูสบายตา ให้กลิ่นอายของบ้านชนบทในประเทศอิตาลี มอบความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเองให้กับทุกคนที่แวะเวียนเข้ามา

 

ห้องทานอาหารขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับ Private Party หรือผู้ที่เข้ามาทานอาหารแบบหมู่คณะ

 

ไม่ว่าจะเลือกนั่งทานอาหารโซนไหน ทุกมุมของทางร้านก็มีวิวสวยงามให้ชมแบบเพลิน ๆ

ทางร้านมีพื้นที่รองรับไว้คอยให้บริการหลากหลายโซน ไม่ว่าจะเป็น โซนคาเฟ่ อย่าง Caffe Olive โซนทานอาหาร โซนห้องจัดเลี้ยงแบบ Private และ โซน Outdoor ที่สามารถจัดกิจกรรมหรือใช้เป็นที่นั่งทานอาหารรับลมเย็น ๆ ได้ในคราวเดียว อีกทั้งด้านหน้าร้านนั้นยังเพิ่มความโดดเด่นด้วยต้นมะกอกที่คุณ Nicolino หอบหิ้วมาประดับร้าน จนกลายเป็นที่มาของชื่อร้าน L’Oliva นั่นเอง  

 

บรรยากาศภายในร้าน

 

โซน Outdoor

The Original Taste from Abruzzo

เพราะ Abruzzo มีสภาพภูมิประเทศส่วนใหญ่ที่ติดกับภูเขาและชายทะเล ทำให้ชาวเมืองนี้ได้คิดค้นวิธีการถนอมอาหารและการปรุงอาหารเอาไว้มากมาย ประกอบกับคุณ Nicolino ได้เคยเข้าครัวกับคุณยายมาตั้งแต่เล็ก ๆ จึงอยากนำเสนอรสชาติ ความอร่อยอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของบ้านเกิดให้คนไทยได้รู้จักกับหลากหลายเมนูที่เรียบง่ายแต่คัดสรรและผ่านกรรมวิธีการทำ การปรุงอย่างใส่ใจในทุก ๆ จาน

เริ่มต้นที่ Polpo Grigriato E Crema Allo Zafferano (680 บาท) เมนูหนวดปลาหมึกยักษ์ย่างเนื้อหนึบหนับ คลุกเคล้ากับ Saffron Cream เสิร์ฟมากับมะเขือเทศเชอร์รี เห็ด และหน่อไม้ฝรั่งย่าง 

 

Polpo Grigriato E Crema Allo Zafferano (680 บาท)

หรือจะลองเป็นจานเพื่อสุขภาพสำหรับสายคลีนอย่าง Insalata Di Frutta Rucola E Burrata (450 บาท) สลัดผักสด กรอบ ที่คลุกเคล้ามากับผลไม้สุดเฟรช ถั่ว บูราต้าชีส ราดด้วยซอสบัลซามิกเกรดพรีเมียมจาก Modena 

 

Insalata Di Frutta Rucola E Burrata (450 บาท)

ถัดมาเป็นจานที่หนักท้องขึ้นมาสักหน่อยอย่าง Risotto Capesante E Tartufo (790 บาท) รีซอตโต้สไตล์อิตาเลียนผสมผสานกับ Porch Cream ท็อปด้านบนด้วยหอยเชลล์ตัวโตและเห็ดทรัฟเฟิล ได้รสชาติเข้มข้นแบบครีมมี่ ๆ

 

Risotto Capesante E Tartufo (790 บาท)

จากนั้นไปลิ้มรสความหวานของ Gamberi Rossi Ed Asparagi Bianchi (890 บาท) กุ้ง Carabineros ที่ย่างเสิร์ฟมากับหน่อไม้ฝรั่งย่าง ราดด้วยซอส Shellfish ให้รสกลมกล่อมเข้ากันดีกับเนื้อกุ้งแน่น ๆ 

 

Gamberi Rossi Ed Asparagi Bianchi (890 บาท)

มาถึงเมนูจานหลักอย่าง Crema Di Noci E Speck (450 บาท) พิซซ่าซิกเนเจอร์ แป้งบางกรอบอบในเตาถ่าน กลิ่นหอมกรุ่น ให้เนื้อสัมผัสแบบกรอบนอกนุ่มใน พร้อมท็อปบนมาด้วยชีสชั้นดี, Agerola Fiordilatte และเห็ด

 

Crema Di Noci E Speck (450 บาท)

ก่อนจะปิดท้ายด้วย Cannoli (220 บาท) หนึ่งในเมนูขนมยอดฮิตช่วงเทศกาลพิเศษของทางอิตาลี โดยเป็นขนมรูปทรงท่อ ทำจากแป้งที่นำมาม้วนพันเป็นทรงกรวย สอดไส้ริคอตต้าชีส โรยด้วยครัมเบิ้ลชาเขียว และตกแต่งด้วยผลไม้สดที่ทานคู่กันแล้วช่วยตัดรสชาติของครีมได้เป็นอย่างดี

 

Cannoli (220 บาท)

Info
Hours
Everyday : 11:30AM - 10:30PM
Price

฿฿฿ 301-500 บาทต่อคน

Address
สุขุมวิท 36, ซอยนภาศัพท์ แยก 2 เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
Map
Mass Transit

BTS ทองหล่อ

Facilities
Suggest an Edit