Piccolo Vicolo Café at Dadfa Lasalle 

Published on October 10, 2025

Where Simplicity Meets Craft

ชวนมาเช็กอินสาขาใหม่ของ Piccolo Vicolo Café at Dadfa Lasalle คาเฟ่ไวป์ดีที่มีไฮไลต์เป็นความร่มรื่นเขียวเย็นตาของต้นไม้น้อยใหญ่ที่ทางร้านตั้งใจเลือกเองทุกต้น กับโลเคชันใหม่ในโครงการ Dadfa Lasalle ที่ครั้งนี้เพิ่มเติมด้วยบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยต้นไม้และความสงบมากขึ้นกว่าเดิม

 

บรรยากาศโซนหน้าเคาน์เตอร์บาร์

 

บรรยากาศสบาย ๆ ด้านหน้าร้าน

Surrounded by Greenery

ด้วยความที่คุณปั้น – นารา โลจนาทร เจ้าของร้าน เล่าให้ฟังว่าด้วยความที่เป็นชาวลาซาลอยู่แล้ว จึงตั้งใจอยากให้มีร้านกาแฟไวป์ดีแบบในเมืองให้ชาวลาซาลได้แวะเวียนมานั่งชิลล์ ดื่มเครื่องดื่มแก้วพิเศษและทานขนมอร่อย ๆ กันแบบไม่ต้องเดินทางไกล จึงกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของ Piccolo Vicolo Café at Dadfa Lasalle

 

ด้านในมีมุมที่นั่งให้เลือกกันตามชอบ

ตัวร้านตั้งอยู่ชั้น 1 ภายในโครงการ Dadfa Lasalle ตกแต่งในสไตล์ Industrial Loft ผสมผสานวัสดุปูนเปลือย เหล็ก และไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ที่ร้านยังเลือกชุบชีวิตเหล่าวัสดุเหลือใช้ให้ออกมาเป็นงานชิ้นใหม่ได้อย่างสวยงามและเต็มไปด้วยเรื่องราว ด้านหน้าเปิดรับแสงธรรมชาติให้ลอดผ่านกระจกบานใหญ่ สร้างมู้ดนุ่มละมุนในช่วงเช้า ส่วนด้านในมีโต๊ะไม้เรียบเท่เรียงรายให้เลือกนั่ง ทั้งโซนห้องแอร์และมุมกึ่ง outdoor ที่มีต้นไม้เขียวแทรกอยู่ทั่วร้าน ให้ความรู้สึกสบายและเป็นกันเองตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้าไป

 

มุมที่นั่งในร้านได้รับแสงธรรมชาติอย่างเต็มสายตา

Crafted with Care,

ในส่วนของเมนู Piccolo Vicolo Café ยังคงเน้นเสิร์ฟกาแฟคุณภาพในแนว Specialty Coffee ที่คัดสรรเมล็ดมาจากหลากหลายแหล่งทั่วโลก เพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมและบาลานซ์ที่สุด หรือจะเป็นเมนู non-coffee อย่างเครื่องดื่มแก้วสดชื่น Cold-Pressed Matcha-Apple (190 บาท) น้ำแอปเปิ้ลสกัดเย็นแก้วต่อแก้ว ผสมผสานกับมัทฉะพรีเมียมจากญี่ปุ่น ได้ทั้งความหวานหอมของแอปเปิ้ลและความละมุนของมัทฉะอย่างลงตัว เป็นตัวเลือกที่สดชื่นและช่วยบาลานซ์รสชาติของขนมหวานได้อย่างดี

 

Cold-Pressed Matcha-Apple (190 บาท)

หรือจะเป็นเมนูสำหรับคนรักชาอย่าง Apple Pie Earlgray (150 บาท) ชาเอิร์ลเกรย์หอม ๆ มาพร้อมความนุ่มละมุนของนม และเท็กเจอร์กรุบกรอบของตัวแอปเปิ้ลพายครัมเบิลที่โรยปิดท้าย เป็นอีกแก้วที่มีกิมมิกดื่มเพลิน ๆ

 

Apple Pie Earlgray (150 บาท)

มาที่ส่วนของขนมกันบ้าง แนะนำให้เริ่มต้นหวานละมุนไปกับเมนู Banoffee (160 บาท) ขนมที่รวมความหอมของกล้วยและคาราเมลเนื้อเนียนเข้ากับฐานบิสกิตกรุบกรอบ ทำให้ทุกคำได้รสชาติหวานมันกำลังดี ไม่เลี่ยนเกินไป

 

Banoffee (160 บาท)

ต่อด้วย Blueberry Tart (160 บาท) ทาร์ตเนื้อแน่นมาพร้อมครีมชีสและซอสบลูเบอร์รีโฮมเมดฉ่ำ ๆ ท็อปด้วยบลูเบอร์รีสดอีกชั้น ทำให้ทุกคำเต็มไปด้วยความเปรี้ยวหวานพอดี ให้ความรู้สึกสดชื่นและบาลานซ์

 

Blueberry Tart (160 บาท)

ปิดท้ายด้วยเมนูคลาสสิกอย่าง Carrot Cake with Brown Butter Cream Cheese Frontino (160 บาท) เค้กแครอทโฮมเมดเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ อัดแน่นด้วยธัญพืช พร้อมรสชาติหอมมันจากครีมชีสบราวน์บัตเตอร์ที่ท็อปด้านบน หรือจะลอง เมนูใหม่ Basque Cheesecake Half (220 บาท) เค้กชีสเนื้อเนียนแน่นมีมาพร้อมความครีมมีจากวัตถุดิบคุณภาพพรีเมียม ทำให้ทุกคำเต็มไปด้วยรสสัมผัสแสนละมุนของชีสแบบคลาสสิก เหมาะสำหรับสายชีสและคนรักขนมหวานที่อยากฟินแบบไม่เลี่ยนเกินไป

 

Carrot Cake with Brown Butter Cream Cheese Frontino (160 บาท)

 

Basque Cheesecake Half (220 บาท) เ

Info
Hours
Open : 8AM - 5PM
Fri : 8AM - 5PM
Sat : 9AM - 6PM
Sun : 9AM - 6PM
Mon : 8AM - 5PM
Tue : Closed
Wed : 8AM - 5PM
Thu : 8AM - 5PM
Price

฿฿ 101-300 บาทต่อคน

Address
โครงการ Dadfa Lasalle เขตบางนา กรุงเทพมหานคร
Map
Facilities
Suggest an Edit