The House of Local Catch
Matsaya ร้านอาหารซีฟู้ดที่หยิบยกเสน่ห์การประมงพื้นบ้านมาถ่ายทอดอย่างร่วมสมัย ซึ่งคำว่า มัศยา ในภาษาบาลีหมายถึง “ปลา” อีกทั้งยังเชื่อมโยงถึง มัจฉานุ ลูกของหนุมานในตำนานไทย เปรียบได้กับท้องทะเลที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าและความหมาย จึงไม่แปลกที่ที่นี่จะเป็นเสมือน House of Seafood ที่เลือกใช้วัตถุดิบจากท้องทะเลไทยกว่า 90% โดยการจับมือกับประมงพื้นบ้าน และบางส่วนจากซีฟู้ดนำเข้า เพื่อสร้างสรรค์เมนูที่สะท้อนความอุดมสมบูรณ์ของทะเลไทยได้อย่างเต็มรส โดยมีไฮไลต์คือ Catch of the Day ที่สลับสับเปลี่ยนไปตามฤดูกาลเป็นกิมมิกน่ารัก ๆ ให้ทุกคนได้แวะเวียนมาลิ้มลองความอร่อยกัน
Coastal Warmth and Homely Charm
บรรยากาศของร้านอบอุ่นด้วยวัสดุไม้และเฟอร์นิเจอร์โทนโฮมมี่ เคาน์เตอร์แบบกึ่งเปิดเผยให้เห็นการทำงานของเชฟ เพิ่มสีสันด้วยกำแพงเพนท์ลวดลายสัตว์ทะเลน่ารัก ๆ และโคมไฟดีไซน์คล้ายสุ่มปลาที่สะท้อนวิถีชาวประมงท้องถิ่นได้อย่างมีเอกลักษณ์
Reimagining Thai Seafood Classics
ทุกจานของ “มัศยา” คือการตีความอาหารทะเลแบบใหม่ ซึ่งยังคงรากฐานรสชาติท้องถิ่น โดยมีเชฟเติ้ล สุวนกิจบริหาร เชฟมากความสามารถที่สั่งสมประสบการณ์จาก Smiths, 80/20, สำรับ, ครก และมีส่วนช่วยวิจัยและพัฒนาร้าน Juksunchae จนได้รับการแนะนำใน Michelin Guide 2023 เป็นหัวเรือใหญ่ในการครีเอตจานอร่อยให้ทุกคนได้ลิ้มลอง
สำหรับเมนูแรกที่เชฟแนะนำเป็น หมกปลาทอด (300 บาท) มูสปลาสามสีผสมมะกรูดและพริกแกง ทอดออกมาเป็นคำพอดี เสิร์ฟคู่โหระพาทอดกรอบ จานถัดมาเป็น ปลาหมึกซอสน้ำดำ (350 บาท) ที่ได้รสชาติโดดเด่นด้วยซอสจากหมึกดำ ผสานกับกระเทียมดองเสิร์ฟกับหมึกหิ้งห้อยจากญี่ปุ่นเพิ่มทั้งรสกลมกล่อมและความแปลกใหม่
ถัดมาเป็น ยำมะม่วงเบา (400 บาท) เมนูสดชื่นที่ใช้หอยชิจิมิย่างเนื้อหวาน ยำเข้ากันกับน้ำยำสุดเฟรชรสแซ่บที่ได้ความสดชื่นจากผลไม้ตระกูลส้ม หรือจะลองเป็น ลาบปลากระพงแดง(350 บาท) ที่นำเนื้อปลากระพงแดงไปดรายเอจคลุกเคล้ากับเครื่องลาบคล้ายลาบเหนือ เสิร์ฟพร้อมเผือกแผ่นทอดให้ทานคู่กัน
ต่อกันที่ ฉู่ฉี่ปลา (500 บาท) เมนู Catch of the Day ที่ครั้งนี้ใช้ปลาสีกุนย่างเกลือ หนังกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟคู่ถั่วแขก ยอดมะพร้าว และเม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ
นอกจากนี้ยังมี ปลากล้วยและคะน้าฮ่องกงย่าง (750 บาท) เนื่องจากปลากล้วยปกติจะเป็นปลาที่มักนำไปทำลูกชิ้น จึงได้เนื้อหวาน เด้ง นำมาเสิร์ฟคู่กันกับคะน้าฮ่องกงและบ๊อกฉ่อย พร้อมโรยหอมเจียวและกระเทียมเจียวหอม ๆ แนะนำให้ทานคู่กันกับข้าวหอมมะลิป่าข่อยใต้ ที่หุงด้วยน้ำลอยดอกไม้ (80 บาท)
ปิดท้ายด้วยของหวานน่าลองอย่าง ขนมจากมัศยา (220 บาท) ที่เสิร์ฟขนมจากมาพร้อมกับไอศกรีมมะพร้าว และเผือกพูเร่ หรือจะลองเป็น ส้มฉุนมัศยา (220 บาท) ที่เสิร์ฟผลไม้ตามฤดูกาลแบบกรานิต้า ผสานรสสดชื่นของเงาะ ลำไย ลูกตาล และผิวส้มซ่า สร้างรสสัมผัสที่ทั้งหอมและซ่อนความเปรี้ยวหวานแบบไทย ซ่อนความสนุกให้เคี้ยวด้านล่างด้วยซิตรัสเจลลี






